|
|||
ตอนที่ 15 ตะลอนเที่ยว เมือง Paris วันที่ 4 ( Euro Disney) วันนี้ตื่นเช้ามากกว่าปกติค่ะ ไม่ใช่เพราะตื่นเต้นที่จะได้เที่ยว Euro Disney แต่เป็นเพราะน้องเพลงตกจากเตียง หน้ากระแทกพื้นอย่างแรง ตกได้อย่างไรก็ไม่รู้ เรากับแฟนอุตส่าห์นอนกั้นคนล่ะด้าน ปลายเตียงก็เอากระเป๋าเดินทางมาวางรองไว้กันเค้าดิ้นไปตกทางปลายเตียง แต่ก็อุตส่าห์ข้ามตัวเราตกลงไปที่พื้นได้ แก้มเขียวช้ำเป็นจ้ำเลยทีเดียว T_T พอตื่นมาก็รีบจัดการธุระให้เรียบร้อย รีบลงไปกินอาหารเช้า และก็รีบออกเดินทางไป Euro Disney กันเลยค่ะ เนื่องจากเราจะไปแถบชานเมือง Paris อีกแล้ว เลยต้องรีบออกเช้านิดนึง วันนี้เราต้องต่อรถ 2 ต่อด้วยค่ะ โดยขึ้นรถสาย 7 ปลายทางสถานี Villejeuve,ivry เพื่อลงสถานี Opera แล้วเดินไปที่สถานี Auber เพื่อต่อรถRER สาย A4 ปลายทางสถานี Marne-la-Vallee-Chessy นั่งไปจนสุดสายก็จะถึง Euro Disneyค่ะ (จริงๆเมื่อวานเราก็นั่งผ่านเส้นนี้เพื่อไป outlet มาแล้ว แต่เราลงก่อนสถานีปลายทาง 1 สถานี) ที่ Euro Disney จะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆค่ะ คือ Disneyland Park กับ Walt Disney Studio ตั๋วที่เราซื้อล่วงหน้ามา ให้เลือกเข้าได้อย่างใดอย่างหนึ่ง เนื่องจากเราพาน้องเพลงมาเที่ยวด้วย เลยต้องเลือกเข้า Disneyland Parkกันค่ะ ระหว่างที่นั่งรถไฟมา คนเยอะพอสมควรเลยค่ะ นี่ขนาดเลือกเที่ยววันธรรมดานะเนี่ย ตอนที่เราไปถึงกันยังไม่ถึงเวลาเปิดประตู เลยถ่ายรูปด้านนอกรอไปพลางๆก่อน ^_^ ใกล้ถึงเวลา คนเริ่มไปเข้าแถวรอคิวเข้าประตูกันแล้ว เลยต้องรีบไปต่อแถวกับเค้าด้วย พอเข้ามาด้านในก็จะมีมุมให้หยิบแผนที่ พร้อมตารางการแสดงโชว์แต่ล่ะรอบ ดูแล้วงงๆ ไม่รู้จะไปไหนก่อนดี เลยเลือกขึ้นรถไฟเที่ยวรอบๆก่อนดีกว่า อยากเล่นอะไรค่อยว่ากันอีกที ว่าแล้วก็รีบไปต่อคิวขึ้นรถไฟกันเลยค่ะ ตอนขึ้นไปเห็นคิวตกใจเล็กน้อย คิวยาวจริงๆค่ะ (บอกตรงๆว่ามาเที่ยวที่นี่ ต้องทำใจเรื่องการต่อคิวมากๆ) ระหว่างยืนรอคิว เจอสาวน้อยน่ารักคนนึง เป็นเด็กที่น่ารักมากค่ะ เข้ามาชวนน้องเพลงเล่นตลอด เพื่อไม่ให้รู้สึกน่าเบื่อเกินไป ยืนรอคิวประมาณเกือบครึ่งชั่วโมงได้ค่ะ ในที่สุดก็ได้ขึ้นซักที รอจนน้องเพลงหลับไปแล้ว เลยอดดูวิวรอบๆเลย นั่งดูวิวรอบๆ ... อันไหนน่าสนใจก็เล็งไว้ แต่บอกตรงๆว่าเล่นได้ไม่กี่ชิ้นหรอกค่ะ เพราะน้องเพลงพึ่งจะ 1 ขวบ 4 เดือนเอง เครื่องเล่นยอดฮิตของที่นี่ บางเครื่องจะมีระบบจองคิวล่วงหน้าได้ด้วยค่ะ แล้วพอถึงเวลาเราก็ไปเข้าคิวตามรอบนั้นๆได้เลย จะได้ไม่เสียเวลาคอยนาน ดีมากๆเลยค่ะ คุณแฟนอยากเล่น Buzz Lightyear Laser Blast มากๆ เลยขอไปจองคิวก่อนเลย ได้คิวยาวหลายชั่วโมงเลยค่ะ เลยไปเล่นที่อื่นก่อนดีกว่า หันซ้ายหันขวา ไม่รู้จะเล่นอะไรดี เพราะเครื่องเล่นส่วนใหญ่ เหมาะสำหรับเด็กโตทั้งนั้น น้องเล็กอย่างเราเลยต้องเล่นอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวซักหน่อย แถมคิวแต่ล่ะที่ก็รอจนท้อใจเลยค่ะ เค้าจะมีป้ายบอกไว้เลยว่ารอคิวประมาณกี่นาที เท่าที่เดินผ่านๆรอคิวไม่ต่ำกว่า 20 นาทีทั้งนั้น T_T สุดท้ายก็เจอของเล่นที่เหมาะกับน้องเพลงแล้ว It's a small world พอไปถึงเห็นคนยังแน่นอยู่ ก็เลยขอเดินเล่นดูรอบๆก่อนดีกว่า ที่นี่มีซุ้มของที่ระลึก กับขนมของกินอยู่หลายจุดเลยค่ะ ราคาก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน เดินไปเดินมาถึงเวลาอาหารเที่ยงซะแล้ว เห็นร้านนี้น่าสนใจ เลยขอแวะกินร้านนี้ซักหน่อย แต่พอเข้าไปคนเยอะมากค่ะ เลยขอย้ายร้านดีกว่า ^_^" คราวนี้เอาแบบง่ายๆ เป็นร้านขายพาสต้าสำเร็จรูป แต่เห็นง่ายๆแบบนี้ ราคาก็เอาเรื่องอยู่นะคะ รสชาติก็พอได้อยู่ค่ะ ตรงจุดที่เรานั่งมีตะเกียงวิเศษอยู่ด้านหลังด้วยค่ะ จะมีหนูผลุบๆโผล่เป็นระยะๆ เด็กๆสนใจกันมาก พอกินเสร็จก็เดินสำรวจเครื่องเล่นอีกนิดหน่อย เลยได้เจอกับมิกกี้เมาส์ขวัญใจทั้งเด็กโตเด็กเล็ก กำลังเดินมาให้ได้ถ่ายรูปกัน แต่คนเยอะจริงๆค่ะ เลยได้แต่ไปแอบยืนถ่ายใกล้ๆ ไม่สามารถเข้าไปถ่ายแบบแนบชิดได้ จากนั้นก็ย้อนมาที่เครื่องเล่น It's a small world อีกที ดูจากรูปคงบอกได้ว่ามีคนรอเล่นเยอะแค่ไหน ^_^" แต่ระหว่างรอก็มีอะไรให้ชมแบบไม่น่าเบื่อเกินไป เพราะจะคอยดูว่า เมื่อไหร่จะได้เห็นตุ๊กตาตัวแทนชาติไทยออกมาระบำอยู่หน้านาฬิกา ถ่ายให้ดูคิวระหว่างรอขึ้นค่ะ ^_^" เห็นคิวเยอะๆแบบนี้ แต่ก็รอไม่นานมากนะคะ เพราะเรือลำใหญ่อยู่และมาติดๆกันตลอด รอประมาณ 20 นาทีก็ได้ขึ้นค่ะ ภายในดูตื่นตาตื่นใจมากๆเลยค่ะ ไฟสวยมาก ชอบในสิ่งที่เค้าต้องการจะสื่อความหมายถึงเราด้วย ตุ๊กตาตัวแทนของแต่ละประเทศ ตอนที่เห็นก็ลุ้นว่าของเราเค้าจะสื่อถึงวัฒนธรรมแบบไหน เสียดายที่พอถึงตาเราจริงๆ คุณแฟนกลับมือสั่นถ่ายไม่ชัดซะอย่างนั้น พอนั่งเรือเสร็จออกมาด้านนอก ก็จะมีโมเดลตึกจำลองให้ได้ชมอีกห้องหนึ่ง อดไม่ได้ที่จะไปยืนส่องดู ว่าเค้าทำอะไรอยู่ในตึกนั้น พอเสร็จแล้ว ก็เริ่มมองหาเครื่องเล่นกันต่อ จุดหมายใหม่ของเราคือ "ม้าหมุน" ค่ะ เบสิคมากๆ แต่มากับเด็กเล็กก็ไม่มีทางเลือกเท่าไหร่ค่ะ เห็นเบสิคอย่างนี้ คิวก็ยาวมิใช่เล่นนะคะ แต่ก็รอไม่นานประมาณ 20 นาทีก็ได้เล่นแล้วค่ะ น้องเพลงเห็นแล้ว ขอนั่งคนเดียวเลยค่ะ ดี๊ด๊ามากๆ แต่พอม้าเริ่มหมุนเท่านั้นแหล่ะ ร้องจ๊ากย้ายมานั่งกับแม่แทบไม่ทัน ^_^" พอเล่นเสร็จ เหลือบดูนาฬิกา ใกล้ถึงเวลาจองคิว Buzz Lightyear พอดี เลยรีบเดินไปเล่นต่อเลยค่ะ การจองคิวแบบนี้ดีมากๆ ไปถึงเข้าได้เลย ไม่ต้่องรอคิวยาวจนเกินไป เครื่องเล่นอันนี้ เอาใจคุณแฟนจริงๆค่ะ กระดี๊กระด๊ามากๆ คุณแฟนนะคะ ไม่ใช่น้องเพลง -_-" ลักษณะเป็นเครื่องเล่นคล้ายๆเราอยู่ในยานอวกาศ มีปืนเลเซอร์ 2 อันไว้คอยยิงต่อสู้ศัตรูในโลกอวกาศ พอได้ลองเล่นจริงสนุกมากๆเลยค่ะ ที่เด็ดกว่านั้นคือ พอเล่นเสร็จแล้ว เค้าจะมีบอกแต้มผู้ยิงสูงสุดในรอบนั้นๆด้วย แถมมีบอกแต้มด้วยว่าแต่ล่ะคนยิงไปคนละกี่แต้ม มีกล้องแอบถ่ายรูปตอนอยู่ในนั้นด้วยค่ะ หากใครสนใจก็ซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้ เค้าจะระบุแต้มที่เรายิงได้ใส่ในรูปไว้ด้วยค่ะ คุณแฟนเห็นแล้วอยากได้ ก็เลยได้เสียตังค์ค่ารูป+กรอบไป 19 euro จากนั้นก็แวะซื้อของที่ระลึกก่อนกลับกันค่ะ น้องเพลงมีออกฤทธิ์เดชนิดหน่อย เพราะว่าง่วงนอนมาก จากนั้นก็ถึงเวลาขบวนพาเหรดออกมาเดินกันแล้วค่ะ แต่เสียดายที่น้องเพลงหลับไปซะก่อน ก็เลยตัดสินใจกลับเลยดีกว่า เพราะกลัวว่าหากรอกลับตอนเดินขบวนพาเหรดเสร็จ คนคงเบียดแย่งกันนั่งรถกลับบ้านมหาศาล แวะถ่ายรูปก่อนกลับอย่างอาลัยอาวรณ์ เพราะเล่นเครื่องเล่นไม่คุ้มค่าตั๋วเลยจริงๆ คนเยอะมากๆ คิวยาวสุดๆ เนื่องจากกลับก่อน รถว่างสุดๆค่ะ เลยเปลี่ยนใจขอคุณแฟนลงแวะ outlet อีกที เพราะยังซื้อของฝากไม่ครบคนเลย แวะกินไอติมเติมพลังกันหน่อย พอช็อปของฝากเสร็จก็แวะกินข้าวที่ร้านอาหารจีนร้านเดิม ไม่ใช่ว่าอร่อยหรอกนะ แต่บอกตรงๆว่าเบื่ออาหารฝรั่งสุดๆ กินกันตายไปอย่างนั้นแหล่ะ 555 พอกินข้าวเสร็จแล้ว เลยบอกแฟนว่าขอแวะหอไอเฟลอีกทีได้ไหม เพราะวันพรุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะได้เที่ยว Paris แล้ว หอไอเฟลเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรานึกอยากมาเที่ยวฝรั่งเศส สมัยที่ยังเป็นนักเรียนอยู่ ในเมื่อเรามีโอกาสได้มาเยือนหอไอเฟลในตอนกลางวันแล้ว เราก็อยากจะย้อนกลับมาดูอีกครั้งในช่วงเวลากลางคืน เราอยากเก็บภาพความประทับใจนี้ไว้ในความทรงจำ ที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้มาเยือนที่นี่อีก ตอนแรกคุณแฟนก็อิดออด เพราะมันก็เริ่มค่ำแล้ว ไหนจะต้องกระเตงน้องเพลงไปอีก แต่ยังไงก็ขัดความอยากของเราไม่ได้อยู่ดี ^_^" โอกาสแบบนี้มีมาให้ได้เห็นบ่อยๆซะเมื่อไหร่ล่ะ เราเลือกที่จะลงมาดูหอไอเฟลที่สถานี Trocadero เพราะที่จุดนี้เราจะสามารถถ่ายรูปหอไอเฟลได้สวยที่สุด และก็ไม่ผิดหวังที่ตัดสินใจมา บรรยากาศดีมากๆเลย ในรูปเห็นท้องฟ้าแบบนี้ 3 ทุ่มกว่าๆแล้วนะคะ ถึงจะมืดแล้วแต่ก็มีของวางขายเต็มไปหมด ร้านขายเครปก็ยังเปิดให้บริการอยู่ ยืนเก็บภาพความประทับใจกันซักพัก ก็ตัดสินใจกลับโรงแรมกันค่ะ บอกตรงๆว่าใจหายนิดๆ ระหว่างที่เดินกลับ ก็รู้สึกอาลัยอาวรณ์แบบบอกไม่ถูก จนต้องหันกลับไปมองหอไอเฟลไม่่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เมื่อไหร่นะที่เราจะได้กลับมายืนตรงนี้อีกครั้ง 14 วันผ่านไปไวเหมือนโกหก พรุ่งนี้ก็ต้องกลับบ้านกันแล้ว แต่เราก็ยังมีทริปเที่ยว Louvre, ถนน Champs Elysee ประตูชัย เหลืออีก 1 วัน |
Trippy
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Group Blog All Blog
Friends Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
น้องเพลงคงจะสนุกมากๆด้วยเหมือนกัน
เที่ยว่ต่อให้สนุกนะคะ