มิถุนายน 2549
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
26 มิถุนายน 2549
 
 
หลุมดำเตรียมควบรวมกัน

หลุมดำเตรียมควบรวมกัน (25 มิถุนายน 2549)

นักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย, มหาวิทยาลัยบอนน์ และห้องทดลองวิจัยกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาบอกว่าพบหลุมดำมวลมหาศาล(supermassive black hole) สองแห่งกำลังหมุนวนเพื่อจะรวมกัน การชนจะสร้างหลุมดำมวลมหาศาลมากๆ เพียงแห่งเดียวซึ่งสามารถกลืนกินสสารได้เทียบเท่ากับดาวฤกษ์หลายพันล้านดวง คำถามสำคัญสองประเด็นเกี่ยวกับหลุมดำมวลมหาศาลก็คือ พวกมันมาจากไหนและมันเจริญอย่างไร การเกิด การเลี้ยงดูฟูกฟักหลุมดำมวลมหาศาลเป็นการศึกษาดาราศาสตร์ที่น่าเรียนรู้มาก
หลุมดำมวลมหาศาลเป็นบริเวณในอวกาศที่หนาแน่นและมวลสูงมาก อาจจะมีมวลได้ถึงหลายพันล้านเท่ามวลดวงดาว และดึงมวลดาวอีกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะยิ่งเพิ่มมวลและแรงดึงโน้มถ่วงของมันให้มากขึ้น แม้แต่แสงก็ไม่สามารถหลุดหนีออกจากแรงดึงโน้มถ่วงของหลุมดำได้ เราไม่สามารถเห็นหลุมดำได้ แต่สามารถรับรู้การมีอยู่ของพวกมันได้จากผลของแรงโน้มถ่วงต่อสภาพแวดล้อมและจากการเปล่งรังสีใกล้ๆ หลุมดำ ที่ซึ่งก๊าซที่ส่งให้หลุมดำร้อนจัดจนเปล่งรังสีเอกซ์ได้
มีแนวความคิดว่าการชนระหว่างหลุมดำมวลมหาศาลเป็นวิธีหนึ่งที่พวกมันเจริญเติบโตขึ้น มีการสำรวจพบขั้นตอนการเตรียมตัวลักษณะคล้ายกันมากมายซึ่งหลุมดำดูเหมือนจะอยู่ในกระบวนการ คู่ดังกล่าวนี้อยู่ที่ใจกลางกระจุกกาแลคซีที่เรียกว่า Abell 400 ซึ่งอยู่ค่อนข้างใกล้กันแต่ยังไม่ทราบชะตากรรมที่แน่นอน
Craig Sarazin จากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย กล่าวว่า คำถามก็คือ หลุมดำคู่นี้เป็นคู่ที่จับคู่กันมานาน หรือเป็นคนแปลกหน้าที่เพิ่งพบกัน ขณะนี้เราทราบแล้วว่ามันคู่กัน แต่ดูเหมือนการจับคู่ของแมงมุมแม่ม่ายดำมากกว่า หลุมดำหนึ่งในนั้นอยากจะกลืนกินอีกหลุมอยู่ตลอด



ในช่วงไม่กี่ปีนี้ นักดาราศาสตร์ได้ค้นพบว่ากาแลคซีขนาดใหญ่ทุกแห่งในเอกภพทุกวันนี้ดูเหมือนจะมีหลุมดำมวลมหาศาลหนึ่งแห่งที่ใจกลาง หลุมดำของทางช้างเผือกเองก็กลืนกินมวลสารได้เหมือนดวงอาทิตย์ 4 พันดวง กาแลคซีที่ใหญ่ที่สุดมีหลุมดำที่กลืนกินมวลสารได้ถึงหลายพันล้านเท่าดวงอาทิตย์ การตรวจสอบว่าหลุมดำทั้งสองจะชนกันเกี่ยวข้องกับหลักฐานทางอ้อมอื่นๆ ซึ่งต้องใช้ข้อมูลจากหอสังเกตการณ์รังสีเอกซ์จันทราของนาซ่า หลุมดำแต่ละแห่งของ Abell400 ได้ปล่อยเจทก๊าซร้อนจัดที่เรียกว่า พลาสม่า(plasma) ซึ่งพุ่งออกในทิศตรงข้ามกัน การเคลื่อนที่ของหลุมดำผ่านก๊าซในกระจุกกาแลคซีทำให้เจทพลาสม่ากวาดไปด้านหลัง
Sarazin กล่าวว่า เจทนี้ก็คล้ายกับไอที่เกิดจากเครื่องบินเมื่อบินผ่านอากาศบนโลก จากไอนี้เราสามารถตรวจสอบได้ว่าเครื่องบินอยู่ตรงไหน และมุ่งหน้าไปทางไหน สิ่งที่เราเห็นก็คือเจทเบนเข้าหากันและม้วนพันซึ่งบ่งชี้ว่าคู่หลุมดำเกาะไปด้วยกัน เมื่อวัตถุควบรวมในอีกหลายร้อยล้านปีต่อจากนี้ ทฤษฏีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ทำนายว่าพวกมันจะเปล่งคลื่นความโน้มถ่วงออกมา อาจจะตรวจจับการควบรวมลักษณะคล้ายๆกันได้ในไม่ช้าจาก Laser Interferometer Space Antenna(LISA) ของนาซ่าซึ่งเป็นดาวเทียมสามดวงที่ตรวจจับคลื่นโน้มถ่วงจากหลุมดำที่กำลังรวมตัวกันได้ ผลสรุปนี้เผยแพร่ในวารสาร Astronomy & Astrophysics ฉบับวันที่ 6 เมษายน 2006







ภาพประกอบจากรังสีเอกซ์(สีฟ้า) และคลื่นวิทยุ(สีชมพู) ของกระจุกกาแลคซี Abell400 ที่แสดงเจทคลื่นวิทยุที่พุ่งผ่านกลุ่มเมฆก๊าซ อุณหภูมิหลายล้านองศาซึ่งเปล่งรังสีเอกซ์ออกมา เจทเกิดขึ้นจากหลุมดำ มวลมหาศาลสองแห่ง(จุดสว่างในภาพ)

แหล่งข่าว
space.com : black holes bound to merge

rook (sararook@hotmail.com) : รายงาน



Create Date : 26 มิถุนายน 2549
Last Update : 26 มิถุนายน 2549 15:32:56 น. 1 comments
Counter : 1249 Pageviews.

 
สนุกพร้อมได้ความรู้อีกแล้ว ขอบคุณมากค่ะ


โดย: ริมยมนา วันที่: 26 มิถุนายน 2549 เวลา:18:47:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

pooktoon
Location :
ระยอง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"มีคนให้เรารักก็เป็นสุขแล้ว ยิ่งคนที่เรารัก เขารักเรานั้นสุขยิ่งกว่า" free counters
[Add pooktoon's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com