https://www.facebook.com/photo/?fbid=759119749572649&set=a.647113877439904 ศรัทธา คือ ความเชื่อ ความซาบซึ้ง
ไม่ใช่ความรู้. แต่อาจเป็นทางเชื่อมไปสู่ความรู้ได้ เพราะศรัทธามีลักษณะเป็นการยอมรับความรู้ของผู้อื่น ฝากความไว้วางใจในปัญญาของผู้อื่น ยอมพึ่ง และอาศัยความรู้ของผู้อื่น หรือแหล่งแห่งความรู้นั้นเป็นเครื่องชี้นำแก่ตน ถ้าผู้มีศรัทธารู้จักคิดรู้จักใช้ปัญญาของตนเป็นทุนประกอบไป ศรัทธานั้น ก็สามารถนำไปสู่ความเจริญปัญญา และการรู้ความจริงได้ เฉพาะอย่างยิ่งในเมื่อผู้อื่นนั้น หรือแหล่งความรู้นั้นมีความรู้แท้จริง และมีกัลยาณมิตรช่วยชี้แนะให้รู้จักใช้ปัญญา แต่ถ้าเชื่ออย่างงมงาย คือ ไม่รู้จักคิด ไม่ใช้ปัญญาของตนเลย และผู้อื่นหรือแหล่งแห่งความรู้นั้นไม่มีความรู้จริง ทั้งไม่มีกัลยาณมิตรที่จะช่วยชี้แนะ หรือมีปาปมิตร ผลอาจกลับตรงข้าม นำไปสู่ความหลงผิด ห่างไกลจากความรู้ยิ่งขึ้น
ปัญญา ที่เป็นตัวความรู้ในสังขารขันธ์นั้น เป็นสิ่งที่จะต้องทำให้เกิดให้มีขึ้น ต้องฝึกปรือ ทำให้เจริญเพิ่มพูนขึ้นไปโดยลำดับ
ปัญญาจึงมีหลายขั้นหลายระดับ และมีชื่อเรียกต่างๆ ตามขั้นของความเจริญบ้าง ตามทางเกิดของปัญญานั้นบ้าง ตามลักษณะเฉพาะของปัญญาชนิดนั้นบ้าง อันจะพึงศึกษาความหมายของแต่ละอย่างสืบต่อไป จะขอยกชื่อของปัญญามาให้ดูเป็นตัวอย่าง เช่น
สัมปชัญญะ วิปัสสนา ปริญญา ญาณ วิชชา อัญญา อภิญญา พุทธิ โพธิ สัมโพธิ เป็นต้น
ซินแซ คสช. ว่ามั่ง
“ซินแสเข่ง” แจง ปีชง เป็นศาสตร์แห่งชีวิต ไม่ใช่เรื่องของศาสนา (msn.com) เกี่ยวกับปีชง โหร ซินแซ หมอดู บอกอะไรไม่หมดบ้าง
> ความเชื่อเรื่องปีชงนั้น รากฐานมาจากความเชื่อพื้นบ้านของคนจีน ที่ผสมผสานความเชื่อ จากหลักคิดของขงจื้อ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ภูตผีปีศาจ สิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ
ความเชื่อเรื่องปีชงนั้น อยู่คู่สังคมจีนโบราณมายาวนาน จนซึมลึกในวิถีชีวิต จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม นอกจากนี้ ความเชื่อเรื่องปีชง ยังมีรากฐานจากลัทธิเต๋า ที่เชื่อเรื่องดวงชะตา
เราควรรู้อะไรจากเรื่องของปีชง
1. ปีชงของชาวจีนไม่ได้มีแต่เรื่องแย่ๆ
เดิมแนวความเชื่อของชาวจีน "ปีชง" สามารถส่งผลได้ทั้งแง่บวกและลบ การแก้ชงคือนำสิ่งเลวร้ายออกไป เสริมสิริมงคลแก่ชีวิต แต่ปัจจุบันปีชงกลับเหลือเพียงความหมายด้านลบ ตกหล่นด้านที่ส่งเสริมดวงชะตาไปพอสมควร
2. สถานที่แก้ไขปีชงมีความเปลี่ยนแปลงไป
เดิมการแก้ชงสามารถทำที่ใดก็ได้ ไม่จำกัดสถานที่ แต่ปัจจุบันการแก้ชง ได้ย้ายมาสู่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวจีน เช่น ศาลเจ้า วัดจีน ฯลฯ บางส่วนยังแผ่ขยาย ไปถึงศาสนสถาน วัดต่าง ๆ ซึ่งส่วนนี้มาจากทั้งการโยกย้ายถิ่นฐาน และการปรับตัวเข้าสู่โลกปัจจุบัน รวมถึงเรื่องของพุทธพาณิชย์
(อันนี้ที่ดิฉันเห็นว่าเป็นปัญหามาก เพราะมีคนอ้างว่า การแก้ชงเป็นความเชื่อคนจีน ไม่เกี่ยวกับพุทธ แต่ในทางกลับกัน การแก้ชงในหลายครั้งกลับทำโดยพระและใช้วัดเป็นที่ประกอบพิธีกรรม ) 3. ปีชงที่เคยมีแค่ปีตรงข้ามกับนักษัตร แต่ปัจจุบันมีความซับซ้อนมากขึ้น
เริ่มแรกปีชงจะเกิดขึ้นแค่ปีนักษัตรเดียวในรอบปีเท่านั้น ถ้าชงกับปีนักษัตรใด ก็จะได้รับผลกระทบอยู่ปีเดียว ไม่มีการแบ่งสัดส่วน หรือผลกระทบไปหาปีนักษัตรอื่น แต่ปัจจุบันมีการแบ่งแยกย่อย แตกส่วนลดหลั่นกันไปเป็นระบบ ตั้งแต่ 100% 75% 50% 25% นับว่า ขยายการชงไปยังนักษัตรอื่นในแต่ละปี ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
4. การนับปีชงด้วยหลักธาตุทั้งห้าถูกลืมเลือนไป
ความเชื่อเรื่องปีชงสมัยก่อน ต้องพิจารณาถึงธาตุทั้งห้า ดิน น้ำ ไฟ ไม้ ทอง ควบคู่ไปด้วย บางครั้งแม้เราอยู่ในปีชง แต่ธาตุอาจไม่ชงก็ได้ เช่น ปีนี้เป็นปีมะเส็งธาตุน้ำ ผู้ที่ได้รับผลกระทบหนักสุด คือปีกุนธาตุไฟ ที่นับเป็นปีชง เพราะอยู่ในธาตุแพ้ทาง แต่ปัจจุบันกลับคำนึงถึงแค่ปีนักษัตร โดยละเลยส่วนธาตุทั้งห้าไปจนหมด
5. ช่วงเวลาแก้ชงหมดความหมายไปในปัจจุบัน
สมัยก่อนการแก้ชง มักกระทำหลังตรุษจีน เพราะถือเป็นช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านปี รวมถึงต้องคำนึงถึงวันที่เป็นฤกษ์เหมาะสมในการแก้ชงด้วย แต่ในปัจจุบันสามารถแก้ชงได้โดยสะดวกในทุกช่วงเวลา ไม่มีการจำกัดแบบแต่ก่อน ไม่ยึดติกับช่วงเวลามงคลตามตำราจีนอีกต่อไป
6. ผู้ดำเนินพิธีกรรมแก้ปีชงที่จำกัดลงกว่าแต่ก่อน
การแก้ชงสมัยก่อน สามารถทำได้ตามบ้านเรือนทั่วไป ขอแค่มีผู้รู้พิธีดำเนินการให้อย่างถูกต้อง วิธีแก้ชงจึงสามารถตกทอดมาจากบรรพบุรุษ มีตำรา หรือเนื้อความที่ระบุในปฏิทิน แต่ในปัจจุบันการแก้ชง จำกัดอยู่แค่ตามสถานที่ที่กำหนดไว้ ขั้นตอนวิธีการก็ตามที่ผู้เชี่ยวชาญในสถานที่นั้น ๆ เป็นผู้กำหนด
7. การแก้ปีชงจากเพื่อความสบายใจ กลายเป็นการขอพรเทพเจ้า
ในอดีตผู้ที่ตกปีชง หากไม่สะดวกใจในการแก้ชง สามารถเปลี่ยนเป็นการพก ฮู้ หรือ ยันต์ เครื่องรางจีนเพื่อเสริมดวง รวมถึงอาศัยการทำดี มีสติ ในการใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง แต่ปัจจุบันกลายเป็นข้อบังคับ สำหรับคนที่มีความเชื่อเรื่องปีชง ให้ต้องไปแก้ไขด้วยการกราบไหว้สักการะเทพเจ้า เพื่อขอความช่วยเหลือพึ่งพาบารมี เพื่อช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาแทน
(ตรงนี่ก็เป็นปัญหามาก เพราะบางคนที่ไม่มีทุนทรัพย์แต่อยู่ในปีชง ก็ตกที่นั่งลำบาก เพราะไม่สามารถจะจ่ายเงินเพื่อซื้อความสบายใจได้) 8. ที่สำคัญที่สุดในตำราจีน โปยหยี่สี่เถียว ไม่มีชงร่วม ชีวิตคนเราในรอบ 12 ปี จะมีแค่ 1 ปีที่ต้องระวัง มีสติ ไม่ประมาท คนจีนปีชง คือปีที่ปะทะ หรือ ชนกัน ปีมะโรง 2567 มังกรธาตุไม้ ชง100% มีแค่ปีเดียว คือปีจอ ไม่มีชงร่วมแบบที่หมอดูบางคนบอก เพราะปีฉลู ปีมะโรง ปีมะแม ชีวิตดี ถ้ามีสติ ตามตำราจีน
https://www.facebook.com/photo/?fbid=958040362350171&set=a.230156098471938ครบถ้วนกระบวนความ