<<
สิงหาคม 2552
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
24 สิงหาคม 2552
 
 

ละคร หน้ากากดอกซ่อนกลิ่น ตอนอวสาน

ตอนที่อวสาน
ใบเตยยืนกอดอกน้ำตาคลอที่มุมหนึ่งของ โรงพยาบาล เธอครุ่นคิดรำพึงรำพันอยู่ในใจ

“ฉันไม่น่าไปรักอีตาบ้านี่เลย ทำอะไรไม่เคยคิดถึงใจคนอื่น ฉันยิ่งรักเธอมากก็ห่วงเธอมาก แล้วก็ยิ่งน้อยใจเธอมาก รู้เอาไว้ซะด้วยอีตาเซ่อ...” ใบเตยซับน้ำตา ความคิดในใจยังต่อเนื่อง

“ถ้าหลอกฉันอีกครั้งเดียว ฉันจะไม่รักเธอแล้ว... ที่จริงฉันไม่ควรให้โอกาสเธออีกแล้วด้วยซ้ำ”

“ให้โอกาสผมเถอะครับ”

เสียงของแสนภูมิดังขึ้น ใบเตยสะดุ้งสุดตัวหันหลังไปมองเห็นแสนภูมิยืนหน้าจ๋อย ๆ อยู่

“นี่คุณแอบอ่านความคิดฉันอีกแล้วใช่มั้ย”

“บางครั้งมันก็จำเป็น”

แสนภูมิเสียงอ่อย ใบเตยตรงเข้าไปทุบตีไม่ ยั้งมือจนเหนื่อยจึงหยุด เขาขอโทษเธอด้วยน้ำเสียง ออดอ้อน เธอไม่อยากคิดอะไรกลัวเขารู้อีกจึงนึกท่อง สูตรคูณไปเรื่อย ๆ แล้วเดินหนีไป

แสนภูมิกับใบเตยไปเยี่ยมดูอาการป้าไขแสง ทั้งที่ยังปั้นปึ่งตะบึงงอนกันอยู่ ป้าไขแสงดูอ่อนแรงมาก มองหน้าทั้งสองคนแล้วจับมือ

“ป้าขออะไรแกสองคนสักอย่างได้มั้ย”

ใบเตยและแสนภูมิชำเลืองมองหน้ากันเล็กน้อย

“หนูเตย ทั้งหมดเป็นความผิดของป้าเอง เรื่องที่ผ่านมาหนูยกโทษให้ไอ้แสนมันได้มั้ยลูก”

“หนูก็ไม่ได้โกรธอะไรคุณแสนนักหนาหรอกค่ะคุณป้า”

“แต่น้อยใจใช่มั้ยหนูเตย”

ใบเตยรับคำ ป้าไขแสงยิ้มดีใจ แล้วมองหน้าแสนภูมิ

“ได้ยินแล้วใช่มั้ยไอ้แสน ต่อไปแกต้องดูแลหนูเตย อย่าทำให้น้องเค้าต้องเสียใจอีกนะ”

“ครับป้า ผมจะดูแลเตยอย่างดีที่สุดครับ”

ป้าไขแสงยิ้มบาง ๆ พูดเสียงเหนื่อยอ่อน

“หนูเตย ป้าจะไม่ไหวแล้ว....!”

ใบเตยตกใจ น้ำตาไหลพราก แสนภูมิเอะใจ พยายามอ่านความคิดป้าไขแสง

“เตยจะไปตามหมอ ป้าอดทนหน่อยนะคะ”
ป้าไขแสงจับมือใบเตยรั้งเอาไว้

“ป้าไม่ให้ไป เตยต้องให้สัญญากับป้าก่อนไม่งั้น ป้าคงนอนตายตาไม่หลับ”

“คุณป้าจะให้หนูสัญญาอะไรคะ บอกมาเลยค่ะ” ใบเตยน้ำตาคลอ

“ห้ามทอดทิ้งไอ้แสนมันนะลูก ไม่ว่าจะสุขจะทุกข์ ก็ต้องคอยดูแลกันและกัน ชีวิตป้าก็ห่วงมันคนเดียวนี่ล่ะ”

ใบเตยน้ำตาคลอพยักหน้ารับคำ ป้าไขแสงยิ้มสบายใจ อวยพรให้คนทั้งคู่

“อยู่เป็นเพื่อนกันจนแก่จนเฒ่า มีหลานไว ๆ นะลูก แต่ป้าคงอยู่ดูไม่ทันแล้วล่ะ”

ขาดคำป้าไขแสงก็ยิ้มสบายใจ แล้วคอพับมือตกเหมือนคนหมดลมหายใจ ใบเตยร้องไห้โฮเข้ามา กอดป้าไขแสง แสนภูมิอมยิ้ม ๆ เหมือนรู้ทัน แกล้งยกนิ้วขึ้นจิ้มเอว เท่านั้นเอง....ป้าไขแสงตกใจบ้าจี้กระเด้งตัวขึ้นนั่ง

“ดอกกูหายหมดแล้ว”

ใบเตยอึ้งเป็นงง ถอยออกมามองหน้าป้าไขแสงยิ้มแหย ๆ

“นี่ป้าไม่ได้เป็นอะไรเหรอคะ”

“เป็นนิดหน่อย...แต่กลัวเราสองคนหย่ากันมากกว่า ก็เลยแกล้งป่วย”

“ป้ากับหลานไม่ต่างกันเลย”

ใบเตยต่อว่าอย่างงอน ๆ ก่อนจะผลุนผลันออกจากห้อง แสนภูมิรีบคว้าแขนเธอเอาไว้

“ผมกับป้าไม่ต่างกัน เพราะเราหลงรักผู้หญิงคนเดียวกัน”

ใบเตยชะงักมองหน้าแสนภูมิ ป้าไขแสงนั่งอมยิ้มพอใจที่หลานชายกล้าพูด

“ผมรักคุณมากนะเตย...ผมอยากขอคุณแต่งงานกันใหม่อีกครั้งนะ....ไม่ต้องอ่านใจก็รู้ว่าคุณไม่ปฏิเสธ”

ใบเตยเขินสุด ๆ แสนภูมิดึงใบเตยเข้าไปกอดโดยไม่มีอาการขัดขืน พอเขาปล่อยมือเธอก็เดินออกจากห้องด้วยความเขินอาย

“ขอบคุณมากครับป้า”

“ผู้หญิงคนนี้มีค่ากว่าสมบัติทั้งหมดที่แกมี รักษาเอาไว้ให้ดีล่ะ”

แสนภูมิรับคำน้ำเสียงหนักแน่น แล้วเดินตามใบเตยออกไป ป้าไขแสงยิ้มสบายใจที่เห็นทั้งคู่คืนดีกันได้
แสนภูมิ ใบเตย หมอวิเวก หมอจอมขวัญและทนายศยามมารวมตัวกันที่ห้องรับแขกที่บ้านของแสนภูมิ ป้าไขแสงเอาเทปเสียงที่แม็กซ์อัดเรื่องที่มาลีวรรณเล่าเรื่องราวในอดีตมาเปิดให้ทุกคนฟังจนจบ แล้วทนายศยามก็เล่าเรื่องที่ตนเองรู้มาให้ฟังอีกไขแสงสีหน้าติดใจสงสัย

“เท่ากับว่าคุณมาลีวรรณวางแผนฆ่าคุณสันต์ คุณสกัดวางแผนฆ่าคุณแสนใช่มั้ยคะ”

ใบเตยถามอย่างสงสัย ทนายศยามพยักหน้ารับ แสนภูมิพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ

“ไม่น่าเชื่อนะครับ ความโลภจะทำให้คนกล้าทำเรื่องเลว ๆ ได้ถึงขนาดนี้”

“เรื่องเลวกว่านี้คนอย่างมันก็ทำได้”

ป้าไขแสงว่าด้วยอารมณ์เกลียดชังมาลีวรรณและสกัด หมอวิเวกกับหมอจอมขวัญจึงสรุป

“แต่ยังไงก็หนีบาปกรรมไปไม่พ้นหรอกครับ จะช้าจะเร็วเท่านั้นล่ะ”

“จากวันนี้ไปคุณป้าก็สบายใจได้แล้วนะคะเรื่องวุ่นวายต่าง ๆ น่าจะหมดแล้ว”

“ฉันก็หวังยังงั้นล่ะคุณหมอ”

ป้าไขแสงพูด แล้วกวาดตามองหาใบตาลเหมือนเพิ่งนึกขึ้นมาได้

“ใครเห็นเจ้าตาลมั่งเนี่ย ตั้งแต่กลับมาฉันยังไม่เห็นหน้ามันเลย”

ใบตาลนั่งกอดเข่าเงยหน้ามองหลอดไฟบนเพดานอย่างใช้ความคิด บุญเติมเดินเข้าบ้านมาพร้อมถือถุงใส่ขนม

“พ่อ ตาลจะไปแอฟริกานะ”

“คุณนายบอกพ่อแล้วล่ะ รักษาหายได้ก็ดี”

“พ่อไม่คิดถึงตาลเหรอ”

“คิดถึงสิ แต่พ่ออยากให้แกเป็นปกติเหมือนคนอื่น พ่อไม่ชอบให้ใครมาเรียกแกว่าพวกปัญญานิ่ม พ่อไม่อยากฟัง”

“แล้วใครจะอยู่เป็นเพื่อนพ่อล่ะ”

“พูดยังกะตอนนี้แกอยู่ดูแลพ่องั้นล่ะ วัน ๆ แทบจะไม่ได้เห็นหน้ากันเลยด้วยซ้ำ...ตอนนี้พ่อยังแข็งแรง ดูแลตัวเองได้ แกรีบไปรักษาตัวให้หายเถอะ” บุญเติมพูดยิ้ม ๆ อย่างเอ็นดู

“ถ้าตาลหายแล้ว ตาลจะทำงานหาเงินเลี้ยงพ่อเอง พ่อจะได้ไม่เหนื่อย”

บุญเติมลูบหัวใบตาล

“ได้ยินแค่นี้พ่อก็ชื่นใจแล้วล่ะ...แกนี่มีบุญมากนะเจ้าตาล ได้ไปรักษาตัวถึงเมืองนอกเมืองนา แถมรักษาฟรีอีกตะหาก อย่าลืมบุญคุณคุณป้ากับคุณหมอทุกท่านนะ”

“ตาลหายแล้ว ตาลทำงานหาเงินเลี้ยงคุณป้ากับคุณหมอด้วยได้มั้ย”

“ได้เลย พ่ออนุญาต” บุญเติมพูดขำ ๆ

“พ่อได้เงินน้อยหน่อยนะ ตัวหารเยอะ”

“พ่อใช้เงินไม่เปลืองหรอก...มากินข้าวเป็นเพื่อนพ่อเถอะ” บุญเติมขยี้หัวลูกชาย

“ตาลคงคิดถึงที่นี่ทุกวันเลย” ขาดคำใบตาลก็ลุกเดินไปมองรูปที่ผนัง

ป้าไขแสงออกจากโรงพยาบาลกลับมาบ้าน พอเปิดประตูห้องนอนตัวเองก็ต้องผงะหงายเมื่อเห็นแม็กซ์และรมณีย์นอนหลับกอดก่ายกันอยู่บนเตียงตน ไขแสงยกมือปิดหน้าปิดตาโวยวายเสียงดังลั่น

“ตายแล้ว แกสองคนมาทำบัดสีอะไรบนเตียงฉัน ลงมาเลย...”

แม็กซ์และรมณีย์ต่างตกใจรีบลงจากเตียงดึงผ้าห่มคนละผืนมาห่อตัวเอาไว้ บัวลอยรีบจีบปากจีบคอพูด

“คุณป้าขา พวกคุณตัวมันกินกันเองแล้วค่ะ”

ป้าไขแสงตวาดใส่บัวลอย แล้วสั่งแม็กซ์กับรมณีย์

“ไปอาบน้ำแต่งตัวซะสิ มายืนห่อทำอะไรอยู่ล่ะ”

แม็กซ์และรมณีย์ต่างเอะใจกับคำพูดของบัวลอย

“ที่เธอพูดหมายความว่ายังไงเหรอ ที่ว่ากินกันเองน่ะ”

“อ้าว ตอนออกหากินไม่เคยสวนกันมั่งเหรอ”

ป้าไขแสงถาม รมณีย์และแม็กซ์หันมาสบตากัน

“อย่าบอกนะว่าพี่นพ...” รมณีย์ตกใจ

“พี่นพที่ไหน มันชื่อไอ้แม็กซ์ คุณมาลีวรรณ ออฟมาจากบาร์ย่ะ” บัวลอยขำ

รมณีย์ถึงกับอึ้ง ยกมือขึ้นปิดปากตกใจมาก แม็กซ์ตกใจเหมือนกัน

“น้ำหวานก็...”

“ถุย...น้ำครำสิไม่ว่า...เอ็งลองเอาเสาเหล็กมาตั้งสิ อีนี่มันเต้นตายเลย” ป้าไขแสงบอก

รมณีย์กรี๊ดด้วยความเจ็บใจ เดินปึงปังออกไปจากห้อง แม็กซ์รีบตามรมณีย์ออกไปจากห้องด้วยความอาย ป้าไขแสงตะโกนไล่หลัง

“อาบน้ำแต่งตัวให้เร็วเลยนะ พวกแกต้องไปเบิกพยานที่ศาล อย่ามาแต่งตัวโป๊ ๆ นะยะ”

“คุณป้าจะนอนพักซักงีบมั้ยคะ”

บัวลอยแกล้งถามให้ถูกด่าเล่น ป้าไขแสงท่าทางขยะแขยง

“อีบ้า...เอ็งทำความสะอาดห้องนอนข้าขนาน ใหญ่เลยนะนังบัวลอย...ผ้าปูที่นอนข้าเนี่ยเอาไปซักแล้วต้ม ต้มแล้วซัก 3 รอบเลย”

“ทิ้งเลยมั้ยคะคุณป้า แค่นี้ก็เปื่อยจะแย่แล้ว”

“ทิ้งทำไม อย่ามาขี้เกียจนะ ซักไปเลยนังบัวลอย ถ้าของข้าขาดจะหักเงินเดือนเอ็ง”

“ซวยกูอีก”

บัวลอยบ่นอุบอิบ ยกมือขึ้นเท้าสะเอว ถอน หายใจอย่างเซ็ง ๆ ป้าไขแสงเดินออกไป

ใบตาลกลับเข้าบ้านอย่างรีบร้อนตรงเข้าห้องนอนตัวเอง หันรีหันขวางก่อนจะเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าเป็นการใหญ่ และไม่ลืมที่จะหยิบหนังสือการ์ตูนเล่มโปรดใส่ไปด้วย

ใบตาลเสียเวลาจัดอยู่นานกว่าจะเสร็จ แล้ววางไว้ข้างเตียง ส่วนตัวเองก็ตั้งท่าจะปีนออกไปทางหน้าต่าง ใบเตยและแสนภูมิเข้ามาในห้อง ตกใจที่เห็นใบตาลยงโย่ยงหยกอยู่ที่หน้าต่าง

“พี่ตาลจะทำอะไร”

“ตาลไม่อยากไปแล้ว”

“เดี๋ยวก็ตกไปขาหักหรอก”

แสนภูมิเตือน ใบตาลก้มมองลงไปนึกเสียว ๆ เหมือนกัน แสนภูมิขยับเข้าไปใกล้ ๆ พูดอย่างรู้ใจว่าใบตาลชอบคำนวณ

“สูงขนาดนี้จะใช้เวลาตกถึงพื้นกี่วินาทีเนี่ย”

ใบตาลอดคิดคำนวณไม่ได้ ทันใดนั้นเองแสนภูมิก็เข้ารวบตัวใบตาลเอาไว้ได้ ใบเตยเข้ามาช่วยยกขาหามใบตาลออกไปจากห้องลงไปคุยกันชั้นล่าง บุญเติมพูดเสียงดุ ๆ

“นี่เจ้าตาล เมื่อวานก็คุยกันรู้เรื่องแล้วนี่... เค้าจะพาแกไปรักษา ไม่ได้เอาไปฆ่าไปแกงซะหน่อย เงินก็ไม่ต้องเสียซักบาท แกจะเอาอะไรอีกวะเจ้าตาล”

“พ่อไม่รักตาลแล้ว พ่อจะไล่ตาล”

“เอ็งไม่ต้องมาเบี่ยงเบนประเด็นเลยเจ้าตาล เจ้าเล่ห์นักนะ พ่อไม่หลงกลแกหรอก”

ใบตาลหน้าจ๋อย ๆ ไปที่พ่อรู้ทันใบเตย เอาน้ำเย็นเข้าลูบ

“พี่ตาล ทำไมพี่ถึงไม่อยากไปแอฟริกาล่ะ รู้มั้ย มีแต่คนเค้าอยากไปเที่ยวกันทั้งนั้น”

ใบตาลพยายามหาเหตุผลต่าง ๆ นานา เพื่อจะได้ไม่ไป

“ไม่จริงหรอก ดำบอกว่ามันมีแต่ป่า มีมนุษย์กินคนด้วย” ใบเตยชำเลืองมองหน้า แสนภูมิช่วยพูด

“ไปเชื่ออะไรดำล่ะ ดำไม่เคยไป หมอลูบาบาเค้าพาตาลไปอยู่ในเมืองไม่ได้ไปอยู่ในป่าซะหน่อย”

แต่ไม่ว่าใครจะพูดยังไง ใบตาลก็บ่ายเบี่ยงอ้างโน่นอ้างนี่จะไม่ยอมไปท่าเดียว บุญเติมชักรำคาญจะใช้ไม้แข็งลงโทษและบังคับ ป้าไขแสงเดินเข้ามาในบ้านรีบห้าม

“ใจเย็น ๆ พ่อบุญเติม ให้ฉันลองคุยกับ เจ้าตาลมันเอง”

ใบตาลเหลือบตามอง ป้าไขแสงเรียกใบตาลให้ลุกออกไปคุยกันในสวนนอกบ้าน ใบเตยและแสนภูมิหันมองหน้ากัน ใบเตยลุ้น ๆ อยากให้พี่ชายได้ไปรักษาตัว

“คุณหมอเค้าเก่งมาก เอ็งไม่ต้องกลัวตาย หรอก เจ็บก็ไม่เจ็บเค้าวางยาสลบ ตื่นมาก็หายแล้ว ไม่เห็นมีอะไรต้องกลัวเลย”

“ตาลต้องไปนานแค่ไหน” ใบตาลถาม

“เดือนเดียวแหละ แป๊บเดียว”

“30 วัน 720 ชั่วโมง 43,200 นาที...เยอะจัง” ใบตาลคำนวณเสร็จตาเบิกโพลงอย่างตกใจ

“พ่อเอ็งเค้าแก่ขึ้นทุกวันแล้วนะตาล อีกไม่กี่ปีถ้าเค้าทำงานไม่ไหวขึ้นมา ใครจะดูแลเค้า จะหวังพึ่งเตยคนเดียวไม่ได้หรอกนะ เพราะเตยเค้าแต่งงานมีครอบครัวออกไปแล้ว...อีกหน่อยกำลังหลักของบ้านต้องเป็นเอ็งนะเจ้าตาล เอ็งเป็นพี่ชายคนโต มีหน้าที่ต้องดูแลพ่อดูแลน้องถึงจะถูก ถ้าเอ็งยังเป็นอยู่อย่างงี้ ตัวเองยังแทบจะเอาตัวไม่รอดแล้วจะไปดูแลคนอื่นได้ยังไง จริงมั้ย”
ใบตาลสีหน้าเคร่งเครียด ใช้ความคิดหนัก ป้าไขแสงลูบหลังลูบไหล่ด้วยความเอ็นดู

“คิดดูให้ดีนะเจ้าตาล ถ้าเอ็งไม่ยอมไป จริง ๆ ก็ไม่มีใครบังคับเอ็งได้หรอก แต่เอ็งก็ต้องเป็นภาระให้พ่อให้น้องต่อไปยังงี้ เอ็งไม่สงสารพวกเค้าเหรอ”

“สงสารมาก ๆ เลย ตาลต้องไปเลยเหรอป้า”

“ช้าที่สุดก็ 3 วัน หมอลูบาบาเค้าต้องกลับแล้ว”

“แล้วตาลจะได้อยู่งานแต่งเตยกับพี่แสนมั้ย”

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะเคยมีเวลาแค่วันเดียว ป้ายังจัดงานแต่งให้พวกมันมาแล้วเลย”

“จริง ๆ นะป้า....”

“ข้าจะโกหกเอ็งทำไม”

“งั้นเสร็จงานแต่งเตยแล้วตาลไปก็ได้ป้า”

“พูดง่าย ๆ ยังงี้สิ ถึงจะเป็นเด็กดี”

“ผ่ากบาลเสร็จต้องกลับเลยนะป้า”

“ไม่ต้องห่วง หายปุ๊บกลับปั๊บเลย”

“ตาลรักคุณป้าที่สุดเลย”

ใบตาลยิ้มอย่างสบายใจ แล้วกอดป้าไขแสงเอาไว้อย่างมันเขี้ยว ป้าไขแสงจักจี้ดิ้นหลุดได้ก็ถีบส่งใบตาล จนล้มคะมำไปกับพื้นด้วยความเอ็นดู

สองวันต่อมา ป้าไขแสงก็จัดงานแต่งงานด่วนให้ใบเตยกับแสนภูมิอีกครั้ง หมอวิเวกเป็นต้น เสียงโห่...ทุกคนฮิ้วรับแล้วก็รำกันเฉิบ ๆ ไปกับขบวนขันหมาก ป้าไขแสงกับหมอลูบาบารำไปด้วยกัน ส่วนบัวลอยและดำวาดลวดลายรำประชันกันแบบสู้ตายไม่มีใครยอมใคร ใบตาลรำป้อไปรอบ ๆ ไม่สนว่าตัวเองเป็นญาติเจ้าสาว

หมอวิเวก และจอมขวัญเป็นคนถือพานใส่สินสอดทองหมั้นเดินนำหน้าแสนภูมิที่มีสีหน้ายิ้มแย้มเต็มไปด้วยความสุข

ใบเตยในชุดเจ้าสาวสวยหวานนั่งให้ช่างแต่งหน้าช่างทำผมดูแลความเรียบร้อย บุญเติมเดินเข้ามาดูเห็นเรียบร้อยดีก็พูดอย่างอารมณ์ดี

“ขบวนขันหมากมาถึงหน้าบ้านแล้วนะ...พี่ชายเจ้าสาวดันไปรำเฉิบ ๆ อยู่หน้าขบวนขันหมากซะแล้ว”

“พี่ตาลคงสนุกน่าดู”

“เต็มที่เค้าล่ะ”

“ไม่รู้คุณแสนเค้าจะจัดงานอีกทำไมให้สิ้นเปลือง กลางคืนต้องมีงานเลี้ยงอีก”

“ก็เค้ารักเรา อยากแสดงความจริงใจว่ารักเราจริง ๆ ไม่ใช่แต่งเพราะความจำเป็น คุณแสน ให้เกียรติเราขนาดนี้น่าจะภูมิใจนะลูก...เค้าเป็นคนมีหน้ามีตา แขกเหรื่อเค้าก็เยอะ แต่งเงียบ ๆ ไม่ได้หรอก”

“เตยจะปรับตัวเข้ากับเค้าได้รึเปล่าก็ไม่รู้นะคะพ่อ”

บุญเติมยิ้มแย้มให้ความมั่นใจกับลูกสาว

“ได้สิลูก ความรักที่ลูกสองคนมีให้กันจะ พาลูกผ่านปัญหาทั้งหมดไปได้เองแหละอย่าเพิ่งกังวลไปเลย” ใบเตยยิ้ม เธอรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาก

เมื่อขบวนขันหมากมาหยุดที่หน้าบ้าน บัวลอย ดำ และใบตาล เปลี่ยนสถานะจากฝ่ายเจ้าบ่าวมาเป็นฝ่ายเจ้าสาวกั้นประตูเงินประตูทองกันวุ่นวาย จนป้าไขแสงรำคาญ

“พวกเอ็งตามไปกั้นในส้วมต่อเลยไป กั้นซ้ำกั้นซากอยู่นั่นล่ะ”

“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณป้า วันมงคลอย่า อารมณ์เสียสิครับหนุก ๆ”

พูดจบแสนภูมิกำลังจะหยิบซองเงินจ่ายค่าผ่านประตู ใบตาลก็ปล่อยปลายเข็มขัดที่ถือ ป้า ไขแสงดันหลังแสนภูมิเข้าไปทันที

พิธีแต่งงานผ่านไปอย่างเรียบง่ายตามสไตล์ของป้าไขแสง เช้าวันรุ่งขึ้นทุกคนเตรียมตัวไปส่งหมอลูบาบาและใบตาลเดินทางไปแอฟริกา ใบตาลในชุดสูทอย่างหล่อเดินคล้องแขนใบเตยออกมาจากบ้าน โดยบุญเติมเดินตามหลังออกมา บัวลอยกับ ดำถึงกับกรี๊ด

“โอ้โห ไอ้ตาล หล่อเป็นลูกเศรษฐีเลยโว้ย” ป้าไขแสงทัก

“ก็เดี๋ยวนี้เค้าเป็นพี่ชายเมียเศรษฐีแล้วนี่ครับคุณป้า”

หมอวิเวกพูดแซว ทำเอาทุกคนหัวเราะเฮฮา บัวลอยกับดำเอาพวงมาลัยมาสวมคอและสวมข้อมืออวยพรให้ใบตาล

“เดินทางปลอดภัยหายกลับมาไว ๆ นะตาล” บัวลอยอวยพร

“ขอบใจนะบัวลอย”

“หายกลับมา หาเมียไม่ได้บอกเจ๊นะ”

“อีเจ๊ มาใกล้ ๆ ตีนข้านี่มา”

ป้าไขแสงเบรก ดำหน้าจ๋อยถอยออกห่างรัศมีเกือก บุญเติมพูดฝากฝังลูกชายกับหมอลูบาบาให้ช่วยดูแลใบตาล แล้วทุกคนก็ขึ้นรถตู้ไปสนามบิน

หลายวันผ่านไปที่บ้านพักตากอากาศชาย ทะเล ใบเตยกับแสนภูมิฮันนีมูน แสนภูมิยืนไกวชิงช้าที่ผูกกับกิ่งไม้ใหญ่ให้ใบเตยนั่งเล่น เธอเอ่ย ถามเขา

“ตอนนี้คุณหายสนิทไม่ได้ยินเสียงความคิดใครซักนิดเลยเหรอ”

“ก็พอได้ยินอยู่บ้าง แต่วูบ ๆ วาบ ๆ สบายหูขึ้นเยอะ”

“คงใกล้หายแล้วล่ะจะว่าไปคุณก็โชคดีนะ ได้มีโอกาสรู้ใจคนรอบ ๆ ตัวว่าใครบ้างที่จริงใจกับคุณกันแน่”

“ก็ไม่โชคดีนักหรอก อย่างที่ผมเคยบอก บางครั้งมันก็ช้ำใจมากนะที่ได้ยินเสียงในใจของคน ที่เรารักเราให้ใจแต่เค้ากลับไม่ได้จริงใจกับเรา หวังประโยชน์จากเรามากกว่า”
“หมายถึงคุณสกัดกับคุณมาลีวรรณใช่มั้ย”

แสนภูมิพยักหน้ารับ พร้อมกับถอนหายใจ

“ที่เค้าว่าอย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง นี่มันอมตะจริง ๆ นะ”

“รู้หน้าไม่รู้ใจ...ความจริงใจนับวันยิ่งหายากขึ้นทุกที...ก็มีแต่คุณป้านี่ล่ะ ใคร ๆ เกลียดแกว่าแกปากร้ายแต่ป้าคือคนที่ปากกับใจตรงกันที่สุด”

“แล้วเตยล่ะ” ใบเตยโพล่งถาม

“ก็ตรงนะ แต่ไม่ทั้งหมด แต่ก็พอคบได้”

ใบเตยงอนเข้าทุบแสนภูมิด้วยกำปั้นเบา ๆ

“ลองคบไม่ได้สิ...ไหนลองอ่านใจเตยสิว่ามีความลับอะไรปิดบังคุณอยู่”

แสนภูมิพยายามใช้สมาธิ แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงในความคิดของเธอ

“ไม่ได้ยินแล้ว บอกมาเลย”

“ไม่บอก”

ใบเตยลงจากชิงช้าเดินหนีไปทางหาดทราย แสนภูมิวิ่งตามไปกอดแล้วจี้เอวบังคับให้บอก

“ยอมแล้ว ๆ....เตยท้อง...”

ใบเตยบอกอย่างอาย ๆ แล้ววิ่งไปตามหาดทราย เขาวิ่งตามทันกอดเอาไว้หลวม ๆ

“จริงเหรอ....อยากได้ลูกชื่อน้องทะเล หรือน้องชายหาดดีครับ” แสนภูมิยิ้มอย่างดีใจ

“ทะลึ่ง”

“โยนลงทะเลซะเลยดีมั้ย”

แสนภูมิตั้งท่าจะโยนใบเตยลงทะเล ใบเตยร้องห้าม

“จะฆ่าลูกรึไง” ใบเตยทำท่างอน ๆ

“ตกลงท้องจริง ๆ เหรอ”

“อยากรู้ก็อ่านใจเอาเองสิ”

พูดจบใบเตยก็วิ่งหนีอีกพร้อมแกล้งท่องสูตรคูณแม่สองปิดบังความคิดไปดัง ๆ แสนภูมิเจ็บใจที่เขาอ่านความคิดเธอไม่ได้แล้ว จึงไม่รู้ว่าท้องจริงหรือไม่ เขามันเขี้ยววิ่งไล่กวดตามใบเตยไป ทั้งสองหัวเราะร่าเริงสนุกสนานวิ่งไล่กันไปตามความยาวของหาดทรายอย่างสนุกสนานจนไกลลับตาพร้อมกับเสียง หัวเราะครึกครื้นดังตามมาให้ได้ยิน

จบบริบูรณ์

เครดิต //www.dailynews.co.th




 

Create Date : 24 สิงหาคม 2552
1 comments
Last Update : 24 สิงหาคม 2552 13:19:51 น.
Counter : 1095 Pageviews.

 

เรื่องนี้ชอบพี่นุ่นมากที่สุด
พี่นุ่นแสดงได้เป็นธรรมชาติมาก
พี่วุฒก็ชอบ

 

โดย: รักกก IP: 127.0.0.1, 61.19.97.68 1 กันยายน 2552 12:54:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

Heavenworth
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ
[Add Heavenworth's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com