กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
space
space
space
 
ตุลาคม 2565
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
space
space
14 ตุลาคม 2565
space
space
space

หลักบำเพ็ญสมถะกับวิปัสสนา

235 คนมีพื้นฐานอ่านแล้วเข้าใจร้องอ๋อเลย   110   ส่วนคนไม่มีพื้นฐานเลย  อ่านแล้วอารัยหว้าาาา 3


   สติทำกิจสำคัญทั้งในสมถะ และในวิปัสสนา   หากพูดเปรียบเทียบ  ระหว่างบทบาทของสติในสมถะ กับ ในวิปัสสนา  อาจช่วยให้เข้าใจมากขึ้น

   ในสมถะ สติกุมจิตไว้กับอารมณ์ หรือดึงอารมณ์ไว้กับจิต เพียงเพื่อให้จิตเพ่งแน่วแน่หรือจับแนบสนิทอยู่กับอารมณ์นั้น นิ่งสงบไม่ส่าย ไม่ซ่านไปที่อื่น เมื่อจิตแน่วแน่แนบสนิทอยู่กับอารมณ์นั้น เป็นหนึ่งเดียวต่อเนื่องไปสม่ำเสมอ ก็เรียกว่า เป็นสมาธิ และเพียงเท่านั้น  สมถะก็สำเร็จ

   ส่วนในวิปัสสนา  สติกำหนดอารมณ์ให้แก่จิต หรือดึงจิตไว้กับอารมณ์เหมือนกัน แต่มุ่งใช้จิตเป็นที่วางอารมณ์ เพื่อเสนออารมณ์นั้นให้ปัญญาตรวจสอบพิจารณา คือจับอารมณ์ไว้ให้ปัญญาตรวจดู และวิเคราะห์วิจัยโดยใช้จิตที่ตั้งมั่น เป็นที่ทำงาน* (ตรงนี้  วิปัสสนาอาศัยสมถะ, ปัญญาอาศัยสมาธิ,สมถะวิปัสสนาคู่กัน  แล้วแต่จะพูด) 

   หากให้อุปมา ในกรณีของสมถะ เหมือนเอาเชือกผูกลูกวัวพยศไว้กับหลัก ลูกวัวจะออกไปไหนๆ ก็ไปไม่ได้ คงวนเวียนอยู่กับหลัก ในที่สุด เมื่อหายพยศ ก็หมอบนิ่งอยู่กับหลักนั้นเอง จิตเปรียบเหมือนลูกวัวพยศ อารมณ์เหมือนหลัก สติเหมือนเชือก

   ส่วนในกรณีของวิปัสสนา  เปรียบเหมือนเอาเชือก หรือเครื่องมือ  ผูกตรึงคน สัตว์ หรือวัตถุบางอย่าง ไว้กับแท่นหรือเตียง  แล้วตรวจดู หรือทำกิจอื่น เช่น  ผ่าตัด  เป็นต้น  ได้ถนัดชัดเจน เชือกหรือเครื่องยึด คือสติ   คนสัตว์หรือวัตถุที่เกี่ยวข้อง คืออารมณ์   แท่นหรือเตียง คือจิตที่เป็นสมาธิ การตรวจหรือผ่าตัดเป็นต้นคือปัญญา

 


    ที่กล่าวมานั้น   เป็นการพูดถึงหลักทั่วไป ยังมีข้อสังเกตปลีกย่อยที่ควรกล่าวถึงอีกบ้าง  อีกอย่างหนึ่ง   คือ ในสมถะ   ความมุ่งหมาย อยู่ที่ทำจิตให้สงบ   ดังนั้น เมื่อให้สติกำหนดอารมณ์ใดแล้ว สติก็ยึดตรึงดึงจิตกุมไว้กับอารมณ์นั้น ที่ส่วนนั้นอย่างเดียว ให้จิตจดจ่อแน่วแน่แนบสนิทอยู่กับอารมณ์นั้นเท่านั้น ไม่ให้คลาดไปเลย  จนในที่สุด  จิตน้อมดิ่งแน่วแน่อยู่กับนิมิต หรือมโนภาพของสิ่งที่กำหนด  ซึ่งเป็นเพียงสัญญาที่อยู่ในใจของผู้กำหนดเอง

   ส่วนในวิปัสสนา    ความมุ่งหมาย  อยู่ที่ความรู้ความเข้าใจสภาวธรรม ดังนั้น สติจึงตามกำหนดตามจับตามถึงอารมณ์เฉพาะตัวจริงของมันตามสภาวะเท่านั้น และเพื่อให้ปัญญารู้เท่าทันครบถ้วนชัดเจนเกี่ยวกับสภาวะของมัน สติจึงตามกำหนดกำกับจับอารมณ์นั้นๆ ให้ทันความเป็นไปของมัน เพื่อปัญญาจะได้รู้อารมณ์นั้นโดยตลอด เช่น ดูมันตั้งแต่มันเกิดขึ้น คลี่คลายตัว จนกระทั่งดับสลายไป

   นอกจากนั้น   จะต้องให้ปัญญาดูรู้อารมณ์ทุกอย่างที่เข้ามา หรือเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งปัญญาจะต้องรู้เข้าใจ  เพื่อให้เกิดความรู้เท่าทันตามความเป็นจริง  สติจึงเปลี่ยนอารมณ์ที่กำหนด หรือที่จับให้ดูไปได้เรื่อยๆ

  อีกทั้งเพื่อให้ปัญญาดูรู้เท่าทันตรงตามที่สิ่งนั้นเป็นอยู่เป็นไปแท้ๆ  สติจึงต้องตามจับให้ทันความเป็นไปในแต่ละขณะนั้นๆ ทุกขณะ ไม่หยุดติดค้างอยู่กับอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่ง หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของอารมณ์ใดๆ

   ข้อสังเกตปลีกย่อยอื่นๆ ยังมีอีก  เช่น ในสมถะ  สติกำหนดอารมณ์ที่นิ่งอยู่กับที่ (เช่น กสิณ เป็นต้น) หรือเคลื่อนไหวเป็นรูปแบบเฉพาะซ้ำไปซ้ำมาภายในขอบเขตจำกัด

   ส่วนในวิปัสสนา สติกำหนดอารมณ์ที่กำลังเคลื่อนไหว หรือเป็นไปในสภาพใดๆก็ได้ ไม่จำกัดขอบเขต

   ในสมถะ   นิยมให้เลือกกำหนดอารมณ์บางอย่าง   ในบรรดาอารมณ์ที่สรรแล้ว  ซึ่งจะเป็นอุบายช่วยให้จิตใจสงบแน่วแน่ได้ง่าย

   ส่วนในวิปัสสนา   ใช้อารมณ์ได้ทุกอย่างไม่จำกัด   สุดแต่อะไรปรากฏขึ้นให้พิจารณาและอะไรก็ตามที่จะให้เห็นความจริง  (สรุปลงได้ทั้งหมดใน ร่างกาย เวทนา จิต ธรรม หรือในนามและรูป)


   ในการเจริญสมถะ   สาระสำคัญมีเพียงให้ใช้สติกำกับจิตไว้กับอารมณ์  หรือคอยนึกถึงอารมณ์นั้นไว้ และเพ่งความสนใจไปที่อารมณ์  ให้จิตอยู่กับอารมณ์นั้นจนแน่วแน่

(775)


อารมณ์   เครื่องยึดหน่วงของจิต, สิ่งที่จิตยึดหน่วง,   สิ่งที่ถูกรู้หรือถูกรับรู้ (สิ่งเร้า)


 


Create Date : 14 ตุลาคม 2565
Last Update : 11 ธันวาคม 2566 18:01:53 น. 0 comments
Counter : 368 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
space
space
space
space
space