ละคร สวยเริ่ดเชิดโสด ตอนที่ 13
ตอนที่ 13คณิตเพิ่งรู้จากวิลาวัลย์ว่าขวัญความจำเสื่อม ทีแรกคณิตรู้สึกสงสารขวัญเหลือเกิน ที่เพิ่งสูญเสียแม่แท้ๆ แล้วยังต้องมาสูญเสียความทรงจำอีก แต่พอวิลาวัลย์ สาวแสบแนะให้คณิตซึ่งหลงรักขวัญมานานฉวยโอกาสนี้เอาขวัญมาเป็นแฟนให้ได้ คณิตคล้อยตามทุกอย่าง จากนั้นเขาก็รีบร้อนโทร.ไปหาขวัญเพื่อแสดงตัวว่าเขาคือแฟนของเธอขวัญรับฟังคณิตด้วยความแปลกใจ เพราะก่อนหน้านี้พี่กิ่งเพิ่งบอกว่าขวัญกับธนพเป็นคู่รักกัน ขวัญอยากรู้ว่าความจริงเป็นยังไงกันแน่จึงรับนัดออกไปพบคณิตที่โรงแรมแห่งหนึ่ง คณิตพยายามเอาข้อมูลหลักฐานจอมปลอมมาหลอกขวัญให้เชื่อ แต่พอขวัญไม่เชื่อ คณิตจึงใช้แผนสองด้วยการจะรวบรัดปลุกปล้ำขวัญ แต่โชคไม่เข้าข้างคณิตเพราะภิรมย์ผ่านมาเห็นด้วยความบังเอิญ ภิรมย์ต่อยตีกับคณิตอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่ภิรมย์จะเป็นฝ่ายชิงตัวขวัญที่หมดสติไปได้ เมื่อแผนไม่สำเร็จ คณิตรีบโทร.ไปเล่าให้วิลาวัลย์ฟัง พร้อมกันนี้ก็โอดโอยว่าต้องเจ็บตัวฟรี แถมไอ้ภิรมย์ก็ได้ตัวคุณขวัญไปแล้วด้วย วิลาวัลย์ย้อนว่าช่วยไม่ได้ อยากโง่เอง ถือเป็นคราวซวยของคุณก็แล้วกัน...พูดเสร็จเธอตัดสายฉับ แล้วต้องสะดุ้งโหยงเมื่อหันมาเจอพิมพ์ยืนมองอยู่ในระยะเผาขน "เธอจะทำอะไรคุณขวัญ""ทำอะไร หูหาเรื่องนะเนี่ย" วิลาวัลย์เฉไฉไม่ยอมรับ จะเดินหนีไปทำงานต่อ "ฉันไม่ได้หาเรื่อง แต่คนอย่างเธอไว้ใจไม่ได้"วิลาวัลย์ชะงัก สีหน้าโกรธขึ้ง "ขอร้องล่ะพิมพ์ อย่าทำตัวเป็นคนดีหน่อยเลย แต่ก่อนเธอก็ไม่ชอบยัยขวัญเหมือนกันไม่ใช่เหรอ ทำไม? พอเห็นยัยขวัญความจำเสื่อมก็เลยทำเป็นเพื่อนแสนดีเพราะหวังผลประโยชน์งั้นสิ""ฉันไม่ใช่เธอนะวิ""เหรอ? เชื่อตายล่ะ ใครๆก็รู้ว่าตอนนี้เธอร้อนเงิน ไม่งั้นจะเสนอขายตัวเองเหรอ เชอะ"พิมพ์เหวอพูดไม่ออก มองตามวิลาวัลย์อย่างเจ็บใจแต่ยังอดเป็นห่วงขวัญไม่ได้ อีกครู่ พิมพ์จึงโทร.ไปบอกธนพว่าได้ยินวิลาวัลย์คุยโทรศัพท์กับคณิตเรื่องขวัญ เธอไม่สบายใจ กลัวพวกเขาจะวางแผนแกล้งอะไรขวัญที่ตอนนี้ยิ่งจำอะไรไม่ได้...ธนพรับรู้และขอบใจพิมพ์ที่โทร.มาบอก เดี๋ยวเขาจะลองโทร.หาขวัญดู แต่เมื่อธนพโทร.เข้ามือถือขวัญ ภิรมย์ซึ่งกำลังจะทำมิดีมิร้ายขวัญที่ยังหมดสติอยู่ จึงกดปิดเครื่องของขวัญทันที แล้วภิรมย์ก็ก้มลงจะจูบ จู่ๆขวัญลืมตาโพล่งขึ้นมาพอดี เห็นหน้าภิรมย์ระยะประชิด ขวัญหน้าตาตื่นตกใจสุดขีด ถีบเปรี้ยงจนภิรมย์กระเด็นหงายหลังตกเตียงร้องโอ๊ย...ขวัญลุกขึ้นยืนคว้าหมอนเป็นอาวุธ ตะคอกถามว่าแกเป็นใคร ภิรมย์จุกหน้าเขียวลุกขึ้นแนะนำตัว และขอร้องขวัญใจเย็นๆก่อน ขวัญกลับพูดโพล่งว่าไม่รู้จักภิรมย์ ทำเอาภิรมย์อึ้งไป แล้วทำเป็นฟูมฟายไม่อยากเชื่อว่าขวัญความจำเสื่อมจริงๆ ขวัญจึงค่อยๆลดหมอนลง ถามว่าตนรู้จักเขาด้วยเหรอ ภิรมย์ได้ทีรีบตอบแข็งขันว่ารู้จักแน่ เราเป็นคนรักกัน"คนรักอีกแล้วเหรอ ไม่จริง ฉันไม่เชื่อ ทำไมคนรักฉันดูไม่สมประกอบซักคน""ผมตัวจริงเสียงจริง คนจริงไม่ติงนัง ไอ้คณิตมันหลอกคุณ มันอยากได้คุณเป็นของมัน มันก็เลยใช้จุดอ่อนที่คุณขวัญความจำเสื่อมโกหกว่ามันเป็นแฟนคุณ ไอ้นี่มันบ้าครับ" "คุณก็ดูบ้าไม่แพ้เขาหรอก" "โธ่คุณขวัญ ผมกับคุณเป็นแฟนกันจริงๆ เราสองคนรักกันปานจะดูดดื่มเพราะเรามีอะไรกันแล้ว""บ้า!! ไม่มีทาง ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่น่าตาต่ำขนาดนั้น""แต่มันเป็นเรื่องจริงนะครับ คุณขวัญคงยังขวัญกระเจิงไม่หาย ผมจะกอดปลอบใจนะครับ" เขาจะเข้ามากอด แต่เจอขวัญกระทืบเท้าจนร้องจ๊าก แล้วขวัญซ้ำด้วยแจกันทุ่มหัวทีเดียวเขาลงไปชักกระเเด่ว จากนั้นขวัญก็คว้ากระเป๋ารีบวิ่งออกจากห้อง ทิ้งให้ภิรมย์นอนตาเหลือกอยู่กับพื้น ขวัญวิ่งหน้าตาตื่นมากดลิฟต์ กดพลางหันมองกลัวภิรมย์ตามมา พอเข้าในลิฟต์แล้ว ขวัญเริ่มร้องไห้สับสนเสียใจที่โดนใครต่อใครโกหกหลอกลวงจนเธอไม่รู้จะเชื่อใคร...จากนั้นไม่นานขวัญก็ไปนั่งสะอึกสะอื้นอยู่ที่ร้านกาแฟของตัวเอง แล้วอีกครู่ต่อมา ธนพที่กำลังพล่านเป็นห่วงขวัญก็ตามมาเจอ "คุณหายไปไหนมา รู้ไหมว่ามีคนเป็นห่วง""ฉันจะไปไหนก็เรื่องของฉัน""ทำไมถึงชอบหาแต่เรื่องให้คนอื่นเขาเดือดร้อนนะ เลิกซะทีเถอะไอ้นิสัยเห็นแก่ตัว คิดถึงแต่ตัวเอง ไม่เคยมองหรือสนใจว่ามีใครเขาห่วงคุณบ้าง""ฉันไม่ได้อยากให้ใครมาเป็นห่วง นายกลับไปได้แล้ว ฉันไม่อยากเห็นหน้านายอีก""เป็นอะไรของคุณ มันเกิดอะไรขึ้น...คุณขวัญ ตอบผมมาสิ คุณไม่อยากเจอผมแล้วจริงๆเหรอ" "ฉัน...ฉันไม่รู้จะเชื่อใครได้อีกแล้ว มีแต่คนโกหกเพื่อต้องการตัวฉัน ไม่มีใครจริงใจหรือหวังดีกับฉันสักคน แล้วไอ้หัวสมองของฉันก็จำอะไรไม่ได้ซักที ฉันไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับใครเหลืออยู่ ใครคิดดี ใครคิดร้าย ฉันไม่รู้จะฟังจะไว้ใจใครได้อีกแล้ว ฮือๆๆๆ" ขวัญพรั่งพรูความสับสนเสียใจและร้องไห้อย่างหนักจนธนพตกใจและรู้สึกสงสาร เดินเข้ามาจับไหล่เธอและปลอบด้วยความจริงใจ"คนอื่นผมไม่รู้ว่าเป็นยังไง แต่สำหรับผม...ผมไม่เคยคิดทำร้ายคุณเลย""ฉันถามจริงๆ และคุณต้องตอบฉันมาตรงๆ ฉันกับคุณ เราเป็นอะไรกันแน่""เชื่อความรู้สึกตัวเองสิคุณขวัญ คุณเป็นคนเชื่อมั่นในตัวเอง ไม่เคยฟังใคร ในเมื่อสมองคุณใช้การไม่ได้ ก็ลองฟังเสียงหัวใจตัวเองดูสิ""เรา...เราเป็นแฟนกันใช่มั้ย"ธนพนิ่งอึ้ง ขวัญมองลุ้น...ที่สุดธนพก็พยักหน้ารับและดึงขวัญมาจูบริมฝีปากแผ่วเบา ขวัญถึงกับหน้าแดงซ่าน ใจเต้นไม่เป็นส่ำ พิมพ์ยืนหน้าเศร้ามองมาจากหน้าร้าน แล้วตัดสินใจหันหลังจากไปทั้งน้ำตาคลอๆ ส่วนขวัญที่ยืนตรงหน้าธนพรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก "ทีนี้จำได้รึยังว่าคุณเคยรู้สึกกับผมแบบไหน" "จำ...จำได้มั้ง รู้สึกคุ้นๆ""ก็จะไม่คุ้นได้ยังไง ตอนคุณความจำไม่เสื่อม เราจูบกันบ่อยออกจะตาย จูบกันวันละสี่เวลา เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน บางวันยังจุ๊บบ่ายด้วย""จริงเหรอ งั้นเราก็เคยแบบว่า...เอ่อ...คือ...แบบ..." ขวัญอึกอักไม่กล้าเอ่ย ธนพหัวเราะขำก่อนจะพูดโต้งๆว่า "มีอะไรกันน่ะเหรอ" ขวัญอายสุดๆ ถามต่อเสียงแผ่วว่า "แล้วตกลงเรามีอะไรกันหรือยัง""ยังหรอก เราเพิ่งคบกันไม่นานก่อนที่คุณจะจำอะไรไม่ได้""นี่ขนาดคบกันไม่นานยังจูบกันบ่อยขนาดนี้ ทำไมฉันใจง่ายจัง""ไม่รู้สิ คุณคงรักผมมากล่ะมั้ง""ถ้างั้นทำไมอาอมรถึงบอกฉันว่าคุณไว้ใจไม่ได้" "เพราะว่าคุณกับผมฐานะต่างกัน เขาเลยไม่ชอบผม... คุณขวัญ ไม่ว่าคนอื่นจะไม่ชอบหน้าผมยังไง แต่ขอให้คุณเชื่อว่าผมจะไม่มีวันหลอกคุณเด็ดขาด" "ฉันเชื่อคุณแล้วค่ะ ธนพ" ขวัญรู้สึกดีมากๆ โผเข้ากอดเขาแน่น ธนพกอดตอบแต่สีหน้าดูหนักใจยังไงพิกล แล้วหลังจากนั้นในตอนค่ำ ธนพเจอวีรเทพที่บ้าน เขาขอร้องน้องชายให้ช่วยสืบเรื่องที่ขวัญเคยบอกเขาว่าอมรวางแผนโกงหุ้นของซันไชน์ วีรเทพเองพอจะระแคะระคายเรื่องนี้และรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล จึงรับปากจะช่วยเท่าที่เขาจะทำได้หลังคุยกับพี่ชายตอนหัวค่ำ พอตกดึกวีรเทพก็ไปปรากฏตัวที่หน้าห้องพักของยลดา แต่ยลดายังงอนเขาไม่หาย จึงยืนเฉยอยู่หลังประตู ไม่ยอมเปิดรับ "คุณยังโกรธผมอยู่อีกเหรอ ผมขอโทษ ผมสำนึกผิดแล้วจริงๆ ผมมันโง่ เซ่อ ที่ไม่เห็นคุณค่าของคุณ มีของดีอยู่ในมือกลับไม่รักษา ผมคิดได้แล้ว และเห็นแล้วว่าคุณคือคนที่ดีที่สุด ถ้าดาไม่เปิดประตู ผมจะไม่มาให้ดาเห็นหน้าอีกเลย"ทุกอย่างยังเงียบ ทำให้วีรเทพถอดใจจะกลับ แต่ทันใดประตูก็เปิดออก ตามด้วยเสียงถามของยลดา "จะไปไหน?" เท่านั้นเองวีรเทพก็ยิ้มแฉ่ง เข้ามาสวมกอดยลดา แล้วออดอ้อนขอโทษจนเธอใจอ่อนยอมเกี่ยวก้อยกันเข้าห้อง...ขณะเดียวกันนั้น พิมพ์หน้าเศร้ากลับเข้าบ้าน แล้วพิมพ์ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าวรวิทย์มารอเธออยู่ แต่ตรึงใจกลับเจ้ากี้เจ้าการผลักไสให้พิมพ์ออกไปทานข้าวกับวรวิทย์ ขณะที่วรวิทย์ก็รีบรวบรัดจนพิมพ์ปฏิเสธไม่ออกเหมือนกันหลังจากพิมพ์กับวรวิทย์ออกไปได้ครู่เดียว ตรึงใจรีบโทร.เข้ามือถือวีรเทพที่ยังอยู่ในห้องยลดา บอกให้รู้ว่าเธอหาเงินใช้หนี้ที่ยืมเขามาได้แล้ว วีรเทพแปลกใจถามว่าคุณน้าไปหาเงินมาจากไหน ตรึงใจโกหกคำโตว่าถูกหวยรางวัลใหญ่ แต่ความจริงแล้วตรึงใจมีผู้ช่วยรายใหม่ ซึ่งคือวรวิทย์นั่นเองตรึงใจตัดสายไปแล้ว วีรเทพยังสงสัยไม่หาย พยายามกดโทร.กลับไป แต่พอดียลดาเอาไวน์เข้ามาเสิร์ฟ พอถูกเธอถามว่าใครโทร.มา วีรเทพเลยต้องตอบเอาตัวรอดไปก่อนว่าคุณแม่ "แล้วคุณแม่โทร.มาทำไมคะ" "เอ่อ...คือ...คุณแม่ฝากชวนคุณไปทานข้าวที่บ้านน่ะจ้ะ""จริงเหรอคะ ว้าว เยี่ยมไปเลย งั้นเดี๋ยวดาต้องไปทำผม ขัดผิว อบตัวหน่อยแล้ว อ้อ แล้วต้องหาซื้อของไปฝากแม่วีด้วย" ยลดาลั้นลายิ้มหน้าบานเดินออกไป แต่วีรเทพถอนใจดังเฮือก ก่อนบ่นตัวเองว่าซวยแล้ว พูดออกไปได้ไงวะ?oooooooเมื่อแน่ใจว่าตนเองเป็นแฟนกับธนพ...รุ่งขึ้นอีกวันขวัญจึงมาช่วยงานที่ร้าน อาหารของเขา แต่ยิ่งช่วยกลับดูเหมือนจะยิ่งยุ่ง เพราะขวัญเงอะงะทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง จนทำจานชามตกแตกนับสิบใบแล้วยังเกือบทำไฟไหม้ครัว เลยถูกนุ่นกับต้อยติ่งรุมตำหนิกระแนะกระแหน แต่ยังดีหน่อยที่พรรณีกับธนพคอยปลอบและไม่ถือสาขวัญอยู่ในครัว วุ่นวาย ขวัญจึงขอย้ายตัวเองออกไปช่วยเสิร์ฟลูกค้า แต่แล้วขวัญกลับไปทะเลาะกับลูกค้าหญิงรายหนึ่ง ซึ่งต้นเหตุมาจากต้อยติ่งที่หมั่นไส้ขวัญแล้วแกล้งเดินโฉบเอาข้อศอกกระทุ้ง แขนขวัญจนกาแฟในมือหกใส่กระเป๋าลูกค้าคนนั้น ขวัญหน้าเสียรีบขอโทษ ลูกค้า พร้อมกับคว้าผ้าเช็ดโต๊ะมาเช็ดกระเป๋าให้ แต่ลูกค้าไม่พอใจโวยวายด่าขวัญ หาว่าเอาผ้าขี้ริ้วมาเช็ดกระเป๋าราคาแพงของตน"นังบ้า...แกรู้ไหมว่ากระเป๋าฉันราคาเท่าไหร่""เอ่อ...ไม่รู้ค่ะ""ฉัน ไม่ได้ให้หล่อนตอบ ก็อย่างว่าแหละ พนักงานเสิร์ฟเงินเดือนน้อยอย่างหล่อนจะรู้จักของแบรนด์เนมได้ยังไง ชาตินี้ทั้งชาติหล่อนก็ไม่มีทางซื้อของแบบนี้มาใช้หรอก แค่หูกระเป๋าข้างเดียวยังแพงกว่าเงินเดือนทั้งปีด้วยซ้ำ"ต้อยติ่ง กับนุ่นยืนยิ้มชอบใจที่ขวัญโดนด่า ส่วนขวัญนิ่งไปเหมือนกำลังคิดอะไร...ขวัญนึกย้อนเหตุการณ์ครั้งหนึ่งซึ่ง เหมือนเหตุการณ์วันนี้มาก แต่วันนั้นขวัญเป็นฝ่ายดุด่าพนักงานเสิร์ฟที่ทำกาแฟหกรดกระเป๋าสุดหรูราคา แพงของเธอ พนักงานเลยโดนด่าจนร้องไห้โฮวิ่งหนีไป...ขวัญยังมองลูกค้าตาค้าง ลูกค้าโมโหคิดว่าขวัญมองหน้าหาเรื่อง จึงตะคอกใส่ "มอง อะไร หรือว่าฟังที่ฉันด่าไม่ออก จ้องหน้าฉันแบบนี้จะหาเรื่องฉันใช่มั้ย รู้ไหมว่าพ่อฉันเป็นใคร" ว่าแล้วเธอจะผลักขวัญ แต่กลับโดนขวัญจับข้อมือบิดอย่างแรงด้วยลีลาเหวี่ยงๆวีนๆของขวัญคนเดิม"ก่อนจะด่าคนอื่นหัดด่าตัวเองก่อนเถอะ ยัยลูกชมพู่"ลูกค้าตกใจก้มมองตัวเองที่ใส่กระโปรงบานเป็นสุ่มสีแดง ส่วนเสื้อก็เข้ารูปดูเหมือนลูกชมพู่จริงๆ "แก...แกว่าอะไรนะ""เชอ ะ กระเป๋าแบรนด์เนม ของเซิ่นเจิ้นชัดๆ ของจริงโลโก้ต้องเป็นม้าวิ่ง ไม่ใช่หมูวิ่งแบบนี้ แล้วไอ้เสื้อที่ใส่ ลายหลุยส์วิคตองเหรอ เชอะ หลุยส์ติงต๊องน่ะสิ แล้วนี่อะไร...เข็มขัดหัวชาแนล ยัยชมพู่เอ๊ย นี่มันรูปเกือกม้าชัดๆ ไม่ใช่ตัวซีซักหน่อย แถมรองเท้าอะไร...ปราด้า...โอ๊ย ตายแล้ว ป้าดาสำเพ็งคู่ล่ะ 99 อ่ะดิ" ขวัญจิกยาวจนลูกค้าหน้าซีด เสียเซลฟ์ ตกเป็นเป้าสายตาของลูกค้าทั้งร้าน จนเธอทนอับอายขายหน้าต่อไปไม่ไหว วางเงินค่าอาหารเอาไว้แล้ววิ่งพรวดออกไปทันที"ชิ...เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับขวัญอุมา...ไม่สวยไม่เริ่ดทำไม่ได้หรอก" ขวัญ เผลอลืมตัวโพสท่าถนัดร้ายเชิดแบบขวัญคนเดิม ก่อนจะเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเผลอทำอะไรลงไป ขวัญหันมองลูกค้าในร้านที่มองมาเป็นตาเดียว ตกใจนึกว่าตัวเองทำอะไรผิด แต่ลูกค้าในร้านกลับปรบมือให้ขวัญกันเกรียว นุ่นกับต้อยติ่งถึงอึ้งเหวออ้าปากหวอ มองขวัญที่ยิ้มยืดก่อนโค้งขอบคุณเสียงปรบมือ แต่พอมองเลยไปเห็นธนพยืนอยู่ ขวัญชะงักกึก หน้าถอดสีนุ่นกับต้อยติ่งแอบไปซุบซิบกันอย่างงงงวยที่ เหตุการณ์ ผิดแผนอย่างแรง ทั้งคู่ตั้งใจทำให้ขวัญเสียหาย แต่ขวัญกลับได้หน้าไปเฉยเลย ต้อยติ่งเดาว่ายัยคุณหนูนั่นถึงจะความจำเสื่อม แต่สันดานไม่ได้เสื่อมหายไปด้วยแน่ๆ ขณะเม้าท์กันอย่างเจ็บใจ นุ่นเหลือบไปเห็นธนพดึงขวัญออกมา จึงรีบสะกิดต้อยติ่งแล้วพากันย่องตามไปแอบดูใกล้ๆ"คุณไปพูดกับลูกค้าแบบนั้นได้ยังไง" ธนพถามกึ่งตำหนิขวัญ "ก็ลูกค้าคนนั้นพูดจาไม่ดีกับฉันก่อน""ถึงเขาจะพูดไม่ดีกับคุณ แต่เราทำงานบริการ ลูกค้าคือพระเจ้า" "นั่นนะพระเจ้า แม่มดมากกว่า นพควรแยกแยะถูกผิดบ้างนะคะ ใช่ว่าลูกค้าจะถูกทุกอย่าง นพควรทำตัวให้มีค่า คนอื่นเขาจะได้ไม่ดูถูก" "นึกว่าคุณความจำเสื่อมแล้วจะเปลี่ยนนิสัย แต่เปล่าเลย" นุ่น กับต้อยติ่งได้ทีรีบเข้ามาสอด "ใช่ค่ะที่รัก สันดอนมันเปลี่ยนได้ แต่สันดานมันเปลี่ยนยากค่ะ ต่อให้ความจำเสื่อม แต่นิสัยแย่ๆชอบดูถูกคนอื่นของคุณขวัญ ยังไงก็คงแก้ไม่หายหรอกใช่ไหมคะ" ต้อยติ่งจีบปาก...ส่วนนุ่นเข้ามากระซิบข้างๆพี่ชาย"ผู้หญิงคนนี้ยังไงก็สู้พี่พิมพ์ไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าพี่นพเลือกยัยนี่ ชาตินี้ชีวิตพี่นพอยู่อย่างไม่มีความสุขแน่" ขวัญ อึ้งพราะได้ยินเต็มสองหู ครั้นธนพไล่ต้อยติ่งกับนุ่นไปแล้ว ขวัญจึงถามธนพตรงๆว่าเขาเคยคบกับพิมพ์ใช่ไหม ธนพอึกอักก่อนจะตอบรับเบาๆ ทำให้ขวัญอึ้งไปอีกรอบ แล้วบอกเขาว่า วันนี้เธอทำให้เขาลำบากมาทั้งวันแล้ว ถึงเวลาแล้วที่เธอต้องกลับเสียที... oooooooวรวิทย์มาดักรอ พิมพ์ถ่ายแบบที่โรงแรม พองานพิมพ์เสร็จ วรวิทย์รีบนำดอกไม้เข้ามาให้เธอ และชวนคุยเรื่องงานที่เขามีเพื่อนเป็นผู้จัดละคร เพื่อนเคยเห็นพิมพ์ถ่ายรูปลงหนังสือก็เลยอยากชวนพิมพ์ไปแคสบท...วีร เทพแอบมองจากมุมหนึ่งด้วยความไม่พอใจ แล้วออกอุบายให้พนักงานไปบอกวรวิทย์ว่ารถของเขาถูกชน พอวรวิทย์แตกตื่นวิ่งออกมาดูรถ วีรเทพก็ฉวยโอกาสพาพิมพ์ขึ้นรถของตนขับออกจากโรงแรมทันที วรวิทย์หันไปเห็นทั้งโมโหทั้งเจ็บใจ...วีรเทพขับรถไปจอดริมน้ำ ขอร้องพิมพ์ให้อยู่ห่างจากวรวิทย์ "เชื่อผมนะพิมพ์ ผมรู้จักมันดี มันเป็นเสือผู้หญิง ที่อยู่ๆมันก็เข้ามาตีสนิทกับพิมแบบนี้ เพราะกำลังคิดไม่ดีกับพิมพ์แน่" "ที่วีรู้ว่าเขาเป็นแบบนั้น เพราะวีเองเป็นแบบเขาใช่มั้ย""พิมพ์...ในสายตาพิมพ์ ผมคงไม่ใช่คนดีนัก แต่ผมจริงใจกับพิมพ์นะ ผมไม่อยากให้พิมพ์สนิทกับคนอย่างนายวรวิทย์จริงๆ" "พิมพ์โตแล้วนะ วีไม่ต้องมาสอนพิมว่าใครดีใครไม่ดี พิมพ์ดูออก""ผมรู้ว่าพิมพ์เก่ง แต่ถ้าพิมพ์ประมาทคนอย่างมันเมื่อไหร่ พิมพ์จะกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้เหมือนที่เกิดขึ้นกับคุณขวัญ""คุณวรวิทย์เกี่ยวอะไรกับขวัญอุมา" "พี่ นพกับผมสงสัยว่าไอ้วรวิทย์จะอยู่เบื้องหลังการฮุบกิจการสายการบินซันไชน์ของ คุณขวัญอุมา พี่นพขอให้ผมช่วยตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ และเท่าที่ผมพบมันก็มีความเป็นไปได้สูงมากที่คุณขวัญจะถูกโกงจริงๆ" "ถ้าอย่างนั้นคุณขวัญก็ตกอยู่ในอันตรายน่ะสิ""ใช่ ตอนนี้พี่นพก็เลยต้องดูแลคุณขวัญ จนกว่าจะมีหลักฐานแน่ชัดที่จะเอาผิดกับพวกนั้น ผมถึงต้องมาเตือนคุณห้ามไว้ใจไอ้หมอนั่นเด็ดขาด เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณ ผมคงต้องทนอยู่กับความรู้สึกผิดนั้นไปชั่วชีวิต"วีรเทพกับพิมพ์มอง ตากันนิ่ง พลันเสียงโทรศัพท์มือถือของวีรเทพดัง วีรเทพหยิบขึ้นมาดูเห็นเป็นเบอร์ของยลดาจึงกดทิ้ง พิมพ์รู้ทันถามว่า คุณยลดาใช่ไหม? "พิมพ์...เรื่องของผมกับดาไม่ได้เป็นอย่างที่พิมพ์ เข้าใจนะ ผมจำเป็นต้องใกล้ชิดกับดาเพราะเป็นทางเดียวที่ผมจะได้หลักฐานมาช่วยคุณขวัญ" "แต่เท่าที่พิมพ์เห็น คุณยลดาเขารักวีมากนะ""แต่ผมไม่ได้รักเขา คนที่ผมรักคือคุณนะพิมพ์""ขอบคุณ วีที่มีความรู้สึกดีๆให้กับพิมพ์ แต่วีกำลังทำไม่ถูกที่ใช้ความรักของผู้หญิงเพื่อประโยชน์ของตัวเอง พิมพ์ขอตัว" พิมพ์ลงจากรถทันที ทิ้งวีรเทพนั่งอึ้งหน้าเศร้าครั้น วีรเทพกลับไปถึงบ้านในค่ำนั้น เจอยลดานำของกินแพงๆมาฝากแม่ของเขา ยลดาพอเห็นวีรเทพก็คาดคั้นจับผิดว่าเขาหายไปไหนมา วีรเทพโกหกว่าไปพบลูกค้า พอดีเขานัดมากะทันหัน "เหรอคะ น่าแปลกนะ เพราะวันนี้พี่วิทย์โทร.มาบอกดาว่าเห็นวีขับรถอยู่แถวโรงแรมที่ยัยพิมพ์มณี ไปถ่ายแบบ แต่ดาไม่เชื่อพี่วิทย์หรอก ดาเชื่อวี ไว้ใจวี เพราะวีรับปากกับดาแล้วว่าจะไม่ทำให้ดาเสียใจอีก..ใช่ไหมคะ" วีรเทพหน้าแหย รับคำเสียงอ่อยๆ "และที่สำคัญวันนี้ก็เป็นวันสำคัญของเราสองคนที่จะคุยเรื่องสำคัญกับคุณแม่ ของวีด้วย" "เรื่องสำคัญอะไร?""อ้าว...วีนัดให้ดามาคุยกับ คุณแม่เรื่องของเราไม่ใช่เหรอคะ แหมวีก้อ...ไม่ต้องมาทำเนียนเลยค่ะ ดารู้หรอกนะ ถ้าไม่ใช่ เรื่องแบบนั้นจะเป็นเรื่องแบบไหน ดาดีใจนะคะที่เราจะได้ลงเอยกันแบบนี้ เพราะใครๆเขาก็ทำกันแบบนั้น" ยลดาพูดไปเขินไป พอได้ยินวีรเทพซักอย่างสงสัยว่าแบบนั้นแบบไหน? ยลดา ยิ่งอายม้วน "แหมพี่ชายเนี่ย...เขาเขินนะตัวเอง ก็เรื่องแบบว่า... แบบนั้นไงอ่ะ เขาพูดก็ได้ ดาพร้อมแล้วนะคะที่จะมาช่วยดูแลวีต่อจากคุณแม่ ในฐานะแม่คุณ" วีรเทพหน้าเสียร้องเฮ้ย ท้วงยลดาว่าเข้าใจผิดแล้ว เขาแค่ชวนเธอมากินข้าวกับแม่เฉยๆ ยังไม่คิดเรื่องแต่งงานอะไรเลย แต่ยลดาทำเหมือนไม่สน ทึกทักเอาจริง แล้วพอเข้าไปนั่งร่วมโต๊ะอาหารกับแม่และน้องสาวของวีรเทพ ยลดาก็เปิดประเด็นเรื่องแต่งงานจนทุกคนตกใจ อยากรู้ว่าจะแต่งกันเมื่อไหร่ "แค่คิดไว้นะครับแม่ ยังไม่ได้กำหนดแน่นอน""แต่ก็คงเร็วๆนี้ค่ะ เพราะวีบอกดาว่าอยากให้แม่อุ้มหลานไวๆ" ว่าแล้วยลดาก็หันมายิ้มหวานให้วีรเทพที่ตกใจหน้าซีดเป็นไก่ต้มข่า! oooooooจบตอนที่ 13เครดิต ไทยรัฐ