Bloggang.com : PuPe_so_Sweet : Dermatologist Tested นั้นท่านได้แต่ใดมา ???

Dermatologist Tested นั้นท่านได้แต่ใดมา ???

เวลาผ่านไปตามเคาเตอร์เครื่องสำอางหรือร้านขายยา เมื่อหยิบดูกล่อง skincare ขึ้นมาอ่านก็ตะได้เจอกับคำเหล่านี้บ่อย ๆ

- ผ่านการตรวจสอบโดยแพทย์ผิวหนัง (Dermatologist Tested)

- ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ (Hypoallergenic) หรือ ออกแบบมาเพื่อผิวแพ้ง่าย (designed for sensitive skin)

- ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (non-comedogenic) ไม่ก่อให้เกิดสิว (non-acnegenic)

- ผ่านการทดสอบทางคลีนิค (Laboratory / Clinical tested)

จะว่าไป เครื่องสำอางสมัยนี้ทุกชิ้นทุกยี่ห้อ ต้องมีคำพวกนี้แปะเอาไว้ ไม่ 1 ก็ 2 อย่าง (บางทีมันใส่หมดเลย แบบว่าชวนเชื่อสุด ๆ) แต่อ่านส่วนผสมก็เห่ย ลองใช้ไปก็ห่วย แพ้หนัก สิวกระจาย จึงเกิดอาการคับข้องค้างคาใจ ว่าไอ้คำกล่าวอ้างทั้งหลายเนี่ย ท่านได้แต่ใดมา

วันนี้ปูเป้จึงทำการสับแหลกตีแผ่ลึกถึงซอกหลืบง่ามก้นอีกแล้วขอรับ

การที่เครื่องสำอางใด ๆ จะสามารถออกมาขายในตลาดให้ผู้บริโภคได้นั้น ต้องผ่านการเห็นชอบของ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ FDA ซะก่อนนะขอรับ แต่เนื่องด้วยที่กฏระเบียบหรือขั้นตอนของทางการหลาย ๆ ย่อมมีช่องโหว่ให้บริษัทเครื่องสำอางเล่นตุกติกได้อยู่แล้ว ทาง FDA ก็พยายามที่จะแก้ไขนะครับ แต่การที่จะกำหนดขั้นตอนการตรวจสอบมาตรฐานและอณุมัติใช้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายหรือรวดเร็วเลย

ในที่นี้จะอ้างอิงจากข้อมูลของ US FDA นะขอรับ

"the Food and Drug Administration has been working to clear up this confusion of claims by establishing testing requirements that would determine which products really are "hypoallergenic." But late last year, the U.S. Court of Appeals for the District of Columbia ruled that FDA's regulation defining "hypoallergenic" was invalid. This means there is now no regulation specifically defining or governing the use of the term "hypoallergenic" or similar claims. And because of the lengthy procedural steps required to establish a new regulation, that is likely to be the situation for some time to come"

(Source : //www.cfsan.fda.gov/~dms/cos-224.html)

สรุปได้ว่า ปัจจุบันนี้ไม่มีกฏระเบียบหรือขั้นตอนมาตรฐานในการตรวจสอบและทดสอบ ครับ คำกล่าวอ้างที่แปะข้างกล่องเหล่านี้จึง "ไม่มีค่าอะไรเลย" สักนิด ไม่สามารถที่จะนำมายืนยัน นั่งยัน นอนยัน ประสิทธิภาพได้ เป็นเพียงแค่การตลาด รูปแบบหนึ่งครับ

ผ่านการตรวจสอบโดยแพทย์ผิวหนัง (Dermatologist Tested)

ข้อความนี้ไม่ได้บอกว่าคุณหมอคนไหนเป็นคนทำการทดสอบ และทดสอบอะไร ด้วยวิธีการไหน มีขั้นตอนอย่างไร ใช้มาตรฐานแบบไหนในการตัดสิน อาจจะเอาหมอผิวหนังที่ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ หยิบครีมขึ้นมาดู ๆ ดม ๆ อ่านส่วนผสมนิดหน่อย แล้วบอกว่า "ก็โอนะฮะ" ก็รับไปเลยครับ "Dermatologist Tested"

ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ (Hypoallergenic) หรือ ออกแบบมาเพื่อผิวแพ้ง่าย (designed for sensitive skin )

นี่ก็ไม่มีข้อบังคับอีกเหมือนกันว่าต้องทดสอบแบบไหน กับใคร ยังไง การตรวจสอบอาจจะเอาครีมไปทาฝ่าเท้าแล้วทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง ปรากฏว่าฝ่าเท้าไม่มีอาการแพ้แต่อย่างไร ปลอดภัยไฟเขียวโลด แปะป้ายดังปังว่า "ทดสอบการแพ้แล้ว"

ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (non-comedogenic) ไม่ก่อให้เกิดสิว (non-acnegenic)

ใครที่ยังคงเชื่อหรือใช้ข้อความนี้ช่วยในการเลือกซื้อ ควรจะเปลี่ยนได้แล้วขอรับ เนื่องจากว่ามันก็ไม่มีมาตรฐานในการทดสอบเพื่อให้ได้มาซึ่งคำกล้าวอ้างนี้เลย บริษัทอาจจะทำการทดสอบจริง ๆ ก็ได้ครับ แต่อาจจะไปทดสอบกับคนที่ไม่เคยมีสิวมาเลยตลอดชีวิต หรือไม่ก็ทาบนหลังมือซึ่งสิวไม่มีทางจะขึ้นอยู่แล้วตามปกติ

- ผ่านการทดสอบทางคลีนิค (Laboratory / Clinical tested)

ทำการทดสอบที่ไหน ทำยังไง ไม่ได้กำหนดอีกแล้วขอรับ จะเอาไปทดสอบกับคลีนิครักษาสัตว์ก็ยังได้

เนื่องจากยังไม่มีกฏระเบียบขั้นตอนในการตรวจสอบ ทาง US : FDA จึงกำหนดให้เครื่องสำอางทุกชิ้นจะต้องระบุส่วนผสมทุกอย่างโดยละเอียด ถึงแม้ว่าจะไม่บอกว่าใส่ไปเท่าไหร่ แต่ก็ยังดีกว่าเราไม่รู้อะไรเลยว่ามันใส่อะไรลงไปบ้าง ผู้บริโภคจึงสามารถดูและหลีกเลี่ยงสารที่ตนแพ้ได้ (แต่ก็มีเป็นกลุ่มน้อยครับ ที่อ่านส่วนผสมรู้เรื่อง)

มาถึงระเบียบ FDA บ้านเรากันบ้าง ว่าของ US แย่แล้ว ของบ้านเราหนักกว่าขอรับ เพราะว่าส่วนผสมก็กำหนดแค่ให้บอกเป็น "ส่วนประกอบสำคัญ" เท่านั้น ซึ่งปูเป้จะหงุดหงิดมากกับแบรนด์ที่ผลิตในบ้านเราส่วนใหญ่ ยกตัวอย่างเช่น

ครีมทาหน้าวิตามิน E ยี่ห้อหนึ่ง

"มีส่วนผสมของวิตามินอีธรรมชาติ ฟื้นฟูและยืดอายุผิวกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ จึงใช้ได้ผลดี กับการลดรอยแผลเป็น โจโจบาออยล์ธรรมชาติ บำรุงผิวให้เนียนนุ่ม ละมุน คงความชุ่มชื่นของเซลล์ผิว และดูมีน้ำมีนวลแปล่งปลั่ง เต่งตึง ลดรอยเหี่ยวย่น สารสกัดจาก Aloe Vera สมุนไพรธรรมชาติ ลดรอยแผลเป็น ท้องลายหลังคลอด และจุดด่างคำที่เกิดจากสิว "

พอพลิกกล่องจะไปดูส่วนผสม

ส่วนประกอบสำคัญ : Vitamin E, Jojoba Oil, Aloevera

... อยากจะปาไอ้กล่องครีมนั่นทิ้งลงพื้นจริง ๆ เล่นบอกกันง่าย ๆ แบบนี้เลยเร๊อะ!!!!!!!!!!!

Create Date : 13 พฤษภาคม 2551

Last Update : 30 พฤศจิกายน 2551 16:33:49 น.

6 comments

Counter : 13921 Pageviews.

ขอบคุณนะคะที่ เอาความรู้มาเผื่อแผ่ เปิดหูเปิดตาตัวเองขึ้นมาซะที หลงงมงายกับ สัพคุณ(ถูกเปล่าเนี่ย)บ้าๆบอมาตั้งนาน เอ่อ เห่อๆๆๆ แล้วอย่าลืม แนะนำครีมดีๆ สำหรับ 30 ยังแจ๋วบ้างนะคะ จะรอค่ะ

โดย: kimicong IP: 69.231.45.145 วันที่: 14 พฤษภาคม 2551 เวลา:4:44:44 น.

"ส่วนประกอบสำคัญ"

ฮ่าๆ มันก็จริงนะครับ

โดย: ConfessioN_Keng IP: 118.173.251.124 วันที่: 20 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:03:16 น.

ขอบคุณค่ะ อิ ๆ

โดย: บี IP: 58.9.232.206 วันที่: 2 สิงหาคม 2551 เวลา:17:02:58 น.

ส่วนประกอบสำคัญ : Vitamin E, Jojoba Oil, Aloevera

^
i
i
i

เออ เพิ่ง รู้สึก งี้เอง T_T

โดย: เฉา IP: 202.149.24.129 วันที่: 31 สิงหาคม 2551 เวลา:13:19:43 น.

เซ็งจิงๆเรย
เข้ามาอ่าน ได้ความรู้เยอะจิงๆเลยขอรับ
ไอเราก้อหลงเชื่อซื้อชุดสิวมายกเซ็ตเลย
เพราะผ่านการทดสอบ เพราะเวชสำอาง
จาเอาไงดีหล่ะทีนี้
พลิกดูส่วนประกอบ เหอะๆแอลกอฮอทั้งนั้นเลย
ก้อว่าใช้แรกๆแล้วทำไมสิวมันเห่อ
ขอบคุนมากจิงๆที่ทำให้ตาสว่าง
จากอีเวชสำอางอันโด่งดัง E _ _ _ R _ N

โดย: 555+ IP: 125.25.71.243 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:20:39:15 น.

ขำขี้แตกเลย 555

โดย: xza IP: 125.27.49.2 วันที่: 24 เมษายน 2552 เวลา:11:10:55 น.