|
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
1 กรกฏาคม 2549 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ตารางการบินกระสวยอวกาศเที่ยวต่อไป.....
ตารางการบินกระสวยอวกาศเที่ยวต่อไป(1 กรกฏาคม 2549) องค์กรอวกาศบอกว่าการเปลี่ยนแปลงหลักๆ ที่เกิดขึ้นกับถังเชื้อเพลิงนอกยาน(external fuel tank)ของกระสวยอวกาศดิสคัฟเวอรี่ไม่ได้ทำให้เกิดความเสี่ยงที่รับไม่ได้กับแผนการการส่งของนาซ่าในวันที่ 1 กรกฏาคม แม้ว่าจะยังมีข้อวิตกบางอย่างเหลืออยู่ Wayne Hale ผู้จัดการโครงการกระสวยอวกาศกล่าวว่า นาซ่าทำงานเพื่อลดจำนวนชิ้นส่วนฉนวนโฟมขนาดใหญ่(และอาจจะเป็นอันตราย) ที่อาจหลุดออกจากถังเชื้อเพลิงนอกยานของดิสคัฟเวอรี่และชนกับกระสวย ซึ่งถังเชื้อเพลิงและกระสวยจะเกาะกันไปในระหว่างบินขึ้น
ท่ามกลางแสงไฟจากโครงสร้างซ่อมบำรุงที่ติดตั้งอยู่กับที่และที่เคลื่อนที่ไป กระสวยอวกาศดิสคัฟเวอรี่อยู่บนฐานปล่อย 39B ที่ศูนย์อวกาศเคนเนดี้ของนาซ่าหลังจากเดินทาง 4.2 ไมล์จากศูนย์ประกอบยาน
เขากล่าวในระหว่างแถลงการณ์ที่ท่าอวกาศยานศูนย์อวกาศเคนเนดี้(KSC) ของนาซ่าที่แหลมคานาเวอรัล ฟลอริด้า กล่าวว่า เราเชื่อว่าเราได้ทำการปรับปรุงอย่างมากตั้งแต่ปีที่แล้วในการกำจัดอันตรายจากโฟม ยังคงมีโฟมออกมาจากถังเชื้อเพลิงนอกยาน สิ่งที่เราทำก็คือกำจัดอันตรายใหญ่หลวงที่สุดไป Hale และทีมวิศวกรประมาณร้อยคนจากศูนย์ต่างๆ ของนาซ่าทั่วประเทศเพิ่งเสร็จสิ้นการทบทวนการเปลี่ยนแปลงชิ้นส่วนจากถังนอกยานของดิสคัฟเวอรี่ การทบทวนโครงสร้างการปรับปรุงถังนอกยานของกระสวยซึ่งรวมทั้งรายละเอียดที่จะกำจัดโฟมขนาด 15 กิโลกรัมจากแรมพ์ protuberance air load(PAL) ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนด้วย ปฏิบัติการดิสคัฟเวอรี่ STS-121 จะเป็นการบินกระสวยอวกาศครั้งที่สองตั้งแต่การสูญเสียยานโคลัมเบียในปี 2003 ไปพร้อมกับลูกเรือปฏิบัติการ STS-107 โคลัมเบียมีความเสียหายที่เกราะกันความร้อนจากการกระแทกกับโฟมของถังที่หลุดออกในระหว่างบินออก ทำให้ยานแตกออกเมื่อกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก มีการสังเกตพบเหตุการณ์โฟมลักษณะคล้ายกันในระหว่างปฏิบัติการกระสวยหลังโคลัมเบียครั้งแรก STS-114 ที่ไปกลับยานดิสคัฟเวอรี่ แต่เศษนั้นไม่ได้ชนกับกระสวย อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ก็เป็นสิ่งที่ตามหลอกหลอนท้าทายนาซ่า และวิศวกรก็เพิ่งระบุชุดห่มคลุมโฟม 34 ตำแหน่งที่เรียกว่า ice frost ramp บนส่วนนอกของถัง Hale กล่าวว่า เราต้องการจะบินยานนี้เพื่อให้แน่ใจว่าเราเปลี่ยนแปลงถูกที่แล้ว ความเครียดจากการกำจัดโฟมในตำแหน่งเอียงเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างที่ใหญ่ที่สุดต่อระบบการส่งกระสวยตั้งแต่การบินครั้งแรก แล้วจึงค่อยเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในตำแหน่งอื่น โฟมที่หลุดออกจากถังนอกยานเป็นปัญหาใหญ่ของนาซ่าตั้งแต่อุบัติเหตุยานโคลัมเบีย การต้องการทบทวนและระบุตำแหน่งเศษโฟมของถังหลังจากการส่ง STS-114 เมื่อกรกฏาคมปีที่แล้ว ทำให้ STS-121 ล่าช้าไป ในการส่ง STS-107 และ STS-114 ซึ่งชิ้นส่วนขนาดใหญ่ที่สุดมีน้ำหนัก 0.7 และ 0.4 กิโลกรัมตามลำดับ ตอนนี้ถังนอกยานของดิสคัฟเวอรี่จะทิ้งชิ้นส่วนที่มีขนาดไม่ถึง 40 กรัม เขากล่าวว่า ผมไม่คิดว่าจะมีชิ้นส่วนขนาด 0.4 กิโลเมตรแม้แต่ชิ้นเดียวออกมา
นักบินของ STS-121 จากซ้ายไปขวา ผู้เชี่ยวชาญภารกิจ Stephanie Wilson และ Michael Fossum; ผู้บังคับการ Steven Lindsey, ผู้เชี่ยวชาญภารกิจ Piers Sellers, นักบิน Mark Kelly, นักบินอวกาศเยอรมันจากอีซ่า Thomas Reiter และ Lisa Nowak ทั้งคู่เป็นผู้เชี่ยวชาญภารกิจ
แต่ก็ยังมีโฟมหลุดออกมาจาก ice frost ramp อยู่และเป็นที่วิตกเนื่องจากมันอาจจะชนกับกระเบื้องทนความร้อนตามท้องของดิสคัฟเวอรี่ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการกลับสู่พื้นโลก ชุดห่มส่วน ice frost ramp จะต่อกับชุดความดันที่เชื่อมกับ...ของถังนอกยานกระสวย ในกรณีที่แย่ที่สุดซึ่งมีโฟมหลุดออกมาจาก ice frost ramp ด้วยขนาด, ความเร็ว และเวลาที่ถูกต้องซึ่งทำให้เกิดความเสียหายมากที่สุด มันก็อาจสร้าง ความเสียหายขั้นวิกฤติกับกระสวย ในอดีต แผ่นโฟมที่มีขนาดใหญ่ถึง 0.09 ปอนด์จะหลุดออกจาก ice frost ramp แต่การทดสอบในอุโมงค์ลมและการทดสอบอื่นๆ ของวิศวกรบอกว่าชิ้นส่วนที่ใหญ่กว่านี้ถึงขนาด 0.2 ปอนด์อาจจะขยับจนหลวมในระหว่างบินขึ้นได้ Hale บอกว่า เรากำลังทำงานเพื่อลดแหล่งที่มาของเศษชิ้นส่วนให้น้อยลงเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่นาซ่าบอกว่าถัง STS-121 ของดิสคัฟเวอรี่(เช่นเดียวกับหนึ่งในถังของ STS-115 ที่จะไปกับแอตแลนติสในเที่ยวต่อไปของปีนี้) จะไม่มีการจัดการปัญหา ice frost ramp เนื่องจากยังไม่มีการออกแบบที่ดีพอ ไม่ว่าการซ่อมถังเชื้อเพลิงขั้นกลางจะเป็นอย่างไร แต่ข้อสรุปซึ่งอาจจะเป็นการติดตั้งชุดหุ้มไทเทเนียม ก็อาจจะทำให้การบินกระสวยอีก 8 ครั้งต้องเลื่อนไปอีก ช่างกระสวยยังคงทำงานเพื่อเตรียมดิสคัฟเวอรี่เพื่อบิน กระสวยเดินทางสู่แท่นปล่อย 39B ใน KSC เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ซึ่งช่างจะติดตั้งโมดุลบริการลีโอนาร์โด(Leonardo service module) ที่สร้างโดยอิตาลีและอุปกรณ์อื่นๆ สู่พื้นที่ระวางของกระสวย Michael Leinbach ผู้อำนวยการส่งยานของนาซ่าบอกว่าคนงานกำลังประสบกับความยุ่งยากเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าของจรวดขับดัน(rocket booster) ด้านซ้ายของดิสคัฟเวอรี่เล็กน้อย แม้ว่าระบบสำรองจะทำงานได้ดีแล้วก็ตาม คนงานกระสวยวางแผนจะเริ่มเติมเชื้อเพลิงและออกซิไดเซอร์ให้กับจรวดของกระสวยดิสคัฟเวอรี่ในวันที่ 6 และ 9 มิถุนายน ขณะอยู่ในวงโคจร นักบินอวกาศของ STS-121 จะทำการตรวจสอบเกราะกันความร้อนอย่างต่อเนื่องโดยใช้ส่วนต่อเซนเซอร์ของดิสคัฟเวอรี่ ซึ่งเป็นส่วนต่อยาว 15 เมตรจากแขนกลของยาน ในขณะเดียวกันจะใช้การเดินในอวกาศเพื่อให้นักบินอวกาศไปที่ส่วนปลายสุดของส่วนต่อเพื่อตรวจสอบความเสถียรในการใช้เป็นฐานทำงานเกราะความร้อน การเดินอวกาศครั้งที่ 2 จะมีเพื่อซ่อม ISS โดย Sellers และ Fossum จะเปลี่ยนเคเบิ้ลข้อมูลวิดีโอ และติดเครื่องมือตัดอัตโนมัติเข้ากับเครื่องเคลื่อนย้ายเคลื่อนที่ของสถานีซึ่งใช้เพื่อนำหุ่นยนต์ของสถานีไปตามแกนหลักของสถานี การเดินครั้งที่ 3 อาจจะมีขึ้นเพื่อทดสอบเทคนิคการซ่อมบำรุงเกราะความร้อนของกระสวย ถ้าแหล่งพลังงานของกระสวยมีเพียงพอ สำหรับ Thomas Reiter จากอีซ่า(ESA) ซึ่งจะเป็นนักบินอวกาศยุโรปคนแรกที่จะอยู่ยาวที่ ISS โดยจะไปทำงานร่วมกับนักบินอวกาศ Expedition 13 และเปลี่ยนห้องทดลองในวงโคจรให้กลับมาสู่สถานะภาพดั่งเดิมที่อยู่กันสามคน ลูกเรือบน ISS ถูกจำกัดไว้ที่สองคนตั้งแต่อุบัติเหตุยานโคลัมเบีย เมื่อไปถึง ISS Reiter จะเริ่มทำงานในห้องทดลองซึ่งงานหลักใหญ่ๆ จะเป็นการซ่อมและบำรุงรักษา นอกจากงานทางวิทยาศาสตร์ที่ลูกเรือทั้งสองทำอยู่ เขากล่าวว่า เมื่ออยู่กันสามคนในวงโคจร เราสามารถเพิ่มผลได้ทางวิทยาศาสตร์ได้แน่นอน ทุกๆ คนก็เข้าใจว่าเรายังอยู่ในขั้นตอนการประกอบสถานีจึงไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ แต่เราก็จะทำได้ ด้วยสามคนที่อยู่บนนั้นเพื่อเพิ่มผลได้ทางวิทยาศาสตร์ หนึ่งในหน้าที่หลักของผมในระหว่างที่ผมอยู่บนนั้นก็คือ ทำโครงการวิทยาศาสตร์ของอีซ่า มีการทดลอง 19 อย่างจากแขนงต่างๆ เช่น วิทยาศาสตร์ชีวิต, ฟิสิกส์, ชีววิทยา ผมยังต้องเข้าไปเกี่ยวกับการทดลองของนาซ่าอีกสองสามอย่าง ลูกเรือของ ISS ถูกจำกัดไว้ที่สองคนตั้งแต่ Expedition 6 เนื่องจากการขาดการบินกระสวยของนาซ่าภายหลังอุบัติเหตุโคลัมเบีย และความล่าช้าจากการกลับมาบินกระสวยอีกครั้ง ตั้งแต่นั้นมา ต้องเปลี่ยนมาใช้ยานโซยูซ(Soyuz) ของรัสเซียเพื่อสับเปลี่ยนลูกเรือสู่ ISS โดยที่ใช้จรวดอัตโนมัติ โปรเกรส(Progress) เพื่อส่งเสบียงสู่สถานีในระหว่างการบินของมนุษย์ ปฏิบัติการ STS-114 ของนาซ่ายังนำระวางหลายตันไปที่ ISS เมื่อปีที่แล้ว สำหรับลูกเรือเยอรมัน นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่ได้บินไปสู่อวกาศ การทำงานของ Reiter บน ISS ยังเป็นการเริ่มต้นครั้งใหม่ของความพยายามบินสู่อวกาศโดยมนุษย์ของยุโรปด้วย เมื่อต้นเดือนมิถุนายน เจ้าหน้าที่ของอีซ่าเพิ่งส่งโมดุลโคลัมบัส ซึ่งเป็นหน้าที่หลักของยุโรปสำหรับโครงการ ISS ไปที่ศูนย์อวกาศเคนเนดี้ในฟลอริด้า เพื่อเตรียมการส่งด้วยกระสวยในอนาคต Reiter กล่าวว่า มันค่อนข้างสำคัญในแง่ของอีซ่าที่จะมีโอกาสได้เตรียมเมื่อโคลัมบัสเกิดขึ้น ผมคิดว่ามันจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับอีซ่าที่จะเริ่มอุ่นเครื่อง และเพื่อเตรียมตัวให้เร็วที่สุดเมื่อโมดุลของเราต่อเข้ากับสถานี แล้วพวกเขาก็จะเริ่มทำงานที่โมดุลโคลัมบัสได้ นอกจากนี้นาซ่ายังเริ่มทำงานเกี่ยวกับกระสวยอวกาศแอตแลนติส(Atlantis) เพื่อส่งตามแผนในวันที่ 28 สิงหาคมในปฏิบัติการที่ตั้งเป้าเพื่อก่อสร้างสถานีอวกาศนานาชาติที่ค้างคาอยู่ กระบวนการยังช่วยให้นาซ่าสะสางปัญหาสำคัญในระหว่างการบินทดสอบของยานดิสคัฟเวอรี่ในเดือนกรกฏาคมนี้ งานจะเริ่มที่ high bay 3 ในศูนย์ประกอบยาน(Vehicle Assembly Center) ในศูนย์อวกาศเคนเนดี้(KSC) ซึ่งคนงานจะเริ่มติดตั้งจรวด(solid rocket booster) 2 ลำบนฐานเคลื่อนที่ แอตแลนติสจะเคลื่อนที่จากโรงเก็บไปที่โรงประกอบยานความสูง 52 ชั้นในวันที่ 25 กรกฏาคม ผู้ควบคุมเครนจะยกกระสวยขึ้นไปบนฐานเคลื่อนที่และต่อมันเข้ากับถังเชื้อเพลิงนอกยานขนาบด้วยจรวด 2 ลำ ถังเชื้อเพลิงนอกยานจะมาถึงศูนย์อวกาศเคนเนดี้ในวันที่ 5 มิถุนายน ระวางหลักของปฏิบัติการนี้จะเป็นส่วนโครงสร้างท่าเทียบยานและแผงโซลาร์ ซึ่งจะเคลื่อนย้ายมาที่ฐานปล่อยในวันที่ 27 กรกฏาคม กระสวยอวกาศที่ติดตั้งเสร็จสมบูรณ์จะถูกย้ายไปไว้เหนือโครงสร้างเคลื่อนย้ายขนาดใหญ่เพื่อขับไปยังฐานปล่อยในวันที่ 1 สิงหาคม นักบินอวกาศซึ่งบินไปกับปฏิบัติการนี้จะมาถึงที่ศูนย์อวกาศเคนเนดี้เพื่อซ้อมการนับถอยหลังในวันที่ 8 สิงหาคม ลูกเรือประกอบด้วย Brent Jett ผู้บังคับการยาน, Chris Ferguson นักบิน และผู้เชี่ยวชาญปฏิบัติการอีก 4 คนคือ Joe Tanner, Dan Burbank, Heidemarie Stefanyshyn-Piper และ Steve MacLean ชาวแคนาดา ข้อจำกัดตั้งแต่หลังจากอุบัติเหตุยานโคลัมเบียจะถูกนำมาใช้กับปฏิบัติการด้วย ตารางการบินจะต้องส่งในช่วงกลางวันและถังเชื้อเพลิงแข็งของกระสวยก็ถูกออกแบบใหม่ให้ถูกสลัดออกในด้านที่อาบแสงบนโลก ข้อกำหนดจะช่วยให้นาซ่าจัดการกับปัญหาโฟมที่หลุดออกจากถังนอกยานในระหว่างบินออก ตารางการส่งจะยาวไปถึงวันที่ 13 กันยายน
แหล่งข่าว space.com : NASA clears foam debris issue for next shuttle flight space.com : Atlantis prepared for august launch space.com : Discovery shuttle astronauts ready for STS-121 mission
rook (sararook@hotmail.com) : รายงาน
Create Date : 01 กรกฎาคม 2549 |
Last Update : 1 กรกฎาคม 2549 0:12:56 น. |
|
6 comments
|
Counter : 8156 Pageviews. |
|
|
|
โดย: merf1970 วันที่: 1 กรกฎาคม 2549 เวลา:1:26:31 น. |
|
|
|
โดย: ธนกร ชูประเสริฐสุข IP: 125.24.136.170 วันที่: 8 มกราคม 2551 เวลา:11:36:48 น. |
|
|
|
โดย: ธนกร ชูประเสริฐสุข IP: 125.24.136.170 วันที่: 8 มกราคม 2551 เวลา:11:42:46 น. |
|
|
|
โดย: ฟิวส์ค่ะ IP: 125.26.65.7 วันที่: 30 มกราคม 2551 เวลา:19:07:32 น. |
|
|
|
โดย: 0420 IP: 10.130.3.190, 119.42.97.215 วันที่: 12 มิถุนายน 2553 เวลา:17:09:48 น. |
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|