เห็นด้วยตา สัมผัสด้วยใจ เปิดรับประสบการณ์ใหม่ เที่ยวด้วยใจเที่ยวด้วยกัน

<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
28 กรกฏาคม 2553
 

สงบเงียบ เรียบง่าย งดงาม นามเชียงคาน : 1

23/7/2010
ความคิดในหัวว่าจะมาเที่ยวเชียงคานเกิดขึ้นได้ซักประมาณ 2 ปี ท่าผ่านมา เพราะว่าได้ไปอ่านเจอเรื่องราวของเชียงคานซึ่งในขณะนั้นยังไม่มีอะไรมากมายเหมือนอย่างตอนนี้ ใน อนุสาร อสท. และทำให้เรารู้สึกว่าไม่ได้และฉันต้องมารู้จักเธอให้ได้ “คุณยายเชียงคาน”
ก่อนจะมาเชียงคานเราไม่ได้เตรียมอะไรไว้ว่าจะมีโปรแกรมมาเที่ยวในช่วงวันหยุดเข้าพรรษาเลย เพื่อนสาวถามว่าวันหยุดนี้จะไปเที่ยวไหน เราบอกอยากไปเชียงคานแต่ยังไม่มีเพื่อนไป เราก็เลยชวนกันไป ตัดสินใจได้ก่อนไป 1 สัปดาห์ เอ้าไปก็ไป เมื่อคิดได้ว่าไปแน่นอนก็เลยต้องไปจองตั๋วรถทัวร์ไว้ล่วงหน้ากลัวจะไม่มีรถไปเดี๋ยวทริปนี้จะแห้วซะ ได้ตั๋ว ปอ. 1 แอร์เมืองเลย ราคา 464 บาท (กรุงเทพ-เชียงคาน) ขากลับไม่มีขายต้องไปหาซื้อเอาที่เชียงคานเลย ได้ตั๋วไปและตั๋วกลับค่อยว่ากัน เราไปถึงหมอชิตกันประมาณ 5 โมงกว่า แต่รถอะออก ทุ่มครึ่ง ไม่เป็นไรมาเร็วดีกว่ามาช้าเพราะรถติด หาข้าวปลาอาหารกินก่อนขึ้นรถแถว ๆ หมอชิตนั่นแหล่ะ กว่ารถจะออกจากหมอชิตก็ประมาณเกือบ 2 ทุ่ม นั่ง ๆ นอน ๆ บนรถทัวร์เปิดหนังให้ดูก็ดูมันไม่จบสักเรื่อง พอจะจบก็เปลี่ยนเรื่อง (เซ็งโครต)
24/7/2010
เรามามาถึงเชียงคานก็ประมาณ 6 โมงเช้า โอ้ยสดชื่น สดชื่น จริง ๆ อากาศดีเหลือหลายกว่าที่คิด เราเลือกที่จะเดินไปที่พักที่เราจองไว้ และแล้วก็มีหนุ่มจากกรุงเทพฯ หัวใจรักการเที่ยวเหมือน ๆ กัน เข้ามาทักทายก็เลยเดินมาด้วยกัน สักพักนึกคิดได้ว่าทำไมไม่โทรไปที่พักถามเค้าว่าไปยังไงเดินทางไหน ก็เลยโทรไปซะปรากฏว่าเดินเลยมาประมาณ 4-5 ซอยแล้วต้องย้อนกลับไป เราพักกันที่ “ยูโรเฟรนชิพ” ถนนศรีเชียงคาน ซอย 6 ยังไงฝากที่พักคุณป้าติ๋มใจดีไว้ด้วยนะ (081-263-9068) บริการดีเหมือนอยู่บ้านเราเอง สบาย ๆ (ตลอดเวลาคุณป้าจะพูด “ตามสบายเลยลูกเหมือนอยู่บ้านเราเอง) ขอบคุณมากค่ะป้าติ๋ม


เมื่อไปถึงที่พักและเรากับเพื่อนสาวก็ทำการเช้าจักรยานที่บ้านพักมีให้ราคาคันละ 50 บาท 1 วัน ไปหาอาหารเช้าแบบเชียงคานกินกันก่อนจะออกเที่ยวต่อ อาหารเช้ามื้อแรกวันนี้เป็นข้าวเปียก หรือ ก๋วยจั๊บญวน ก็อร่อยดี ราคาย่อมเยา 20 บาท ใส่ไข่ 25 (ร้านบ้านคุณยาย ร้านอยู่ปากทาง ถนนศรีเชียงคานซอย 9)


กินอิ่มก็ปั้นจักรยานกลับมาที่พักก่อนเพื่อที่จะอาบน้ำอาบท่า ไปตะลอนทัวร์แก่งคุดคู้กัน วันนี้ทัวร์ของเราจะพึ่งแต่จักรยานกับ 2 ขา ปั้นเท่านั้น แก่งคุดคู้ห่างจากตัวเมืองเชียงคานไปประมาณ 4 – 5 กม. (ปั่นเหนื่อยได้ใจอยู่) ก่อนที่เราจะเข้าไปด้านในของแก่งคุดคู้ ก็เผอิญหรือชะตาฟ้าลิขิตก็ไม่ทราบได้ ให้มาเจอผู้บ่าวที่เราเจอกันเมื่อเช้าตอนลงรถทัวร์ ก็เลยไปเที่ยวมันด้วยกันซะเลย (ได้เพื่อนร่วมทริปอีกหนึ่ง ถ้าเที่ยวแบบไม่คิดมาก การมีเพื่อนร่วมทริปหน้าจะแปลกหรือจะแปลกหน้าเพิ่มมาแชร์ความคิดประสบการณ์ สำหรับเราแล้วโอเคเลย ตรง concept เปิดรับประสบการณ์ใหม่ เที่ยวด้วยใจเที่ยวด้วยกัน 555)

จากปากทางตรงนี้เข้าไปในแก่งก็ประมาณ 2.5 กม. ทางไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็โอเค (สำหรับฉัน โอเคไว้ก่อน) แก่งคุดคู้ เป็นแก่งหินใหญ่ขวางอยู่กลางลำน้ำโขง หินก้อนใหญ่ ๆ เป็นจำนวนมากจากการที่หินเหล่านี้อยู่ใต้น้ำเป็นเวลานาน ทำให้หินเหล่านี้มีสีสัน ไปต่าง ๆ ตัวแก่ง กว้างใหญ่เกือบจรดสองฝั่งแม่น้ำโขง มีกระแสน้ำไหลผ่านไปเพียงช่องแคบ ๆ ใกล้ฝั่งไทยเท่านั้นเอง ซึ่งกระแสน้ำเชี่ยวกราก เวลาที่เหมาะจะชมแก่งคุดคู้ที่สุดคือ เดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นเวลาที่น้ำแห้ง มองเห็นเกาะแก่งชัดเจน บริเวณแก่ง มีร้านอาหารจำหน่าย มากมาย
เราไปช่วงเข้าพรรษาเลยไม่เห็นอะไรอย่างที่เค้าบอก เห็นหินโผล่มานิดหน่อย น้ำโขงช่วงนี้สีแดง นั่งเพลิน ๆ ริมโขงก็เป็นอีกบรรยากาศนึงที่ยังไม่เคยทำ บริเวณรอบ ๆ แก่งจะมีร้านขายขนมพื้นเมือง มะพร้าวแก้ว ที่แก่งคุดคู้อร่อยมากๆๆๆๆๆๆๆ มีทั้งแบบนิ่มมาก นิ่มน้อย นิ่มปานกล่ง จนถึงนิ่มนิดหน่อย ถ้ามาที่นี่ต้องซื้อกลับไปไม่นั้นจะเสียใจนะจ๊ะ

เรา 3 คน นั่งเล่นนั่งกินอาหารอยู่ที่แก่งก็ประมาณ 2 ชม. ได้ ขอแนะนำเมนูขึ้นชื่อของแก่งคุดคู้ กุ้งฝอยทอดกรอบ ราคา 20 บาท อร่อยโครตนั่งกินเล่น ๆ เพลิน ๆ อร่อยอะ

จากนั้นเราก็ก็ปั่นจักรยานเที่ยวเรียบริมน้ำโขงกลับเข้าเมือง ใช้เวลาในการปั่นไม่น่าจะต่ำกว่า 1.5 ชม. เพราะปั้นไปแวะตามวัดวาอารามเก่าริมน้ำโขงกันไปเรื่อย ถ่ายรูป action acting กันสุด ๆ ตอนที่อยู่บนอานจักรยานอะไรมันก็สนุกหมด แต่พอถึงที่พักเท่านั้นแหล่ะ ก้าวลงจักรยานได้ โอ้แม้เจ้า ปวดขาและก้นสุด ๆ ประมาณว่าไม่ได้ปั่นจักรยานมาเป็นปีเป็นชาติ ขึ้นห้องได้สลบ หลับใหล กันไปเรา 2 คนกับเพื่อนสาว คิดว่าน่าจะหลับกันไปประมาณ 2 ชม. ได้นะ และแล้วเราก็ได้ยินเหมือนบ้านพักจะถล่มลงมา ที่ไหนได้ไอ้แก๊งเด็กหกนรก มันเดินอย่างกับบ้านจะพัง ประมาณว่าคนนอน นอนไม่ได้หัวสั่นหัวคลอน (อะช่างมันให้อภัย) เรานัดกับน้องชายที่เจอกันที่ไปทริปนี้ตอน 6 โมงเย็น ว่าจะไปเดินเที่ยวถนนคนเดินยามพบคร่ำ แล้วหาข้าวปลาอาหารอร่อย ๆ กินกัน มาทริปนี้คนมาเที่ยวเชียงคานเยอะพอสมควร แต่ชาวบ้านที่เชียงคานบอกว่าต้องช่วงหน้าหนาวคนจะมาเยอะกว่านี้อีกเพียบ แต่จากที่เราเห็นก็ว่าเยอะแล้วนะ


ถนนคนเดินไม่รู้ใครเป็นใครเดินบ้าง ร้านขายของก็แบบบ้าน ๆ ก็มี แนว ๆ ก็เยอะ ต้องมาดูกันเอาเองให้เห็นกับตาอะ วันแรกนี้ยังไม่บ้าซื้อของเท่าไหร่ แต่ก็ได้เสื้อยืดแบบเชียงคานมาใส่เที่ยวกันคนละ 1 ตัว อาหารเย็นมื้อนี้เราเลือกกินสุกี้แบบเชียงคาน ราคาชุดละ 159 บาท ร้านอยู่ซอย ข้าง ๆ วัดท่าครก จำไม่ได้ว่าซอยที่เท่าไหร่ ก็อร่อยดีกินง่าย ๆ สบายท้อง คืนนี้เรากลับที่พักกันประมาณ 3 ทุ่มกว่า ๆ อาบน้ำนอน เพลียสุด ๆ ก็ที่ไหนได้ประมาณ 5 ทุ่มเกือบเที่ยงคืน แก๊งเด็กหกนรกกลับมาที่พัก มันมาแบบไม่เกรงใจใคร ไม่เกรงใจจิ้งจก ฟ้าดิน มันยังคงเดินแบบฟ้าถล่ม พื้นทลาย แล้วมันยังคุยกันแบบว่าโลกนี้มีกูอยู่ 6 คน (นายแน่มาก) แถมมันยังงัดเอากีต้าร์มาดีดกล่อมคนอื่น ๆ เค้าก่อนเข้านอน (สุด ๆ ไปเลยลูกเอ้ย) มารยาทสังคม มารยาทการท่องเที่ยวมีกันบ้างมั้ย ขอเถอะถ้าคิดจะมาเที่ยวแบบนี้อย่าทำพฤติกรรมเยี่ยงนี้อีกเลย ถ้าหกเด็กนรกเผอิญผ่านมาอ่านเจอก็ปรับปรุงพฤติกรรมการท่องเที่ยวซะหน่อยนะลูกเอ้ย ทริปหน้าไปไหนใครเค้าจะได้ไม่มาด่าเอา (555)

พรุ่งนี้จะไปเก็บรายละเอียดที่ท่องเที่ยวที่เหลือแล้วจะมาเล่าต่อ To be continue



Create Date : 28 กรกฎาคม 2553
Last Update : 28 กรกฎาคม 2553 14:15:14 น. 7 comments
Counter : 3806 Pageviews.  
 
 
 
 
มารอชมเมืองคลาสสิคจากจังหวัดเลยนะครับ

ชอบใจ ถูกใจ blog นายหัว ก็อย่าลืมไปให้กำลังใจกันนะครับ
 
 

โดย: นายหัวเด่น วันที่: 28 กรกฎาคม 2553 เวลา:18:00:26 น.  

 
 
 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
 
 

โดย: TREE AND LOVE วันที่: 28 กรกฎาคม 2553 เวลา:18:58:54 น.  

 
 
 
อย่าลืมขึ้นไปชมทะเลหมอกบนภูทอกนะครับไม่งั้นเหมือนไปไม่ถึงเชียงคาน และร้านอาหารพื้นบ้านเป็นข้าวปุ้นนําแจ่วหาทานได้ที่นี่ที่เดียวและร้านที่ดูรสชาติจะเข้มข้นอร่อยก็น่าจะเป็นร้านป้าลี่ปากซอย14 กาแฟโบราณก็มีครบสูตรเลยครับมาร้านนี้ อย่าลืมแวะทั้ง 2 ที่นี้นะครับไม่งั้นเหมือนไปไม่ถึงนะครับ
 
 

โดย: เขยเชียงคาน(คนแปดริ้ว) IP: 172.20.2.100, 58.137.114.2 วันที่: 28 กรกฎาคม 2553 เวลา:19:11:44 น.  

 
 
 
อย่าลืมขึ้นไปชมทะเลหมอกบนภูทอกนะครับไม่งั้นเหมือนไปไม่ถึงเชียงคาน และร้านอาหารพื้นบ้านเป็นข้าวปุ้นนําแจ่วหาทานได้ที่นี่ที่เดียวและร้านที่ดูรสชาติจะเข้มข้นอร่อยก็น่าจะเป็นร้านป้าลี่ปากซอย14 กาแฟโบราณก็มีครบสูตรเลยครับมาร้านนี้ อย่าลืมแวะทั้ง 2 ที่นี้นะครับไม่งั้นเหมือนไปไม่ถึงนะครับ
 
 

โดย: เขยเชียงคาน(คนแปดริ้ว) IP: 172.20.2.100, 58.137.114.2 วันที่: 28 กรกฎาคม 2553 เวลา:19:12:04 น.  

 
 
 
ต้องไปให้ได้ค่ะ เชียงคาน
 
 

โดย: kwan_3023 วันที่: 29 กรกฎาคม 2553 เวลา:7:11:13 น.  

 
 
 
เชียงคานกำลังเริ่มเปลี่ยนไปแล้ว ... อย่าให้เหมือนปาย ณ.ปัจจุบันเลย
 
 

โดย: -*-Superbaker วันที่: 1 สิงหาคม 2553 เวลา:23:14:52 น.  

 
 
 
ดีจังเชียงคานมีถนนคนเดืนแล้ว น่าไปเที่ยวจังเลย

ส่วนขอนแก่น

ก็มีนานแล้วนะ มีขนมแปลกใหม่ ชื่อ ไข่ไดโนเสาร์ด้วยจ่ะ เจ้าแรกในเมืองไทย

สนใจบอกนะ 082-2955551
 
 

โดย: ไทดี้ IP: 10.115.101.12, 202.28.118.121 วันที่: 8 มีนาคม 2555 เวลา:12:47:46 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

กินให้สุด อย่าหยุดเที่ยว
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Life is Journey Life is Travel
[Add กินให้สุด อย่าหยุดเที่ยว's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com