Literature is a luxury. Fiction is a necessity.
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
27 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
เรื่องระทึกขวัญบนรถเมล์

เมื่อวันก่อนตอนเย็นๆจขบ.นั่งรถเมล์สาย 7 เข้าเมืองไปทำธุระ
ขณะที่กำลังหลับๆตื่นๆอยู่นั้นก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงเอะอะ
พอเงยหน้าขึ้นปุ๊บก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังเงื้อหมัดชกคนขับอยู่!
ทำเอาหายง่วงทันตาเห็น

ฟังความได้ว่าผู้ชายคนนี้กับฝรั่งสาว(คงเป็นภรรยา)ซึ่งอุ้มลูกเล็ก(ประมาณขวบกว่าๆ) และผู้หญิงอีกคนที่เดาว่าเป็นแม่กำลังรอรถเมล์อยู่ที่ป้าย แล้วคนขับไม่ยอมเข้าป้ายทำให้เขากับครอบครัวต้องวิ่งตาม พอก้าวขึ้นรถ คนขับก็รีบออก แกก็เลยโมโหหาว่าคนขับทำแบบนี้ถ้าลูกแกตายขึ้นมาจะทำยังไง บลา บลา

คนขับก็อธิบายว่าที่ป้ายมีรถขวางอยู่เข้าไม่ได้ ส่วนคุณกระเป๋าก็บอกว่ายืนดูอยู่จนผู้โดยสารขึ้นมาแล้ว ไม่ได้รีบกระชากรถออกเสียหน่อย

ตาผู้ชายคนนั้นก็ไม่ยอม ด่าคนขับอยู่นั่น แถมยังจะลุกขึ้นไปชกอีกรอบ คนขับก็เลยบอกว่างั้นไปคุยกับตำรวจดีกว่า เท่านั้นล่ะ คุณแม่ลุกขึ้นมาบอกว่า "ชั้นขอโทษก็ได้ ขอโทษแล้ว ไม่ต้องไปแจ้งตำรวจหรอก จะเอาเงินเท่าไหร่ว่ามา" คุณกระเป๋าก็บอกว่าเงินก็จ่ายเท่าค่าโดยสารนั่นล่ะ แล้วไอ้คนทำน่ะขอโทษหรือยัง มาทำร้ายกันแบบนี้เกิดรถคว่ำผู้โดยสารคนอื่นจะเป็นไง

แต่สุดท้ายแล้วคนขับ+กระเป๋าก็ปล่อยให้เขาลงที่ป้ายก่อนหัวลำโพง ไม่ได้เอาเรื่องอะไรกันหรอก

จขบ.อ่านข่าวคนบันดาลโทสะกันมาก็มาก พวกปาดหน้าแล้วยิงกัน แต่ไม่เคยเจอในระยะเผาขนขนาดนี้มาก่อน ทำไมคนสมัยนี้ถึงใจร้อนกันขนาดนี้หนอ โอเค คนขับรถเมล์ไม่เข้าป้าย(ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเขามีเหตุผลสมควรจริงหรือเปล่านะ) แต่คุณมีสิทธิ์อะไรขึ้นรถเมล์มาเพื่อทำร้ายร่างกายเขา ทำแบบนี้แปลว่ารักลูกจริงเหรอ ถ้าเกิดคนขับหมดสติหรือหันมาชกคุณกลับล่ะจะทำยังไง ปล่อยๆให้รถคว่ำไปงั้นเรอะ แล้วเมียกับลูกและแม่คุณอีกล่ะ ถ้ากระเป๋าโหดๆหันไปลงกับคนอื่นคุณจะทำยังไง ไม่เข้าใจความคิดของเขาเลยจริงๆ

ฝ่ายแม่ก็อีกมีอะไรก็คิดว่าให้เงินก็หายงั้นเหรอ โอเค เข้าใจว่าต้องการคลี่คลายสถานการณ์ แต่คุณแม่ก็น่าจะห้ามให้มันจริงจังหน่อย ไปดึงตัว ไปบอกให้ใจเย็น อย่าไปทำเขา นี่มีแค่ "พอแล้ว พอแล้ว"

จขบ.อาจจะอคตินิดหน่อยเพราะเป็นผู้โดยสารก็ต้องคิดถึงตัวเองก่อน แต่ก็อดกลัวไม่ได้ว่าสังคมไทยเป็นกันขนาดนี้แล้วหรือ ไม่ได้คิดว่าต้องยอมหรอกนะ ถ้าคนทำผิดก็ต้องตำหนิน่ะใช่ (จขบ.ก็ไม่ใช่คนยอมคนเท่าไหร่เหมือนกัน) แต่มันก็มีกลไกอื่นในการจัดการนี่ จะฟ้องผู้บริหาร หรือโมโหมากๆยืนด่าระบายหน่อยก็ยังไหว ไม่ใช่เอะอะก็ใช้กำลัง เอะอะก็อาละวาดลงมือ แน่ใจแล้วเหรอว่ามันดีน่ะ คนที่คุณคิดว่าปกป้องอยู่น่ะเขาจะปลอดภัยจริงเหรอ เค้าไม่รู้สึกกลัวกับการแสดงอำนาจของคุณมากกว่าเหรอ แล้วคนเราควรจะส่งเสริมเรื่องแบบนี้แทนที่จะปรามจริงหรือ

ต้องขอชมคุณพี่กระเป๋ากับคนขับอีกรอบที่ใจเย็นสุดๆ ถ้าใจร้อนกว่านี้แบบพวกรถร่วม รถเมล์เขียวล่ะก็ จขบ.คงได้เป็น "ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า..." ไปแล้ว -_-"


Create Date : 27 สิงหาคม 2551
Last Update : 27 สิงหาคม 2551 22:10:34 น. 6 comments
Counter : 868 Pageviews.

 
มันเป็นบางช่วงอารมณ์ครับ ผมแน่ใจว่าผู้ชายคนที่จะชกคนขับคนนั้น คงจะมารู้สึกว่าตัวเองไม่น่าทำแบบนั้นเลยในภายหลัง เวลาผมเจอคนที่โวยวายแบบนี้ (ซึ่งเจอบ่อยแบบไม่คาดฝันเหมือนกัน) ผมก็จะบอกเป็นแนวว่า "โทษครับ คุณลองทำใจดีๆ แล้วคิดซิครับว่าเรื่องมันเป็นยังไงมายังไง โอเคผมทำผิดตรงนี้ ผมขอโทษละกัน แต่คุณก็ทำไม่ถูกตรงนี้น่ะ เห็นด้วยไหม ถ้าเห็นด้วยก็จบกันไป แต่ถ้าไม่เห็นด้วยก็คงไม่ต้องคุยกันแล้วครับ ลาก่อน"

ปล. การ์ตูนไม่มีเวลาลงเลยครับ T-T ขอโทษที่ทำให้รอ ถ้ายังไงก็แวะไปที่ส่วนของหนังละกันครับ ส่วนนั้นผมอัพอยู่เรื่อยๆน่ะ


โดย: BloodyMonday วันที่: 27 สิงหาคม 2551 เวลา:22:45:38 น.  

 
ขอบคุณค่ะ คุณทินา ที่แวะให้กำลังใจแม่น้องแคทที่บล็อก แม่น้องแคทนะคะ แวะมาทักทายค่ะ


โดย: แม่น้องแคท วันที่: 30 สิงหาคม 2551 เวลา:11:58:56 น.  

 
ติดใจคำพูดคุณแม่น่ะ ยินดีเสียเงินยิ่งกว่าจะพบตำรวจ ก็... นะ

ส่วนจะให้คุณแม่ห้ามลูกนั้น โฮ้ย ฝันไปเหอะ โลกนี้เต็มไปด้วยลูกบังเกิดเกล้า


โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ (the grinning cheshire cat ) วันที่: 31 สิงหาคม 2551 เวลา:13:06:55 น.  

 
เวลาโมโห ไม่มีใครคิดว่ามีทางออกดีกว่านี้หรอก จริงๆ นะ
ไม่งั้นจะมีวลีว่า "โมโหจนขาดสติ" เหรอ

พี่เองยังเคยอยากจะมีปืนในมือ แล้วยิงตามรถเมล์ที่ไม่ยอมจอดป้ายไปเลย (ประมาณว่ารอมาสามชาติ พอมาสักคัน ดันไม่จอดเสียนี่)


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 7 กันยายน 2551 เวลา:7:32:58 น.  

 
BloodyMonday - ช่วงเวลาที่คิดเราก็มีค่ะ แต่ถึงขั้นลงมือนี่ไม่ไหวอะ

แม่น้องแคท - ขอบคุณที่แวะมาค่ะ สู้สู้นะคะ

LMJ - ก็อะนะ

ยาคูลท์ - ความแค้นไม่เข้าใครออกใครสินะ


โดย: ทินา วันที่: 9 กันยายน 2551 เวลา:23:50:19 น.  

 


โดย: Mr.Chanpanakrit วันที่: 12 เมษายน 2552 เวลา:11:27:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทินา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




หลังไมค์เชิญทางนี้จ้า
Friends' blogs
[Add ทินา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.