กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.เป็นเจ้าบทบาทเดิม จากนั้น การศึกษาอาศัยปรโตโฆสะ ซึ่งมีคติว่า "คนเป็นไปตามสภาพแวดล้อมที่ปรุงปั้น" และโยนิโสมนสิการ ซึ่งมีคติย้อนกลับว่า "ถ้าเป็นคนรู้จักคิด แม้แต่ฟังคนบ้าคนเมาพูด ก็อาจสำเร็จเป็นพระอรหันต์"
space
space
space
<<
มกราคม 2566
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
space
space
30 มกราคม 2566
space
space
space

พระเป็นอาชีพหรือไม่ 


คำถาม 450


> อันนี้ขอถามเรื่องศาสนาหน่อย

   พระเป็นอาชีพหรือไม่  ขอให้คนที่มีความรู้ทางศาสนา  มาตอบหน่อย แต่ให้ขอตอบแบบเป็นภาษาที่เข้าใจง่ายนะ ไม่เอาบาลี

https://pantip.com/topic/41847137

235 ดูหลักการการตั้งสังฆะของพระพุทธเจ้าแล้ว   ตอบได้ว่า "ไม่เป็น"   

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=samathijit&month=15-04-2021&group=6&gblog=5


จากความที่ว่ามานี้   มีข้อพิจารณาสืบเนื่องออกไป ๒ อย่าง คือ

     ก. ว่าโดยทางธรรม   ความสัมพันธ์ระหว่างแรงงาน กับ อาชีวะและผลตอบแทน แยกได้เป็น ๒ ประเภท

     ๑) สำหรับคนทั่วไป  หรือชาวโลก  การใช้แรงงานในหน้าที่ เป็นเรื่องของอาชีวะโดยตรง คือเป็นไปเพื่อได้ผลตอบแทนเป็นปัจจัยเครื่องยังชีพ ดังมองเห็นกันอยู่ตามปกติ

     ๒) สำหรับสมณะ หรือผู้สละโลก   การใช้แรงงานในหน้าที่ ไม่เป็นเรื่องของอาชีวะ ไม่มีความมุ่งหมายในด้านอาชีวะ หรือไม่เกี่ยวกับอาชีวะเลย คือ ไม่เป็นไปเพื่อได้ผลตอบแทนเป็นปัจจัยเครื่องยังชีพ แต่เป็นไปเพื่อธรรมและเพื่อผดุงธรรมในโลก  ถ้าเอาแรงงานที่พึงใช้ในหน้าที่มาใช้ในการแสวงหาปัจจัยเครื่องยังชีพ กลับถือเป็นมิจฉาชีพ และถ้าใช้แรงงานในหน้าที่เพื่อผลตอบแทนอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ดี ร้องขอปัจจัยเครื่องยังชีพโดยมิใช่เป็นความประสงค์ของผู้ให้ที่จะให้เอง ก็ดี ก็ถือว่าเป็นอาชีวะไม่บริสุทธิ์

     โดยนัยนี้   นอกจากมิจฉาชีพอย่างชัดเจน คือการหลอกลวง  การประจบเขากิน การเลียบเคียง การขู่เข็ญบีบเอา และการเอาลาภต่อลาภแล้ว การหาเลี้ยงชีพด้วยการรับใช้เขา เช่น เป็นคนเดินข่าว ก็ดี ด้วยการประกอบศิลปะและวิชาชีพต่างๆ เช่น ดูฤกษ์ยามทำนายลักษณะ รักษาโรค ก็ดี ก็จัดเข้าเป็นมิจฉาชีพสำหรับพระภิกษุเหมือนกัน

     ภิกษุไม่เจ็บไข้   ขอโภชนะอันประณีต  หรือแม้แต่กับข้าวหรือข้าวสุกมาเพื่อตนเองแล้วฉัน ก็เป็นวิบัติแห่งอาชีวะ   เอาธรรมทำเป็นดังสินค้า  ก็ผิดจรรยาบรรณนักบวช แม้แต่เพียงแสดงธรรมโดยคิดให้เขาชอบแล้วอาจได้อะไรๆ ก็เป็นธรรมเทศนาที่ไม่บริสุทธิ์ หรือเพียงแต่การให้ของเขามีลักษณะเป็นการให้ค่าตอบแทนก็ไม่เป็นการสมควร

    ดังตัวอย่างเหตุการณ์ที่เกิด กับ พระพุทธเจ้า  ครั้งหนึ่ง  พระพุทธเจ้า  เสด็จไปบิณฑบาต ทรงเข้าไปหยุดประทับยืนในเขตไร่นาของพราหมณ์ผู้หนึ่ง   พราหมณ์กราบทูลว่า  "ข้าพเจ้าไถหว่านแล้วจึงได้กิน    แม้ท่านก็จงไถหว่านแล้วบริโภคเถิด"    พระพุทธเจ้าก็ตรัสตอบเป็นคำร้อยกรอง ชี้แจงการไถหว่านของพระองค์    ที่มีผลเป็นอมตะ   พราหมณ์เห็นชอบด้วย  เกิดความเลื่อมใส  จึงนำเอาอาหารเข้ามาถวาย    พระพุทธเจ้าไม่รับ โดยตรัสว่า ไม่ควรบริโภคโภชนะที่ขับกล่อมได้มา (ขุ.สุ.25/297/340)

    ที่มาอันชอบธรรม และบริสุทธิ์แท้จริงของปัจจัยเครื่องยังชีพสำหรับพระภิกษุ  ก็คือ  การที่ชาวบ้านมองเห็นคุณค่าของธรรม  และเห็นความจำเป็นที่จะต้องช่วยให้บุคคลผู้ทำหน้าที่ผดุงธรรม มีชีวิตอยู่และทำหน้าที่นั้นต่อไป   จึงเมื่อรู้ความต้องการอาหารของสมณะเหล่านั้น อันแสดงออกด้วยการเที่ยวบิณฑบาตโดยสงบแล้ว   ก็นำอาหารไปมอบด้วยความสมัครใจของตนเอง  โดยที่ผู้ให้  หรือผู้ถวายนั้นได้รับผล คือ การชำระจิตใจของตนให้ผ่องใส และชักนำจิตของตนให้เป็นไปในทางสูงขึ้น   ด้วยการที่ตระหนักว่า   ตนได้ทำสิ่งที่ดีงาม  ช่วยสนับสนุนผู้บำเพ็ญธรรม และมีส่วนร่วมในการผดุงธรรม   เรียกสั้นๆว่า ทำบุญ หรือได้บุญ

    ฝ่ายภิกษุผู้รับปัจจัยทานนั้น    ก็ถูกกำกับด้วยหลักความประพฤติเกี่ยวกับปัจจัย ๔ อีกว่า พึงเป็นผู้มักน้อยสันโดษ  รู้จักประมาณในการรับปัจจัยสี่เหล่านั้น   อันตรงข้ามกับการปฏิบัติหน้าที่ เช่น การสั่งสอนแนะนำแสดงธรรม   ซึ่งพึงกระทำให้มากเท่าที่จะทำได้ โดยมุ่งแต่ประโยชน์สุขของผู้รับคำสอนฝ่ายเดียว

    โดยนัยนี้   หลักการกินให้น้อยที่สุด โดยทำงานให้มากที่สุด จึงเป็นไปได้สำหรับสมณะ โดยที่แรงงานในการทำหน้าที่กับอาชีวะ  ตั้งอยู่คนละฐาน   อย่างไม่มีจุดบรรจบที่จะให้มีการยกเอาปริมาณแรงงานขึ้นเปรียบเทียบเพื่อเรียกร้องสิทธิ์ในด้านอาชีวะได้เลย  และเมื่อสมณะยังปฏิบัติอยู่ในหลักการนี้   ระบบของสังคมก็ไม่อาจครอบงำสมณะได้เช่นกัน

    หลักการเท่าที่กล่าวมานี้ทั้งหมด   มีความมุ่งหมายที่สำคัญ คือ การมีชีวิตแบบหนึ่งที่เป็นอิสระจากระบบทั้งหลายของสังคม หรือมีชุมชนอิสระชุมชนหนึ่งไว้ทำหน้าที่ด้านธรรม  ที่ต้องการความบริสุทธิ์สิ้นเชิงแก่ชาวโลก


 


Create Date : 30 มกราคม 2566
Last Update : 13 ธันวาคม 2566 8:23:50 น. 0 comments
Counter : 789 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 6393385
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 6393385's blog to your web]
space
space
space
space
space