|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
อีกภาคหนึ่งของ สารภาพ (ไม่) รัก
ห่างหายจากบล็อกไปนานแสนนาน มัวแต่ยุ่งกับงานและหนีเที่ยวแดนปลาดิบมาค่ะ (พูดแล้วอยากกินเลยแฮะ เอื๊อกส์) แหะแหะ วันนี้เลยขอแก้ตัว มาอัพบล็อกตอนใหม่แย้ว...
มาคราวนี้ โน้ตขอนำเสนออีกเวอร์ชั่นหนึ่งของ สารภาพ (ไม่) รัก ที่โน้ตไม่ได้ส่งตีพิมพ์นะคะ ซึ่งขอบอกว่าก่อนส่งพิมพ์เป็นช่วงเวลาที่โน้ตตัดสินใจยากมากว่าจะส่งแบบไหนดี ทั้งคิดเอง ทั้งขอคำตอบจากนักอ่านทดลองรอบตัว ซึ่งผลคะแนนก็ออกมาเท่าๆ กันเสียด้วย จนผลสุดท้ายโน้ตได้ฟังคำแนะนำดีๆ จากสาวอ้นจันทร์ ว่าให้เชื่อการตัดสินใจของตัวเอง ถามตัวเองดีๆ ว่าเราอยากนำเสนอแบบไหน โน้ตจึงตัดสินใจได้โดยทันทีว่าโน้ตอยากสื่อให้เห็นปาฏิหาริย์รักที่สร้างความประหลาดใจและดีใจจนพูดไม่ออกให้กับทั้งสองฝ่ายใน moment เดียวกันมากกว่า แต่ถึงกระนั้น โน้ตก็ยังไม่สามารถตัดใจจากการดำเนินเรื่องอีกแบบหนึ่งได้ จึงตัดสินใจนำมาแปะในบล็อกให้ได้อ่านกันค่ะ
#################################
โน้ตขอขึ้นต้นที่การประกฏตัวอีกครั้งของพระเอกที่สนามบินเลยนะคะ...
คงจะไม่ทันแล้วล่ะ คุณ ตาหมอกเดินมาโน่นแล้ว ดูสิ
เสียงของแม่ทำให้ฉันตื่นจากภวังค์ชั่วขณะ ก็ชื่อของคนที่แม่เอ่ยถึงฟังดูคุ้นใจเหลือเกิน แถมยังมีอิทธิพลต่อความรู้สึก ทำให้หัวใจของฉันกระตุกวาบอย่างรุนแรง
สวัสดีครับ คุณน้า
คราวนี้ไม่ใช่แค่ชื่อ...น้ำเสียง ใบหน้า และรอยยิ้มอันแสนสดใสนั้นก็คุ้นตาอย่างประหลาด เสมือนว่าเป็นที่สิ่งเดียวที่มักจะผุดขึ้นมาในความทรงจำ
นี่ หมอก มารู้จักลูกสาวน้าสิ มารู้จักน้องอิงไว้
น้องอิงมานี่ซิลูก แม่พูดพลางโอบบ่าฉันเข้าไปในวงสนทนา ฉันเคลื่อนที่ตามอย่างง่ายดายราวกับตุ๊กตาล้มลุก มารู้จักพี่หมอกไว้ หนูจะต้องทำงานกับพี่เขา เรียนรู้งานจากพี่เขาอีกเยอะเลยนะ
คำพูดตอนท้ายๆ ของคุณแม่เป็นอย่างไรฉันไม่รับรู้แล้ว ในสายตาของฉันเห็นแต่ภาพของร่างสูงที่ยืนยิ้มกว้างอยู่ตรงหน้า หูของฉัน ก็ดูเหมือนจะรอฟังแต่เสียงของเขาเท่านั้น
สวัสดีอีกครั้งครับ อิง
นี่เป็นภาพหลอน หรือปาฏิหาริย์ที่เฝ้าหวังจะกลายเป็นจริงขึ้นมา...
น้องอิง
คะ?
นั่งใจลอยคิดถึงเรื่องอะไรอยู่ครับ จวนได้เวลาแล้วนะ
ฉันหันไปส่งยิ้มให้เขาทั้งตาทั้งปาก
และหัวใจ
คิดถึงเรื่องของเราค่ะ
พี่หมอกประคองฉันให้ลุกขึ้นอย่างอ่อนโยน ชุดไทยอันแสนแคบทำให้การลุกนั่งลำบากไม่น้อยเลยจริงๆ
เรื่องของเราหรือ เรื่องไหนครับ เขาทำท่านึก เรื่องที่เรากำลังจะหมั้นกันอยู่นี่หรือเปล่า หรือว่าเรื่องที่อังกฤษ
ทั้งสองอย่างค่ะ ฉันตอบพลางสอดมือเข้าไปในอุ้งมืออุ่นๆ ของพี่หมอกที่ยื่นมาประคองอย่างมั่นคง หัวใจเปี่ยมล้นไปด้วยความสุข พูดจริงๆ นะคะ อิงไม่นึกไม่ฝันเลยว่าจะมีวันนี้
พี่ก็ไม่นึกเหมือนกัน เขายอมรับ นึกไม่ถึงด้วยซ้ำ ว่าเราจะได้พบกันอีก
จริงรื้อ
ฉันแกล้งถามด้วยน้ำเสียงรู้เท่าทัน เพราะแน่ใจว่าพี่หมอกจะต้องรีบแก้ตัวเป็นพัลวัน
แล้วก็จริงเสียด้วย
โธ่ น้องอิง อิงจ๋า
จนป่านนี้แล้วยังไม่เชื่ออีกหรือครับว่าตอนแรกน่ะ พี่ไม่รู้จริงๆ
เพิ่งจะมารู้ตอนที่กลับมาถึงนี่เอง
แต่พี่หมอกก็ไม่ยอมบอกอิงนี่คะ ปล่อยให้อิงช็อกแทบแย่ที่แอร์พอร์ตอยู่คนเดียว
ฉันแกล้งทำเสียงกระเง้ากระงอด
ก็มันมีความสุขออกจะตายไปนี่นา เวลาได้ฟังคนที่เรารักพยายามง้องอน เอาอกเอาใจ
ก็ตอนนั้นน้องอิงไม่ยอมให้เบอร์โทรศัพท์พี่นี่ครับ พี่ก็ไม่รู้ว่าจะติดต่อได้ยังไงน่ะสิ จะให้ไปขอจากคุณพ่อน้องอิงก็คงจะเสียมารยาทกับน้องอิงแย่
แหม
ไปได้น้ำขุ่นๆ เลยนะคะ
นึกถึงวันที่เราพบกันที่เมืองไทยเป็นครั้งแรกที่สนามบินแล้วฉันก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้เหมือนเช่นทุกครั้ง
วินาทีที่ได้เห็นคนที่เราครุ่นคำนึงถึงอยู่ตลอดเวลา และหมดหวังที่จะได้พบกันอีกครั้งมายืนอยู่ตรงหน้า ฉันรู้สึกราวกับว่าโลกใบนี้ลืมหมุนไปชั่วขณะ ทุกสิ่งทุกอย่างรอบกายหยุดการเคลื่อนไหวเสมือนรูปปั้น ฉันแทบจะลืมไปเสียด้วยซ้ำว่าตัวเองยังหายใจอยู่ เพราะทุกอย่างช่างนิ่งสงบเสียเหลือเกิน
คุณ
หมอก
ฉันพูดเหมือนละเมอ
ไม่อยากจะเชื่อว่าการพบกันอีกครั้งของเราจะเป็นเรื่องจริง
อ้าว นี่รู้จักกันอยู่แล้วหรือ ลูกอิง หมอก
คุณพ่อถามขึ้น หลังจากมองหน้าฉันและพี่หมอกสลับกันไปมาอยู่นาน แต่ตอนนั้นฉันยังรู้สึกมึนงงเกินกว่าจะตอบอะไรได้ แค่จับต้นชนปลายยังไม่ถูก หน้าที่การอธิบายทั้งหมดจึงตกเป็นของพี่หมอกคนเดียว
พี่หมอกเล่าให้คุณพ่อคุณแม่ฟังคร่าวๆ ว่าพบกับฉันได้อย่างไร ซึ่งท่านทั้งสองก็ตกใจมากพอๆ กันกับฉัน คุณแม่ถึงกับรำพึงออกมาว่า
ช่างเป็นเรื่องที่บังเอิญอย่างเหลือเชื่อจริงๆ
แล้วพวกท่านก็จัดแจงชวนเขาไปร่วมรับประทานอาหารกับครอบครัวและญาติๆ ของเรา ที่เปิดห้องจัดงานเลี้ยงต้อนรับฉันไว้ที่ภัตตาคารแห่งหนึ่งอยู่แล้ว ซึ่งพี่หมอกก็ไม่ปฏิเสธคำชวนนั้น แม้จะเหลือบดวงตาดำสนิทมาทางฉันเป็นเชิงขออนุญาตก็ตาม
ส่วนฉันนั้นหรือ ได้แต่อายจนทำอะไรแทบไม่ถูก ก็
ก็ฉันยังไม่เคยบอกสักนิดว่าตัวเองคิดอย่างไรกับพี่หมอก อยู่ดีๆ พวกท่านชวนเขามาร่วมงานเลี้ยงที่จัดขึ้นเป็นการภายในแบบนี้ มันก็สื่อถึงความหมายบางอย่าง ฉันก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีน่ะสิ!
และที่แน่ๆ ฉันมองไม่เห็นเหตุผลที่จะปฏิเสธเสียด้วย ไม่ว่าจะโดยมารยาท หรือ
ความรู้สึกของตัวเอง
ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงยอมก้าวขึ้นรถไปกับเขาตามคำแนะนำของคุณพ่ออย่างว่าง่าย ดูท่าทางคุณพ่อคุณแม่จะมีความสุขมากกับเรื่องบังเอิญอันแสนวิเศษนี้
แต่ฉันแน่ใจว่า คงไม่มีใครมีความสุขมากเท่ากับฉัน และใครอีกคนที่กำลังนั่งอยู่เคียงข้างอีกแล้ว
อิงครับ
คะ?
อิง
โกรธผมหรือเปล่าครับ
คำถามของเขาทำให้ฉันระบายรอยยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ ฉันสั่นหน้านิดๆ ก่อนที่จะหัวเราะเบาๆ
โธ่ ฉันเพียรพยายามตามหาเขาอยู่เป็นเดือนๆ เพื่อที่จะได้พบหน้า ได้ยินเสียงเขาอีกครั้ง เมื่อเราได้พบกันอีกครั้งอย่างที่ฉันเฝ้าอธิษฐานอยู่ทุกวัน ฉันจะไปโกรธเขาเรื่องอะไร
โกรธ
โกรธทำไมคะ?
ก็
ผมไม่ได้บอกอิง ว่าผม
เอ่อ จะว่ายังไงดี
พี่หมอกพยายามเลือกหาคำพูดอย่างสับสนว้าวุ่นไปหมด ส่วนฉัน อยากรู้ว่าเขาจะพูดอะไร จึงได้แต่ทำตาใสซื่อรอฟัง โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองซุกซ่อนประกายความยินดีในดวงตาเอาไว้ได้มากน้อยแค่ไหน
แต่ฉันว่า ฉันคงกลั้นมันเอาไว้ไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว และนั่นคือเหตุผลที่ฉันต้องพยายามมองออกไปนอกหน้าต่าง ไม่ใช่เพราะฉันเขินจนไม่กล้ามองใบหน้าคมๆ ของเขาหรอก
อิงครับ อิงฟังผมนะครับ
แล้วพี่หมอกก็เล่าให้ฟังตั้งแต่ต้นว่า หลังจากที่เขาบาดเจ็บจากการถูกฉันปฏิเสธ เขาก็เสียใจมากจนตัดสินใจเดินทางกลับเมืองไทยทันทีเพราะเขาไม่อยากอยู่ที่เดิม เดินผ่านที่เดิมๆ ที่เคยพบฉันทุกวัน เขาว่ามันเจ็บปวดเกินไป ซึ่งฉันเข้าใจดี เพราะฉันเองก็เจ็บปวดจากการกระทำของตัวเองตลอดมา
ยิ่งพอกลับมาถึงเมืองไทย ครอบครัวของเขามีแผนอยากจะให้เขาพบกับผู้หญิงคนหนึ่ง ที่จะต้องมาทำงานเป็นหุ้นส่วนกัน และจะยิ่งดีหากว่าวันหนึ่งจะมีโอกาสขยับขึ้นเป็น หุ้นส่วนชีวิต กัน ซึ่งหมายถึงฉันนั่นเอง
ในตอนแรก พี่หมอกยังไม่รู้ว่าเป็นฉันก็คัดค้าน ปฏิเสธหัวชนฝา เพราะยังไม่สามารถลืมผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยพบกันที่ร้านกาแฟในลอนดอนเป็นประจำได้ ถึงแม้ผู้หญิงคนนั้นจะยืนยันว่าไม่เคยมีใจให้เขาเลยก็ตาม เขาก็ไม่พร้อมที่จะพบและสร้างความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนไหนทั้งสิ้น
แล้ว
คุณหมอกรู้ได้ยังไงคะ ว่าอิงคือผู้หญิงคนนั้น
ผมได้ยินมาตลอด ว่าผู้หญิงที่ทุกคนอยากให้ผมได้พบชื่ออิง
ชื่อเดียวกับผู้หญิงที่ผมคิดถึงมากที่สุด แต่ผมคิดว่าคงเป็นแค่เรื่องบังเอิญ อิงก็ไม่ใช่ชื่อเล่นที่หาได้ยาก แม้จะไม่ถึงกับหาได้ทั่วไป
แล้วยังไงต่อคะ?
แล้วมีอยู่วันหนึ่ง คุณพ่อของผมกับคุณพ่อของอิงมาคุยกันที่บ้าน คุณพ่อของอิงเล่าเรื่องอิงให้คุณพ่อของผมฟัง ทั้งเรื่องส่วนตัว การศึกษา และงานอดิเรก คุณพ่อของอิงเล่าว่าอิงกำลังเรียนอยู่ที่ลอนดอน และหลังเลิกเรียนอิงจะชอบแวะไปนั่งจิบน้ำมะม่วงของโปรดที่ร้านกาแฟใกล้ๆ บ้านอยู่เป็นประจำ ทำให้ผมเริ่มสนใจฟังเพราะรู้สึกว่ามันคุ้นเหลือเกิน
จนท่านหยิบรูปถ่ายครอบครัวขึ้นมา ผมถึงได้ขอดูบ้าง
เอ๊ะ แต่ว่า รูปนั้น
ฉันร้องทักเพราะจำได้ว่ารูปที่คุณพ่อมักจะพกติดกระเป๋าสตางค์คือรูปถ่ายครอบครัวของเรา สมัยที่ฉันอายุแค่หกขวบ ยังเป็นเด็กน้อยกะโปโล ผูกผมแกละสองข้าง อมยิ้มแบบเอียงอายเพราะไม่อยากให้ใครเห็นฟันน้ำนมด้านหน้าที่แหว่งไป!
ครับ
ผมเห็นรูปอิง แล้วผมก็จำได้ในทันที
คุณหมอก
ไม่ว่าตอนอายุเท่าไหร่ อิงจะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ผมจำได้เสมอ
ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับพี่หมอกก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว
จาก คุณ มาเป็น พี่ ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลายคนค่อนข้างทึ่งที่เราสองคนสนิทสนมกันได้ไวมาก และทำท่าจะมีข่าวดีในไม่ช้า
คงจะมีแต่ฉันและพี่หมอกเท่านั้นที่รู้ ว่ากว่าจะมาถึงวันนี้ เราสองคนก็แทบหมดหวัง คิดว่าจะไม่ได้พบกันอีกเสียด้วยซ้ำ
อีกไม่กี่นาที เราก็จะเข้าพิธีแล้วนะ
อิงรู้สึกยังไงบ้างจ๊ะ
อิงกำลังคิดว่า สิ่งที่อิงกำลังเห็นทั้งหมดนี้คือความจริงหรือเปล่า
อิงกลัวว่าที่จริงแล้วอิงกำลังฝันไป
ฝันว่าได้กลับเมืองไทย ได้มาพบพี่หมอก ฝันว่ากำลังจะได้เป็นเจ้าสาวของพี่หมอกอย่างมีความสุข
ฉันพูดพลางช้อนสายตาขึ้นมองเขาด้วยแววตาที่เปิดเผยความรู้สึกทั้งหมดโดยไม่คิดซ่อนเร้นอีกต่อไป พี่หมอกเขี่ยปลายจมูกรั้นๆ ของฉันเล่นอย่างเอ็นดู
แล้วตอนนี้ยังนึกว่าตัวเองฝันอยู่อีกหรือเปล่า
#################################
เหตุการณ์ต่อจากนั้น ก็เป็นเหตุการณ์เดียวกับที่อยู่ใน ครสด.23 แล้วค่ะ จะเห็นได้ว่าแบบที่ไม่ได้ส่งพิมพ์นี้ยาวกว่า ทำให้มีดีเทลน่ารักๆ เพิ่มเข้ามา ถึงได้เป็นสาเหตุที่โน้ตตัดสินใจเลือกได้ยากมากเหลือเกิน
ต่อไปนี้เข็ดแล้วค่ะ ไม่กล้าเขียนนิยายแตกออกเป็นสองแบบอีกแล้ว กลัวจะเจอเหตุการณ์รักพี่เสียดายน้องแบบคราวนี้อีก...
Create Date : 25 มิถุนายน 2550 |
|
23 comments |
Last Update : 25 มิถุนายน 2550 1:11:52 น. |
Counter : 471 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: qu-up IP: 58.9.137.65 25 มิถุนายน 2550 11:11:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: เม-ดา (เม-ดา ) 26 มิถุนายน 2550 16:54:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: qu-up 26 มิถุนายน 2550 23:55:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: จูนิ IP: 203.146.63.185 27 มิถุนายน 2550 12:18:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: wiwi IP: 58.9.29.153 2 กรกฎาคม 2550 22:29:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: อุรัสยา 7 กรกฎาคม 2550 21:44:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: เชอร์เบต จี๊ดด ด IP: 58.8.99.105 10 กรกฎาคม 2550 22:22:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: นกหวาน 12 กรกฎาคม 2550 15:01:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: qu-up 13 กรกฎาคม 2550 0:06:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: qu-up 15 กรกฎาคม 2550 21:53:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: "สองวา" IP: 124.120.55.84 16 กรกฎาคม 2550 17:41:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: qu-up 18 กรกฎาคม 2550 11:48:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: เม-ดา 20 กรกฎาคม 2550 10:53:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: ศศิกัณห์ 21 กรกฎาคม 2550 21:10:19 น. |
|
|
|
| |
|
|
ขอไปอ่านก่อนนะ เดี๋ยวจะมาอ่านอีกภาค