วันนั้นเป็นวันจันทร์หนูมีอาการเตือนบอกแม่เป็นระยะๆตั้งแต่เช้า หนูเอาหัวดันช่วงล่างแม่ตลอด เหมือนกับว่าหนูอยากออกแต่ยังออกไม่ได้ แม่คิดว่าคงอีกไม่นานแล้วล่ะ แต่แม่ก็ไม่ได้บอกใคร เพราะกว่าจะถึงกำหนดคลอดอีกตั้ง 2 อาทิตย์กว่าๆแหน่ะ กลัวเค้าจะว่าแม่เป็นกระต่ายตื่นตูม ^ ^"
แต่ว่าในใจแม่ก็ยังมีความกังวลอยู่ เพราะวันพรุ่งนี้พ่อหนูจะต้องไปที่องครักษ์ จ.นครนายกตั้งแต่เช้ามืด กว่าจะกลับก็ค่ำ แม่กลัวว่าถ้าเกิดแม่คลอดหนูวันพรุ่งนี้เช้าขึ้นมา แล้วพ่อออกจากบ้านไปแล้วจะทำยังไง พ่อคงเข้าห้องคลอดเป็นเพื่อนแม่ไม่ทันแน่ๆ
เย็นวันนั้นแม่ลองเลียบๆเคียงๆถามพ่อดูว่า ถ้าวันพรุ่งนี้พ่อไม่ไปองครักษ์จะได้ไหม พ่อตอบแม่แบบหงุดหงิดว่าไม่ไปได้อย่างไร งานก็คืองาน แม่เลยไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ในใจแม่ก็ยังสังหรณ์ว่าแม่ต้องคลอดวันพรุ่งนี้แน่ๆเลย แต่จะเป็นตอนไหนเท่านั้นเอง พอตกเย็นแม่ไปกินข้าวที่บ้านยายตามปกติ วันนั้นแม่ยืนช่วยยายทำกับข้าวจนเสร็จ ต่อด้วยทำน้ำสตรอเบอรี่ปั่น เดินไปเดินมาหลาย 10 รอบ จนตาแอบแซวแม่ว่าเดินไม่หยุด เดี๋ยวก็ได้คลอดคืนนี้หรอก แม่ก็ได้แต่ยิ้มๆ
พอกลับมานอนที่บ้าน แม่เริ่มมีอาการปวดท้อง ท้องแข็งมากขึ้น แต่แม่ยังไม่แน่ใจว่าใช่รึเปล่า เพราะว่ามันยังไม่ถึ่มาก ปวดๆหายๆเป็นระยะ แม่รอดูอาการจนตี 1 สุดท้ายแม่ก็เข้านอน แต่ก่อนนอนคืนนั้้นแม่ได้พูดกับหนูไว้ว่า ถ้าหนูจะคลอดวันพรุ่งนี้ หนูต้องบอกแม่ให้รู้ก่อน ตี 4 นะ จะทำให้น้ำเดิน หรือ มีมูกเลือดก็ได้ ถ้าไม่ออกตอนนี้ก็ต้องรอตอนเย็นไปเลย ไม่อย่างนั้นพ่อคงไม่ได้อยู่กับเราในห้องคลอดแน่ๆ
เหมือนหนูจะเข้าใจสิ่งที่แม่พูด ..... พอตี 2 จู่ๆแม่ก็ต้องสะดุ้งตื่นเพราะเหมือนมีน้ำไหลออกมาจากช่องคลอด แม่ไม่แน่ใจว่าฝันไปรึเปล่า เลยปลุกพ่อให้ลุกขึ้นมาดูให้หน่อย พ่อบอกว่าใช่ แม่เลยรีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัว พอลุกขึ้นน้ำคร่ำก็ยิ่งไหลโจ๊ก แม่เลยรีบอาบน้ำอย่างรวดเร็ว ช่วงที่อาบน้ำก็มีมูกเลือดออกมาด้วย คงถึงเวลาที่เราใกล้จะเจอกันแล้วสินะ
พอแม่อาบน้ำเสร็จก็รีบใส่ผ้าอนามัยเอาไว้ เพื่อซับน้ำคร่ำไม่ให้ไหลเลอะเทอะ ส่วนพ่อก็เตรียมพร้อมเอารถออก น้ำพ่อก็ไม่ได้อาบ ได้แต่เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็หิ้วกระเป๋าแม่กับกระเป๋าเสื้อผ้าไปเก็บในรถเลย ตอนนั้นแม่ยอมรับว่าทั้งตื่นเต้น และดีใจที่อีกไม่กี่ชั่วโมงเราก็จะได้เจอกันแล้ว
ส่วนพ่อหน้าตาตื่นตกใจยิ่งกว่า แม่เลยต้องบอกพ่อให้พ่อใจเย็นๆ ไม่ต้องรีบมาก แม่ยังไม่คลอดตอนนี้หรอก ให้ขับรถช้าๆ แต่ถึงอย่างปลอดภัยดีกว่า ระหว่างเดินทางแม่โทรไปบอกยาย และก็โทรไปบอกทางโรงพยาบาลว่าเดี๋ยวแม่จะไปคลอดแล้วนะ ทางโรงพยาบาลบอกให้แม่ไปที่แผนกฉุกเฉินได้เลย
พอตี 3 แม่ก็ถึงโรงพยาบาล พยาบาลก็เอารถเข็นมาให้แม่นั่ง พร้อมทำประวัติคนไข้ให้แม่ เพราะแม่ไม่เคยเป็นคนไข้ของที่นี่ แม่จำได้ว่ารอนาน มากๆจนแม่หงุดหงิด แม่หิวน้ำแต่พยาบาลก็ไม่ให้แม่กิน เพราะบอกว่าเดี๋ยวจะสำลักเวลาคลอด แม่รอจนตี 3 ครึ่งกว่าๆถึงได้ขึ้นไปรอในห้องคลอด
พอถึงห้องรอคลอด พยาบาลก็ให้แม่เปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมรอคลอด แล้วก็เอาสายมารัดพุงแม่เพื่อวัดการเต้นของหัวใจหนู ว่าปกติดีรึเปล่า รวมทั้งวัดอัตตราการบีบตัวของมดลูกแม่ด้วย พยาบาลบอกแม่ว่าตอนนี้ปากมดลูกเปิดแล้ว 2 เซ็นติเมตร ให้นอนดูทีวีรอไปก่อน ตอนนั้นแม่ก็ยังปวดท้องไม่มากนัก ปวดแบบทนได้ ก็เลยนอนคุยเล่นถ่ายรูปกับพ่อไปเรื่อยเปื่อย
พอตี 4 กว่าๆพยาบาลมาวัดอีกทีบอกว่าปากมดลูกเปิด 4 เซ็นแล้ว พร้อมถามแม่ว่าปวดมากไหมจะเอายาแก้ปวดรึเปล่า แม่เลยถามไปว่าถ้าฉีดแล้วมันหายปวดไหม พยาบาลบอกว่าไม่หาย แม่ก็เลยไม่ฉีด เพราะแม่กลัวเข็มฉีดยามากกว่า จริงๆมันก็ไม่ได้ปวดมากมายนัก พอปวดทีแม่ก็บีบมือพ่อทีนึงก็หายปวดแล้ว แต่แม่ไม่รู้ว่าพ่อเค้าเจ็บมือรึเปล่านะลูก ^ ^
พอตี 5 พยาบาลบอกว่าปากมดลูกแม่เปิด 6 เซ็นแล้ว จะบล็อกหลังไหม แต่แม่ไม่อยากบล็อกเพราะแม่กลัวเข็มฉีดยา และก็ยังปวดท้องแบบทนได้ แต่แม่ก็แอบถามพยาบาลว่าแล้วมันจะปวดท้องมากกว่านี้ไหมคะ พยาบาลบอกแม่ว่าปวดกว่ามากๆๆๆๆๆๆค่ะ แม่เริ่มลังเล แต่สุดท้้ายแม่กลัวเข็ม และก็กลัวไม่มีแรงเบ่งหนูมากกว่า เลยบอกพยาบาลไปว่าไม่บล็อกดีกว่าค่ะ แต่พยาบาลก็ยังเข้ามาถามเป็นระยะๆ พร้อมทั้งให้คุยกับคุณหมอด้วยว่าจะบล็อกหลังรึเปล่า แต่แม่ตัดสินใจไปแล้ว ก็เลยบอกว่าทนได้ค่ะ และแม่ก็ทนได้จริงๆ
พอ 6 โมงเช้าคุณหมอก็เข้ามาดูอาการแม่ พร้อมกับให้กำลังใจแม่ว่า แม่คลอดหนูได้แน่ๆ ไม่ต้องกังวล ตอนนั้นแม่ยังยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่ หมอเลยบอกให้เพิ่มยาเร่งคลอดแม่หน่อยดีกว่า
พอ 7 โมงเช้าแม่เริ่มปวดท้องมากขึ้น พยาบาลชมแม่ว่าแม่ใจแข็งมากเลย เพราะแม่ไม่ได้บล็อกหลัง แต่แม่ก็ไม่มีอาการว่าปวดท้องมากมาย ยังยิ้มแย้มได้เป็นระยะๆ บอกตามตรงว่าที่แม่ยังทนได้เพราะว่ามีพ่อเป็นกำลังใจอยู่ใกล้ๆ ถ้าพ่อไม่อยู่ แม่ไม่รู้ว่าจะทนได้เท่านี้รึเปล่า
พอ 7 โมง 15 แม่รู้สึกอยากเบ่ง แม่บอกหมอว่าแม่ขอไปเข้าห้องน้ำได้ไหม เพราะรู้สึกเหมือนอยากถ่ายเลย หมอบอกว่าไม่ต้องไปแล้ว อยากเบ่งให้เบ่งออกมาเลย จำได้ว่าตอนนั้นอยากจะเบ่งออกมา ตั้งแต่พยาบาลเค้ายังปูผ้าไม่เสร็จ
พอหมอให้เบ่งแม่ก็เริ่มเบ่ง พยาบาลก็ช่วยส่งเสียงเชียร์แม่กันใหญ่ ช่วยนี้แหล่ะเป็นช่วงที่แม่เริ่มกลัวมากขึ้น แม่รู้สึกเหมือนไม่ค่อยมีแรงเบ่ง เพราะพยาบาลเค้าขึ้นมาช่วยกดท้องแม่จนแม่หายใจไม่ออก เหมือนจะขาดใจตายเลย แม่เบ่งไปแล้ว 3 เซ็ทใหญ่ๆ ( 1เซ็ท แม่เบ่ง 3 ครั้ง) หนูก็ยังไม่ออกมา ตอนนั้นแม่เริ่มกลัวว่าถ้าแม่เบ่งหนูไม่ได้ แม่จะโดนผ่าไหม
หมอให้แม่พักแป๊บนึง พอแม่อยากเบ่งแม่ก็เริ่มเบ่งเป็นเซ็ทที่ 4 พอเซ็ทที่ 4 แม่รู้สึกหมดแรงไม่ไหวแล้ว เพราะอึดอัดท้องที่โดนพยาบาลกดเอาไว้ แต่ก็เหมือนเสียงสวรรค์ หมอบอกว่าใกล้แล้ว ให้แม่หายใจเข้าลึกๆ แล้วลองเบ่งอีกทีคราวนี้ให้เบ่งแรงๆครั้งสุดท้ายแล้ว แม่เลยเบ่งเต็มที่ แล้วแม่ก็ได้ยินเสียงหนูร้องออกมา
พอคลอดเสร็จ หมอบอกแม่ว่า ที่หนูออกยากเพราะว่าหนูหงายหน้าออกมา และโชคดีว่าแม่ไม่ได้บล็อกหลัง เพราะถ้าแม่บล็อกหลัง แม่คงเบ่งหนูออกมาไม่ได้แน่ๆ
พอคุณหมอเด็กทำความสะอาดหนูเรียบร้อย ก็พาหนูมาดูดนมแม่เป็นครั้งแรก พอหนูอ้าปากปุ๊บก็ดูดมั๊บๆๆๆใหญ่เลย ^ ^ หลังจากนั้น พยาบาลก็เอาหนูมาถ่ายรูปด้วย ตอนนั้นแม่เบลอไปหมดแล้ว เพราะไม่ได้นอนเลยยิ้มตลกมากๆ ซักพักพยาบาลก็พาหนูแยกไปห้องเนิส ส่วนแม่ก็นอนรอดูอาการในห้องคลอดกับพ่อ ตอนนั้นแม่สบายใจสุดๆ + นอนไม่หลับ เลยนอนคุยกับพ่อไปเรื่อยๆจนถึงเวลาที่พยาบาลพาไปนอนในห้องพัก
###ในที่สุดเราก็ได้เจอกันแล้วนะลูก @^ ^@ ###
|
น้องน่ารักมาก ขอให้น้องแข็งแรง โตไวๆ เลี้ยงง่ายนะคะ