Koenigsegg Regera : งานสร้างระดับมาสเตอร์

นานๆ เราจะได้เห็นความแรงระดับพระกาฬจากค่ายรถของสวีเดน คราวนี้มาในชื่อ Regera พร้อมคำนิยามว่าเป็นรถ ‘เมกะคาร์’ ที่จะได้รับการผลิตด้วยมือ และผลิตเพียง 80 คันเท่านั้น

สำหรับชื่อเรเกร่า (Regera) เป็นภาษาสวีดิช มาจากคำว่า ‘Reign’ หรือ ‘บัลลังก์’ ซึ่งความหมายของชื่อนี้เมื่อเทียบกับสมรรถนะอันรุนแรง รวมถึงการออกแบบอันโฉบเฉี่ยวเร้าใจ และบอดี้ทั้งหมดถูกลดน้ำหนักด้วยวัสดุคาร์บอนและเคฟล่าแล้ว จึงส่งผลให้เรเกร่ากลายเป็นรถซุปเปอร์พรีเมียมคาร์ที่มีน้ำหนักเบาเทียบขั้นรถแข่งที่ประลองความเร็วในสนามแข่ง แต่ความจริงคือรถใช้งานบนถนนทั่วไป

เครื่องยนต์ของเรเกร่าพัฒนาเต็มที่เพื่อผลลัพธ์ด้านความแรงระดับมาสเตอร์พีซ โดยได้เลือกใช้ระบบ Koenigsegg Direct Drive ทำงานร่วมกับขุมพลัง V8 มีความจุ 5.0 ลิตร และทำงานคู่กันกับมอเตอร์ไฟฟ้าสามตัว

สร้างพละกำลังมหาศาลกว่า 1,500 แรงม้า! ถือเป็นรถซุปเปอร์คาร์ที่มีแรงม้ามากที่สุดในเวลานี้ และเทคโนโลยี Koenigsegg Direct Drive ดังกล่าวไม่ต้องใช้เกียร์แบบเดิม โดยการส่งกำลังจะถูกถ่ายทอดจากเครื่องยนต์สันดาปภายในลงพื้นได้โดยตรง ไม่ต้องเสียแรงไปกับการส่งผ่านเฟืองหลายตัว

ระบบการขับเคลื่อนที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อความแรงครั้งนี้ ยังจะช่วยลดการสูญเสียพละกำลังขณะที่คุณบังคับพวงมาลัยไปบนถนนนอกเมืองได้ถึง 50% เมื่อเทียบกับเกียร์อัตโนมัติหรือเกียร์ CVT แบบเดิม

ระบบนี้จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าสามตัวซึ่งติดตั้งอยู่ที่ล้อคู่หลังและที่เพลาข้อเหวี่ยงทำหน้าที่เติมแรงบิด สร้างพลังไฟฟ้า และเป็นมอเตอร์สตาร์ตไปในตัว มอเตอร์ทั้งสามตัวใช้กำลังไฟจากแบตเตอรี่ 9.27 กิโลวัตต์ชั่วโมง

ระบบขับเคลื่อนทั้งหมดมีน้ำหนัก 88 กิโลกรัม จึงเป็นน้ำหนักตัวถังอยู่ที่เพียง 1,420 กิโลกรัมเท่านั้น ทางโคนิกเซกก์คุยโวว่าเมกะคาร์รุ่นนี้มีพละกำลังมากกว่าคู่แข่งที่ใช้ระบบไฮบริดถึง 300 แรงม้า

นอกจากนี้ Koenigsegg Regera ยังติดตั้งสปอยเลอร์บนหลังคาที่พับได้อัตโนมัติเต็มรูปแบบรุ่นแรกในโลก และเป็นรถรุ่นแรกที่บอดี้ตัวถังสามารถปิดตายได้รอบคันโดยอัตโนมัติ ซึ่งสามารถสั่งงานได้จากสมาร์ทโฟน

ส่วนอัตราเร่งดุดันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ความเร็ว 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาแค่ 2.8 วินาที แล้วถ้าคุณกดคันเร่งเต็มแรง ความเร็วระดับ 150-250 กม./ชม. เกิดขึ้นได้ภายในเวลา 3.2 วินาที และความเร็วสูงสุด 0-400 กม./ชม. ใช้เวลาเพียง 20 วินาทีเท่านั้น

ที่สำคัญยังมีช่องปลั๊กสำหรับชาร์จแบตเตอรี่เป็นแบบสามพอร์ต ชาร์จหนึ่งครั้งวิ่งได้ประมาณ 50 กิโลเมตร ต่อให้แรงขนาดไหนเครื่องยนต์บล็อกนี้ก็ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เมื่อข่าวนี้สะพัดออกไป ผู้หลงใหลความแรงระดับมหาเศรษฐีจากทั่วทุกมุมโลกประกาศอยากครอบครองเจ้าปีศาจความแรงระดับตำนานนี้จนแทบคลั่ง และแน่นอนทุกคนต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มา

เพราะ 80 คันประกอบด้วยมือยิ่งทำให้ Koenigsegg Regera ทรงคุณค่ามากขึ้น ไม่แปลกหากใครจะยอมจ่ายเพื่อได้เป็นผู้ควบคุมความแรงอันบ้าคลั่งนี้