<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
13 ธันวาคม 2552
 
 

ละคร สูตรเสน่หา ตอนอวสาน

ตอนอวสาน
"นี่อย่าเพิ่งพูดมากได้มั้ย ไอ้ดินมันพาแม่มันหนี มีคนใช้ได้ยินมันบอกว่าจะพาไปหานังอลิน รีบเช็กแล้วโทร.มาบอกด้วย ผมกับตำรวจจะได้ไปดักรอมัน"

"ได้ๆ เดี๋ยวหมิงเช็กให้ รับรองไม่เกินสองนาที ลมจะได้รู้ว่าตอนนี้นังอลินมันอยู่ที่ไหน" หมิงกระเหี้ยนกระหือรือ ไม่รู้ว่าถูกหลอกเข้าจังเบอร์...

แล้วไม่ช้าไม่นาน วายุก็ขับรถไปดักจับตัวอลินแถวหน้าบริษัทอวตาน โดยใช้ปืนขู่อลินให้ขึ้นรถแล้วมุ่งหน้าออกไปด้วยความเร็ว พสุกำลังติดต่อโสภิตาหลังรู้ตัวฆาตกรจากตำรวจ พอได้ยินโสภิตาบอกว่าอลินยังมาไม่ถึง ทั้งที่เมื่อครู่อลินโทร. มาบอกว่าจะถึงอยู่แล้ว พสุเริ่มใจคอไม่ดี บอกโสภิตาว่าเขาจะรีบไปหาเดี๋ยวนี้ ให้โสภิตาเดินออกไปดูอลินที่หน้าบริษัทด้วย...

ในรถวายุที่กำลังเร่งความเร็วเต็มเหยียด อลินโวยวายเอ็ดตะโรจนวายุแสบแก้วหู

"นาย จะไปไหน แล้วนึกบ้าอะไร หรือผีเข้าถึงได้มาจับตัวอย่างนี้ รู้หรือเปล่าว่ามันผิดกฎหมาย ลักพาตัว บังคับ ขู่เข็ญให้ผู้อื่นทำโดยไม่เต็มใจ คุกเห็นๆ ผิดอย่างนี้ถึงจะสารภาพก็น่าจะห้าปีเป็นอย่างน้อย แต่ถ้าสำนึกตัวพาฉันไปส่งที่เดิม ฉันจะไม่เอาเรื่อง ยังมีสิทธิ์พ้นคุก"

"พ้นเหรอ? ถึงฉันพาเธอไปส่ง ยังไงๆตำรวจก็ต้องตามตัวฉันเข้าคุกอยู่แล้ว เพิ่มอีกสักคดีจะเป็นไรไป"

"ตำรวจตามจับนาย? คดีอะไร ฉ้อโกง ปลิ้นปล้อน ตอแหล หลอกลวง?"

"ฆาตกรรม ฉันเป็นคนฆ่าแม่ใหญ่ ฉันเป็นฆาตกร" อลินผวาเฮือก ทวนคำว่า...แกฆ่าคุณนายใหญ่ "เออ ฉันไม่ได้ตั้งใจ"

"ไม่ตั้งใจฆ่า หรือไม่ตั้งใจให้ตำรวจรู้"

"ไม่ตั้งใจฆ่าเว้ย มันแค่ชั่ววูบเท่านั้น ไม่รู้คิดอะไร ไม่รู้ทำอะไรลงไป"

"แก้ ตัวน้ำเน่า คนเรามีหรือทำอะไรไม่รู้ รู้แต่ไม่รับมากกว่า พวกสันดานไม่รับผิดชอบก็อย่างนี้แหละ พอโดนจับได้ก็มีข้ออ้างสารพัด บอกปัดหน้าด้านๆ เรื่องแบบนี้พูดให้เด็กอมมือฟังเด็กยังไม่เชื่อ"

อลิ นใส่เป็นชุด วายุกัดฟันกรอด จ่อปืนขู่อลิน "หยุดพูดได้แล้ว แกเป็นตัวประกันนะ ไม่ใช่แม่ ถึงมีสิทธิ์มาสั่งสอนฉัน แล้วก็จำไว้นะ ขนาดแม่ใหญ่ฉันยังฆ่ามาแล้ว นับประสาอะไรกับนังดาราปากกรรไกร พูดมากนักเดี๋ยวก็จะโดนระเบิดสมองกองอยู่ตรงนี้ ถ้ายังไม่อยากตายก็หุบปาก เงียบ!"

อลินจำต้องปิดปาก ในใจเริ่มคิดหาวิธีเอาตัวรอด

ooooooo

หมิ งเพิ่งได้รับการติดต่อจากอี่ว่าวายุคือฆาตกรฆ่าแม่ใหญ่ หมิงกรี๊ดกระจายก่อนจะลำดับเรื่องราวหลายครั้งที่วายุมีพิรุธ และล่าสุดก็เพิ่งบอกว่านงพะงาคือฆาตกร แล้วยังอยากรู้ว่าอลินอยู่ที่ไหน?

โส ภิตาส่งข่าวพสุว่าอลินยังไม่มา ทีมงานรอถ่ายรายการ ปกติอลินไม่เคยมาสาย พสุได้ฟังยิ่งร้อนใจ วางสายจากโสภิตาแล้วโทร.หาอลินทันที...เสียงมือถืออลินดัง วายุกดรับเอง ทันใดอลินก็ตะโกนขอความช่วยเหลือจากพสุ บอกว่าลินถูกไอ้ฆาตกรจับตัวมา...พสุหน้าซีด ตั้งสติจะพูดกับวายุที่ได้ยินตวาดอลินให้หุบปาก

"คุณลม...คุณอยู่ที่ไหน ผมว่าคุณอย่าทำอะไรให้มันมากไปกว่านี้เลย กลับมาสู้คดีดีกว่า คุณฟ้าเตรียมทนายไว้ให้คุณลมแล้ว"

"เตรียม ทนายมาจับกูยัดเข้าคุกน่ะสิ มากล่อมแบบนี้ คิดว่ากูโง่หรือไง กูไม่กลับเว้ย แล้วกูก็จะเอานังนางเอกนี่ไปด้วย ถ้ามึงอยากได้ตัวคืนก็โอนเงินมาให้กูยี่สิบล้าน"

"ยี่สิบล้าน...จะบ้าหรือเปล่า ค่าตัวฉันยี่สิบล้านเนี่ยนะ ถูกไปหรือเปล่ายะ" อลินโวย พสุรีบตะโกนบอกอลินอยู่เฉยๆ อย่าเพิ่งพูดอะไร

"หุบปากไปเลยอีนี่ พูดมากนัก เดี๋ยวยิงไส้ทะลุ อยากมีรูปไส้ทะลักพุงอืดขึ้นหน้าหนึ่งหรือไง"

"ปากจัด ผู้ชายอะไรปากจัดที่สุด กะเทยสามชาติยังสู้ไม่ได้เลย"

พสุได้ยินแล้วหนักใจ เรียกอลิน...แล้วย้ำกับวายุว่ากลับตัวตอนนี้ยังทัน

"ไม่ กูไม่กลับ มึงไม่มีหน้าที่มาสั่งกู รีบไปเตรียมเงิน ในเมื่ออีนี่บอกว่ายี่สิบล้านมันน้อยไป ก็เตรียมไว้ร้อยล้าน แล้วกูจะบอกอีกทีให้เอาเงินไปให้ที่ไหน" พูดจบวายุก็ปิดมือถือทันที แล้วโยนมันทิ้งข้างทาง อลินเสียดายโวยวายลั่นรถ

"นี่นาย...ทิ้ง โทรศัพท์ฉันไว้ข้างทางแบบนี้ได้ยังไง เกิดมีใครมาเก็บไปแล้วเปิดเอารูปฉันออกมาจะทำไง ฉันถ่ายไว้ตั้งเยอะ นี่ดีนะที่ไม่มีภาพหรือคลิปวาบหวิว ไม่งั้นต้องโดนปล่อยทางเน็ตแน่ เครื่องนึงซื้อมาก็ตั้งหลายหมื่น ไหนจะที่ห้อยโทรศัพท์เพชรสั่งทำพิเศษอันนึงตั้งเกือบแสน"

"เกือบแสน...แล้วทำไมไม่บอก" วายุตาเหลือก

"ทันซะที่ไหนล่ะ มือไวยังกะลิง...สมน้ำหน้า แทนที่จะได้เงินอีกสักเจ็ดแปดหมื่น อด!"

"อี่ นี่วอนจริงๆ เกิดมาไม่เคยโดนลักพาตัวใช่มั้ยเนี่ย ถึงไม่รู้ต้องทำตัวยังไง พูดออกมาแต่ละคำวอนตายจริงๆ" วายุ ตะคอกใส่อย่างเหลืออด อลินปรายตามองแอบกลัว แต่ลึกๆมั่นใจว่าไม่มีใครทำอะไรคนอย่างเธอได้

ด้าน พสุติดต่ออลินอีกไม่ได้จึงโทร.หาโสภิตา อนุชายืนอยู่ด้วย พอรู้ว่าอลินถูกวายุจับตัวไป อนุชาแนะนำให้รีบแจ้งความก่อนที่เรื่องจะบานปลาย เขาเองก็ติดต่อกับตำรวจที่เป็นเพื่อนพ่อให้ช่วยส่งคนออกตามหาอลิน

ปฏิคม แตกตื่นตกใจเมื่อพสุโทร.บอกข่าวร้ายอลินถูกวายุจับตัวเรียกค่าไถ่ร้อยล้าน ...ปฏิคมจะรีบไปหาพสุ แต่พสุวานให้เขาไปส่งข่าวที่บ้านบริบรรณก่อน เมื่อพวกนภารู้เรื่องก็แทบเป็นลม แต่นภาก็ไม่เห็นแก่วายุ สั่งเมฆาโทร.หาผู้กำกับพงษ์ศักดิ์ที่ดูแลคดีแล้วเล่าให้เขาฟังทั้งหมด เขาจะได้หาทางช่วยสกัดวายุ อย่าให้ทำร้ายอลิน ถ้าจะต้องใช้ความรุนแรงก็ให้เขาพิจารณาจัดการไปได้เลย ไม่ต้องเกรงใจทางเรา ทุกอย่างสุดแท้แต่บุญแต่กรรม

วารินได้ยินดังนั้นก็ขนหัวลุก โกรธน้องชายที่ก่อเรื่องไม่หยุด กลัวตัวเองจะโดนหางเลขไปด้วย จึงแอบโทร.จองตั๋วเครื่องบินหลบไปฮ่องกงวันนี้เลย

ooooooo

ปฏิคม รีบมาสมทบกับพสุ โสภิตา และอนุชาที่บริษัท พสุนึกได้ปฏิคมเคยบอกว่าอลินมีมือถือสำรองหลายเครื่องน่าจะลองโทร.ไป ปฏิคมไม่เห็นด้วย กลัววายุรู้แล้วจะโดนยึดหมด ควรรอให้อลินติดต่อกลับมาเองดีกว่า

"แต่ลมเขามีปืน คุณลินคงไม่มีโอกาสติดต่อมาง่ายๆ"

"เหอะ น่า รู้จักคุณลินน้อยไป ฤทธิ์แม่ขนาดนั้น แกอย่าห่วงเลย คุณลินทำได้ทุกอย่าง" ปฏิคมพูดยิ้มๆดูไม่กังวล ในขณะที่พสุเครียดจนสมองจะระเบิด

แล้วอลินก็ออกฤทธิ์จริงๆ เธอควานหามือถืออีกเครื่อง ในกระเป๋าสะพายแล้วแอบกดหาปฏิคม ก่อนจะแกล้งพูด

เสียง ดังกับวายุว่าเธอหิวมาก ขอร้องให้จอดรถหาอะไรกินแถวๆหนองจอกนี่ก็ได้...พวกปฏิคมได้ยินชัด ตั้งใจฟังกันต่อไปจนรู้ว่าวายุจะพาอลินออกชายแดนเขมร

"นี่นายจะพาฉันออกนอกประเทศเหรอ อย่าบอกนะว่าจะพาฉันไปขาย"

"ฉัน จะขายทำไม เธอรวยเป็นพันล้านไม่ใช่เหรอ ระหว่างทางฉันจะหาอำเภอเล็กๆไกลๆ ฉันจะจับเธอจดทะเบียนสมรสกับฉัน แล้วฉันก็จะได้สมบัติทั้งหมดของเธอในฐานะสามี"

อลินหน้าเสียผวาเฮือก วายุหัวเราะสะใจ ด้านพสุทนไม่ไหวคว้าโทรศัพท์ลุกพรวด บอกทุกคนว่าเขาจะไปตามหาอลิน เปิดโทรศัพท์ทิ้งไว้แบบนี้อลินคงจะบอกทางไปเรื่อยๆ ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องตามให้ทัน

"งั้นฉันไปด้วย เอารถฉันไป" ปฏิคมลุกตาม...อนุชารีบบอก

"เดี๋ยวผมจะให้ข้อมูลกับทางตำรวจเพิ่มเติม ถ้าคุณสองคนได้เบาะแสเพิ่มเติมก็รีบบอกผม ผมจะประสานกับทางตำรวจให้"

สอง หนุ่มพยักหน้ากับอนุชาก่อนพากันออกไป โสภิตาขอบคุณอนุชาที่ช่วยพสุ แล้วเธอก็ยิ้มบางๆ เมื่ออนุชาบอกว่า เพื่อนคุณก็เหมือนเพื่อนผม...

พสุ กับปฏิคมออกรถอย่างเร่งรีบ และคอยฟังเสียง อลินทางโทรศัพท์ไปเรื่อย อลินโวยวายใส่วายุไม่ยอมจดทะเบียนสมรสกับเขา คนเดียวที่เธอจะจดทะเบียนด้วยคือครูกุ๊กเท่านั้น วายุหมั่นไส้ตวาดอลินเลิกฝันถึงไอ้ลูกคนใช้ได้แล้ว อย่าหวังว่าจะได้กลับไปเห็นหน้ามัน ตอนนี้มันรวยแล้ว มันมีเงิน มันไม่สนใจผู้หญิงอย่างอลินหรอก

"ทำไม ผู้หญิงอย่างฉันเป็นยังไง ฮึ"

"บ้า พูดมาก หลงตัวเอง อย่างเธอมันต้องเจออย่างฉัน มันถึงจะคู่ควร"

"ไม่ ฉันไม่มีวันจดทะเบียนกับนาย ยิ่งไปจดอำเภอไกลๆเงียบๆไม่เอิกเกริกฉันยิ่งไม่จด"

"ถ้า ไม่จด งั้นก็เข้าหอเลยแล้วกัน ถึงโรงแรมเมื่อไหร่ เธอจะได้รับเกียรติเป็นเมียฉันโดยไม่ต้องจดทะเบียน แล้วฉันก็จะถ่ายคลิปเก็บไว้แบล็กเมล์ ไถเงินพันล้านจากเธอจนหมดตัว"

พสุยิ่งฟังยิ่งแค้น เร่งปฏิคมให้เร็วๆกว่านี้ได้ไหม ปฏิคมบอกนี่ก็เร็วอยู่แล้ว ใจเย็นๆ คุณลินไม่เป็นไรหรอกน่า...อลินยังทะเลาะกับวายุไม่เลิกรา แล้ววกเข้าประเด็นเรื่องหิวและเอ่ยชื่อเส้นทางเป็นระยะเพื่อให้ปฏิคมตามถูก

วายุ ทนฟังเสียงแหลมๆของอลินไม่ไหว กระแทกด้ามปืนเข้าข้างแก้มอลินจนร้องลั่น พสุกับปฏิคมตกใจ มั่นใจว่าอลินถูกทำร้าย พสุออกอาการโกรธแค้นวายุอย่างมาก ส่วนอลินแม้จะกลัวแต่ก็ยังพยายามถ่วงเวลาเอาไว้

หมิงเข้ามาที่บ้านบ ริบรรณ เป็นเวลาที่วารินกำลังขึ้นแท็กซี่จะไปสนามบิน วารินไม่ทักหมิง เร่งแท็กซี่ออกรถ หมิง เลยวิ่งเข้าบ้านมาถามอี่ อยากรู้ความจริงเป็นยังไง พอรู้ว่าวายุจับอลินไปแน่ และตอนนี้ตำรวจก็กำลังออกตามหาให้ควั่ก หมิงถึงกับขาแข้งอ่อน ทรุดลงฟูมฟายน้ำตา...

อลินเองก็ยังร้องไห้ไม่ หยุด บ่นหิวแสบท้องแสบไส้ โรคกระเพาะเล่นงานแน่ วายุรำคาญจึงจอดรถจะแวะกินก๋วยเตี๋ยวริมถนน แต่อลินเรื่องมากติโน่นตินี่เพื่อถ่วงเวลา หนักเข้าวายุเลยเปลี่ยนใจไม่กิน ขู่อลินให้กลับขึ้นรถ ถ้าไม่อยากกินลูกปืนแทนข้าว

ขณะจะขึ้นรถออก เดินทางต่อ วายุได้ยินเสียงสัญญาณดังจากกระเป๋าอลิน อลินใจหายวาบ แต่พยายามทำไก๋ว่าไม่มีอะไร วายุไม่เชื่อกระชากกระเป๋าอลินมาค้น แล้วก็เจอมือถืออีกเครื่องที่หน้าจอดับไปแล้ว...ปฏิคมรีบบอกพสุว่ามือถืออลิ นแบตฯหมด เมื่อกี้มันส่งเสียงเตือน แต่รับรองว่าวิชามารของอลินต้องเอาตัวรอดได้ชัวร์

อลินกำลังแก้ตัว กับวายุที่ขึงขังเอาเรื่องว่า เสียงดังที่ได้ยินเป็นเสียงที่เธอตั้งเตือนให้กินข้าวตอนสี่โมงเย็น วายุ ไม่เชื่อด่าอลินแล้วปาโทรศัพท์ลงไปในคูน้ำ...อลินกรี๊ดกระจาย

"นี่...โทรศัพท์ฉันไม่ใช่ถูกๆนะ ปาไปสองเครื่องแล้วนะ"

"แล้วไง เธอมีอีกหรือเปล่าล่ะ ถ้ามีอีก ฉันก็จะทิ้งอีก ไหนดูสิ มีอีกหรือเปล่า"

"นี่อย่ามารื้อของของฉันนะ"

วายุ ไม่สนหยิบของโน่นนี่ออกมาดู อันไหนพอจะมีราคาก็โยนไว้ในรถ พวกเครื่องสำอางเอาปาทิ้งออกไป อลินเสียดายแทบดิ้นตาย วายุเจอปากกาด้ามทองสลักชื่อภาษาอังกฤษแปลว่าสาวน้อยของครูกุ๊ก เลยปาทิ้งลงโคลนด้วยความหมั่นไส้ ทันใดนั้นวิญญาณจีจ้าบวกกับจาพนมก็สิงร่างอลินทันที อลินฟาดฝ่ามือรัวใส่วายุจนนับไม่ถ้วน ตีไปด่าไปด้วยความโกรธแค้น

"แกมาทำลายข้าวของฉันได้ยังไง แกรู้หรือเปล่า ว่าปากกาด้ามนี้มันมีค่าแค่ไหน"

"โอ๊ย...อีบ้า เกิดเฮี้ยนอะไรขึ้นมา โอ๊ยๆๆ"

อลินไม่ฟังเสียงตะปบทั้งเล็บทั้งมือ คว้ากระเป๋ามาฟาดต่อ วายุเจ็บร้องเจี๊ยก

"ฉัน ยอมแกมามากแล้ว เห็นฉันเป็นผู้หญิงแล้วจะมารังแกง่ายๆหรือไง นี่ๆๆ ปาทิ้งปากกาคู่ของฉันกับครูกุ๊กได้ยังไง มันเป็นลางไม่ดี มันจะไม่ได้อยู่คู่กัน แกทำแบบนี้เท่ากับแช่งไม่ให้ฉันได้กับครูกุ๊ก ฉันจะฆ่าแก"

อลินบ้าระห่ำแย่งปืนจากมือวายุสำเร็จก็จ่อที่เป้ากางเกง พร้อมกับเหนี่ยวไกยิงทันที แต่เสียงปืนดังแชะ วายุหน้าซีด อลินยิงอีกทีก็เหมือนเดิมอีก

"นี่แกเอาปืนไม่มีลูกมาขู่ฉันเหรอ ไอ้ลูกเจี๊ยบ" อลินโยนปืนทิ้งด้วยความโมโห แล้วจะตะปบวายุต่อ วายุฮึดสู้ พยายามบีบคออลิน แต่แล้ววายุกลับเห็นใบหน้าอลินกลายเป็นแม่ใหญ่ วายุตกใจผลักอลินล้มลง แล้ววิ่งไปที่รถอย่างหวาดกลัว

"ฉันไม่เอาเธอ ไปด้วยแล้ว จะไปไหนก็เชิญ เชิญไปอยู่กับไอ้ดินตามสบาย ผู้หญิงอย่างเธอฉันไม่เอาไปให้หนักรถหรอก เกิดมาไม่เคยเจอ ผู้หญิงเปรตอะไรไม่รู้ กูไม่เอาไปด้วยแล้ว พอกันที"

วายุขึ้นรถไป แล้ว อลินตะเกียกตะกายวิ่งตาม พลางก็ร้องด่าที่ถูกปล่อยทิ้งข้างถนน ทั้งที่ไม่มีโทรศัพท์ติดต่อใครได้ แต่เดี๋ยวเดียวสติก็คืนมา ค่อยๆกระย่องกระแย่งลงบ่อโคลนจะไปหยิบปากกาที่วายุปาทิ้ง ระหว่างนี้เองปฏิคมกับพสุขับรถผ่านมาเห็น สองหนุ่มลงจากรถเรียกอลินเป็นเสียงเดียว อลินลืมตัวนึกว่าอยู่บนบกหันมาจะวิ่งไปหา แต่ขาติดโคลนยกไม่ขึ้น ล้มคะมำหน้าจิ้มโคลนเต็มเปา แล้วยักแย่ยักยันลุกขึ้นแผดเสียงเหมือนเด็กขอความเห็นใจ พสุกับปฏิคมเห็นแล้วไม่แน่ใจว่าจะสงสารหรือขำดี

พสุถอดรองเท้าลุยลงไปหาอลินที่ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูกด้วยความขยะแขยง...เห็นพสุจะอ้าปากถาม อลินสั่งเฉียบ

"ยังไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น รีบพาฉันออกไปจากโคลนนรกนี่เดี๋ยวนี้"

"ครับ...คุณนาย"

อลินดีใจที่ครูกุ๊กคนเดิมของเธอกลับมาแล้ว...ฉีกยิ้มอยู่ในวงแขนของเขาทั้งที่หน้าตามอมแมมไปด้วยโคลนเหม็นๆ
อนุชากับโสภิตาโล่งใจหลังได้รับการติดต่อจากพสุว่าเจอตัวอลินแล้ว วายุทิ้งเธอไว้ข้างทาง...จากนั้นอนุชาจึงประสานกับทางตำรวจให้ช่วยสกัดจับวายุ แล้วไม่นานวายุก็ถูกจับคาด่านตรวจ ส่วนอลินที่เนื้อตัว มอมแมม พสุกับปฏิคมต้องแวะโรงแรมเล็กๆริมทางให้เธออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่
ระหว่างรออลิน ปฏิคมขอล่วงหน้าไปโรงพักกับตำรวจก่อน แล้วพสุค่อยพาอลินตามไปชี้ตัววายุด้วยรถของเขาที่ทิ้งไว้ให้...เมื่ออลินเสร็จเรียบร้อยสวยเด้งเหมือนเดิมแล้ว พสุถามอลินเป็นยังไงบ้าง อลินนึกว่าตอนลุยลงไปในโคลน เลยอธิบายด้วยท่าทีสยองพองขนจนพสุต้องรีบขัด
"ผมไม่ได้ถามเรื่องที่คุณลงไปลุยโคลน แต่ถามว่าเป็นยังไงบ้างที่โดนจับตัวไป ได้รับบาดเจ็บหรือเป็นอะไรหรือเปล่า"
อลินร้องอ๋อ...แล้วก็เล่าพร้อมกับออกอาการกลัวสุดๆ ตัวสั่นงันงก...พสุรู้ไส้รู้พุงขัดขึ้นทันที
"เยอะไปแล้ว...ถ้าคุณทำอะไรไม่ถูกจริงๆ คุณลมคงไม่เอือมจนปล่อยคุณลงจากรถหรอก"
"เอาน่า ฉันจะเป็นยังไงก็ช่างเหอะ เอาเป็นว่า...ที่ถามเพราะเป็นห่วงฉันใช่มั้ยล่ะ"
"ก็นิดหน่อย รู้สึกไม่ดีมากกว่า เพราะคนที่จับตัวคุณไปเป็นญาติผม ผมเป็นต้นเหตุทำให้คุณต้องเดือดร้อน ถ้าคนร้ายเป็นคนอื่น ผมคงไม่เป็นห่วง เพราะรู้ว่าคุณเอาตัวรอดได้ สบายมาก"
อลินปรายตามองพสุเคืองๆ แอบบ่นกระปอดกระแปด "แหม พูดซะยาว ยอมรับมาซะว่าเป็นห่วงก็สิ้นเรื่อง จะพลิ้วไปไหนเนี่ย"
"อะไรๆบ่นอะไร หยุดบ่น แล้วรีบไปโรงพักได้แล้ว คมกับตำรวจรออยู่ อ่ะนี่ ปากกา" พสุโยนปากกาคืนให้ อลิน รีบรับด้วยความตกใจ
"ว้าย ครูกุ๊ก โยนมาได้ยังไง เกิดฉันรับไม่ทันตกไปหักจะทำยังไง" พสุทำไม่สนเดินไปที่รถ อลินแอบด่าลับหลัง "นี่ถ้าเป็นคนอื่นทำแบบนี้ แม่จะด่าให้ลืมสัญชาติไปเลย"
อลินเดินหน้าง้ำตามมา แต่พอพสุหันกลับมาถามว่าปากกาด้ามนี้มันสำคัญกับคุณขนาดนั้นจริงๆเหรอ อลินถึงกับฉีกยิ้มเต็มหน้า
"แน่นอน ฉันตั้งใจทำไว้คู่กับปากกาของครูกุ๊กเลยนะ คุณป้าเล็กท่านเป็นคนเชื่อเรื่องโชคลาง ท่านสอนเสมอว่าของที่ทำคู่กัน ห้ามทำหายและห้ามทำหัก ถึงจะอยู่ห่างกันก็ต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ แล้วสักวันนึงมันจะทำให้คนที่เป็นเจ้าของได้มาอยู่ด้วยกัน เหมือนฉันกับครูกุ๊ก สักวันนึงเราก็คงจะ..."
"ไปโรงพักได้แล้ว ตำรวจรอชี้ตัว แล้วก็ทำแผนประกอบคำให้การ ทำธุระเรียบร้อยแล้วจะได้รีบกลับบ้าน" พสุแทรกขึ้นมาซะอลินหมดมูด อ่อนใจกับความใจแข็งของเขาเสียจริง
อีกครู่ต่อมา พสุกับอลินถึงโรงพัก อลินเดินขึ้นมาได้ยินเสียงวายุโวยวายลั่นห้องขังว่าไม่อยากเจอนังจิ้งจอกพันหน้า อย่าให้มันมาที่นี่ ไม่อยากเจอมัน...อลินปรี๊ดทันที ตะเบ็งเสียงถามวายุว่า
"ทำไม เจอฉันแล้วมันเป็นยังไง?"
วายุสะดุ้ง มองอลินที่เดินนำหน้าพสุกับปฏิคมเข้ามา หน้าตาเธอขึงขังเตรียมเหวี่ยงเต็มที่
"ฉันจะบอกให้นะ เวรกรรมที่นายจับตัวฉันไปตกระกำลำบากจะต้องติดตัวนายไปตลอดชีวิต พอตายไปตกนรกก็ต้องไปเจอยมบาลเป็นการส่วนตัว อย่าคิดว่าจะหลุดพ้นไปได้"
"ถ้าฉันไปเจอยมบาลจริงๆ ฉันจะรายงานความแสบของหล่อนให้ยมบาลฟังให้หมด ทั้งความเสแสร้ง มารยา ตลบตะแลง หลงตัวเอง ดูถูกคนอื่น คิดว่าตัวเองวิเศษ แต่จริงๆแล้วก็เป็นแค่นางเอกตกกระป๋องที่พยายามตะกายกลับเข้าวงการ"
"แกว่าใครเป็นนางเอกตกกระป๋อง ปากแบบนี้ไม่ต้องส่งเข้าคุกแล้ว มันต้องตายสถานเดียว"
อลินตะโกนกลับอย่างเร็วพร้อมกับมือคว้าแฟ้มตำรวจเขวี้ยงใส่วายุเต็มแรง แล้วยังคว้าทุกอย่างใกล้มือกระหน่ำไปอีกไม่ยั้ง ทั้งปาทั้งตะโกนด่ารุนแรงรวดเร็วราวกับบั้งไฟพญานาค พสุกับปฏิคมห้ามก็ไม่ฟัง
"ฉันไม่เคยตกกระป๋องย่ะ และฉันก็ไม่ต้องตะเกียก ตะกายอะไรทั้งนั้น คนเลวอย่างแก ทำผิดโดนจับได้แล้วยังมีหน้ามาด่าคนอื่นให้เสียหาย บุญแค่ไหนแล้วที่ฉันไม่เอาเรื่อง อุตส่าห์ไม่แจ้งความยังปากดีมาด่าแบบนี้ได้ยังไง ไอ้คนอกตัญญู"
"โอ๊ย...คุณตำรวจช่วยด้วย ช่วยผมด้วย ไอ้ดินมึงจับเมียมึงไว้ด้วย มันจะฆ่ากู" วายุร้องลั่น
"คุณลิน...คุณลินใจเย็นๆ" พสุพยายามเข้ามาจับตัวอลิน
"ไม่เย็น มันด่าฉันขนาดนั้นจะให้เย็นได้ยังไง ฉันขอสาปแช่งให้นายเป็นทุกข์ไปตลอดชีวิต กระโดดกัดหูตัวเองได้เมื่อไหร่ถึงจะหลุดจากคำสาปแช่งของฉัน" อลินกระชาก โทรศัพท์ใกล้มือปาโดนหน้าวายุเต็มๆดังพลั่ก พสุกับปฏิคมตกใจร้องเฮ้ย วายุเจ็บจี๊ด ร้องหาตำรวจมาจับตัวนังนี่ไว้ที...
พสุเหลือบเห็นนักข่าว รีบให้ปฏิคมพาอลินหนีออกไปด้านหลังก่อน ที่เหลือเขาเคลียร์เอง แต่อลินขืนตัวไม่ยอม วายุทั้งเจ็บทั้งแค้นตะโกนใส่พสุ
"ไอ้ดิน...เมื่อก่อนฉันอิจฉาที่แกจะได้ยัยนี่เป็นเมีย แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ฉันอยู่กับมันแค่ไม่กี่ชั่วโมงยังจะบ้าตาย อารมณ์ขึ้นๆลงๆแบบนี้ อย่าหวังเลยว่าจะมีความสุข ที่สำคัญ แกไว้ใจนังผู้หญิงคนนี้ได้ยังไง มันบอกว่ารักแกวันนี้ ไม่รู้อีกกี่วินาทีมันจะเลิกรัก"
อลินเห็นพสุอึ้ง ไม่ตอบโต้ก็ปรี๊ดขึ้นมาอีก "นี่หุบปากเดี๋ยวนี้นะ อยากตายตรงนี้ใช่มั้ย"
"ไม่หุบโว้ย ดูดิ ไอ้ดินมันยังไม่เถียงสักคำว่าฉันพูดผิด" อลินหันมาทางพสุทันที พสุหลบตา วายุยิ่งกระหน่ำ "ไอ้ลูกคนใช้ แกอย่าคิดนะว่าชีวิตแกจะดีไปกว่าฉัน ฉันฆ่าแม่ใหญ่ ฉันเป็นหนี้ ฉันติดคุกหัวโต แต่ถ้าฉันยอมรับผิด ติดคุกไม่กี่ปีก็ออกมาได้ แต่ถ้าแกแต่งงานกับยัยซาตานนี่เมื่อไหร่ อย่าหวังเลยว่าจะหลุดพ้นจากขุมนรก ถ้าแกได้มันเป็นเมีย มีแต่ ซวยกับซวย และซวย!!"
อลินมองหน้าพสุ หวังว่าเขาจะแก้ต่างหรือแย้งคำพูดของวายุ แต่พสุกลับอึกอักอึดอัดและไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักคำ อลินรู้สึกเหมือนโดนถีบลงจากตึกสูงลิบ วายุเห็นสีหน้าอลินยิ่งหัวเราะสะใจ
"คุณลิน ไปเถอะครับ" ปฏิคมลากอลินออกไป อลินยอมแต่สายตายังจับจ้องพสุ กลัวว่าพสุจะคิดอย่างที่วายุพูดจริงๆ
ครั้นปฏิคมออกรถจากโรงพัก อลินก็เอาแต่นั่งเงียบกริบ นานเป็นชั่วโมงจนปฏิคมใจคอไม่ดี ต้องเอ่ยถาม "คุณลินเป็นอะไรหรือเปล่าครับ"
"มี...จอดรถเดี๋ยวนี้" อลินสั่งเข้ม ปฏิคมตกใจเบรกเอี๊ยด แล้วลนลานตามอลินลงมา เพราะเธอสั่งให้ลงมาคุยกันให้รู้เรื่อง "นายคิดว่าผู้ชายที่แต่งงานกับฉันจะต้องซวยจริงหรือเปล่า"
ปฏิคมอึกอักตอบไม่ถูก อลินขึ้นเสียงดุ ปฏิคมสะดุ้ง ตอบรับออกมาด้วยความตกใจ อลินถึงผงะ ก่อนจะถามต่อด้วยเสียงอ่อนลง
"เพราะฉะนั้นมันก็ไม่ผิด ที่ครูกุ๊กก็คิดแบบนั้นใช่
หรือเปล่า"
"เอ่อ ผมว่า...คงไม่หรอกมั้งครับ"
"ถ้าครูกุ๊กไม่คิดเหมือนคนอื่น อีกไม่นานเขาจะโทร.มาขอโทษและโทร.มาง้อฉันเอง" อลินพูดจบก็เดินไปขึ้นรถอย่างเลื่อนลอย ปฏิคมมองด้วยความเห็นใจ
ooooooo
นงพะงา นภา เมฆา อี่ รู้เรื่องราวทั้งหมดจากพสุที่ติดต่อมา ทุกคนได้แต่ปลดปลงกับชะตากรรมของวายุ พร้อมกันนี้ก็เห็นพ้องต้องกันว่าอลินเป็นคนดี จริงๆ ที่ไม่เอาเรื่องวายุ ให้ตำรวจดำเนินคดีฆ่าแม่ใหญ่ ไปตามกฎหมาย...แล้วอี่ก็ตบท้ายด้วยว่า ดินโชคดีจริงๆ ที่ได้น้องลินมาเป็นแฟน
แต่ยามนี้พสุหรือนายดินกำลังขับรถกลับบ้าน เขาสับสนไม่รู้ว่าตัวเองโชคดีหรือจะโชคร้ายอย่างวายุประกาศก้องบนโรงพัก...ที่สุดพสุก็เปลี่ยนเส้นทางไปร้านเป้หวาน เข้ามานั่งนิ่งอึ้ง ต่อหน้าโสภิตา
"ตาคิดว่าดินควรจะดีใจที่คุณลินปลอดภัย ไม่ใช่มานั่งวิตกกังวล หรือว่ายังโกรธคุณลินอยู่"
"ผมไม่ได้โกรธเขา"
"งั้นก็...กลัว" พสุสะอึกไม่พูด นั่นเท่ากับยอมรับ "ดินกลัวอะไร? ที่ผ่านมาคุณลินยังพิสูจน์ตัวเองไม่พออีกเหรอ ตาว่าเขาพยายามมากแล้วนะ"
"ผมรู้ แต่คุณลินไม่เหมือนคนอื่น"
"ไม่เหมือนยังไง"
"คุณลินเขาเป็นคนสุดขั้ว เขาไม่มีตรงกลาง วันนี้เขาทำเหมือนต้องการเราอย่างมากมาย แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ความ ต้องการมันจะหมดไป เหมือนกับตอนคุณเล็ก เขาก็อยากได้ ทุกลมหายใจเข้าออก แต่พอตอนนี้มันหมด แม้แต่หน้าก็ยังไม่อยากมอง ผมไม่รู้ว่าอารมณ์ไหนที่คุณลินเขาเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา ผมไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร เป็นชายในฝัน เป็นคนที่เขารัก หรือว่าเป็นแค่ของเล่น"
"จิตใจคนเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไม่เฉพาะแต่คุณลิน ทุกคนเป็นแบบนั้น วันนี้รัก พรุ่งนี้ไม่รู้ เพราะฉะนั้น ถ้าคิดจะรักก็ต้องพร้อมจะเสี่ยง...ดินต้องถามตัวเองว่าพร้อมจะเสี่ยงกับผู้หญิงที่ชื่ออลินหรือเปล่า"
โสภิตาทิ้งท้ายให้พสุครุ่นคิดตัดสินใจ แต่สำหรับตัวเธอเอง เมื่อกลับมาถึงบ้านเจออนุชานอนกอดปูเป้หลับปุ๋ย โสภิตาบอกกับตัวเองว่า เธอจะลองเสี่ยงกับอนุชาดูอีกสักครั้ง... ส่วนพสุออกจากร้านเป้หวาน พสุไปวนเวียนอยู่หน้าห้องพักอลิน...สุดท้ายก็ถอยกลับไปเงียบๆ
รุ่งขึ้นปฏิคมมาหาอลินแต่เช้า เอาหนังสือพิมพ์ลงรูปและข่าววายุ พร้อมพาดหัวข่าวตัวเป้งว่า "รวบแฟนหมิงดาราดังฆ่าแม่" มาให้อลินอ่าน อลินคว้ามาดูแล้วเบ้หน้าทันที
"ยัยหมิงเนี่ยนะดัง อย่างนั้นเขาเรียกว่าดาราเฉยๆย่ะ คนเขียนว่านี่ถ้าจะไม่รู้จริง"
"ผมไม่ได้ให้คุณลินอ่านตรงนั้น ผมให้ดูข่าวคุณลม ตอนนี้ทั้งไอ้ดินกับป้านงหลุดพ้นข้อกล่าวหาแล้วนะครับ คุณป้าฝากผมมาขอบคุณคุณลินที่ช่วยเหลือมาตลอด"
"ฉันก็แค่ทำในสิ่งที่ถูกต้อง บอกคุณป้าไม่ต้องเกรงใจ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ขนาดครูกุ๊กยังไม่เห็นจะสนใจเลย ตั้งแต่เกิดเรื่องไม่เห็นโทร.มาหา ไม่เห็นจะเป็นห่วง ไม่เห็นขอบคุณสักคำ หายเงียบไปเลย ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน ถ้าฉันไม่ติดต่อไป ครูกุ๊กจะติดต่อมาหรือเปล่า" อลินประกาศอย่างน้อยใจ หยิบหนังสือพิมพ์มาดูอีกทีสีหน้ายิ่งเศร้าลง "ดูสิ ขนาดข่าวลงอึกทึกครึกโครมขนาดนี้ จะโทร.หาสักกริ๊งนึงยังไม่มีเลย"
ปฏิคมไม่รู้จะออกความเห็นใดๆ ได้แต่มองอลินอย่างเห็นใจ...ทางโรงพักที่วายุถูกกักขัง หมิงร้อนรนมาเยี่ยมวายุที่กำลังจะถูกนำตัวไปดำเนินคดี หมิงพร่ำถามวายุอย่างห่วงใย
"ลมเป็นยังไงบ้าง ลำบากมากหรือเปล่า"
"หมิงมาทำไม ถ้านักข่าวมาเห็นเดี๋ยวก็เป็นข่าวหรอก ผมไม่อยากให้คุณต้องเดือดร้อน รีบกลับไปซะเถอะ"
"ไม่ หมิงไม่กลับ แล้วหมิงก็ไม่กลัว ใครจะเห็นก็ช่าง มันจะเป็นข่าวก็ช่าง หมิงไม่แคร์ หมิงรู้ว่าทุกสิ่งที่คุณทำเพราะสถานการณ์มันบีบบังคับ ถ้าหมิงมีเงินให้ ลมคงไม่ฆ่าคุณแม่ใหญ่ แล้วคงไม่จับตัวนังลิน...หมิงขอโทษ ขอโทษที่ช่วยลมไม่ได้" หมิงเริ่มน้ำตาเอ่อคลอ วายุจับมือหมิงไว้
"อย่าโทษตัวเองเลย มันไม่ใช่ความผิดของคุณ ผมผิดเองที่ใช้เงินเกินตัว ที่ผ่านมาหมิงช่วยผมมามากแล้ว ผมขอบคุณ และก็ขอโทษที่ทำให้คุณต้องผิดหวัง หมิง..ผมว่าทาง ที่ดีเราเลิกกันเถอะ ผมไม่อยากให้คุณมีแฟนเป็นนักโทษ"
"ไม่...หมิงไม่เลิก หมิงจะรอลม ลมติดคุกไม่นานก็ออกมาแล้ว หมิงรอได้"
"ถ้าผมออกมาแล้ว...คุณจะไม่รังเกียจที่มีแฟนเป็นคนขี้คุกเหรอ"
"ไม่...ไม่ว่าลมจะเป็นอะไร หมิงไม่คิดรังเกียจแม้แต่ นิดเดียว"
วายุหน้าสลด ซึ้งใจความดีของหมิง แต่ทว่าตอนนี้เขาตอบแทนหมิงได้เพียงคำพูดที่ออกมาจากใจ "คุณเป็นคนดีจริงๆ ถ้าเทียบกับยัยนางเอกซาตานจิตแตกนั่นแล้ว จิตใจคุณราวกับนางฟ้า...ฟังผมนะหมิง ในวงการมายาคุณอาจจะเล่นเป็นตัวอิจฉา เป็นเพื่อนนางเอก หรือเป็นตัวประกอบไม่มีชื่อเสียง แต่ในชีวิตจริงคุณคือนางเอกของผม...ตัดใจจากผมซะเถอะ ผมไม่คู่ควรกับผู้หญิงดีๆอย่างคุณ"
วายุปล่อยมือหมิงและหันหลังเดินไปขึ้นรถตำรวจ หมิง ร้องเรียกเสียงสั่นเครือ แต่วายุไม่หันยืนยันที่จะตัดใจและเดินหน้าใช้กรรมตามลำพัง...

ooooooo

อนุชานำแหวนทองคำขาวมาขอโสภิตาแต่งงาน แม้ แหวนวงนี้จะเป็นแหวนแต่งงานวงที่สอง แต่มันจะเป็น
วงที่อยู่กับเธอไปตลอดชีวิต และเขาจะเป็นสามีคนใหม่ที่ดีกว่าคนเดิม...โสภิตาน้ำตาซึมพยักหน้ารับแทนคำตอบ ทันใดปูเป้ที่ร่วมมือกับพ่อก็โผล่ออกมาพร้อมเสียงร้องไชโย...
เมื่อเรื่องของตัวเองสมหวังแล้ว โสภิตาก็โทร.หาอลินทันที นัดให้มาพบที่ร้านพรุ่งนี้เช้า โสภิตามีแผนในใจเพื่อจะช่วยอลินกับพสุได้ลงเอย แต่เธอไม่ได้บอกอนุชาไว้ก่อน เมื่อรุ่งขึ้นอลินมาถึงและถูกโสภิตาขอร้องให้เป็นเพื่อนเจ้าสาว อลินก็มีอาการลังเล ถามโสภิตาว่าไม่มีเพื่อนคนอื่นอีกเลยเหรอ
"มีค่ะ แต่ที่ตาเชิญคุณลินเพราะคุณลินเป็นคนทำให้ ครอบครัวเรากลับมาเป็นครอบครัวอีกครั้ง ถ้าตาไม่ได้คุณลิน ตาคงไม่มีวันนี้"
"ว่าแต่...ถ้าลินเป็นเพื่อนเจ้าสาว แล้วครูกุ๊กเขาจะมาร่วมงานเหรอคะ เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องเขาก็ไม่ติดต่อลินมาเป็นอาทิตย์แล้วนะคะ บางทีเขาอาจจะไม่อยากเจอลิน ลินคงเป็นตัวซวยสำหรับเขา"
"ไม่หรอกค่ะ ดินเขาไม่ได้คิดแบบนั้น เขาแค่สับสน"
"จะสับสนอะไรนักหนา ที่ผ่านมาลินทั้งพิสูจน์ ทั้งให้ความมั่นใจ ทำทุกอย่างเกินความเป็นผู้หญิงคนนึงสมควรจะทำไปตั้งเยอะแล้วนะครับ ครูกุ๊กยังไม่มั่นใจอะไรอีก" อลินชักจะหมั่นไส้ โสภิตาพยายามให้กำลังใจ เป็นตัวกลางที่ดี
"ดินเขาไม่มั่นใจในตัวเองน่ะค่ะ กลัวโดนคุณลินทิ้ง"

"เขาก็เลยตัดสินใจทิ้งลินไปก่อนใช่ไหมคะ ครูกุ๊กเขาจะไม่ ติดต่อลินจริงๆใช่ไหมคะ เขาจะให้เรื่องของเราจบแบบนี้จริงๆใช่มั้ย"
"ไม่หรอกค่ะ ดินเขาไม่ยอมปล่อยให้คุณลินหลุดมือไปหรอกค่ะ คุณลินต้องเชื่อมั่นในตัวเองเหมือนที่ผ่านมานะคะ แล้วดินจะมาหาคุณลินเอง"
โสภิตายิ้มให้กำลังใจ แต่อลินก็ยังไม่ค่อยมั่นใจอยู่ดี... หลังจากอลินกลับไปสักพัก พสุก็มาพบอนุชากับโสภิตา อนุชาขอให้พสุเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว เพราะเขาไม่ค่อยมีเพื่อนคนไทย เพื่อนที่มีส่วนใหญ่ก็คือเพื่อนโสภิตา และเพื่อนผู้ชายที่สนิทมากที่สุดก็คือพสุ
"ไอ้คมไม่ได้เหรอ"
"ไม่ได้" โสภิตาตอบทันที "เพราะวันนี้คมต้องขับรถพาคุณลินไปถ่ายละครที่ต่างจังหวัด" อนุชาหันมองโสภิตางงๆ เห็น เธอขยิบตาส่งสัญญาณก็พอจะเข้าใจ จึงเงียบเสีย "ตอนแรกตาก็ชวนคุณลินมาเป็นเพื่อนเจ้าสาว แล้วให้คมมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว แต่คุณลินติดงานมาไม่ได้ แล้วคมก็ต้องขับรถให้คุณลิน ก็เลยมาไม่ได้ทั้งคู่...ตกลงดินเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้คุณเล็กหน่อยนะ...นะจ๊ะ"
พสุจำใจพยักหน้ารับ แอบเศร้าเล็กน้อยที่อลินไม่มา... เมื่อพสุกลับไปแล้ว อนุชาจึงต่อว่าโสภิตาจอมแผนการ ทำแบบนี้แล้วถ้าพสุไปถามปฏิคม แล้วแผนแตกขึ้นมาจะทำยังไง
"ตากับคมเตี๊ยมกันไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ คุณลินจะไม่รู้ว่าดินเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว และดินก็ไม่รู้ว่าคุณลินเป็นเพื่อนเจ้าสาว พอสองคนนั้นได้เจอกัน จะได้ปรับความเข้าใจกันสักที"
"แต่แน่ใจเหรอว่ามันจะดี งานแต่งงานของเราครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่สวยงามที่สุด ผมไม่อยากให้มันต้องมีอันพลิกผันแบบไม่คาดฝัน"

"ตาว่าครั้งนี้...คุณลินจะไม่ทำให้งานเราพัง และบางทีมันอาจจะมีการพลิกผันที่ดีแบบไม่คาดฝันก็ได้นะคะ" โสภิตายิ้มอย่างมีหวัง ขณะที่อนุชาพยายามจะยิ้มด้วย แต่นึกถึงเหตุการณ์ วันที่ถูกอลินอาละวาดแล้วยังแหยงไม่หาย...
หลายวันต่อมา ปฏิคมไปหาอลินที่ห้องพักและแกล้งพูดถึงพสุทำนองว่าพสุไม่มีทางโทร.หาอลินตลอดชีวิต เพราะมันค่อนข้างมีความคิด อลินควรจะตัดใจจากเพื่อนของเขาซะ
"ไม่ต้องมาทำลายความมั่นใจฉันเลย คุณตาบอกว่าครูกุ๊กรักฉัน แล้วครูกุ๊กคงจะขอฉันแต่งงานเร็วๆนี้ ฉันต้องมั่นใจในตัวเองเข้าไว้ มั่นใจไว้ แล้วครูกุ๊กจะมาหาฉันเอง"
"มันไม่มาหรอกครับ ถ้าคุณลินอยากแต่งงานกับมัน คุณลินต้องเป็นฝ่ายขอมันเอง"
"คนอย่างอลินไม่เคยคิดจะขอผู้ชายแต่งงาน ฉันยอมขาดคอลลาเจนหน้าแก่ไปตลอดชีวิต ดีกว่าจะยอมคุกเข่าให้ผู้ชาย ถึงแม้จะรักมากแค่ไหน ฉันก็ไม่มีวันทำแบบนั้นเด็ดขาด" อลิน ประกาศกร้าว...ปฏิคมแอบเหล่ว่าจริงหรือ?
ทางฝ่ายคุณหญิงอมราก็ประกาศกร้าวเช่นกัน เมื่ออนุชามาบอกว่าจะแต่งงานกับโสภิตา
"ฝันไปเถอะ แม่ไม่มีทางยอมให้เล็กแต่งงานกับนัง โสภิตาเด็ดขาด"
"ผมมาเรียนเชิญคุณแม่ ไม่ได้มาขออนุญาต ไม่ว่าคุณแม่ยอมหรือไม่ ผมก็จะแต่ง"
อมราโกรธ พูดประชดเป็นวักเป็นเวน และว่าโสภิตากับลูกมาทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง อนุชาอยากให้แม่เปิดใจกว้างกว่านี้ แล้วจะรู้ว่าตาไม่ได้ทำแบบนั้น แต่ตรงกันข้าม ทั้งตากับปูเป้จะเข้ามาทำให้ชีวิตแม่มีความสุขมากขึ้น
"ไม่มีทาง หน้าอย่างมันจะมาทำให้แม่มีความสุขได้ยังไง"

อนุชาไม่ตอบแต่หยิบรีโมตมาเปิดทีวี เป็นรายการอาหารที่อลินกับปูเป้เป็นพิธีกร ปูเป้ทั้งน่ารักและฉลาดดำเนินรายการคู่อลิน อย่างดีเยี่ยม จนอมราเผลอยิ้มตามในความทะเล้นน่ารักของหลานสาว แต่พอรู้ตัวว่าอนุชามอง ก็รีบหุบยิ้มทำเป็นเก๊กหน้าไม่สน...เสียงมือถืออนุชาดัง อนุชากดรับ ปรากฏว่ามีคนสนใจติดต่อปูเป้เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาถึงสามชิ้น อมราได้ยินก็หูผึ่งตาพองทันที...
เช้าวันแต่งงานโสภิตากับอนุชา...พสุแต่งตัวเตรียมออกจากบ้าน นงพะงานำแหวนแต่งงานของตัวเองที่ได้จากเจ้าสัวมาให้พสุ และพูดเป็นนัยๆว่าดินควรเอาไปให้ใครก็น่าจะรู้แก่ใจ จะทำอะไรก็รีบๆทำ แม่อยากอุ้มหลานเต็มทีแล้ว
ปฏิคมไปรับอลินในชุดเพื่อนเจ้าสาวสุดอลังการ ส่วนอมราที่ยังตั้งแง่กับโสภิตา แต่ยอมรับหลานสาวก็มาร่วมงานด้วยเช่นกัน รวมทั้งเพรียวและพนักงานในบริษัทอวตานที่มากันอย่างพร้อมเพรียง พอใกล้ถึงพิธีในโบสถ์ พสุที่มาถึงก่อนก็ตะลึงเมื่อเห็นอลินเดินเข้ามาในชุดสวยหรู...ต่างคนต่างมองกันโดยไม่พูดอะไร จนกระทั่งมายืนด้านหลังบ่าวสาว ขณะบาทหลวงเริ่มพิธี พสุเป็นฝ่ายทักอลินก่อนว่า
"ตาบอกผมว่าคุณไม่มา"
"นายตัวเปี๊ยกก็บอกฉันว่าคุณไม่มา"
"แล้วถ้ารู้ว่าผมมา คุณจะมาหรือเปล่า"
อลินเชิดหน้าย้อนถามเช่นเดียวกันว่า ถ้าเขารู้ว่าเธอมา เขาจะมาไหม พสุแอบกวนว่า ก็น่าจะรู้คำตอบอยู่แล้ว อลินปรี๊ดขึ้นทันที "ฉันไม่รู้...ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น"
เสียงอลินทำเอาทุกคนในงานสะดุ้ง บาทหลวงชะงัก อนุชาเสียวหลังวาบรีบบอกบาทหลวงให้ทำพิธีต่อ ไม่ต้องสนใจ...อมราสะใจ แอบลุ้นให้งานล่ม พอบาทหลวงว่าต่อ อลิน พยายามระงับอารมณ์ พสุแอบยิ้มก่อนจะกระซิบกับอลินว่า "ใจร้อนอีกตามเคย" อลินเคือง โต้เบาๆ

"ไม่ต้องมาทำเป็นพูดเหมือนกับรู้จักว่าฉันเป็นคนยังไง ทั้งๆที่จริงๆแล้วไม่รู้จักสักนิด"
"ใจร้อน รอไม่ได้ อยากได้อะไรต้องได้เดี๋ยวนั้น ความจำ สั้น ในชีวิตจำได้อย่างเดียวคือบทพูดยาวๆ ไม่ชอบนินทา มีอะไร ด่าต่อหน้าอย่างเดียว ช่างประจบ โดยเฉพาะเวลาอยากได้อะไรสักอย่างชอบหิวเวลาดึกๆ แต่ก็กลัวอ้วน ไม่ชอบกินแป้ง ไม่ชอบกิน ของมัน แพ้แอลกอฮอล์ นอนดิ้น ขี้เหงา แต่หลอกตัวเองว่าไม่เหงา"
"พอได้แล้ว...หยุดได้แล้ว" อลินโพล่งขึ้นอย่างหมดความอดทน ปาช่อดอกไม้ทิ้งอย่างแรง ทุกคนตกใจหันมอง "ถ้าไม่ได้คิดอะไรกับฉันก็เลิกทำตัวเป็นครูกุ๊กที่แสนดีสักทีได้มั้ย...ฉันรู้ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่แสนดี ไม่ใช่ผู้หญิงที่ผู้ชายทั้งโลกอยากแต่งงานด้วย แล้วมันผิดตรงไหนที่ผู้หญิงอย่างฉันอยากจะมีใครสักคนอยู่ข้างๆ เวลาที่ฉันเหนื่อย มีคนที่คอยดุ คอยเตือน เวลาที่ฉัน ทำผิด ฉันอยากมีคนคอยฟังเรื่องงี่เง่าของฉันและหัวเราะด้วยกันอย่างมีความสุข ฉันอยากขับรถกลับบ้าน แล้วรู้ว่าฉันไม่ได้ อยู่คนเดียวอีกต่อไป...มันผิดตรงไหน ที่ผู้หญิงนิสัยไม่ดีอย่างฉันอยากแต่งงานกับเขาบ้าง"
"คุณลิน..." โสภิตาและอนุชาพยายามเรียกเตือนสติอลิน แต่อลินเบรกแตกเสียแล้ว พูดทั้งน้ำตาที่เริ่มซึมออกมา
"และฉันก็จะไม่งอมืองอเท้ารอความหวังลมๆแล้งๆอีกแล้ว ไหนๆก็เจอกันแล้ว คุยกันให้รู้เรื่องไปเลย...ที่ผ่านมา ครูกุ๊กรู้อยู่แล้วว่าฉันเป็นคนยังไง นิสัยเลวร้ายขนาดไหน ฉันขอถามแค่คำเดียว อยากจะใช้ชีวิตอยู่กับผู้หญิงอย่างฉันหรือเปล่า จะยอมรับและให้อภัยกับทุกสิ่งที่เป็นฉันได้หรือเปล่า ถ้าคุณยอมรับและให้อภัยได้...แต่งงานกับฉันเถอะนะ"
"คุณลิน..." พสุตะลึง

"สำหรับฉัน ไม่ว่าครูกุ๊กจะเป็นยังไง คุณคือคนที่สมบูรณ์ แบบที่สุด บนโลกนี้ฉันไม่อยากแต่งงานกับใครอีกแล้ว นอกจากคุณ" อลินคุกเข่าลงตรงหน้าพสุ รอคำตอบ ทุกคนลุ้นระทึก
"คุณลิน คุณทำอะไร ลุกขึ้นได้แล้ว คุกเข่าขอแต่งงานมันเป็นหน้าที่ของผู้ชาย คุณทำแบบนี้ผมอายเขานะ ลุกขึ้น" อลินยังงงๆ พสุจึงดึงเธอลุกขึ้น "ที่ผ่านมาผมไม่เคยคิดว่าคุณเป็นคนนิสัยไม่ดี คุณแค่เป็นคุณ และผมก็ไม่สนใจความสมบูรณ์แบบหรืออะไรทั้งนั้น เพราะแค่คุณเป็นอย่างที่คุณเป็น ผมก็รักคุณจะแย่อยู่แล้ว ถ้าคุณคิดว่าผู้ชายธรรมดาๆ ที่ไม่มีอะไรเทียบกับคุณได้เลยแม้แต่นิดเดียว ทำให้คุณมีความสุขได้ แต่งงานกับผมนะครับ คุณอลิน"
อลินน้ำตาร่วงพรูด้วยความดีใจ มองพสุหยิบแหวนออกมา คนในงานฮือฮากันใหญ่...พสุคุกเข่าตรงหน้าอลิน อลินถึงกับ ปล่อยโฮ บอกลุ้นแทบแย่ นึกว่าเขาจะไม่ขอเธอแต่งงานซะแล้ว
"จริงๆแล้วผมตั้งใจว่าถึงไม่เจอคุณวันนี้ ผมก็จะไปขอคุณแต่งงานอยู่แล้ว คุณชิงตัดหน้าผมซะก่อน...คุณอลิน แต่งงานกับผมนะครับ" พสุสวมแหวนให้อลิน ท่ามกลางเสียงปรบมือดังก้องของคนในโบสถ์...อนุชากระตุ้นโสภิตา อย่าให้คู่นั้นมาขโมยซีนเรา ว่าแล้วก็ขออนุญาตบาทหลวงสวมแหวนกันเลย...

เพรียวและพรรคพวกตั้งท่าออกไปรอรับช่อดอกไม้ อลินยิ้มหน้าบานโยนดอกไม้ราวเป็นเจ้าสาวของงาน ปรากฏว่าช่อดอกไม้ที่สาวๆปรารถนาไปตกในมือปฏิคมหน้าตาเฉย...จากนั้นอลินก็จูงมือพสุขึ้นรถขับออกไป ผู้คนมากมายวิ่งตามมาส่งอย่างมีความสุข ไม่เว้นแม้แต่อนุชากับโสภิตาที่เผลอโบกมืออวยพร แต่อึดใจต่อมาอนุชาเริ่มไหวตัวพูดกับโสภิตาว่า ถ้าจำไม่ผิดงานวันนี้เป็นงานของเรา และรถคันนั้นก็เป็นรถของเราไม่ใช่เหรอ...โสภิตายิ้มรับ ก่อนบอกว่าไม่ทันแล้ว...
"เฮ้อ ผมบอกแล้วว่าอย่าไปยุ่งกับคุณอลิน" อนุชาทำหน้าสุดเซ็ง
ส่วนอลินกับพสุนั่งรถไปอย่างชื่นมื่น แล้วไม่ว่าอลินจะเจ้ากี้เจ้าการอยากได้งานแต่งแบบไหนยังไง เพราะเมื่อครู่อลิน บอกยังไม่ใช่งานแต่ง แค่เป็นการขอแต่งงาน ถึงวันนั้นจริงๆงานของเราต้องอลังการสุดๆ ทุกสิ่งอย่างต้องเลิศ พสุก็โอเคตามใจอลินไปโหม้ด...คุณนายอลินเลยให้รางวัลครูกุ๊กด้วยการหอมแก้มเขาฟอดใหญ่...

-อวสาน-


เครดิต ไทยรัฐ




 

Create Date : 13 ธันวาคม 2552
7 comments
Last Update : 15 ธันวาคม 2552 11:37:18 น.
Counter : 2338 Pageviews.

 

happyสุดๆๆๆ

thank you นะ

 

โดย: กิ๊ฟ IP: 110.164.110.231 15 ธันวาคม 2552 20:50:20 น.  

 

ขอบคุณมากค่ะ

 

โดย: PINGPING IP: 128.211.219.53 16 ธันวาคม 2552 3:24:00 น.  

 

ขอบคุณนะคะ

 

โดย: คนไกลบ้าน IP: 94.192.46.90 16 ธันวาคม 2552 6:22:03 น.  

 

ขอบคุณค่า สนุกมากอ่านไปยิ้มไป ชอบ

 

โดย: เปิ้ล856 IP: 125.25.252.57 18 ธันวาคม 2552 15:33:33 น.  

 

สนุกมากกกกก ลุ้น น่ารักกสุดๆๆอ่านไปยิ้มไปเหมือนกัน

 

โดย: มน IP: 58.64.73.5 19 ธันวาคม 2552 16:29:17 น.  

 

อยากดูตอนจบมากกกกกก

 

โดย: คนติดละคร IP: 180.183.241.29 19 ธันวาคม 2552 19:49:20 น.  

 

วันนี้ตอนจบแล้ววววววว

 

โดย: ชายน้อย IP: 58.64.91.100 23 ธันวาคม 2552 17:24:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

Heavenworth
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ
[Add Heavenworth's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com