ดาวหาง 4P/Faye........
ช่วงปลายปีนี้มีข่าวดีเกี่ยวกับดาวหางที่จะเข้ามาให้เราเห็นอีกครั้ง ไม่ใช่ดาวหางที่มีการค้นพบใหม่แต่เป็นดาวหางที่มีการค้นพบมานานแล้วเป็นดาวหางคาบสั้นนั่นคือ 4P/Faye กลับเข้ามาในระบบสุริยะทุกๆ 7ปีกว่าๆ ซึ่งความสว่างสูงสุดที่คาดว่าจะได้เห็นในปีนี้ราวแมกนิจูด 9 ทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่กล้องดูดาวขนาดเล็กตั้งแต่ 6 นิ้วขึ้นไปก็สามารถเห็นได้ภายใต้สภาพท้องฟ้าดีๆที่มืดสนิท ครั้งล่าสุดที่ดาวหางนี้เข้าใกล้โลกที่สุดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พศ.2542 และครั้งต่อไปที่ดาวหางนี้จะเข้าใกล้โลกอีกวันที่ 30 ตุลาคม พศ.2549 ซึ่งคาดว่าดาวหางจะมีสว่างสูงสุดในช่วงเวลานั้นราวแมกนิจูด 9 ถึง 10 โดยที่ดาวหางจะเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด (Perihelion) ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2549 ช่วงตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนไปถึงเดือนตุลาคมที่ดาวหางจะเข้าใกล้โลกที่สุดนั้น ดาวหางมีการเปลี่ยนตำแหน่งบนท้องฟ้าน้อยมาก ส่วนใหญ่ดาวหางจะอยู่ในกลุ่มดาวปลาคู่ (Pisces) ซึ่งจะขึ้นที่ขอบฟ้าด้านทิศตะวันออกช่วงกลางดึกเป็นต้นไป และอยู่บนท้องฟ้าเป็นเวลานานก่อนจะลับขอบฟ้า แต่เนื่องจากกลุ่มดาวปลาคู่เป็นกลุ่มดาวที่มีความสว่างน้อย และไม่มีดาวฤกษ์เด่นๆ ทำให้การอ้างอิงเพื่อหาตำแหน่งของดาวหางนี้ค่อนข้างลำบาก
เส้นทางการเคลื่อนที่ของดาวหางฟาเย ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ถึง 30 ตุลาคม พศ.2549 จะเห็นว่าดาวหางยังคงอยู่ในกลุ่มดาวปลาคู่ตลอดเวลา โดยในวันที่ 1 กันยายนนั้นดาวหางอยู่ห่างจาก M74 กาแลกซี่เกลียวความสว่าง 10.1 ราว 1 องศาเท่านั้น และในวันที่ 30 ตุลาคม วันที่ดาวหางอยู่ใกล้โลกที่สุดนั้นจะอยู่ห่างจากดาว Alpha Piscium ซึ่งมีความสว่างแมกนิจุด 3.8 ราว 5 องศา ซึ่งยังคงพอจะใช้ดาวนี้เป็นดาวอ้างอิงในการมองหาดาวหางดวงนี้ได้
ประวัติการค้นพบ ดาวหางฟาเย ค้นพบครั้งแรกโดยนักดาราศาสตร์ชาวฝรั่งเศสชื่อ เฮอ์ฟ ฟาเย(Herve Faye) จากหอดูดาวกรุงปารีส เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน คศ.1843 ขณะอยู่ในกลุ่มดาวนายพราน ขณะนั้นมันมีความสว่างน้อยมากและท้องฟ้าไม่เอื้ออำนวยทำให้ฟาเยไม่สามารถยืนยันการค้นพบได้จนกระทั่งถึงวันที่ 25 พฤศจิกายน หลังจากนั้นก็ไม่มีการพบเห็นดาวหางนี้อีกจนกระทั่ง 10 เมษายน คศ.1844 ประมาณ 5 เดือนหลังจากนั้นก็มีพบอีกครั้ง 1 วันก่อนที่จะเฉียดเข้าใกล้โลกที่สุดที่ระยะ 0.79 au. ทำให้ครั้งนั้นมีการคาดการณ์ว่าจะสามารถเห็นดาวหางได้ด้วยตาเปล่า ในเดือนมกราคมปี คศ.1844 T.Handerson จากเอดินเบอร์ก ก็ทำการคำนวนวงโคจรของดาวหางนี้เป็นครั้งแรก และพบว่ามีคาบการโคจร 6.58 ปี จนกระทั่งมีการยืนยันการคำนวนใหม่อีกครั้งในเดือนพฤษภาคมว่า มีคาบการโคจร 7.43 ปี ดาวหางฟาเยจึงเป็นดาวหางคาบสั้นดวงที่ 4 ที่มีการค้นพบ โดยตั้งชื่อว่า 4P/Faye มีวงโคจรไกลสุดอยู่ระหว่างดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี (ดาวหางคาบสั้นดวงแรกคือดาวหางฮัลเลย์ 1P/Halley ดวงที่สองคือดาวหางเองเก้ 2P/Encke ปีคศ.1786 และดวงที่3 คือ3D/Biela ปีคศ.1826 ปัจจุบันดาวหางดวงนี้สลายไปแล้ว) ในปี คศ.1851 ปีที่คาดว่าจะเห็นดาวหางนี้อีก ซึ่งนักดาราศาตร์จะทำการคำนวนวงโคจรให้ละเอียดและแม่นยำมากกว่านี้ Urbain J.J. Leverrier ได้ทำการคำนวนและคาดการณ์ไว้ว่าดาวหางจะเข้าใกล้ดวงอาทิตย์อีกครั้งเดือนเมษายน คศ.1851 แต่พบว่าดาวหางมีการเฉียดเข้าไปไกลดาวพฤหัสมากๆจากช่วงปี คศ.1841 ที่ผ่านมา ทำให้วงโคจรของดาวหางช่วงใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดนั้นเปลี่ยนแปลงไปไม่ตรงกับที่ Leverrier คำนวนไว้ ดาวหางฟาเยกลับมาให้เห็นเกือบทุกครั้งในรอบ 7 ปีกว่าๆ ยกเว้นปี คศ.1903 และ 1918 ที่ไม่มีรายงานการค้นพบ สำหรับปีนี้ คศ.2006 ดาวหางฟาเยจะเข้าใกล้โลกที่สุดอีกครั้งในเดือนตุลาคม ที่ระยะ 0.69 au. และครั้งนี้เป็นการกลับมาครั้งที่ 22 ของดาวหางนี้
ภาพดาวหางฟาเย เมื่อ 3 ตุลาคม คศ.1991 ถ่ายโดย Herman Mikuz
ภาพดาวหางฟาเย ล่าสุดที่ถ่ายได้เมื่อ 19 สิงหาคม 2006 ด้วยกล้องดิจิตอล Nikon 70D+ Takahashi 6.3" epsilon ดาวสว่างด้านบนซ้ายคือ Eta Piscium ในกลุ่มดาวปลาคู่ ขณะที่อยู่ห่างจากดาวหางราว 1 องศา
โดย Skywatcher...
Create Date : 15 กันยายน 2549 |
|
13 comments |
Last Update : 15 กันยายน 2549 18:51:17 น. |
Counter : 1739 Pageviews. |
|
|
|