Literature is a luxury. Fiction is a necessity.
Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
10 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
คำจำกัดความของ "การอ่าน"

บล็อกนี้เริ่มจากบทสนทนากับน้องชายค่ะ
(คุณน้องไม่อ่านนิยายนอกจากนิยายกำลังภายใน นิยมอ่าน non-fiction มากกว่า รักสนพ.คบไฟเป็นที่สุด)

น้องมันเปิดประเด็นว่าความจริงแล้วเรา (สองคนพี่น้องนี่ล่ะ) ไม่ถือเป็นนักอ่านนะ คือถึงจะอ่านเยอะ แต่ก็อ่านแคบ อ่านตามแต่ที่พอใจ
มุราคามิอะไรนี่ก็ไม่อ่านกับเขา วรรณกรรมรัสเซียอะไรก็ไม่สนใจ ขนาดรามเกียรติ์ก็ยังไม่เคยอ่านเป็นชิ้นเป็นอันเลยนอกจากเวลาเรียน ยิ่งรวมเรื่องสั้นชิงรางวัลอะโน่นอะนี่ยิ่งเข้าไปใหญ่ ดังนั้นจงอย่าเรียกตัวเองว่านักอ่านเลย

แต่ว่า...การอ่านจะถือเป็นการอ่านที่แท้จริงได้ก็ต่อเมื่ออ่านวรรณกรรมเหรอ ขนาดต้นไม้ยังมีหลายสายพันธุ์เลยนะ เราจะเป็นนักอ่านประเภทไม้ดอกไม้ประดับไม่ได้เหรอ ต้องเป็นไม้ยืนต้นอย่างเดียวหรือไง

ไม่ว่ายังไงเราก็ยังยืนกรานตามคำคมที่หัวบล็อกนะ
Literary is a luxury. Fiction is a necessity.


เรื่องที่สอง (ซึ่งไม่รู้ว่าเกี่ยวกันจริงรึเปล่า) แต่ก็เกี่ยวกับการอ่านละกันน่า

วันก่อนไปคิโนะฯกับแมวเหมียวเจอหนังสือว่าด้วยการอ่านเร็ว (โดนตอกเล็กน้อยว่าจะอ่านเร็วกว่านี้ไปทำไมยะ -_-") มีบทหนึ่งบอกให้เร่งจังหวะโดยการอ่านด้วยการตั้งเมโทรโนมแล้วสปีดแต่ละบรรทัดไปตามนั้น ก็ขำๆแต่ก็เออนะ ถ้าใช้อ่านตำราเรียนได้ก็คงดีไม่หยอก

แต่อีกบทที่พูดถึงการอ่านแบบเร่งสายตา เช่น ใช้ไม้บรรทัดทาบทีละ 2 บรรทัดแล้วกวาดตาเก็บความทั้งสองบรรทัดพร้อมกันในคราวเดียว ดันบอกให้ใช้วิธีนี้กับการอ่านนิยายด้วย! ประมาณว่าพอถึงจุดไคลแมกซ์ก็ให้ใช้ไม้บรรทัดทาบทีละครึ่งหน้าเลย แล้วกวาดตาพรึ่บเดียว เท่านี้คุณก็จะได้รับรู้เนื้อเรื่องอันเร้าใจภายในเวลาอันสั้น! ช่างดีอะไรอย่างนี้ลอร่า!

มันอะไรกันเนี่ย! การอ่านนิยายควรจะเป็นไปตามจังหวะของเรากับคนเขียนไม่ใช่เหรอ เราไม่ได้อ่านนิยายแค่ให้รู้พล็อตนะ แต่เราอ่านความคิดของคนเขียน อ่านจังหวะของคำ อ่านสไตล์ อ่านคำบรรยาย อ่านฉาก อ่านอะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย ตรงไหนชอบมากๆก็อ่านย่อหน้านั้นซ้ำซะสามรอบ โลกนี้มันหมุนเร็วเสียจนไม่มีเวลาให้ละเลียดหนังสือแล้วเหรอ แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปจินตนาการเล่า ใครก็ได้เรียกขบวนการ Slow life มาช่วยที!

ที่สำคัญ ลองคิดภาพคนพยายามอ่านซารามาโกโดยการตั้งเมโทรโนมเพื่อเร่งจังหวะสิ ตายแน่ๆ ตายหยังเขียด โดยตัวหนังสือทิ่มตาตาย


Create Date : 10 กันยายน 2551
Last Update : 10 กันยายน 2551 0:17:19 น. 10 comments
Counter : 659 Pageviews.

 
เราก็ไม่ใช่นักอ่าน อ่านหนังสือไม่เยอะและไม่หลากหลายเหมือนกันค่ะ
แต่ก็รักที่จะอ่านนะ


โดย: Almondblist วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:0:42:22 น.  

 
พูดถึง "อ่าน" แบบไหนล่ะ?
คนอ่านหนังสือ หรือ หนังสืออ่านคน

เรื่องอ่านเร็วบางทีถ้าทำได้มันก็ดีนะ
อย่างตอนไปเลือกหนังสือเนี่ย จะได้แอบสแกนเนื้อเรื่องคร่าว ๆ ให้แน่ใจว่ามันไม่ไขปมแบบมักง่าย หรือเล่าไปครึ่งเล่มแล้วยังไปไม่ถึงไหน ...ประมาณว่าพอให้เห็นภาพว่าเล่มนี้จะพูดถึงอะไรบ้างคร่าว ๆ แล้วค่อยมาละเลียดทีหลังตามใจ

(ช่วงนี้มี 3 for 2 promotion เลยทำแบบข้างบนบ่อย)

เอนี่เวย์ พี่ชอบทั้งแบบข้างบนกับแบบอ่านปกหลัง ชอบแล้วซื้อมาผจญภัย(ในการอ่าน)เลย บางเล่มมันช่างสุดแสนเซอร์ไพรซ์ สนุกไปคนละแบบ


ส่วนเรื่องนักอ่านต้องอ่านอะไรถึงเรียกได้ว่าเป็นนักอ่าน แค่อ่านเยอะก็พอมั้ง? เช่น ถ้าอ่านแต่นิยายแฟนตาซีก็อ่านจนเป็นโอตาคุนิยายแฟนตาซีไปเลยน่ะ หรืออ่านหลายแนวก็ให้มันมีหลายเล่มหน่อย ไม่ใช่แนวละเล่มสองเล่มแล้วอวดว่าตัวเองเป็นนักอ่าน 555

แต่ความจริง นักอ่านจริง ๆ น่าจะเป็นคนที่ไม่สนใจเรื่องแวดวงวรรณกรรมพวกนี้เลยรึเปล่า? ใครจำกัดความอะไรหรือเถียงอะไรกัน ไม่สนเฟ้ย จะอ่านหนังสือ ประมาณนั้น


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:3:50:15 น.  

 

ลอกคนข้างบน


โดย: อั๊งอังอา วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:8:52:59 น.  

 
ใช้ไม้บรรทัดทาบทีละ 2 บรรทัดแล้วกวาดตาเก็บความทั้งสองบรรทัดพร้อมกันในคราวเดียว ดันบอกให้ใช้วิธีนี้กับการอ่านนิยายด้วย!

จะบ้าตายถ้าเราต้องอ่านนิยายอย่างนั้น...มันจะซึมซาบประเล้าประโลมอะไรได้อ่ะ แบบนั้น?

ส่วนตัวก็อ่านหนังสือตามความพอใจส่วนตัวเหมือนกันค่ะ มีบางเล่มที่อ่านตามกระแส แต่ถ้าอ่านไปแล้วไม่ชอบก็วาง และไม่ฝืนตัวเองทู่ซี้อ่าน

ประเด็นอื่น ๆ ขอลอกคุณยาคูลท์ด้วยคน...


โดย: แม่ไก่ วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:9:40:21 น.  

 
ตั้งเมโทรโนม


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:11:32:10 น.  

 
สวัสดีค่ะ เป็นอีกคนที่อ่านหนังสือไม่มากค่ะ อ่านเพราะอยากอ่านไม่ได้อ่านเพราะมีคนแนะนำว่าเรื่องไหนดีไม่ดี เอาความคิดตัวเองเป็นหลัก ไม่ยึดติดกับพวกหนังสือขายดีติดอันดับใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ชอบที่จะอ่านเร็ว ๆ ด้วย เห็นหนังสือที่ว่าเหมือนกันค่ะ จะอ่านเร็วเอาโล่ไปไย


โดย: อิมาอิซัง วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:17:28:14 น.  

 
จะเป็นนักอ่านหรือไม่ ไม่สำคัญ

ขอเพียงให้ได้อ่าน ก็พอ


โดยส่วนตัวเป็นพวกอ่านช้าครับ
ไว้ต้องลองใช้ไม้บรรทัดทาบทีละสองบรรทัดดู
เผื่อจะเร็วขึ้นบ้าง


โดย: ahiruno007 IP: 58.9.249.208 วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:20:20:56 น.  

 
ไม่ใช่นักอ่าน แต่เป็นแค่คนอ่านค่ะ อ่านตามความพอใจของตัวเองเช่นกัน

อ่านแบบกว้างแต่ตื้นกับอ่านแคบแต่ลึก อย่างไหนถึงจะเรียกว่า "นักอ่าน" ? อันนี้ก็คงแล้วแต่ใครจะมอง
(อื่น ๆ ขอลอกคุณยาคูลท์ด้วยคน)

ถ้าให้ต้องอ่านเร็วแบบสปีดเร็วกว่านรกแบบทีละ 2 บรรทัดอะไรนั่นก็ไม่ไหวเช่นกันค่ะ
ขอไปแบบตามจังหวะปกติของชีวิตดีกว่า (ที่เร็วสุดที่เคยอ่านก็อ่านลอร์ดออฟเดอะริงส์ (แปลไทย) เล่ม 1 จบใน 2 คืน แล้วก็รู้สึกว่าพอเถอะ )



โดย: จินตานุภาพ วันที่: 11 กันยายน 2551 เวลา:13:02:14 น.  

 
บางทีก็ไม่เร่งสปีดตามเมโทรโนม แต่ข้ามไปอ่านเอาตอนจบเลยค่ะ (เมโทรโนมพังพอดี) โดยเฉพาะเรื่องตื่นเต้นสืบสวนอะไรทำนองนี้

ง่า สารภาพว่าพึ่งใช้วิธีโกงนี้ไปกับเรื่อง the empty chair ฉบับแปลของเจฟฟรีย์ ดีเวอร์ไปหมาดๆ กระดาษแผ่นหลังตอนจบเรื่องยังเปียกอยู่เลย

"เราไม่ได้อ่านนิยายให้รู้พล็อต" ป้าบ...โดนไปเต็มๆหนึ่งดอกค่ะ แต่เฮียเจฟฟรีย์แกเขียนซะตื่นเต้นจนทนไม่ได้เอง ชิ โทษคนเขียนซะเลย

เป็นคนไม่ได้ยึดติดกับgenreอะไรเป็นพิเศษแต่จะบ้าเห่อเป็นพักๆ อย่างตอนเห่อแฟนตาซีก็หมกมุ่นอ่านอยู่อย่างเดียว(ตอนนั้นจะใส้แห้งเพราะแฟนตาซีมันชอบโจมตีนักอ่านเป็นซีรี่ยส์ละหลายเล่ม...) ปัจจุบันใครไปคิโนจะเห็นผู้หญิงตัวเตี้ยเกินมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุขคนหนึ่งเดินป้วนเปี้ยนท่าทางมีพิรุธอยู่แถวhistorical novelค่ะ


โดย: แอปเปิ้ลอบเชย (apple_cinnamon ) วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:1:37:00 น.  

 
ก็พยายามจะอ่านเร็ว
ช่วงหนึ่งบ้าอ่านวิธีการอ่านเร็ว
ทั้งเอานิ้วไล่ จำประเด็น
ฝึกความจำสมองยามเช้า
ทำไงได้กองดองมันเยอะมากนิน่า


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 12 เมษายน 2552 เวลา:11:27:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทินา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




หลังไมค์เชิญทางนี้จ้า
Friends' blogs
[Add ทินา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.