Alexander (2004) : Alexander The Great : The Prophetic Books Daniel Old Testament
Alexander The Great : พระเจ้า อเล็กซานเดอร์มหาราช เห็นคำว่า The great นำหน้าของบุคคลสำคัญของโลก ตามข่าวทีวี หรือตามหนังสือ เป็นการถือว่า ให้เกียริติย์ ต่อบุคคลเหล่านั้นสุดสุด
source : ภาพจาก: //www.alexanderthemacedonian.com/#b
ประเด็นของหนังเรื่องนี้ ที่เราจะพูดถึง
prophetic (พระเฟท'ทิค) adj. เกี่ยวกับผู้ทำนาย,เกี่ยวกับการทำนาย,เป็นลาง (โดยเฉพาะลางร้าย)
apocalypse (อะพอด'คะลิพซ) n. บันทึกทางศาสนาของยิวหรือคริสเตียนพบระหว่างปี 200 B.C.A.D. 350 การค้นพบ, การเปิดเผย. -apocalyptic (al) adj. (revelation; discovery)
This work was composed during the bitter persecution carried on by Antiochus IV Epiphanes (167-164) and was written to strengthen and comfort the Jewish people in their ordeal.
คำทำนาย การตีความของประกาศกดาเนียล The Prophet Daniel Old Testament ประมาณก่อน คศ 538 B.C. ซึ่ง อยู่ในพันธสัญญาเก่า ทำนายถึงการล่มสลายของ อาณาจักร บาบิโลน บาร์เซ็นไทร์ อียิป Babylonian, Median, Persian, and Greek โดยอเล็กซานเดอร์มหาราช
พระคัมภีร์ ไบเบิ้ล ประกอบ ไปด้วย พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเก่า Old Testament (OT) และ New Testament (NT)
Source : //www.nccbuscc.org/nab/bible/daniel/intro.htm
การตีความ อาจจะโดนสรรเสริญ หรืออาจเจอ footnote จากพี่น้องได้อะ แต่ขอยืนยันว่า เป็นความเห็นส่วนตัวจริงๆๆไม่เกี่ยวกับใคร อ้างอิงจากเชิงอรรถ The New American Bible ถึงกับมีการถามว่า คำทำนายของประกาศกหนังสือ ดาเนียลเป็นจริงหรือยัง กะแล้วแต่ตีความแตกต่างกันไป เดี๊ยวเขียนลายละเอียดไว้ข้างล่างให้ค่ะ
อาณาจักร พระเจ้า อเล็กซานเดอร์มหาราช ภาพจาก //th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E:MacedonEmpire.jpg
อ่าเข้าเรื่อง Alexander
หนังเรื่องนี้ มีฉากที่ทำในประเทศไทย ด้วย
โอลิเวอร์ สโตน ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง อเล็กซานเดอร์ ในเมืองไทยว่า "ฉากที่ถ่ายทำในเมืองไทยนี้ เป็นฉากสำคัญฉากหนึ่งของเรื่อง คือ ฉากปะทะกองทัพช้าง โดยใช้เวลาถ่ายทำเฉพาะฉากนี้เกือบหนึ่งเดือนเต็มๆ ใช้ทีมงานนับร้อยเป็นพันในบางวัน มีนักแสดงจากทั่วโลก ชาวอังกฤษ ชาวอเมริกัน ชาวฝรั่งเศส ชาวเยอรมัน ชาวเอธิโอเปีย ชาวไทย ชาวแขก ใช้ทีมงานกองถ่าย ช่างกล้อง ช่างฉาก และทีมงานมากกว่าร้อยคน และทีมงานดูแลนักแสดง 1 ต่อ 1 (นักแสดงหลัก 15 คน) เช่น ช่างหน้า 1 คน ต่อ นักแสดงหลัก 1 คน มีช้างกว่า 20 เชือกเข้าฉาก แค่เฉพาะถ่ายการรบกับช้างล้วนๆ ก็ใช้เวลาในการถ่ายทำถึง 8 วัน"
Source : //www.siamzone.com/movie/news/index.php?id=1695
ประเด็นเรื่อง ความสัมพันธ์ ชายรักชาย อ่า ชาวกรีกถือเป็นเรื่องปรกติอะ ปัจจุบันกะยังเป็นอยู่อะ อันนี้รุ่นพี่บอกมา อ่า
Alexander คือมหาบุรุษและนายทัพผู้ไม่เคยปราชัยใครในสงคราม ในสายตาของจักรพรรดินโปเลียน พระองค์คือนายทัพหนึ่งใน เจ็ดคนที่มีชื่อเสียงที่สุดของโลก (อีก 6 คนคือ Hannibal, Julius Caesar, Gustavus Adolphus, Jurenne, Prince, Eugene และ Frederick มหาราช) อเล็กซานเดอร์ทรงพระราชสมภพในฤดูร้อนของปี พ.ศ. 187 ที่เมือง Pella ซึ่งขณะนั้น คือเมืองหลวงของอาณาจักร Macedonia พระราชบิดาของพระองค์คือ กษัตริย์ Philip ที่ 2 แห่ง Macedon และพระราชมารดา คือราชินี Olympias แห่งกรีซ ประวัติศาสตร์ได้จารึกว่าพระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถมากและมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล กองทัพในรัชสมัยของพระองค์เป็นกองทัพที่เกรียงไกรที่สุดในโลก เพราะได้ทำศึกต่อสู้ชนะกองทัพกรีก พิชิตอาณาจักรเปอร์เซีย ยึดอียิปต์เป็นเมืองขึ้นและได้ส่วนหนึ่งของอินเดียไปครอบครอง พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ขณะที่ทรงมีพระชนมายุได้ 33 พรรษา พระบรมศพของพระองค์ได้ถูกนำไปฝังในอียิปต์ และหายสาบสูญไปตั้งแต่นั้นมาโดยไม่มีผู้ใดพบเห็นอีกเลย
ตำนานเล่าว่า เมื่อม้า Bucephalus ถูกนำมาถวายกษัตริย์ Philip ที่ 2 บรรดาขุนพลและนายทหารต่างๆ ของกองทัพ Macedonia ได้พากันพยายามขี่มัน แต่ไม่มีใครทำได้สำเร็จ ยกเว้นเจ้าชายอเล็กซานเดอร์ เมื่อกษัตริย์ Philip ที่ 2 ทรงทอดพระเนตรเห็นเช่นนี้พระองค์จึงตรัสว่า อาณาจักร Macedonia ได้เล็กเกินไปสำหรับราชบุตรของพระองค์แล้ว
ดังนั้นพระองค์จึงทรงตระเตรียมการให้พระโอรสขึ้นครองราชย์อย่างดีที่สุด โดยได้มอบหมายให้นักปราชญ์กรีกที่มีชื่อเสียงที่สุด ในโลกในยุคนั้นคือ Aristotle เป็นพระอาจารย์ถวายอักษรแก่พระโอรสของพระองค์ และได้ทรงฝึกความสามารถทางทหารให้แก่ พระโอรสด้วย เมื่อกษัตริย์ Philip ที่ 2 เสด็จสวรรคตเพราะถูกลอบปลงพระชนม์ บรรดาหัวเมืองน้อยใหญ่ที่อยู่ภายใต้การปกครองของ Macedonia เห็นได้โอกาสจึงประกาศอิสรภาพ แต่อเล็กซานเดอร์ด้วยวัยเพียง 20 พระชันษา ได้กรีธาทัพไปปราบเจ้าเมือง เหล่านั้นราบคาบ พออีก 2 ปีต่อมา อเล็กซานเดอร์ทรงสนพระทัยที่จะรุกรานอาณาจักรเปอร์เซีย ซึ่งเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่และ กว้างขวางมากเพราะมีอาณาเขตตั้งแต่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนจรดอินเดีย
กองทัพอเล็กซานเดอร์ได้บุกเข้าโจมตีอาณาจักร เปอร์เซียเป็น ครั้งแรกในปี พ.ศ. 211 ทั้งๆ ที่มีกำลังพลเพียง 35,000 คน ซึ่งนับว่าน้อยกว่ากำลังของกองทัพเปอร์เซีย หลายเท่าตัว แต่กองทัพของอเล็กซานเดอร์ก็ชนะด้วยเหตุผล สามประการคือ ประการแรก กองทัพมีความเข้มแข็งมาก ประการที่สอง อเล็กซานเดอร์เป็นแม่ทัพที่ฉลาดเฉลียว และประการที่สามคือ อเล็กซานเดอร์ทรงมีความกล้าหาญ ในการนำทัพรุกฆ่าข้าศึกด้วยพระองค์เอง ดังนั้น เมื่อเหล่าทหารเห็นหมวกเหล็กที่มีขนนกขาวปักแซม เห็นโล่ประจำพระองค์และเห็นม้า Bucephalus ที่ทรงขี่ กำลังใจของทหารจึงสูงมาก กองทัพ อเล็กซานเดอร์พิชิตกองทัพเปอร์เซียอย่างราบคาบ และหลังจากที่ได้ส่วนที่เป็น Asia Minor แล้ว กองทัพก็ได้รุกต่อไปยังดินแดนทางตอนเหนือของประเทศSyria เมื่อกษัตริย์ Persia ทรงตระหนักว่ากองทัพ ของพระองค์ กำลังจะแพ้สงครามอีกพระองค์จึงทรงยินยอมยก
ภาพจาก ://www.alexanderthemacedonian.com/ อาณาจักร เปอร์เซียให้อเล็กซานเดอร์ปกครอง จากนั้นกองทัพอเล็กซานเดอร์ก็ได้บุกคืบหน้าต่อไปยังอียิปต์ และยึดครองอียิปต์ได้ โดยไม่ต้องเสียเลือด เนื้อแต่อย่างใด แล้วอเล็กซานเดอร์ก็ได้สถาปนาตนเป็นฟาโรห์ และได้นำทัพต่อไปยัง Babylon เพื่อเดินทางสู่ Persepolis อันเป็นนครหลวงของอาณาจักรเปอร์เซีย เพื่อสังหารกษัตริย์ Darius ที่ 3 และสามารถทำได้สำเร็จในอีก 3 ปีต่อมา
ถึงแม้อเล็กซานเดอร์จะได้ครอบครองอาณาจักรเปอร์เซียจนหมดสิ้นแล้วก็ตาม แต่พระองค์ก็ยังไม่ทรงพอพระทัย เพราะพระองค์ได้ทรงกรีฑาทัพเข้า Afghanistan ผ่านภูเขาฮินดูกูฎมุ่งสู่ India กองทัพของพระองค์ได้สู้รบกับกองทหารของมหาราชา Porus แห่งอินเดีย และเมื่อชนะพระองค์ก็ได้ทรงครอบครองอินเดียตะวันตก แต่เมื่อทรงคิดจะรุกราน อินเดียตะวันออกต่ออีก เหล่าทหารของพระองค์ที่ต่างก็รู้สึกเหนื่อยสงครามและหน่ายชัยชนะเป็นที่สุด ได้ตัดสินใจไม่ยอมเดินทัพต่อไป อเล็กซานเดอร์จึงต้องยกทัพกลับเปอร์เซีย
เมื่อกลับถึงประเทศเปอร์เซีย พระองค์ได้ทรงเริ่มปรับปรุงอาณาจักรและกองทัพของพระองค์ ตามความเชื่อเดิมของพระองค์นั้น อารยธรรมที่ศิวิไลซ์ที่สุดคือ อารยธรรมกรีก อารยธรรมอื่นใดที่ไม่ใช่กรีก เป็นอารยธรรมถ่อยทั้งสิ้น แต่เมื่อพระองค์ทรงได้ปกครอง อาณาจักรเปอร์เซีย พระองค์ก็ตระหนักได้ว่าอารยธรรมเปอร์เซียใช่ว่าจะป่าเถื่อน แต่เป็นอารยธรรมที่รุ่งเรืองเช่นเดียวกับอารยธรรมกรีก ดังนั้น พระองค์จึงได้ทรงรวบรวมอารยธรรมทั้งสองเข้าด้วยกัน โดยได้รับทหารเปอร์เซียเข้ามาเป็นทหารในกองทัพหลายพันคน ถึงแม้จะได้ครอบครองแผ่นดินไปแล้วค่อนโลก แต่อเล็กซานเดอร์ยังไม่พอพระทัยกับพระราชอาณาจักรที่พระองค์ทรงมีอยู่ พระองค์ทรงดำริจะรุกรานอาระเบีย อินเดียและโรมต่อ แต่ในวันที่ 13 มิถุนายน ของปี พ.ศ.220 นั่นเอง ขณะที่ทรงประทับอยู่ที่ Babylon อเล็กซานเดอร์ได้ทรงประชวรด้วยมาลาเรีย (นักประวัติศาสตร์บางคนสงสัยว่าพระองค์ถูกปลงพระชนม์โดยยาพิษ) พออีก 10 วันต่อมาพระองค์ก็สิ้นพระชนม์ ขณะที่มีพระชนมายุได้ 33 ชันษาเท่านั้นเอง
ในขณะที่สิ้นพระชนม์ อเล็กซานเดอร์มหาราชไม่มีรัชทายาทใดๆ บรรดานายทัพของพระองค์จึงได้จับพระราชมารดา พระมเหสีและพระโอรสสำเร็จโทษหมด จากนั้นก็ได้แบ่งแยกอาณาจักรกันปกครอง
เพราะอเล็กซานเดอร์สิ้นพระชนม์ ขณะที่ทรงมีพระชนมายุน้อยและไม่เคยพ่ายแพ้ในสงครามใดๆ เลย นักประวัติศาสตร์จึงสงสัยว่า หากพระองค์ทรงมีอายุยืน ประวัติศาสตร์โลกจะเป็นอย่างไร และถ้าพระองค์ทรงกรีธาทัพบุกยุโรปตะวันตก ประวัติศาสตร์ของเยอรมนี อิตาลี และฝรั่งเศส คงจะต้องถูกเขียนใหม่หมดอย่างไม่ต้องสงสัย
ในด้านบุคลิกด้านดีของอเล็กซานเดอร์นั้น ก็มีตำนานเขียนไว้มากมายเช่น พระองค์ทรงต้องการเป็นนักรบที่มีชื่อเสียงที่สุด ในประวัติศาสตร์ที่ผู้คนเล่าลือถึงการที่พระองค์ทรงมีความกล้าหาญ และการเป็นนายทัพที่สามารถ เพราะตลอดระยะเวลา 11 ปี กองทัพพระองค์ไม่เคยปราชัยกองทัพใครเลย ในขณะเดียวกันพระองค์ก็ทรงเฉลียวฉลาดจากการพร่ำสอนโดย Aristotle และการที่พระองค์ทรงรู้ว่า อารยธรรมอื่นที่ไม่ใช่กรีกก็มีความศิวิไลซ์เหมือนกันนั้น แสดงให้เรารู้ว่า พระองค์ทรงมีวิสัยทัศน์ ที่กว้างไกลยิ่งกว่าปราชญ์กรีกในยุคนั้นหลายคน และเมื่อม้า Bucephalus ของพระองค์ตาย พระองค์ทรงเศร้าโศกและเสียพระทัยมาก จึงได้สร้างเมือง Bucephalus ขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ม้าคู่ชีพ
ส่วนบุคลิกด้านด้อยของพระองค์ก็อยู่ที่ทรงชอบเสี่ยงชีวิตในสงครามด้วยพระองค์เองมากไป การไม่ยอมตั้งรัชทายาทใดๆ ทำให้อาณาจักรของพระองค์ต้องล่มสลาย และบางครั้งพระองค์ทรงมีพระอารมณ์ร้ายถึงขนาดทรงฆ่า Cleitus นายทหารผู้เคยช่วยชีวิตพระองค์ไว้ได้ลงคอ
โดยสรุปอิทธิพลของอเล็กซานเดอร์มหาราชที่มีต่อโลกทุกวันนี้ คือการได้รวมอารยธรรมกรีก (ตะวันตก) เข้ากับอารยธรรมเปอร์เซีย (ตะวันออก) มีผลทำให้อารยธรรมทั้งสองรุ่งโรจน์มาก เพราะอารยธรรมกรีกได้แพร่หลายสู่อิหร่าน , ซีเรีย, อียิปต์, อินเดีย และในขณะเดียวกัน อารยธรรมจาดินแดนเหล่านี้ก็ได้แพร่กลับสู่กรีซ นอกจากนี้ ในขณะที่พระองค์ทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ อเล็กซานเดอร์ได้ทรงตั้งเมืองใหม่ๆ ขึ้นมาไม่น้อยกว่า 20 เมือง เช่น เมือง Heart และ Kandahar ในอาฟกานิสถาน แต่เมืองที่เห็นจะมีชื่อเสียงที่สุดก็คือเมือง Alexandria ในอียิปต์ ซึ่งเป็นตักศิลาของการเรียนในวิทยาการต่างๆ ที่ปราชญ์ทุกคนที่มีชีวิตอยู่ในยุคนั้นต้องไปเยือน
คำถามที่นักประวัติศาสตร์ได้พยายามค้นหาคำตอบมานานนับพันปีแล้วก็คือพระศพของอเล็กซานเดอร์อยู่ที่ใด
เมื่อประมาณ 13 ปีมาแล้ว M. Andronicos นักโบราณคดีชาวกรีกได้ขุดพบศพ ศพหนึ่งในสุสานของเมือง Vergina ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของกรีซ และอ้างว่าเป็นพระศพของกษัตริย์ Philip ที่ 2 ผู้เป็นพระราชบิดาของอเล็กซานเดอร์ พออีก 7 ปีต่อมา J.H. Musgravi นักโบราณคดีชาวอังกฤษ ก็ได้กล่าวยืนยันว่า ศพดังกล่าวเป็นศพของ Philip ที่ 2 จริง แต่ในวารสาร Science ฉบับวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2543 A. Bartdiokas แห่งมหาวิทยาลัย Democritus ในกรีซ ได้แสดงหลักฐานให้เห็นว่า กะโหลกศีรษะที่คณะนักวิจัยเดิมเชื่อว่าเป็นของ Philip ที่ 2 นั้น จริงๆ แล้วไม่ใช่ เพราะกะโหลกนั้นเป็นของ Philip ที่ 3 ผู้มีนามว่า Arrhidaeus ซึ่งเป็นพระอนุชาต่างมารดาของอเล็กซานเดอร์ต่างหาก
ถึงแม้ความเห็นของคณะนักโบราณคดีจะแตกต่างกัน ในชื่อเจ้าของกะโหลกศีรษะ แต่ทุกคนก็เห็นพ้องกันว่าสุสานที่ Vergina คือสถานที่ฝังศพของพระราชวงศ์ของอเล็กซานเดอร์มหาราช
รูปปั้นอเล็กซานเดอร์มหาราช
Musgravi นั้นได้สรุปจากรอยแผลบนกะโหลกและตาเพราะถูกธนูยิงว่าเป็นบาดแผลของ Philip ที่ 2 ขณะทรงบุกเข้ายึดเมือง Methone แต่ Bartsiokas อ้างว่าภาพถ่ายกระดูกที่เขาถ่ายไว้เมื่อ 2 ปีก่อน ไม่ได้แสดงร่องรอยของธนูแต่อย่างใด เขาจึงคิดว่ากะโหลกดังกล่าวมิได้เป็นกะโหลกของ Philip ที่ 2 และเมื่อเขาพิจารณารอยแตกร้าวของกะโหลกศีรษะ เขาคิดว่ามันน่าจะเป็นกะโหลกของพระโอรสของ Philip ที่ 2 ผู้เป็นน้องต่างมารดาของอเล็กซานเดอร์เสียมากกว่า ทั้งนี้ เพราะเวลาเขาวัดอายุของเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องกรองเหล่าองุ่นที่ถูกขุดพบในหลุมนั้น อุปกรณ์เหล่านั้นมีอายุน้อยกว่าอายุของ Philip ที่ 2 มาก
คณะนักวิจัยจากอังกฤษยังไม่เห็นด้วยกับข้อสรุปนี้ ดังนั้น การวิเคราะห์กระดูกและสิ่งของต่างๆ ในหลุมนั้นอีก จะทำให้เรารู้ว่า กะโหลกศีรษะที่ว่านั้นเป็นของ Philip ที่ 2 หรือที่ 3 กันแน่ และถ้ากะโหลกนั้นเป็นของ Philip ที่ 3 จริงนั้นก็แสดงว่า มงกุฎเงิน หมวกเหล็กและเสื้อเกราะที่พบในหลุมนั้นอาจเป็นของอเล็กซานเดอร์มหาราชก็ได้ และนั่นก็หมายความว่าพระศพของทั้ง Philip ที่ 2 กับศพของอเล็กซานเดอร์มหาราชต่างก็หายหมดทั้งพ่อและลูก
Source : //www.ipst.ac.th/ThaiVersion/publications/in_sci/alexander.html
//alexanderthemovie.warnerbros.com/ //en.wikipedia.org/wiki/Alexander_(film)
Create Date : 18 กันยายน 2550 |
|
18 comments |
Last Update : 20 กันยายน 2550 19:48:14 น. |
Counter : 3716 Pageviews. |
|
|
|
กะมีคนถามในห้องพันทิปอะ ว่าคำทำนายของประกาศกาศกดาเนียลเป็นจริงอะปะ คำอธิบายบทที่ 7-8, 10-11
กะ ลอกหนังสือให้เค้าดูอะ กะเลยมีความรู้ไปด้วยเลยอ้อ
ล้มสลาย ของอาณาจักร Babylonian, Median, Persian, and Greek โดยอเล็กซานเดอร์มหาราช
กะเลยโยงเข้ากะหนังซะ
อันนี้เราตอบ ความหมาย พระคัมภีร์ ตีความของ คาทอลิกค่ะ
ขอยืม บท ดาเนียล ของ KJV มาค่ะ
แต่เราตอบ ของ NAB ความหมาย ค่ะ
ดาเนียล 7
[1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12]
อาณาจักรโลกทั้งสี่ซึ่งได้ออกมาจากทะเลแห่งมนุษย์
7:1 ในปีต้นแห่งรัชกาลเบลชัสซาร์กษัตริย์เมืองบาบิโลน ดาเนียลมีความฝันและนิมิตผุดขึ้นในศีรษะของท่านเมื่อท่านนอนอยู่ในที่นอนของท่าน ท่านจึงบันทึกความฝันนั้นไว้ และบรรยายเนื้อเรื่องนั้น
ตอบ เป็นเครื่องหมายของ Nebuchadnezzar's ดูความฝัน แดเนียล 2
ดู Daniel 2:36-45 4 king ที่ยิ่งใหญ่ของโลกตอนนั้นได้แก่ Babylonian, Median, Persian, and Greek และพวกเค้าต่อต้านพระเมสิอารห์เป็นการอุปมาอุปไมย ในหนังสือวิวรณ์ของนักบุณยอร์น กล่าวถึง King โรมัน ผู้ข่มเหง ผู้นับถือ พระเป็ฯเจ้า
7:2 ดาเนียลกล่าวว่า "ข้าพเจ้าได้เห็นในนิมิตเวลากลางคืน และดูเถิด ลมทั้งสี่ของฟ้าสวรรค์ได้ปลุกปั่นทะเลใหญ่นั้น
7:3 และสัตว์มหึมาสี่ตัวได้ขึ้นมาจากทะเล แต่ละตัวก็ต่างกัน
ตอบ ทะเลที่ยิ่งใหญ่ ดูกำเนิดของโลกและจักรวาล (Genesis 7:11; 49:25) และเต็มไปด้วย สัตว์ประหลาดหลากหลาย (Monsterขอใช้คำว่าสัตว์ประหลาดแหละกาน ไม่รู้อะ ไม่ได้เรียนมา) ดู Isaiah 27:1; Job 7:12),
โดยเฉพาะ mythological monsters (สัตว์ในนิยายเล่ากันว่ามีรูปร่างคล้ายคน แต่ไม่มีสะบ้าหัวเข่า พูดไม่ได้) อันนี้แปลตามศัพย์อะ
จริงๆๆแล้วเป็นเครื่องหมายของ ความอลหม่าน,ความสับสนวุ่นวาย,ความไม่มีระเบียบ (ใช้คำว่า chao) ที่พระเป็นเจ้า พิชิต ทำให้ยอมจำนนได้ ในสมัยโบราณ ดู (Job 9:13; 26:13; etc.).
7:4 ตัวแรกเหมือนสิงโต มีปีกนกอินทรี เมื่อข้าพเจ้ามองดูนั้น ขนปีกก็ถูกถอนออกไป และมันถูกยกขึ้นจากแผ่นดิน และให้ยืนสองเท้าเหมือนคน และมอบใจของมนุษย์ให้แก่มัน
ตอบ สิงโตเป็นตัวแทนของ Babylonian empire ปีกของสิงห์โต คือ จุดเด่นของงานศิลปะของบาบิโลน เค้าเรียก Babylonian art เป็นสัญญาลักษณ์ของ การส่มสู่ระหว่างสัตว์กะมนุษย์ ซึ่งเป็นปรปักษ์กะพระเป็นเจ้า
ปีกทั้งสองที่ถูกถอนออกไป เป็ตัวแทนของ Nebuchadnezzar and Belshazzar
ยืนสองเท้าเหมือนคน หมายถึง ความแตกต่างด้านจิตใจของมนุษย์ ด้านมืดด้านสว่างของมนุษย์ ดู Daniel 4:13, 30.
7:5 และดูเถิด มีสัตว์อีกตัวหนึ่งเป็นตัวที่สองเหมือนหมี มันขยับตัวข้างหนึ่งขึ้น มีกระดูกซี่โครงสามซี่อยู่ในปากของมันระหว่างซี่ฟัน มีเสียงบอกมันว่า `จงลุกขึ้นกินเนื้อให้มากๆ'
ตอบ หมีในที่นี้หมายถึง Median empire
กระดูกซี่โครงสามซี่อยู่ในปากของมัน เป็นสัญญาลักษณ์ การทำลาย หรือภัยธรรมชาติ เพราะฉะนั้นทำให้เกิดคำว่า การเผาผลาญอย่างสมบูรณ์
7:6 ต่อจากนี้ไปข้าพเจ้าก็ได้มองดู ดูเถิด สัตว์อีกตัวหนึ่งเหมือนเสือดาว บนหลังมีปีกนกสี่ปีก สัตว์นั้นมีหัวสี่หัวและมันรับราชอำนาจ
ตอบ เสือดาว สัญญาลักษณ์ ความรวดเร็วการก่อตั้ง Cyrus the Persian established his kingdom
สัตว์มีสี่หัวหมายถึง the four Persian kings of Daniel 11:2.
7:7 ต่อจากนี้ไปข้าพเจ้าได้เห็นในนิมิตกลางคืน และดูเถิด สัตว์ที่สี่มันร้ายกาจและเป็นที่น่ากลัวและแข็งแรงยิ่งนัก มันมีฟันเหล็กมหึมา มันกินและหักเป็นชิ้นๆ และกระทืบสิ่งที่เหลือนั้นเสีย มันต่างกับสัตว์อื่นทั้งหลายที่อยู่ก่อนมัน มันมีเขาสิบเขา
7:8 ข้าพเจ้าพิเคราะห์เรื่องเขาเหล่านั้น ดูเถิด มีอีกเขาหนึ่งเล็กๆงอกขึ้นมาท่ามกลางเขาเหล่านั้น เขารุ่นแรกสามเขาได้ถูกถอนรากออกไปต่อหน้ามัน และดูเถิด ในเขาอันนี้มีตาเหมือนตามนุษย์ มีปากพูดเรื่องใหญ่โต
ตอบ กล่าวถึงking Alexander's empire
มันมีเขาสิบเขา สัญญาลักษณ์ the kings of the Seleucid dynasty
the only part of the Hellenistic empire
มีอีกเขาหนึ่งเล็กๆงอกขึ้นมา สัญญาลักษณ์ Antiochus IV Epiphanes (175-163 B.C.) the worst of the Seleucid kings, who usurped the throne
7:9 ขณะที่ข้าพเจ้าดูอยู่มีหลายบัลลังก์ถูกล้มลง และผู้หนึ่งผู้เจริญด้วยวัยวุฒิมาประทับ ฉลองพระองค์ขาวอย่างหิมะ พระเกศาที่พระเศียรของพระองค์เหมือนขนแกะบริสุทธิ์ พระบัลลังก์ของพระองค์เป็นเปลวเพลิง กงจักรของบัลลังก์นั้นเป็นไฟลุก
7:10 ธารไฟพุ่งออกและไหลออกมาต่อเบื้องพระพักตร์พระองค์ คนนับแสนๆปรนนิบัติพระองค์ คนนับโกฏิๆเข้าเฝ้าพระองค์ ผู้พิพากษาก็ขึ้นนั่งบัลลังก์ บรรดาหนังสือก็เปิดขึ้น
ตอบ พูดถึงวิศัยทัศน์การมองเห็นของสวรรค์ที่พระเป็นเจ้าประทับอยู่บนบันลังค์ (the Ancient One
พระบัลลังก์ของพระองค์เป็นเปลวเพลิง สัญญาลักษณ์ พระองค์นั่งบนบันลังค์และตัดสิน ชนชาตินานาชาติ
การบรรยายภาพ การพรรณา ความมีอำนาจทุกอย่าง,ความสามารถอันมีทุกอย่าง,พลานุภาพอันเหลือคณนานับ,ความเป็นพระเจ้า ที่เราพบใน Ezekial 1.
7:11 ข้าพเจ้าก็จ้องดู เพราะเสียงพูดใหญ่โตของเขาเล็กนั้น และเมื่อข้าพเจ้าจ้องดูสัตว์ตัวนั้นก็ถูกฆ่า และศพก็ถูกทำลาย มอบให้เผาเสียด้วยไฟ
7:12 ส่วนเรื่องสัตว์ที่เหลืออยู่นั้น ราชอำนาจของมันก็ถูกนำไปเสีย แต่ชีวิตของมันนั้นยังอยู่ต่อไปให้ถึงฤดูหนึ่งและวาระหนึ่ง
7:13 ข้าพเจ้าเห็นในนิมิตกลางคืน และดูเถิด มีท่านผู้หนึ่งเหมือนบุตรมนุษย์มาพร้อมกับบรรดาเมฆในท้องฟ้า และท่านมาหาผู้เจริญด้วยวัยวุฒินั้น เขานำท่านมาเฝ้าต่อเบื้องพระพักตร์พระองค์
7:14 ราชอำนาจ สง่าราศี กับราชอาณาจักร ก็ได้มอบให้แก่ท่าน เพื่อบรรดาชนชาติ ประชาชาติทั้งปวงและภาษาทั้งหลายจะปรนนิบัติท่าน ราชอาณาจักรของท่านเป็นราชอาณาจักรนิรันดร์ซึ่งจะไม่สิ้นสุดไป และอาณาจักรของท่านเป็นอาณาจักรซึ่งจะไม่ถูกทำลายเลย
ตอบ ท่านผู้หนึ่งเหมือนบุตรมนุษย์ One like a son of man มีด้านมืดด้านสว่าง ที่ต่อต้านพระเป็นเจ้า ปรากฎในรูปของ คนเลวทราม, คนซึ่งร้าย, คนดุร้ายเหมือนสัตว์, มนุษย์ร้ายกาจ และมนุษย์ที่ยกย่องพระเป็นเจ้า เป็นตัวแทนของมนุษย์ (Daniel 2:36-45)
"Son of Man"his most characteristic way
of referring to himself,
as the One in whom and through whom the salvation of God's people
came to be realized.
เราตะหนักใจอยู่แล้วว่า ความรอดได้มาสู่เรา จากพระเป็นเจ้าคือ "Son of Man"
นิมิตของสัตว์ทั้งสี่
7:15 ส่วนข้าพเจ้า คือดาเนียล จิตใจข้าพเจ้าก็เป็นทุกข์ในตัวข้าพเจ้า เพราะนิมิตในศีรษะของข้าพเจ้าก็กระทำให้ข้าพเจ้าตกใจ
7:16 ข้าพเจ้าเข้าไปใกล้ท่านผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ที่นั่น และไต่ถามความจริงของเรื่องราวนี้ ท่านก็บอกข้าพเจ้า และให้ข้าพเจ้ารู้ความหมายของเรื่องเหล่านี้
7:17 สัตว์มหึมาทั้งสี่คือ กษัตริย์สี่องค์ซึ่งจะเกิดมาจากพิภพ
7:18 แต่บรรดาวิสุทธิชนแห่งองค์ผู้สูงสุดจะรับราชอาณาจักร และถือกรรมสิทธิ์ราชอาณาจักรนั้นสืบๆไปเป็นนิตย์ คือเป็นนิตย์นิรันดร์
7:19 แล้วข้าพเจ้าก็อยากจะทราบถึงความจริงอันเกี่ยวกับสัตว์ตัวที่สี่นั้นซึ่งผิดแปลกกับสัตว์อื่นๆทั้งสิ้น ร้ายกาจเหลือเกิน มีฟันเหล็กและเล็บตีนทองเหลือง ซึ่งกินและหักเป็นชิ้นๆและกระทืบสิ่งที่เหลือนั้นเสีย
7:20 และเกี่ยวกับเขาสิบเขาซึ่งอยู่บนหัวของมัน และเขาอีกเขาหนึ่งซึ่งงอกขึ้นมาต่อหน้าเขารุ่นแรกสามเขาที่หลุดไป เขาซึ่งมีตาและมีปากซึ่งพูดสิ่งใหญ่โต และซึ่งดูเหมือนจะใหญ่โตกว่าเพื่อนเขาด้วยกัน
7:21 เมื่อข้าพเจ้ามองดู เขานี้ทำสงครามกับวิสุทธิชนและชนะ
7:22 จนถึงผู้เจริญด้วยวัยวุฒิเสด็จมาถึงและทรงให้มีการพิพากษาให้แก่วิสุทธิชนขององค์ผู้สูงสุดนั้น และจนสมัยเมื่อวิสุทธิชนรับราชอาณาจักรมาถึง
7:23 ท่านผู้นั้นกล่าวดังนี้ว่า `เรื่องสัตว์ตัวที่สี่จะมีราชอาณาจักรที่สี่บนพิภพซึ่งจะผิดกับราชอาณาจักรทั้งสิ้น และจะกินทั้งพิภพนี้เสียและเหยียบพิภพลง และหักพิภพนั้นให้แตกออกเป็นชิ้นๆ
7:24 ส่วนเรื่องเขาสิบเขานั้นจากราชอาณาจักรนี้จะมีกษัตริย์สิบองค์เกิดขึ้น และมีกษัตริย์อีกองค์หนึ่งเกิดขึ้นภายหลัง ผิดแปลกกว่ากษัตริย์ที่มีมาก่อน และจะโค่นกษัตริย์เสียสามองค์
7:25 ท่านจะพูดคำกล่าวร้ายองค์ผู้สูงสุด และจะให้วิสุทธิชนขององค์ผู้สูงสุดนั้นอิดหนาระอาใจ และจะคิดเปลี่ยนแปลงบรรดาวาระและพระราชบัญญัติ และเขาทั้งหลายจะถูกมอบไว้ในมือของท่าน ตลอดหนึ่งวาระ สองวาระ กับครึ่งวาระ
7:26 แต่ผู้พิพากษาก็จะขึ้นนั่งบัลลังก์และจะทรงนำเอาราชอาณาจักรของท่านไปเสีย เพื่อจะทรงเผาผลาญและทำลายเสียให้สิ้นสุด
7:27 และอาณาจักรกับราชอาณาจักรและความยิ่งใหญ่แห่งบรรดาอาณาจักรภายใต้สวรรค์ทั้งสิ้น จะต้องถูกมอบไว้แก่ชุมนุมแห่งวิสุทธิชนขององค์ผู้สูงสุดนั้น อาณาจักรของท่านจะเป็นอาณาจักรนิรันดร์ และราชอาณาจักรทั้งสิ้นจะปรนนิบัติและเชื่อฟังท่าน'
ตอบ กล่าวถึงการก่อกวนการข่มเหงของ Antiochus IV ที่ต้องการ ให้ชาวยิมยอมแพ้และยอมรับมติ Hellenistic ways (1 Macc 1:33-34). 1ปี 2ปี หรือครึ่งปี หรือระยะเวลาไม่มีกำหนด ตามกาลเวลาที่ชั่วร้าย
เลข 7 ของชาวยิวคือเลขที่สมบรูณื
ถ้าครึ่งหนึ่ง ใช้คำว่า half of it signifies great imperfection เป็นเครื่องหมายของความบกพร่องไม่สมบรูณ์
เป็นช่วงระยะเวลาของ e duration of Antiochus' persecution. ที่ข่มเหงชาวยิว
7:28 เรื่องราวก็สิ้นสุดลงเพียงนี้ ส่วนข้าพเจ้าคือดาเนียล ความคิดของข้าพเจ้าก็ทำให้ข้าพเจ้าตกใจมาก และสีหน้าของข้าพเจ้าก็เปลี่ยนไป แต่ข้าพเจ้าก็เก็บเรื่องราวนี้ไว้ในใจ"
ตอบ 10 [28] This verse ends the Aramaic part of the Book of Daniel.
Source //www.nccbuscc.org/nab/bible/daniel/daniel7.htm