ทริปขมๆที่ HAKONE รอบที่สองในครึ่งปี
จั่วหัวกระทู้อย่างนี้ ไม่ใช่อะไร เป็นเพราะเมื่อไม่กี่เดือนก่อนทำทริปหวานๆที่ฮาโกเน่ไปแล้ว
ตอนนี้ไปอีกครั้งในรอบครึ่งปี งอนกันตั้งแต่ไป ขากลับก็งอนกันอีกรอบ ตามประสาผัวหนุ่มเมียสาววัยทองกันทั้งคู่
ทริปนี้ ลุงแกอยากไปมาก เพราะจะไปถ่ายภาพดอกไฮเดนเยีย หรือที่ญี่ปุ่นเรียก อะจิไซ ตามทางรถไฟ ดอกอะจิไซ จะขึ้นเป็นแนวสองข้างทาง สีสันสวยงาม ชวนมอง คนญี่ปุ่นปลื้มมาก แห่กันไปชมอะจิไซที่ฮาโกเน่กัน
เราออกเดินทางแต่เช้า ไปถึงสถานีชินจูกุ เจ็ดโมงกว่านิดหน่อย ซื้อตั๋ว One day trips ของ Odakyu
หรือเรียกว่า Hakone Freepass ราคา 5,000 Yen ที่ฮาโกเน่ นี้มีสถานที่ให้แวะเที่ยวมากมาย
ท่ามกลางบรรยากาศป่าเขาลำเนาไพร เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งคนญี่ปุ่นและต่างชาติ
ใช้เวลาจากสถานีชินจูกุ ไปถึง Hakone Yumoto ชั่วโมงกว่าๆก็ถึงแบบสบายๆ เราสามารถนำอาหารขึ้นไปนั่งรับประทานได้
เดิมขึ้นไปตอนแรกก็ยิ้มแย้มดีหรอก แต่มามีอารมณ์เสียตอนหลังนิดหน่อยแต่มันงอนไม่หาย เลยนั่งหน้าเซ็งไปตลอดทาง
สาเหตุก็เกิดจากรูปด้านบนนี้แหละ เราขอให้เขากดชัคเตอร์ให้หน่อย เขาทำเป็นชักสีหน้า รำคาญเรา เราก็เลยงอนน้อยใจว่า ถ้ามีคนอื่นอยู่ด้วยจะไม่ขอให้เขาช่วยกดชัคเตอร์ให้หรอก นี่มากันสองคน เรื่องแค่นี้มาชักสีหน้า ทำไมไม่เหมือนเดือนที่แล้วที่ตอนยังเพิ่งออกจากโรงพยาบาล ตอนนั้นละก็จ๋อยสนิท ให้ทำอะไรก็ทำได้หมด น่าสงสารสุดๆ
แต่ตอนนี้พอหายสบายดีขึ้นมาหน่อย ชักเริ่มกำแหง น่าน้อยใจไหมละ
ก็เลยเกิดอาารงอนขึ้น ไม่อยากพูดคุยด้วยจนถึง Yumoto มาเปลี่ยนรถไฟ Hakone Tozan หน้าก็ยังเป็นตูดแบบนี้
สองข้างทางที่รถไฟแล่นลัดเลาะขึ้นเขาแบบฟันปลา
...มองลงไปเป็นธารน้ำสวยงาม
...
..........
อะจิไซ หรือไฮเดนเยีย นางเอกของที่นี่
ที่สถานีนี้คนลงมาถ่ายภาพกันเยอะ
...........
.ดอกอะจิไซ สีเขียว ดูแปลกตา
....นั่งมาแวะลงที่สถานี Hakone Open Air Museum อารมณ์ค่อยดีขึ้นเพราะสามีรูหลักการง้องอนเมีย บอกให้เราเอาสาวๆออกมาถ่ายรูป ทำให้เราอารมณ์ดีขึ้น ผัวเมียกันละนะต้องรู้จักจับทางกันให้ถูก
รู้ว่าอะไรจะทำให้เมียอารมณ์ดีได้ ก็ต้องพยายาม ถ้าไม่ง้อเมียแล้วจะไปง้อหมาที่ไหน
ตอนนี้หน้าที่บูดๆก็ค่อยเริ่มดีขึ้น
จนมีอารมณ์ที่จะไปยืนถ่ายภาพได้
ไปดูราคาค่าตั๋งเข้ามิวเซี่ยม แพงจัง คนละ 1,600 Yen ไม่เข้าดีกว่า ยังมีที่ไปอีกเยอะ เอาเงินไปกินอาหารดีกว่า ไปเห็นร้านอาหารจีนในอาคารมิวเซี่ยมด้านหน้า บรรยากาศดี อยากนั่งชิว ชิวชมเขา และต้นไม้ ก็เลยไปสั่งติ่มซำกินกันสองคน อร่อยและอิ่มท้องช่วงเที่ยงได้
ในร้าน
ตอนนี้สามีง้อเมียด้วยการกดชัคเตอร์ไปหลายรูป
ภาพนี้ไม่ง้อสามี ส่งกล้องให้พนักงานถ่ายให้
ตัวเรานี้ก็แปลก เมื่อไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ยังอารมณ์บูดหน้าบึ้งอยู่เลย แต่พอเห็นกล้องก็ยิ้มแก้มแทบปลิแบบนี้
นั่นเป็นเพราะพบบรรยากาศถูกอารมณ์ ถูกใจ
หลังจากอิ่มท้องกันพอสมควร ก็เดินกลับมาขึ้นรถไฟสายเดิม
มาลงที่สถานี Gora
เพื่อขึ้น Hakone Tozan Cablecar
ไปยังสถานี Sounzan ใช้เวลาประมาณสิบนาที ก็ถึง
เดินไปขึ้น Hakone Ropeway อีกสิบนาที
บน Ropeway
""""""
ผ่านบ่อแร่กำมะถันที่มีกลิ่นเหม็นเขียวของแก๊ซที่ผุดขึ้นมาจากใต้พื้นดิน
ถึงแล้ว Owakudani
พอมาถึงรอยรักรอยอดีต ความหวานเก่าๆก็กลับมาหาใหม่ รักกันเหมือนเดิม
เรียกว่าแดนอาถรรพ์ของเราที่เมื่อมาอยู่ที่นี่เราจะรู้สึกรักและเข้าใจกัน
ที่นี่คู่รักหลายคู่มาถ่ายภาพด้วยกัน
เราสองคนแม้จะโกรธจะงอนกันอย่างไร พอมาถึงนี้ก็อดที่จะสวิทหวานกันไม่ได้ เพราะบรรยากาศมันเป็นใจ
ผัวเมียอยู่กันไปนานๆก็จับทางกันถูก เมียงอนผัวก็ง้ออย่างเดียว ถ้าเมียงอนผัวไม่ง้อ เมียก็ต้องง้ออยู่ดี เพราะยังรักกันนะสิ
วันที่ไปอากาศไม่ร้อนมาก แดดมีแต่มีหมอก จึงไม่สามารถมองเห็นฟูจิซัง ภูเขาขี้อาย เมฆเปิดให้เห็นแค่เสี้ยวนาที แล้วก็ไม่เห็นอีก
สามีคงอยากอายุยืนอีกหลายสิบปี ขึ้นไปซื้อไข่ดำมากินตั้งสองฟอง ให้เราสองฟอง ซื้อกลับบ้านอีกสี่ฟอง
คนเยอะแยะมากมายวันนั้น ไม่รู้มาจากไหนกันทั้งคนต่างชาติและคนญี่ปุ่น
บ่อน้ำร้อน
ควันพวยพุ่ง
.........
ไข่ดำ
กลับมาขึ้น Ropeway อีกรอบมาลงที่ทะเลสาป Ashi
Hakone Sightseeing Cruise ที่ทำเป็นแบบเรือโบราณ
........ลืมรูป
....
บนเรือ
ที่บนเรือนี้ในละครเรื่องเมียหลวง ก็มีฉากพระเอกนางเอกมาฮันนีมูนญี่ปุ่น ความจริงบรรยากาศดี น่ามาฮันนีมูนที่สุดเลยฮาโกเน่
ใครจะหาที่ฮันนีมูน อย่าลืมฮากาเน่ เป็นทางเลือกที่โรแมนติค ไม่ผิดหวังแน่
ขากลับเราเบื่อกลับทางเก่า เลยนั่งรถบัสลงเขามาเรื่อยๆ สนุกดี ใช้บัตรฟรีพาสที่ซื้อมานั่นแหละไม่ต้องเสียเงินอีก
ที่สถานี Hakone Yumoto
แวะขึ้นไปแช่เท้าที่ออนเซน เสียเงินสองร้อยเยน สบายเท้า
.........
เราจอง Romamcecar เที่ยวหกโมงสี่สิบแปดนาที เอาไว้ พอมีเวลาเลยไปนั่งเล่นที่ริมธารฮาโกเน่ และที่นี่ก็ทำให้เกิดงอนกันอีกรอบส่งท้ายทริปขมที่บอกไว้แต่ต้น
เพราะเหตุเราเอาสาวๆออกมาถ่ายรูป แล้วเพลินไปหน่อย ลุงแกก็มาเร่ง เราก็แบบอ้วนละนะ กว่าจะย้อยก้นขึ้นมาจากที่นั่งแมะอยู่ได้ก็ต้องใช้เวลา ลุงก็เร่งและบ่นอยู่นั่น เราก็เกิดอาการของขึ้น งอนตุ๊บป่องอีกรอบก่อนกลับ ทำไมไม่เข้าใจเมียเลย บอกครั้งเดียวก็เข้าใจว่าได้เวลากลับแล้ว ขอเวลาเรายกก้นหน่อน คนอ้วนก็อุ้ยอ้าย ไม่ใช่บอกปุบจะลุกได้ทันทีทันใด อยากมีเมียอ้วนก็ต้องทนรอได้
ก็เลยเกิดอาการภาพอย่างที่เห็นข้างบน นั่งเอียงข้างให้เกือบถึงโตเกียว ลุงก็ง้อแล้วง้ออีกจนเลิกง้อ
แต่สามีก็รู้ใจอีกนั่นแหละ พอมาถึงโตเกียว แค่บอกว่าไปหาอาหารไทยแถวชินจูกุ กินก่อนกลับบ้าน แค่นี้เราก็หายงอน อารมณ์ดีขึ้นมาทันที ผัวเมียกันก็แบบนี้แหละอยู่กันไปนานๆก็จับทางกันถูกนิ จบทริปหวานปนขมแล้ว ขอบคุณทึ่แวะมาคุยกัน
Create Date : 14 กรกฎาคม 2552 |
|
13 comments |
Last Update : 14 กรกฎาคม 2552 9:49:24 น. |
Counter : 2955 Pageviews. |
|
|
|
ชีวิตคู่ต้องมีทะเลาะกันบ้าง ถึงจะมีรสชาติ (แต่ต้องลงเอยด้วยดีนะคะ)
มาตามป้าต้อยไปเที่ยวฮาโกเนะอีกรอบค่า
คาดว่าอีกไม่นานคงจะได้ตามรอยไปบ้าง เห็นแล้ว อยากไปมากๆ