ขออย่ายอมแพ้ ....อย่าอ่อนแอ ...แม้จะร้องไห้ จงลุกขึ้นสู้ไป จุดหมายไม่ไกลเกินจริง
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
28 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 
เส้นทางเข้าญี่ปุ่นของน้องนิว....วียัด...อ่านไว้เป็นความรู้

  • เช้าวันนี้พอมีเวลาและอารมณ์ที่จะเล่าเรื่องราวเส้นทางการเดินทางเข้าญี่ปุ่นของสาวๆ

    เรื่องนี้ได้รับการถ่ายทอดจากน้องนิว ซึ่งเป็นสาวจากจังหวัดสุดเขตแดนทางเหนือ
    อยากให้ท่านที่คิดตัวเองรู้สึกว่าลำบาก ได้รับรู้ถึงว่า ในขณะที่ท่านได้แต่งงานมาอยู่ญี่ปุ่นแบบสบายๆ

    แต่ยังมีสาวไทยอีกจำนวนไม่น้อยที่ต้องลำบากเป็นอย่างมากกว่าจะได้เข้ามาอยู่ประเทศญี่ปุ่น

    ก็อย่างที่เป็นที่รู้ๆกันว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่หลายๆคนใฝ่ฝันที่จะได้มา ไม่ว่าจะมาอยู่หรือมาทำงาน

    หลายคนฝันอยากจะแต่งงานกับคนญี่ปุ่น เพื่อที่จะได้มีชีวิตที่สุขสบาย หลายคนหวังเข้ามาเพียงว่า

    จะทำงานสร้างอนาคตเพื่อครอบครัวที่เมืองไทยจะได้สุขสบาย และน้องนิวก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น

    ป้าพบน้องนิวที่ร้านนวดแถวบ้าน ความมีน้ำใจและช่างพูดช่างคุยของน้องนิว ทำให้ป้าเอ็นดูเธอเป็นพิเศษ

    น้องนิว เป็นสาวเหนือสุดเขตชายแดนไทย ด้วยความสวยและรูปร่างระดับมาตราฐาน ทำให้น้องนิวมีทั้งหนุ่มและแก่มาติดพันมาก

    ป้าขนาดเป็นผู้หญิงยังชอบมองรูปร่างหน้าตาของน้องนิว เรียกว่ารูปร่างหน้าตาขนาดนี้

    ถ้าส่งประกวดนางงามต้องได้ตำแหน่งแน่ๆ และจากการที่เห็นน้องนิวเป็นคนขยันขันแข็ง ไม่ค่อยนั่งเฉยๆ

    หยิบโน่นจับนี่อยู่ตลอดเวลา ก็ทำให้ป้าและน้องนิวได้คุยกันมากขึ้น น้องนิวเป็นคนเปิดเผยไม่ค่อยมีเล่ห์เหลี่ยม

    ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่ชอบเธอก็จะไม่ไปตอแย เรียกว่านิสัยเธอดูลุยๆดี เราจึงคุยกันถูกคอมาก

    แต่มีสิ่งหนึ่งที่ป้ามาสังเกตุดู น้องนิวจะร้อนเงินอยู่ตลอด ป้าก็เลยหยั่งเชิงถามไปว่า

    เป็นสาวๆสวยๆอย่างนี้ ทำไมไม่มีแฟนให้เงินใช้ดีๆหรือ ต้องมาทำงานให้เหนื่อยทำไม

    เธอก็เลยเล่าเรื่องราวชีวิตของเธอให้ป้าฟัง ตั้งแต่เส้นทางการเข้ามาญี่ปุ่นครั้งแรกของเธอเมื่อห้าปีก่อน



    น้องนิวเล่าว่า เธอมีการศึกษาขั้นเรียนมหาวิทยาลัยปีสาม แห่งหนึ่งย่านรามคำแหง แต่เรียนไม่จบเพราะต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย

    เพราะครอบครัวเธอมีพื้นฐานภาษาจีน ทำให้เธอใช้ภาษาจีนในการทำงานนำคนงานไปทำงานประเทศไต้หวันตั้งแต่อายุยี่สิบเอ็ด

    เธอเข้าออกนำคนงานไทยไปไต้หวัน หลายครั้ง จนเมื่อเป็นที่เพ่งเล็งของตม.ไต้หวัน เพราะเข้าออกบ่อย
    จึงโดนห้ามเข้าประเทศไต้หวัน ทำให้เธอหันเหที่จะเดินทางมาทำงานที่ญี่ปุ่น โดยได้รับการติดต่อจากเอเย่นต์
    ด้วยวัยที่กำลังสวยสะพรั่ง เธอได้เดินทางมาจากประเทศไทยด้วยการแอบลักลอบมากับเรือส่งสินค้าจากประเทศเกาหลีมาญี่ปุ่น

    โดยเธอต้องเดินทางด้วยเครื่องบินจากประเทศไทยไปยังประเทศเกาหลี เมื่อเข้าเกาหลีได้แล้ว

    เธอก็ถูกพาตัวไปพักรอ เพื่อจะแอบเข้าไปอยู่ในเรือสินค้าที่จะส่งสินค้าจากเกาหลีไปญี่ปุ่น

    ประเทศเกาหลีและญี่ปุ่นอยู่ไม่ไกลกันมากนัก ถ้านั่งเครื่องบินก็ประมาณสองหรือสามชั่วโมง (ป้ายังไม่เคยไปเกาหลี)

    เมื่อทางผู้จัดพาได้หาเรือสินค้าที่จะไปประเทศญี่ปุ่นได้แล้ว ก็จะนำพวกเธอ ซึ่งมีผู้หญิงไทยคนอื่นมาพร้อมเธออีกห้าคน

    รวมเป็นหกคนสำหรับเที่ยวที่เธอเดินทาง ท่านอื่นๆที่เวลาจะเดินทางมาประเทศญี่ปุ่น

    คงนั่งเครื่องบินสายการบินใดสายการบินหนึ่ง เดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นอย่างโก้เก๋ หรูหรา

    แต่เธอและเพื่อนๆไม่ใช่ ก็อย่างที่เป็นที่รู้ๆกันอยู่ว่า ประเทศญี่ปุ่น เข้มงวดเรื่องวีซ่าอย่างมาก

    ไม่ใช่จะให้วีซ่าเข้าประเทศได้อย่างง่ายๆ เรียกว่าเป็นที่สองรองจากอเมริกา





    แน่นอน อะไรที่มันยากๆ ก็ต้องมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นจึงมีขบวนการลักลอบนำคนเข้าประเทศ

    ค่าใช้จ่ายแต่ละครั้งที่นำคนเข้าประเทศอย่างผิดกฏหมายนี้ก็นับเป็นเงินจำนวนสูงพอสมควร

    เรียกว่าต้องมาทำงานใช้หนี้กันจนกว่าจะหมด บางคนโชคดีก็ใช้หนี้หมดเร็ว บางคนใจไม่รัก
    ทนทำงานไม่ได้ ก็มีปัญหาหลายอย่างตามมา การทำงานใช้หนี้นี้เขาเรียกว่าใช้แท็ค
    แท็คก็คือจำนวนเงินที่เป็นหนี้กับคนที่นำตัวขึ้นมาทำงานที่ญี่ปุ่น อัตราค่าตัวของคนที่ขึ้นมาก็ว่ากันไป
    ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ หนึ่งล้านสองแสนบาท หรือสามร้อยหมื่นมัง เมื่อคุณขึ้นมาแล้ว ก็เหมือนแบกหนี้มาด้วยหนึ่งล้านกว่าบาท

    ดังนั้นเพื่อให้หมดหนี้อย่างเร็วที่สุด จึงต้องทำงานรับลูกค้าให้ได้มากที่สุด บางคนหน้าตาสวย
    จะต้องรับลูกค้าถึงวันละสิบคน ซึ่งน้องนิวก็ทำมาแล้ว (เธอเล่าให้ฟัง)

    ตอนนี้เรามาต่อกันด้วยเรื่องเส้นทางการเดินทางไปในเรือสินค้าของน้องนิว

    น้องนิวเล่าว่า เธอและสาวคนอื่นๆ ถูกนำตัวเข้าไปอยู่ในห้องเล็กๆภายในท้องเรือสินค้า

    ไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน โดยมีคนนำอาหารมาส่งให้ทานสามมื้อ นั่งกันมาเรื่อยๆไม่รู้วันรู้คืน

    จนวันหนึ่งที่อากาศหนาวเหน็บ ก็มีคนมาพาพวกเธอออกจากห้องลับนั้น ให้แต่งตัวใส่เสื้อผ้ากันหนาวสีทึมๆ

    เป็นกางเกงและเสื้อคล้ายคนทำงานบนเรือ พวกเขาพาเธอเดินออกมาจากเรือโดยสารปะปนไปกับคนงาน

    เมื่อครบจำนวนคนที่พามา เธอถูกนำขึ้นรถมาท่ามกลางความมืดและอากาศที่หนาวเย็น

    ไม่รู้แม้แต่ทิศทางที่จะไป แต่มีความรู้สึกว่าอยู่ไม่ไกลจากทะเล ซึ่งตอนนี้เธอมาคิดดูว่าคงเป็นโยโกฮามา

    เมื่องท่าเรือสำคัญของญี่ปุ่น ที่เขตคานากาว่า เธอและเพื่อนถูกส่งต่อไปยังสถานขายบริการแห่งหนึ่ง

    เธอเล่าว่า เธอเคยมีสามีมาแล้ว และก็ทราบดีว่า การมาประเทศญี่ปุ่นครั้งนี้มาเพื่อทำอะไร

    เธอไม่ได้ถูกหลอกลวงมาแต่ประการใด จุดประสงค์ในการมาของเธอคือหาเงินสร้างอนาคต เธออยากรวย

    อยากนำเงินกลับไปบ้านเพื่อซื้อบ้าน ซื้อรถ เธอเต็มใจที่จะมาขายบริการ

    ดังนั้นเธอจึงเริ่มงานใหม่ในประเทศญี่ปุ่นอย่างตั้งใจ เพื่อจะได้เป็นอิสระปลดหนี้ที่เป็นอยู่ถึงหนึ่งล้านสองแสนบาทได้ให้เร็วที่สุด

    และเธอก็บอกว่า เมื่อเธอชำนาญการอยู่ประเทศญี่ปุ่นมากขึ้น เธอจึงรู้ว่า การมาประเทศญี่ปุ่นของเธอครั้งนี้

    เขาเรียกว่า ***** วียัด ******* นั่นก็คือการเอาเธอ ยัดใส่เรือมา

    เรื่องของน้องนิวยังมีต่ออีก เดี๋ยวตอนกลางคืนกลับจากโรงพยาบาลจะมาเล่าให้ฟังใหม่ ตอนนี้ไปก่อน






    Create Date : 28 มีนาคม 2552
    Last Update : 29 มีนาคม 2552 23:43:23 น. 11 comments
    Counter : 2209 Pageviews.

 
หวัดดีค่ะคุณป้า แวะมาอ่านเรื่องน้องนิวค่ะ ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ครบ ทุกรสชาติเลยทีเดียว ยังไง ขอเอาใจช่วยน้องนิวนะค๊า
แล้วจะมาอ่านต่อค๊า


โดย: Borken วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:11:38:29 น.  

 
จะรอมาอ่านต่อ นะคะป้า


โดย: ~ต่องต๊องป้า~ IP: 58.9.120.232 วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:11:44:34 น.  

 
รออ่านเรื่องน้องนิวต่อนะคะ

ตอนอยู่ฮ่องกง ได้รู้จักกับพี่คนนึงตอนเรียนภาษากวางตุ้งกับโวลันเทีย วันนึงออยชวนเพื่อนๆมาบ้าน พี่คนนี้ก็มาด้วย คุยกันไปคุยกันมาพี่เค้าก็บอกว่า
"เอาหล่ะ พี่พูดตรงๆอย่างไม่ปิดบัง พี่เคยทำงานอย่างว่ามาก่อนตอนอยู่ญป"
แล้วพี่ก็เล่าๆๆๆ สมัยนั้นพี่เค้าบอกว่าจ่ายเงิน 3 แสนบาทเองค่ะ พี่เค้าว่าทำงานปีเดียวก็จ่ายค่า"แทค"หมด ชีวิตพัวพันกับยากุซ่า มีความเป็นอยู่ที่หรูหรา และมีเรื่องอื่นๆอีกมากมาย...จนทุกวันนี้(ณตอนนั้นที่ออยยังอยู่ฮ่องกง) พี่เค้าก็มาได้สามีคนฮ่องกงอยู่กินมีลูกด้วยกัน

ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ

ฟังแล้วก็แบบ เออเนอะ...เป็นชีวิตอีกแบบนึงที่เราไม่เคยสัมผัสมาก่อน


โดย: fudge-a-mania IP: 58.159.153.34 วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:12:17:23 น.  

 
รอมาอ่านต่อค่ะ


โดย: ริวคิ-mawin-maji-minic วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:12:34:36 น.  

 
คงด้วยความจำเป็นและข้อจำกัดหลายๆอย่าง
ก็ยังมีหลายๆคน พยายามอยากเข้ามาญี่ปุ่นถึงแม้ว่าจะผิดกฎหมายหรือเหนื่อยยาก


รออ่านตอนต่อไปค่ะ
เป็นมุมมองชีวิตอีกด้านที่ได้เรียนรู้


โดย: mame (@FirstblusH ) วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:17:25:31 น.  

 
รออ่านต่อนะคะคุณน้า


โดย: thattron วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:18:57:33 น.  

 
เรื่องราวน่าติดตามมาก ขอมานั่งปูเสื่อรออ่านตอนต่อไปนะครับ


โดย: พล (aoigata ) วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:20:32:27 น.  

 
อ่านแล้วน่าสงสารเค้าจัง


โดย: Umeshu IP: 203.136.255.168 วันที่: 29 มีนาคม 2552 เวลา:15:13:54 น.  

 
อ่านแล้วก็ เอ้อ ชีวิตเราสบายกว่าเค้าเยอะ ถึงจะไม่รวยก็ตาม เฮ้อ


โดย: มูมู IP: 114.152.89.149 วันที่: 30 มีนาคม 2552 เวลา:19:59:28 น.  

 
แต่ละคนก็มีปัญหา และความยากลำบากในการดำเนินชีวิตเนอะ

เราต้องไม่แท้ สู้ๆ

ขอบคุณป้าต้อยที่แนะนำเรื่องดีดี ทำให้มีกำลังใจขึ้นเยอะเลยค่ะ


โดย: หยก IP: 115.67.230.72 วันที่: 18 กรกฎาคม 2552 เวลา:1:36:17 น.  

 
เพิ่งมีโอกาสได้เข้ามาอ่านค่ะ ขอบคุณคุณป้าที่นำเสนอเรื่องราวอีกแง่มุมหนึ่งของชีวิต ทำให้มีกำลังใจสู้ชีวิตต่อไปค่ะ


โดย: วารุ IP: 218.219.224.220 วันที่: 25 กรกฎาคม 2554 เวลา:10:53:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พนอจัน
Location :
กรุงเทพฯ Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 291 คน [?]




ป้าพนอจัน เกิด วันที่ ๒ พฤกษภาคม ๒๔๙๔

เป็นคนกรุงเทพ เกิด ที่ เขตดุสิต ถนนสุโขทัย

ชอบทำอาหาร ชอบดอกไม้ ชอบท่องเที่ยว

ตอนนี้แต่งงาน มาอยู่ประเทศญี่ปุ่น ได้ 16 ปี
New Comments
Friends' blogs
[Add พนอจัน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.