<<
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
24 กุมภาพันธ์ 2554
 
 
สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ดินแดนอาถรรพ์ ??!!!!!??..........5


สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ดินแดนอาถรรพ์ ??!!!!!??

ดินแดนอาถรรพณ์มีอยู่แห่งเดียวรึ?


เปล่าเลยเบอร์มิวด้าไม่ใช่ดินแดนอาถรรพณ์เพียงแห่งเดียวบนโลกนี้เท่านั้น ยังมีอีกแห่งหนึ่งเป็นอาณาบริเวณบนท้องทะเลเล็กๆ อยู่ทางตอนทิศตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศญี่ปุ่น บริเวณนี้เคยเป็นดินแดนอาถรรพณ์เช่นกัน แต่ปัจจุบันความอาถรรพณ์ของบริเวณนี้ เบาบางลงจนดูเหมือนจะจางหายไปแล้ว เมื่อสมัยปี ค.ศ. 1950 บริเวณนี้ได้ถูกขนานนามว่า "ทะเลปิศาจ" (Devil's Sea) มันเคยกลืนกินเรือเดินทะเลขนาดใหญ่ๆ ไปกว่าา 50 ลำ...ในปี ค.ศ. 1955 รัฐบาลญี่ปุ่นถึงกับลงทุนจ้างคณะนักสำรวจสมุทรศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญพร้อมด้วยอุปกรณ์สำรวจทางวิทยาศาสตร์อันทันสมัยที่สุดเท่าที่จะหาได้ในสมัยนั้นพร้อมเรือสำรวจสมุทรศาสตร์ขนาดยักษ์ เดินทางไปยังทะเลปิศาจเพื่อค้นหาคำตอบของความอาถรรพณ์ลี้ลับ ณ บริเวณนั้น ...สองสามวันต่อมาเมื่อเรือไปถึงบริเวณทะเลปิศาจ...รัฐบาลญี่ปุ่นก็ต้องพบกับความอาถรรพณ์ ความงุนงงและความตกตะลึง ก็จะอะไรเสียอีกล่ะ...เรือของคณะนักสำรวจลำนั้น ได้หายสาบสูญไป ไม่เหลือแม้แต่เงา ไม่มีสัญญาณวิทยุ ไม่มีสัญญาณขอความช่วยเหลือไม่มีอะไรทั้งนั้น..หน่วยค้นหาถูกส่งตามออกไปค้นหากันแทบพลิกท้องทะเล...แต่ไม่พบแม้แต่เงา
ไม่มีสัญญาณวิทยุ ไม่มีสัญญาณขอความช่วยเหลือ ไม่มีอะไรทั้งนั้น..
หน่วยค้นหาถูกส่งตามออกไปค้นหากันแทบพลิกท้องทะเล...แต่ไม่พบแม้แต่เงา มีอะไรเกิดขึ้นที่แดนอาถรรพณ์ เราพอจะหาคำตอบอะไรได้บ้างไหมเกี่ยวกับการหายสาบสูญอย่างไร้เงา ของบรรดาผู้เคราะห์ร้ายที่หลุดเข้าไปในดินแดนมรณะเหล่านั้น...พวกที่หายสาบสูญไปแล้วย่อมไม่มีโอกาสที่จะกลับมาบอกเล่าให้คนข้างหลังได้ทราบได้ว่าเขาได้ไป เผชิญกับอะไรมา






มีรายงานที่น่าสนใจหลายชิ้นที่แสดงให้เห็นว่า อะไรก็ตามที่ ได้เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น คล้ายปรากฏการณ์ของ ธรรมชาติ ที่ยังไม่มีมนุษย์หน้าไหนเคยรู้จักกันมาก่อน อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงของมันได้ถูกขนานนามขึ้นมาในราวๆ ปี ค.ศ.1960 โดยไม่ทราบว่าใครเป็นคน ต้นคิดชื่อเหล่านี้ขึ้นมา แต่ด้วยเหตุที่ว่า ในบริเวณทะเลดังกล่าวนั้นมักจะ ปรากฏแต่เรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นเสมอๆ บ่อยๆ ครั้งและเป็นประจำจนเป็นที่เลื่องลือ
กันไปทั่วถึงอันตราย ของการหายสาบสูญอย่างไม่มีวันได้กลับคืนมา... จากบันทึกของกองเรือยามฝังสหรัฐฯ และบริษัทประกันภัยทางทะเล บริษัทประกันภัยเรือเดินสมุทร และเครื่องบิน มีสถิติความสูญหาย อย่างผิดปกติในอาณาบริเวณนี้ เป็นบริเวณต้องห้ามและเป็นดินแดนอาถรรพณ์จริงๆ มันอาถรรพณ์อย่างไร? สิ่งที่ทำให้ย่านทะเลแห่งนี้กลายเป็นดินแดนมรณะ ซึ่งทำให้นักบินหรือนักเดินเรือต่างพยายามหลีกเลี่ยง ถ้าไม่จำเป็นก็จะไม่ยอมผ่านเข้าไปในบริเวณนี้อย่างเด็ดขาด อาจเป็นเพราะความเชื่อใน เรื่องอันพิลึกกึกกือที่เป็นข่าวระบือลือลั่น กันไม่รุ้จบระหว่างคนในละแวกนั้น

มีอะไรเกิดขึ้นที่แดนอาถรรพณ์
เราพอจะหาคำตอบอะไรได้บ้างไหมเกี่ยวกับการหายสาบสูญอย่างไร้เงาของบรรดาผู้เคราะห์ร้ายที่หลุดเข้าไปในดินแดนมรณะเหล่านั้น...พวกที่หายสาบสูญไปแล้วย่อมไม่มีโอกาสที่จะกลับมาบอกเล่าให้คนข้างหลังได้ทราบได้ว่าเขาได้ไปเผชิญกับอะไรมา แต่..เราก็ยังคงพอจะมีข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถนำมาปะติดปะต่อกันพอจะให้ดูออกเป็นรูปร่างได้ว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาเหล่านั้น ข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้มาจากบรรดาผู้ที่บังเอิญรอดตายหรือหลบหลีกได้ จากบันทึกการติดต่อครั้งสุดท้ายโดยวิทยุกับพวกที่หายสาบสูญไป...มีรายงานที่น่าสนใจหลายชิ้นที่แสดงให้เห็นว่าอะไรก็ตามที่ได้เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นคล้ายปรากฏการณ์ของธรรมชาติ ที่ยังไม่มีมนุษย์หน้าไหนเคยรู้จักกันมาก่อน
....อย่างไรก็ตาม เมื่อนำเอาข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้มาปะติดปะต่อกันดูแล้วก็จะพบกับปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ อันนำไปสู่ความปวดเศียรเวียนเกล้าให้แก่บรรดานักวิทยาศาสตร์เป็นที่สุด มันไม่ได้ช่วยทำให้ปัญหาคลี่คลายออกไปได้เลย แต่กลับเพิ่มความงุนงงสนเท่ห์ใจให้มากยิ่งขึ้นเพราะมันยังคงเต็มไปด้วยอาถรรพณ์ลี้ลับจริงๆ
เราอาจจะสรุปคำตอบได้เป็นข้อตามความเป็นไปได้ ทั้งโดยทางทฤษฎีวิทยาศาสตร์ และโดยสามัญสำนึก ซึ่งจะช่วยให้เราแจกแจงได้ว่าคำตอบใดจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับปัญหาสามเหลี่ยมมรณะแต่ในลำดับแรกเราจะเริ่มด้วยการประมวลเหตุการณ์ว่า "มีอะไรเกิดขึ้นที่แดนอาถรรพณ์" เสียก่อนเพื่อที่เราจะได้เข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันมีธรรมชาติ พฤติการณ์คุณลักษณะเป็นอย่างไรกันแน่....



1)รายงานที่พบเป็นประจำ เริ่มแรกผู้ประสบเหตุจะรายงานว่า มีการขัดข้องเกิดขึ้นกับเครื่องมือนำล่อง ตัวอย่างรายงานทำนองนี้ได้แก่รายงานทางวิทยุครั้งสุดท้ายก่อนการหายสาบสูญไป ของนักบิน นาวีร้อยเอกเทเลอร์ (Charles Taylor) ได้ส่งวิทยุติดต่อแจ้งเข้ามา ยังหอบังคับการบินที่ Fort Lauderdale Naval Air Station ในขณะที่กำลังบินกลับจากการฝึกบินตามปกติ เขาแจ้งเข้ามาด้วยวิทยุความถี่ฉุกเฉินว่า..."เข็มทิศหมุนอย่างบ้าคลั่ง ผมจับทิศไม่ถูกแล้วผมไม่ทราบตำแหน่งว่าผมอยู่ที่ไหน..." ...จากนั้นเสียงก็ขาดหายไป และแล้วร้อยเอกเทเลอร์กับเครื่องบินของเขาก็ไม่ปรากฏตัวที่ไหนอีกเลย เขาหายสาบสูญไปชั่วนิรันดร

อีกตัวอย่างหนึ่ง เป็นรายงานที่ได้มาจาก ร้อยเอกเดนตาย อูลเมอร์ (Robert Ulmer) นักบินมือสองและด๊อกเตอร์ดิ๊กบาย (Dr. Robert Digby) ผู้โดยสานเดนตายคนเดียวที่รอดมาได้ จากเที่ยวบินพิเศษในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเครื่อบินทิ้งระเบิดแบบ บี-24 .."ขณะบินอยู่ในระดับสูง 9,000 ฟุต ทางเหนือของเบอร์มิวด้าอากาศแจ่มใสมาก ...จู่ๆ เครื่องบินก็สั่นยังกับจ้าวเข้าทรง เครื่องวัดต่างๆ หมุนไปมาอย่างไม่มีจุดหมาย และแล้วเครื่องบินก็เริ่มปักหัวลงทะเล กัปตันพยายามดึงขึ้นทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ...เราต่อสู้กับอำนาจลึกลับที่พยายามดึงเครื่องบินให้ปักหัวลงทะเลตลอดเวลา เราดึงเครื่องขึ้น เครื่องบินเอียง เซไปมา และจะดำดิ่งลงท่าเดียว เราก็ดึงมันขึ้นอีก ต่อสู้กันจนเราแทบหมดแรง...ผมไม่รู้จริงๆ ว่าผีบ้าซาตานอะไรมาเข้าสิงเครื่องบิน บินแบบถูลู่ถูกัง มาจนถึงฝั่งเม็กซิกโก และตกบนภูเขาเหนืออ่างเปอร์โตริโก เป็นระยะทาง 1,500 ไมล์ที่ขับเขี้ยวมากับอำนาจเร้นลับที่พยายามดึงเครื่องบินให้ปักหัวลง ...ดร.ดิ๊กบายเล่าว่า.."ผมเป็นผู้โดยสารคนเดียวที่รอดมาได้ ในสมัยนั้นเราไม่รู้ว่ามีบริเวณที่เรียกว่าสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า...แต่อย่างไรก็ตามผมก็เจอมาแล้วกับตัวเอง มันมีอำนาจอะไรบางอย่างที่ดึงดูดเครื่องบินของเราลงไป ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายได้อย่างไร แต่อำนาจลี้ลับนั้นมีอยู่แน่ๆ ที่บริเวณสามเหลี่ยมมรณะนั้น"...
สรุปแล้ว ข้อมูลประการที่หนึ่งที่เราพบก็คือ มีพลังบางอย่างที่มีผลกระทบกับเครื่องมือนำทาง เช่นเข็มทิศ เครื่องวัดความสูง เครื่องวัดความเร็ว และเครื่องมือสื่อสาร นั่นคืออำนาจลึกลับนี้มีผลกระทบกับอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับแม่เหล็กไฟฟ้าทั้งหมด โดยเฉพาะเข็มทิศแม่เหล็ก



2)เกิดความสับสนขึ้นกับประสาทความรู้สึกในการรับรู้ทั้ง 5 ของผู้ที่หลุดเข้าไปในดินแดนอาถรรพณ์ ทำให้ผู้นั้นงุนงง สับสนต่อเหตุการณ์ และที่สุดคือสูญเสียความรู้สึกในเรื่องเวลา และการทรงตัว ดังตัวอย่างรายงานอดีตผู้บังคับการฝูงบินทิ้งระเบิด บิลล์สัน (Commander Marcus Billson) เมื่อวันที่ 25 เดือนมีนาคม ปี ค.ศ. 1945 ขณะทำการบินด้วยเครื่องบิน PBM (เครื่องบินน้ำ แบบสองเครื่องยนต์) และรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิดเล่าว่า... "ผมกำลังบินในตอนกลางคืน อยู่ระหว่างครึ่งทาง จากฟลอริด้า ไปเกาะบาฮาม่า...ในขณะนั้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เจ้าวิทยุเข็มทิศ (radio compass) ก็เริ่มหมุนติ้วยังกับกังหันต้องลม และเข็มทิศแม่เหล็กก็เอากับเขาด้วย วิทยุติดต่อก็เกิดเสียงรบกวนซู่ซ่าจนใช้การอะไรไม่ได้เลย ผมงงไปหมด ไม่รู้ว่ามันเกิดบ้าอะไรกันขึ้นมา แล้วต่อมาไฟฟ้าในห้องนักบินก็ดับพลึบลง ทีนี้มันก็มืดสนิทมองไม่เห็นอะไร มองออกไปนอกหน้าต่างก็ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ไม่มีท้องฟ้า ไม่มีแสงดาว ไม่มีอะไรเลย นอกจากความมืดสนิท...ผมไม่เข้าใจว่าแสงดาวบนท้องฟ้ามันดับหายไปไหนหมด แสงระยิบระยับบนท้องทะเลก็ควรจะมองเห็นได้บ้างเป็นบางครั้งแต่นี่มันมืดมิดจริงๆ ...ผมนึกว่าผมคงตาบอดแน่ๆ ...ผมไม่รู้ว่าเราบินไปทางไหนเอาหัวขึ้น หรือเอาหัวลงก็บอกไม่ได้ ผมมีประสบการณ์การบินมามากกว่า 5,000 ชั่วโมง หลับตาบินผมก็รู้ว่าผมบินได้...แต่นี่มันต่างกัน ผมสูญเสียความรู้สึกไปหมดผมเหมือนคนตาบอดสนิท..ผมถือคันบังคับเครื่องบินแน่น พยายามเลี้ยง ประคองเอาไว้ให้ตรงที่สุดเท่าที่ความรู้สึกนึกคิดของผมจะมีอยู่ในเวลานั้น ..ต่อมาทุกอย่างก็กลับสู่สภาพปกติ ไฟฟ้าสว่างขึ้นเอง เข็มวัดทุกอย่างทำงานเหมือนเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...และผมก็งงไปหมด เครื่องได้มาบินอยู่เหนือสนามบินบาฮาม่าแล้ว... ผมงงจริงๆงงจนไม่รู้ว่าจะพูดหรืออธิบายว่าอย่างไรถูก..เหตุการณ์มันเป็นอย่างนี้จริงๆ แล้วคุณจะให้ผมอธิบายว่าอย่างไร ผมก็จนปัญญา"...


3)มีการรบกวนทางระบบไฟฟ้า และการติดต่อสื่อสารทางวิทยุจะถูกตัดขาดนี่คือข้อมูลอีกข้อหนึ่งที่เราจะพบเสมอจากรายงานครั้งสุดท้ายของผู้ที่หายสาบสูญไปในดินแดนอาถรรพณ์ ดังตัวอย่างการหายสายสูญของฝูงบินขับไล่ทิ้งระเบิดที่ 19 ของนาวีสหรัฐอเมริกา ...หายทั้งฝูงเลยนะครับ..ไม่ใช่ลำเดียว..ฝูงบินที่ 19 มีเครื่องบินแบบ TBM อเว็งเจอร์ จำนวน 5 ลำ ได้ออกบินฝึกตามภารกิจปกติ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ค.ศ. 1945 และได้หายสาบสูญไปอย่างลึกลับ ถึงแม้จะมีการระดมหน่วยค้นหาตามล่ากันอย่างละเอียดถี่ถ้วนครอบคลุมพื้นที่ทุกๆ ตารางฟุต กว้างถึง 380,000 ตารางไมล์ แต่ก็ไม่พบแม้แต่เงา...รายงานสุดท้ายที่จ่าฝูงร้อยเอก โรเบิร์ต คอส รายงานมา รับฟังได้จากวิทยุ ณ ฐานทัพภาคพื้นดิน ตอนหนึ่งกล่าวด้วย น้ำเสียงของคนตกใจสุดขีดว่า.. "อย่าตามผมมา.. แยกกันออกไป แยกกันออกไป.." แล้วเสียงวิทยุก็ถูกตัดขาดทันที เหมือนกับว่ามีใครไปปิดเครื่องส่งของเขาฉะนั้น ...ร้อยเอกโรเบิร์ต คอส บินเข้าไปพบอะไร ไม่มีใครทราบ แต่สิ่งที่เขาพบต้องเป็นสิ่งที่น่ากลัวจนทำให้เขาสั่งลูกฝูงไม่ให้บินตามเข้าไป...แต่ก่อนหน้านั้นมีเสียงวิทยุโต้ตอบกันระหว่างจ่าฝูงกับลูกฝูงของเขา ซึ่งรับฟังได้ยินไม่ชัดเจน เป็นเสียงขาดๆ จางๆ และมีคลื่นแทรกรบกวนมาก พอจะจับความได้บ้างบางตอนว่า ฝูงบินที่ 19 กำลังหลงเข้าไปในสภาพบรรยากาศอันผิดปรกติ แปลกประหลาดอย่างหนึ่ง










Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2554 1:50:32 น. 5 comments
Counter : 2617 Pageviews.

 
เจิม..เรื่องน่าสนใจมากเลยค่ะคุณตูน


โดย: i'm not superman วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:7:29:53 น.  

 
น่ากลัวอ่ะ เรื่องสามเหลี่ยนเบอมิวด้า เราเคยอ่านตั้งแต่เด็กๆ อ่านแล้วก็จินตนาการไปสารพัดว่าเค้าเจออะไร ตอนนี้พวกเค้าไปอยู่ที่ไหน....

บางทีโลกของเราก็มีสิ่งเร้นลับที่พิสูจน์ไม่ได้เอามากๆเลยนะคะ


โดย: hi hacky วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:8:33:47 น.  

 
หนังเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ก็มีเยอะ แต่เราเชื่อนะว่ามันมีอยู่จริง พวกโลกคู่ขนาน หรือมิติเวลา บางคนก็คิดว่าสามเหลี่ยมนี้มีมนุษย์ต่างดาวอยู่ก็มี

ขนาดปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวหน้าแค่ไหน ก็ยังไม่สามารถที่จะหาสาเหตุของเรื่องนี้ได้เลย จริงป่ะ ?


โดย: เด็กน้อยตัวแสบ วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:9:52:00 น.  

 
เป็นเรื่องเร้นลับที่น่าสนใจมากๆเลยค่ะ ขนาดวิวัฒนาการยุคปัจจุบันที่ว่าก้าวหน้าไปไหนต่อไหนก็ยังพิสูจน์ไม่ได้... ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เรื่องนี้จะมีข้อสรุปออกมาสักทีนะคะ^^


โดย: Patissier_Eve วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:14:45:09 น.  

 


โดย: i'm not superman วันที่: 8 มีนาคม 2554 เวลา:22:40:19 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 

pooktoon
Location :
ระยอง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"มีคนให้เรารักก็เป็นสุขแล้ว ยิ่งคนที่เรารัก เขารักเรานั้นสุขยิ่งกว่า" free counters
[Add pooktoon's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com