กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
13 กรกฏาคม 2552
 
 
ละคร ผู้ใหญ่ลีกับนางมา ตอนที่ 1 ต่อ

ตอนที่ 1 (ต่อจากวานนี้)
ค่ำแล้ว อาหารและผลไม้ถูกจัดขึ้นโต๊ะภายในห้องพักหรูกลางเมืองของมาลินี แต่ประดิษฐ์ก็ยังไม่โผล่หัว...มาลินีนั่งใจลอยฆ่าเวลาด้วยการดูทีวี แต่ก็ดูเหมือนข่าวอาชญากรรมหั่นศพในจอโหดยังไงก็ไม่สามารถเรียกความสนใจเธอได้ เธอดูนาฬิกาเป็นระยะ จนดึกจึงปิดทีวี คิดว่าเขาคงไม่กลับมาแน่แล้ว
ขณะเดียวกันนั้น ที่บ้านผู้ใหญ่ลีแสงไฟสว่างวอมแวม ลีนวัตรกำลังนั่งเขียนจดหมายถึงหลานสาวของคุณนายวันอย่างตั้งอกตั้งใจ
"เรียนคุณมาลินีที่นับถือ...ผมมีความเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเรียนให้คุณทราบว่า คุณยายวันของคุณได้หมดบุญสิ้นใจเสียแล้ว ขณะนี้ศพได้ตั้งรอไว้ที่วัดใกล้บ้าน รอให้คุณซึ่งเป็นหลานคนเดียวของท่านมาจัดการตามประเพณี กรุณารีบมาเพราะคุณยายของคุณท่านได้สั่งเสียเอาไว้ให้ตั้งศพของท่านเพียงสามวันเท่านั้น เพราะท่านว่าเปลือง...ด้วยความนับถือ ผู้ใหญ่ลี"
ลีนวัตรจบจดหมายอย่างสั้นกระชับแต่ได้ใจความครบ แล้วอ่านทวนอีกครั้ง ระหว่างนี้แม่ปุยเข้ามานั่งชันเข่าข้างๆลูกชาย
"เบอร์มือถือเขาไม่มีเรอะ กว่าจดหมายจะไปถึงแม่ว่าเลยสามวันตั้งศพคุณนายวันแหงๆ"
"ไม่มีหรอกแม่ คุณนายวันมีแต่ที่อยู่ทางจดหมายนี่แหละ ไม่เป็นไรหรอกหนูจะส่งด้วยอีเอ็มเอส วันเดียวอาจจะถึง"
"ตัวจริงๆเขาจะเหมือนที่เราเห็นในทีวีรึเปล่าก็ไม่รู้นะผู้ใหญ่"
"แม่อย่าไปคาดหวังอะไรให้มันมากไปนักเลย เขาเป็นคนกรุงเทพฯ เป็นคนสมัยใหม่ คงไม่ติดดินเหมือนคุณนายวันหรอก"
"นั่นสินะ แม่ก็ว่ายังงั้น เพราะถ้าเขาได้เลือดคุณนายวันไปบ้าง เขาก็น่าจะโผล่มาเยี่ยมเยียนให้เห็นหน้าค่าตากันบ้าง"
"ก็บ้านนอกมันไม่มีอะไรน่าสนใจ น่าตื่นเต้นเหมือนกรุงเทพฯนี่แม่ มีแต่ท้องนากับคนจน อ้อ แล้วก็ควายด้วย เขาก็คงเหม็นสาบเขาแหละ"
พูดคุยกับแม่อีกครู่หนึ่ง ลีนวัตรก็ขอตัวกลับเข้าห้องนอน เขานั่งมองรูปตัวเองในวันรับปริญญาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่มีทั้งแม่และน้องสาวสองคนยืนขนาบข้างยิ้มแย้มมีความสุขเต็มที่ แต่อีกคนที่เขาจะลืมไม่ได้ก็คือคุณนายวัน ผู้ซึ่งทำให้เขามีวันนี้ได้ เพราะขณะที่เขาเข้าเรียนมัธยม แม่ปุยก็ทำท่าจะให้เขาเรียนแค่มัธยม 3 แม่ปุยแกว่าเรียนไปก็เสียเวลาเปล่าๆ จบออกมาก็ต้องกลับมาทำนาอยู่ดี ไม่ได้ไปเป็นเจ้าคนนายคนกับเขาหรอก...วันนั้นคุณนายวันเลยติติงแม่ของเขาซะยกใหญ่
"แม่ปุยไม่ได้กำลังดูถูกการศึกษาอย่างเดียว แม่ปุยกำลังดูถูกลูกตัวเองด้วย ทำไมแม่ปุยไม่คิดว่าลูกมันจบออกมาแล้ว มันจะได้เอาวิชาความรู้กลับมาพัฒนาบ้านเรา โลกมันเปลี่ยนไปเยอะแล้ว แล้วทำไมเราจะยังย่ำอยู่กับที่ล่ะ"
"แต่ถ้าไอ้หมามันเรียนต่อ น้องมันสองคนก็ต้องเลิกเรียน เอาแค่ ม.3 พอ อิฉันไม่มีเงินจะส่งเรียนหรอกจ้ะ"
"ลี...ฉันถามตรงๆ ใจเราอยากจะเรียนต่อรึเปล่า"
"อยากครับ ผมอยากเรียนเกษตร"
"ดี...ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีปัญหา ไปตั้งใจดูหนังสือสอบเข้าให้ได้ เรื่องเงินฉันจัดการเอง แม่ปุยไม่ต้องเป็นห่วง"
นึกถึงวันนั้นแล้ว ลีนวัตรยิ้มเศร้ากับความทรงจำอันแสนดี ชีวิตครึ่งนึงของเขาถูกหล่อหลอมมาจากน้ำใจของคุณนายวัน
แต่คนที่แทบไม่เคยรับรู้ในความเมตตากรุณาของคุณนายวันกลับกลายเป็นมาลินี หลานสาวคนเดียวที่เคยอยู่ด้วยกันตอนเล็กๆแค่ช่วงหนึ่ง พอเข้ากรุงเทพฯก็ไม่เคยเหยียบย่างมาที่นี่อีกเลย...
มาลินีสะดุ้งตื่นจากโซฟาที่เผลอหลับ ขณะรอการ กลับมาของประดิษฐ์ เธอได้ยินเสียงเปิดประตู พอเห็นประดิษฐ์ เดินหน้ายุ่งเข้ามา มาลินีดีใจยิ้มหน้าบาน ฉอเลาะเอาอกเอาใจก่อนจะนำอาหารบนโต๊ะไปใส่ไมโครเวฟให้ใหม่ พอเขากินเสร็จเธอก็จัดแจงล้างถ้วยจาน ประดิษฐ์ตามมากอดนัวเนีย
"อุ๊ย อย่าค่ะดิ๊ก มามือเปื้อน"
"ก็ใครใช้ให้ล้างจานตอนนี้ล่ะ พรุ่งนี้แม่บ้านมันมาทำความสะอาดก็ให้มันทำก็ได้ ไม่งั้นเราจะจ้างมันทำไม" ประดิษฐ์ ใช่แต่จะปากเสีย นิสัยยังแย่ชอบพูดจาดูถูกคนเป็นว่าเล่น
มาลินีทั้งรักทั้งหลงประดิษฐ์จนมองข้ามความไม่ดีของเขาซะหมด เธอบำรุงบำเรอเงินทองที่หามาได้ให้เขาด้วยความเต็มใจ อย่างคืนนี้ประดิษฐ์ก็อ้อนขอยืมเงินสามสี่หมื่นที่เธอเพิ่งได้จากการถ่ายแฟชั่นมาหยกๆ บอกว่าจะเอาไปซื้อนาฬิกาข้อมือรุ่นใหม่...

ooooooo

เช้าตรู่ ลีนวัตรออกจากบ้านตัวเองไปที่บ้านคุณนายวัน เพื่อเอาข้าวเปลือกหว่านให้ไก่ที่คุณนายวันเลี้ยงไว้กินไข่ ถ้าวันไหนได้ไข่มากคุณนายวันก็เอื้อ-เฟื้อเผื่อแผ่แบ่งปันให้เด็กๆที่โรงเรียน โดยลีนวัตรจะเป็นคนจัดการให้ด้วยความเต็มใจ
ความมีน้ำใจของคุณนายวันนี่เอง ทำให้ลีนวัตรอดนึกถึงมาลินีไม่ได้ ในวัยเด็กที่ทั้งเธอและเขาเคยเจอกันที่บ้านคุณนายวัน เด็กหญิงมาลินีร้องไห้กระจองอแงร่ำร้องอยากกลับบ้าน เธอหาว่าคุณยายใจร้าย เป็นแม่มด พาเธอมาขังไว้ที่นี่ เด็กชายลีนวัตรเดินมาหยุดยืนมอง แล้วเอาพุทธาในกระเป๋ากางเกงส่งให้เด็กหญิงมาลินีกิน ทีแรกเธอบอกไม่อร่อย แต่พอกินไปกินมาติดใจ ขอเพิ่มอีกหลายลูก...
ลีนวัตรขึ้นมาบนบ้านคุณนายวัน ยืนมองรูปถ่ายของมาลินีตอนเข้าวงการนางแบบใหม่ๆ หน้าตาท่าทางเธอยังดูเด๋อด๋าไม่เข้าที่เข้าทาง แต่ลีนวัตรก็มองรูปนั้นด้วยรอยยิ้ม
"พ่อ...พ่อ" เสียงเรียกของปื๊ดทำให้ลีนวัตรที่กำลังเพลินๆ สะดุ้งเล็กน้อยก่อนหันไปมองปื๊ดยืนอยู่ตรงประตู "พ่อจะมาบ้านคุณนาย ไม่รอหนูด้วย"
"เอ็งตื่นสายเองนี่หว่า ใครเขาจะไปรอเอ็ง คนนอนกินบ้านกินเมืองน่ะไม่เจริญหรอกนะโว้ย"
"สวยนะพ่อ"
"อะไรของเอ็ง อยู่ๆมาบอกพ่อสวย"
"หนูไม่ได้บอกพ่อสวย หนูพูดถึงหลานคุณนายวันต่างหาก ถ้าหนูจะมีแฟนหนูจะหาสวยๆยังงี้แหละพ่อ"
"ทะลึ่งแล้วไอ้นี่...ทะลึ่ง ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ไปเอาไม้กวาด ผ้าขี้ริ้ว มากวาดแล้วก็ถูเรือนให้เรี่ยม"
"ทำไมต้องกวาดต้องถูด้วยล่ะพ่อ คุณนายวันก็ไม่อยู่แล้ว"
"คุณนายวันมีพระคุณกับพวกเรามากนะปื๊ด เราต้องช่วยกันดูแลบ้านช่องสมบัติทุกอย่างของท่านไว้ให้เหมือนกับตอนที่ท่านยังอยู่กับเรา"
"จ้ะพ่อ"
"แล้วอีกอย่าง หลานสาวคุณนายท่านน่าจะมาถึงวันนี้แหละ พ่อส่งจดหมายไปตั้งแต่วันก่อนแล้ว"
"เย้..." ปื๊ดดิ้นสุดฤทธิ์ดีใจออกหน้าออกตา บอกพ่อว่า หนูอยากเห็นดาราเต็มแก่แล้ว
"น้อยๆหน่อย น้อยๆหน่อย อย่าแก่แดดแก่ลมให้มันมากนัก กวาดเรือนถูเรือนไป พ่อจะไปให้ข้าวหมูก่อน"
ปื๊ดรับคำเสียงแจ๋ว แล้ววิ่งไปหยิบไม้กวาดจัดการตามพ่อสั่งอย่างว่องไว

ooooooo

จดหมายของลีนวัตรส่งถึงที่พักของมาลินีแล้วก็จริง แต่มาลินียังไม่ได้หยิบมันขึ้นห้อง เพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องถ่ายแฟชั่นถ่ายโฆษณา...วันนี้มาลินีไปถ่ายโฆษณากลางแจ้งที่สวนสาธารณะ พอถึงช่วงพักมาลินีรีบโทร.ไปหาประดิษฐ์ ตั้งใจจะให้เขามารับกลับ แต่กลายเป็นว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งเสียงงัวเงียรับโทรศัพท์แทน เพราะประดิษฐ์ยังหลับอุตุอยู่ข้างๆเจ้าหล่อนในโรงแรมม่านรูด
มาลินีได้ยินเสียงผู้หญิงก็ตกใจ ถามหาดิ๊ก หญิงสาวจึงบอกให้รอเดี๋ยว แล้วหันมาเขย่าตัวเรียกประดิษฐ์ สงสัยว่าเมียพี่โทร.มา ประดิษฐ์กลับสะบัดหนีอย่างรำคาญ แถมโวยว่าตนไม่มีเมีย...มาลินีได้ยินชัดเจน อึ้งหน้าชา ส่วนหญิงสาวรีบกรอกเสียงมาว่าโทร.ผิดแล้ว มาลินีจึงขอโทษแล้ววางสายด้วยมืออันสั่นเทา
จู่ๆประดิษฐ์ที่นอนงัวเงียก็ลุกพรวดขึ้นเหมือนนึกอะไรได้ เขาหยิบโทรศัพท์มากดดูเบอร์ที่เพิ่งโทร.เข้า พอเห็นเป็นเบอร์ของมาลินี ประดิษฐ์จึงตวาดดุคู่นอนว่าใครใช้ให้รับ
"ก็มันดัง...หนูรำคาญ"
ประดิษฐ์อยากจะบ้าตาย เตรียมคิดหาวิธีแก้ตัวกับมาลินี...ขณะเดียวกัน มาลินีเสียใจจนทำงานต่อแทบไม่ได้ น้ำตามันจะเอ่ออยู่เรื่อย เธอแข็งใจทำจนเสร็จ พอเสียงผู้กำกับสั่งคัต มาลินีก็ปล่อยโฮน้ำตาร่วงพรูเป็นเผาเต่า
จากนั้นเธอโทร.นัดวลัยกับสมร สองเพื่อนสนิทไปเจอกันที่ร้านอาหาร แล้วปรึกษาเรื่องแฟนหนุ่มว่าเธอควรจะทำยังไงดี แต่เพื่อนสองคนกลับมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน วลัยฟันธงว่าผู้ชายคนนี้ไว้ใจไม่ได้ ท่าทางหลุกหลิกยังกับอะไรดี อย่างนี้ต้องเลิกสถานเดียว ขณะที่สมรบอกว่าเรื่องอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่มาลินีคิดก็ได้ ผู้หญิงคนนั้นอาจจะเป็นญาติพี่น้องของเขา มาลินีน่าจะได้คุยกับเขาให้รู้เรื่องก่อน
"ฉันจะบอกให้นะ ผู้ชายน่ะจริตมารยามันมากกว่าผู้หญิงซะอีก เชื่ออะไรไม่ได้แล้ว คนใจอ่อนอย่างหล่อนน่ะมีแต่จะกลายเป็นเหยื่อ" วลัยโพล่งขึ้นมา
"แต่ถ้ามันไม่ได้เป็นอย่างนั้น เรายุให้เขาเลิกกัน มันเป็นบาปนะวลัย" สมรท้วง
"โอ๊ยแม่คนธรรมะธัมโม ตั้งแต่เกิดมาหล่อนรู้จักผู้ชายกี่คนกันยะ ถามหน่อย ถ้าหล่อนไม่อยากเจ็บไปกว่านี้ หล่อนต้องเชื่อฉันยายมา...เลิก!"
"แต่...แต่ฉันยังรักเขาอยู่นะวลัย"
วลัยอ้าปากค้างพูดไม่ออก ได้แต่มองมาลินีเช็ดน้ำตา
ป้อยๆ
ตกค่ำ ประดิษฐ์หอบดอกไม้ช่อใหญ่มานั่งรอมาลินีอยู่ที่ล็อบบี้คอนโดฯ พอเห็นเธอก้าวเข้ามา ประดิษฐ์รีบถลาไปหา ทำทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มาลินียังงอนไม่ค่อยอยากพูดด้วย พอเธอหนีเข้าลิฟต์ เขาก็สวมวิญญาณพระเอกวิ่งเข้ามาทั้งที่ลิฟต์กำลังจะปิด เลยโดนลิฟต์หนีบมือร้องโอดโอยราวกับเจ็บปวดนักหนา เท่านี้มาลินีก็หายงอนเป“นปลิดทิ้ง กลายเป็นอาทรร้อนใจกับความจะเป“นจะตายของแฟนหนุ่ม
มาลินีเก็บจดหมายหลายซองขึ้นมาที่ห้อง แต่ทำมันหล่นพื้นเกลื่อนกลาดเพราะต้องคอยประคองประดิษฐ์ แล้วก็ไม่ได้ใส่ใจจดหมายเหล่านั้น เพราะถูกประดิษฐ์นัวเนียออดอ้อน แต่มาลินีไม่ลืมซักถามเรื่องผู้หญิงที่รับโทรศัพท์ ประดิษฐ์บอกว่าเป“นเพื่อน แล้วทำหัวเราะกลบเกลื่อนที่มาลินีหึงแม้กระทั่งเพื่อนของเขา
"แค่เพื่อนจริงๆเหรอคะ"
"จริง ก็มาน่ารักอย่างนี้ ดิ๊กจะมีใครได้นอกจากมาคนเดียว" เขาปากหวาน แถมหอมแก้มเธออีกหนึ่งฟอด เท่านี้มาลินีก็แทบละลาย
คุยไปคุยมา ประดิษฐ์ถามถึงเช็คค่าจ้างที่มาลินีถ่ายโฆษณาวันนี้ ทำเป“นหวังดีจะเอาไปเข้าธนาคารให้ พอมาลินีบอกว่าเช็คยังไม่ออก ดิวเดือนนึง ประดิษฐ์ก็อารมณ์เสียทันที
"เดือนนึง...อะไร ยังงี้มันเอาเปรียบกันนี่หว่า"
"ปกติที่ไหนก็เป“นอย่างนี้ทั้งนั้น"
"มาโกหกผมมากกว่า มาไม่ไว้ใจผมใช่ไหมล่ะ" มาลินีอ้าปากค้าง "อยู่ดีๆ ก็มาสร้างเรื่องผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ บอกมาตามตรงเลยว่ามาเบื่อผมแล้ว ไม่ต้องหาเรื่องอื่นขึ้นมาอ้าง คนเรารักจะอยู่ด้วยกันมันต้องไว้ใจกัน ไม่ใช่มาสงสัยเรื่องปัญญาอ่อนอะไรก็ไม่รู้"
"ดิ๊ก..."
"ได้...ในเมื่อมาคิดว่าดิ๊กเอาเปรียบโกหกหลอกลวงมา เราก็เลิกกัน ดิ๊กจะเป“นฝ่ายไปเอง"
ประดิษฐ์ทำผลุนผลันหัวเสียออกไปจากห้องทันที มาลินีอื้ออึง ทุกอย่างกลับตาลปัตรอย่างไม่คาดคิด เธอควรจะเป“นฝ่ายตะโกนใส่หน้าเขา แต่เขากลับเล่นเกมนี้กับเธอเสียเอง...
หลังจากนั้นไม่นาน มาลินีก็มานั่งสะอึกสะอื้นอยู่ต่อหน้าสมรถึงบ้าน วลัยเพิ่งตามมาทีหลัง นึกว่ามาลินีถูกประดิษฐ์ทำร้าย จึงโวยวายให้เอาเรื่อง
"นี่มันลงไม้ลงมือกับหล่อนใช่ไหม แจ้งความ ต้องไปแจ้งความ"
"ดิ๊กเขาไม่ได้ทำอะไรฉันหรอก ฉันต่างหากเป็นฝ่ายทำร้ายจิตใจเขา"
วลัยชะงักร้องอ้าว แล้วให้มาลินีหยุดร้องไห้ ก่อนที่ตาจะช้ำเป็นหมีแพนด้าจนถ่ายแบบเดินแบบไม่ได้...มาลินีซับน้ำตาพยายามกลั้นสะอื้น
"ความรักมันทำให้คนเราเจ็บปวดอย่างนี้เอง" สมรรำพึง
"ฉันพยายามแล้ว อุตส่าห์ถนอมน้ำใจเขา แต่ฉันมันโง่เอง ปากไม่ดี อะไรๆมันกำลังจะไปได้ดีอยู่แล้วเชียว ดิ๊กเขาก็เลย...ก็เลยเป็นฝ่ายบอกเลิกฉัน"
"งั้นก็ดีสิ...ปล่อยมันไป ผู้ชายในโลกนี้มีอีกตั้งเยอะแยะ จะมัวมานั่งเสียน้ำตาให้มันทำไม เสียศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง"
"แต่เขาอุตส่าห์รักกันมาตั้งสี่ห้าปีแล้วนะวลัย" สมรทักท้วง
"ปีเดียวก็นานเกินไปแล้ว รักกับผู้ชายห่วยๆอย่างนายประดิษฐ์เนี่ย"
"ฉันมีอะไรที่ไม่ดีบ้าง บอกฉันมาตรงๆเลย สมร วลัย ฉันจะได้ปรับปรุงตัวเอง"
"แกน่ะดีพร้อมสวยเก๋ เป็นคนเดียวที่เชิดหน้าชูตากลุ่มของเราได้" สมรชื่นชมเพื่อนอย่างจริงใจ
"แต่ฉันก็ไม่ดีพอ ดิ๊กเขาถึงได้เบื่อ ถึงขนาดกล้าบอกเลิกกับฉัน"
"ฉันรู้แล้วละว่าแกมีข้อเสียตรงไหนยายมา แกใจอ่อนกับผู้ชายคนนี้เกินไป แกยอมมันทุกอย่างมันก็เลยต้องเป็นอย่างนี้ไง" วลัยพูดอย่างมีอารมณ์
"แล้วฉันควรจะปรับปรุงตัวเองยังไงดี"
"ไม่ต้องปรับปรุงอะไรเลย เลิกก็เลิก ร้องไชโยอย่างเดียว แล้วชี้หน้ามัน บอกมันไปเลยว่าอย่ากลับมาอีกนะไอ้หมาดิ๊ก"
"ฉันว่ามันรุนแรงเกินไปนะวลัย" สมรท้วงอย่างรับไม่ได้ แต่สาวห้าวอย่างวลัยไม่สน ย้ำถามมาลินีว่าอยากพ้นทุกข์ไหม ถ้าอยากก็ต้องทำอย่างที่เธอพูด
"แล้วฉันจะมีชีวิตอยู่ได้ยังไง ถ้าไม่มีเขา..." สิ้นเสียงโอดก่าเหว่าของแม่เพื่อนรัก วลัยอยากจะกรี๊ดให้โลกแตก...

ooooooo

เครดิต //www.thairath.co.th



Create Date : 13 กรกฎาคม 2552
Last Update : 13 กรกฎาคม 2552 12:51:43 น. 0 comments
Counter : 290 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

Heavenworth
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ
[Add Heavenworth's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com