"ความรู้" คู่ "ความงาม"
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
12 พฤษภาคม 2551
 
All Blogs
 
เคล็ด(ไม่ลับ) ในการเลือกซื้อเครื่องสำอาง สไตล์ PuPe


สวัสดีขอรับคุณผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ปูเป้จะมาเล่าเคล็ดลับ (ที่ตอนนี้ไม่ลับแล้ว) ในการเลือกซื้อเลือกใช้เครื่องสำอางตามสไตล์ปูเป้นะขอรับ

ไม่ได้จะบอกว่าวิธีของปูเป้ถูกแล้ววิธีอื่น ๆ ไม่ดีนะขอรับ ของแบบนี้เป็นความชอบส่วนบุคคล ใครชอบแบบไหนก็เลือกใช้ตามอัธยาศัย แต่ตัวปูเป้แล้วไซร้ขอใช้วิธีของปูเป้ดีกั่ว (ซึ่งใครจะเอาไปปรับใช้ก็ไม่ว่ากันนะขอรับ)

กฏเหล็กและขั้นตอนก่อนจะไปถลุงเงินตัวเองก็มีดังนี้ครับ หาข้อมูล ตั้งสติ และอย่าซื้อของที่ไม่จำเป็น

Photobucket


1. หลีกเสี่ยงส่วนผสมที่ไม่ดี หรือไม่มีประโยชน์

เครื่องสำอางทีดี ต้องไม่มีส่วนผสมที่ระคายเคือง ในที่นี้คือส่วนผสมที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผิว ส่วนผสมที่มีผลเสียมากกว่าผลดีต่อผิว และส่วนผสมที่ก่อผลเสียกับผิว ที่ควรหลีกเลี่ยงหลัก ๆ ก็มีดังนี้ครับผม

- Alcohol (แอลกอฮอล์) ในที่นี้คือแอลกอฮอล์ที่มีน้ำหนักโมเลกุลต่ำหรือแอลกอฮอล์ที่ระเหยได้ทั่วไปน่ะครับ เช่น ethanol, denatured alcohol, ethyl alcohol, methanol, benzyl alcohol, isopropyl alcohol, sd alcohol โดยเฉพาะถ้ามันถูก List ไว้เป็นอันดับต้น ๆ ของ Ingredient list เพราะนอกจากมันจะไม่มีผลดีกับผิวเลยแม้แต่นิด มันยังทำให้ผิวระคายเคืองและก็ยังทำให้เกิดความเสียหายจากอนุมูลอิสระด้วยครับ ในบางกรณีที่แอลกอฮอลเหล่านี้ผสมอยู่ในเครื่องสำอางแต่อยู่ในส่วนท้าย ๆ ของส่วนผสม พวกนั้นทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายส่วนผสมอื่นๆให้เข้ากันเฉยๆ ไม่ก่อให้เกิดผลเสียแต่อย่างไรครับผม

- Fragrant Oil (น้ำมันหอมระเหย) ไม่อยากใช้คำว่า Essential Oil เพราะว่า Oil จากพืชหลายชนิดก็ดีต่อผิวเช่นพวก Coconut oil, Sweet almond Oil น้ำมันหอมระเหยแตกต่างจากน้ำหอมตรงที่ ในตัวน้ำมันหอมระเหยมีสารประกอบอยู่ในนั้นอีกมากมายไม่ต่ำกว่า 200 ชนิดซึ่งเกือบทั้งหมดมีผลในเชิงลบต่อผิว น้ำมันหอมระเหยมีผลดีต่อเราต่อเมื่อสูดดมนะครับ ไม่ว่าจะช่วยให้สดชื่น ผ่อนคลาย แต่มันไม่เกี่ยวกับการทาลงไปผิวโดยตรงซึ่งจะส่งผลตรงกันข้ามเลยครับ

Fragrant Oil ส่วนใหญ่มักถูกนำมาโฆษณาแต่ด้านดีแต่มักไม่บอกถึงด้านเสีย ยกตัวอย่างเช่น Lavender Oil ซึ่งเป็น Essential Oil ที่นำมาใช้กันกว้างขวางที่สุด น้ำมันตัวนี้คุณสมบัติเป็น Antioxidants เมื่อทาบนผิว แต่มันก็ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองได้ และร้ายแรงที่สุดก็ถึงขั้นทำลายเซลล์ผิว

- Scrub ที่หยาบเกินไป ยกตัวอย่างเช่นพวกเปลือกพืชทั้งหลายแหล่ ไม่ว่าจะเป็นเปลือกวอลนัท เปลือกมะพร้าว เมล็ดมะม่วงบด หรือพวก อลูมิเนียมออกไซด์ ที่มักใส่ลงไปผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่าใช้แทนการทำ dermabration ได้ทั้งหลาย เพราะส่วนผสมเหล่านี้เมื่อส่องด้วยกล้องขยายความละเอียดสูง จะเป็นเหลี่ยมมุมที่คมมาก จึงไปครูดผิวให้เป็นแผลเล็ก ๆจนเกินการระคายเคืองได้ง่าย





2. มองหาส่วนผสมที่มีประโยชน์และมีการวิจัยยืนยันผลอย่างกว้างขวาง และมองข้ามพวกสารสกัดจากแดนลับแลที่เราไม่เคยได้ยินมาก่อน


เป็นที่รู้ ๆ กันอยู่เต็มอกตามประสาผู้ที่รักสวยรักงาม ว่าพวกโฆษณาที่บอกว่า สารมหัศจรรย์ หายากจากดินแดนลับแล มักกระตุ้นความสนใจเราได้ดีกว่าอยู่แล้ว ซึ่งเมื่อก่อนปูเป้เองก็เป็นนะขอรับ

"สารสกัดอันทรงคุณค่า จากสาหร่ายทะเลพิเศษอันมีต้นกำเนิดมาจากห้วงมหาสมุทรอันไกลโพ้นที่มีความบริสุทธิสูงซึ่งมิเคยถูกรบกวนจากมลพิษ ด้วยความลึกถึง 14,578 เมตรอันอุดมไปด้วยแร่ธาตุเข้มข้นจากตาน้ำแร่ร้อนใต้พื้นภิภพ ทีมนักวิทยาศาสตร์ของเราไปค้นพบสาหร่ายทะเลมหัศจรรย์นี้จากท้องของปลาไหลน้ำลึกที่ถูกกินโดยปลาฉลามโบราณหายากซึ่งดันไปสิ้นใจตายในท้องปลาวาฬอีกที เราจึงได้นำมาสกัดเป็นสารลดเลือนริ้วรอยที่มีคุณภาพสูง ซึ่งนับได้ว่าเป็นการค้นพบอันยิ่งใหญ่ที่ปฏิวัติวงการเครื่องสำอาง เปรียบเสมือนกับการนำมนุษย์ขึ้นสู่ดาวอังคารได้สำเร็จเลยทีเดียว"

มันฟังดูดีกว่า น้ำสกัดว่านหางจรเข้ที่ขึ้นหลังล้วมหลุมข้างบ้านเราเยอะ... แต่สารสกัดที่คนไม่ค่อยรู้จักพวกนี้ ก็เป็นการบอกนัย ๆ ว่ามันไม่ได้มีการวิจัยรับรองผลซึ่งได้ยอมรับกันอย่างกว้างขวางในระดับสากล สารสกัดเหล่านี้จึงมักเป็นเพียงคำกล่าวอ้างที่มีการวิจัยจากบริษัทผู้ผลิตเท่านั้น (ซึ่งใครจะมาบอกว่าของตัวเองไม่ดีล่ะ)

ส่วนผสมดี ๆ ที่ควรจะมี เช่น

- Natural Moisturizing Factor หรือสารให้ความชุ่มชื้นที่มีในผิวตามธรรมชาติ นอกจากจะให้ความชุ่มชื้นแล้วสารเหล่านี้ยังเป็นเสมอเกาะป้องกันให้ผิวตามธรรมชาติด้วยครับ ตัวอย่างก็เช่นพวก amino acids, ceramides, hyaluronic acid, cholesterol, fatty acids, triglycerides, phospholipids, glycosphingolipids, urea, linoleic acid, glycosaminoglycans, glycerin, mucopolysaccharide, sodium PCA

- Antioxidants อันนี้จะไม่อธิบายมากนะครับ เพราะคิดว่าจะรู้จักดี สารเหล่านี้เสริมการทำงานของผิวโดยการลดภาระของผิวที่ต้องไปต่อสู้กับการอนุมูลอิสระ จึงทำให้ผิวมีพลังงานเหลือเผือที่จะไปบำรุงซ่อมแซมตัวเองครับ

- Cell-signaling substance เซลล์ของเราอาจจะทำงานผิดปกติไปจากที่มันควรเป็นก็มาได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะจากมลภาวะ ฮอร์โมน ความเครียด หรือสารอนุมูลอิสระ สาร Cell-signaling พวกนี้จะทำหน้าที่เหมือนเป็นผุ้ส่งสารให้กับนิวเคลียส์ของเซลให้ทำงานอย่างเป็นปกติ ตัวอย่างก็เช่น Vitamin B3 และ Retinol

- Anti-Irritants หรือสารต้านอาการระคายเคือง สารเหล่านี้เป็นตัวช่วยให้ผิวได้รักษาตัวเองได้ดีขึ้นครับ ยกตัวอย่างก็เช่น allantoin, aloevera, bisabolol green tea, licorice root และอื่น ๆ อีกมากมายเยอะแยะตาแป๊ะไก่





3. บรรจุภัณฑ์ หรือ แพคเกจ

ไมได้หมายความว่าจะต้องบรรจุใน ขวดแก้วคริสตัลสวารอฟสกี้ ลงลายดิ้นทองด้วยทองสวิส 99.99 ประดับยอดด้วยเพรชสีเหลืองน้ำงามบริสุทธิ์แต่อย่างใด แต่การบรรจุภัณฑ์ที่ดี ควรจะสามารถเก็บรักษาสารสำคัญในครีมให้เสถียรและคงคน พร้อมลดโอกาสที่ครีมจะปนเปื้อนหรือสัมผัสกับปัจจัยภายนอกให้มากที่สุด

ดังนั้นแพคเกจที่ดีควรจะเป็นภาชนะที่ทึบแสง จะเป็นหลอดบีบ ขวดปั้ม หรือหลอดอลูมิเนียมก็ได้ทั้งนั้น

แต่น่าเสียดายที่ใครไม่รู้เป็นคนกำหนด ให้ครีมต้องอยู่ในกระปุกอยู่ร่ำไป ทันทีที่เปิดกระปุกขึ้นมา คุณก็ทำให้สารที่ไม่คงทนต่อแสง หรืออากาศ อย่างพวกวิตามินและสาร Antioxidants นั่นเสื่อมลงไปเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่จวักตักจ้วงครีมนั้นออกมา เราก็ทำให้มันปนเปื้อนไปด้วยเชื้อแบคทีเรีย ครีมกระปุกน้อยของคุณอาจเต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพในวันแรก ๆ ที่ซื้อ แต่มันอาจจะเหลือคุณภาพแค่ครึ่งเมื่อผ่านไปได้ไม่นาน และนาน ๆ ไปสุดท้ายมันก็เหมือนกับทาโลชั่นนีเวียตลับฟ้าราคา 50 บาท ที่ไม่มีประโยชน์อะไรเลย...นอกจากเคลือบผิว

หากจำเป็นต้องใช้กระปุก ปูเป้ก็จะซื้อกระปุกทดขนาดลองเล็ก ๆ มาใช้ครับ มันจะได้หมดเร็วหน่อย (แถมราคาถูกกว่าซื้อขนาดเต็มตั้งเยอะแยะ)





4. ราคา

เนื่องด้วยความเป็นจริงหลาย ๆ อย่างที่ปูเป้เล่าให้ฟังไปในตอนก่อน ราคาของเครื่องสำอางที่ปูเป้พอรับได้ จะอยู่ในระหว่าง 300 - 1,200 บาท ต่อครีมทาหน้า 50 ml. เว้นแต่ว่าจะหาของในราคานี้ไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องยอมควักตังจ่ายแพงขึ้นไปหน่อย แต่หากเกิน 2,500 ต่อ 50 ml. ผมไม่ซื้อแล้วครับ แพงเกินความเป็นจริงไปหน่อย ถ้าจะใช้คงไปหาซื้อขนาดทดลองมาใช้ดีกว่า ถูกเงินไปโข





5. ของที่ไม่จำเป็น ก็ไม่ต้องซื้อ

มีของหลายอย่างมาก ๆ ที่ทำออกมาเพียงเพื่อกระตุ้นยอดขาย ให้เราซื้อของที่ไม่จำเป็นมากมาย ยกตัวอย่างเช่น

- Eye Cream

ส่วนผสมของอายครีม ไม่ได้แตกต่างจากครีมทาหน้าเลยครับ ลองเอามาเทียบกันดูก็ได้ สิ่งที่แตกต่างกันจริงๆคือ อายครีมจะมาในขนาดที่เล็กกว่า และราคาที่เฉลี่ยนต่อ Ml. แล้วจะแพงกว่ามาก และสิ่งจำเป็นที่อายครีมเกือบ 95 % ที่วางขายในท้องตลาดมักจะหายไปคือ กันแดด!!! เราทากันแดดทั้งหน้าแต่รอบดวงตาใสปิ้งดุจเก้งกวางที่คุณว่าบอบบางนักหนากลับปล่อยให้มันโดนแดดเผาเอาเปรี้ยง ๆ ทุกวี่ทุกวัน มันก็ไม่ควรนะขอรับ

จริง ๆ แล้วคุณสามารถเอามอยซ์เจอไรเซอร์ที่คุณทาหน้า มาทารอบดวงตาได้ครับ บางคนบอกกับผมว่ารอบดวงตามันบอบบาง อายครีมมักไม่มีน้ำหอมหรือส่วนผสมที่ระคายเคือง ผมก็ไม่เถียงครับ แต่ผิวหน้าทั้งหมดของคุณก็ควรใช้มอยซ์เจอไรเซอร์ที่อ่อนโยนไม่แพ้รอบดวงตาเหมือนกัน ซึ่งมันก็มีขายเยอะแยะไป ทำไมต้องไปซื้อแยกให้เปลืองเงินเปล่า ๆ

- มอยซ์เจอไรเซอร์ กลางวัน / กลางคืน

ผิวหน้าของเราไม่ได้ต้องการสารอาหารที่แตกต่างกันในตอนกลางวันหรือกลางคืนหรอกครับ เพราะสิ่งที่แตกต่างกันในเดย์ครีมกับไนท์ครีมที่ว่างขายกันก็คือ "กันแดด" อันนี้ก็ยกเว้นได้ก็ต่อเมื่อ ในตอนกลางวันคุณต้องการความบางเบาเนื่องจากอากาศร้อน แต่ตอนกลางคืนคุณนอนในห้องแอร์ก็อาจจะต้องการมอยซ์เจอไรเซอร์ที่ช่วยผิวจากห้องแอร์ที่อากาศแห้ง แต่ถ้ากลางคืนนอนให้พัดลมเป่าผ้่าถุงบินพรึ่บพรั่บก็ไม่จำเป็นต้องมีไทน์ครีมพิเศษหรือกครับ เปลือง....

- ครีมบำรุงเฉพาะที่ ไม่ว่าจะเฉพาะ คอ หน้าอก บลา ๆ มันก็ใช้มอยซ์เจอไรเซอร์ขวดเดียวกันที่ใช้กับหน้าได้ทั้งนั้นแหล่ะครับ แต่อาจจะต้องปรับหน่อย อย่างเป็นคนผิวหน้ามัน แต่คอนี่ไม่มีไขมันมาหล่อเลี้ยงนะครับ ก็ต้องใช้มอยซ์เจอไรเซอร์ที่ให้ความชุ่มชื้นต่างกับผิวหน้าหน่อย แล้วก็ไม่ต้องซื้อของแพงหรอกครับ ไม่กี่ร้อยก็พอแล้วแค่ทาคอจะเอาอะไรมาก





6. ตรวจสอบโปรโมชั่น ทั้งของห้าง ของแบรนด์ บัตรสมาชิก และ บัตรเครดิต ให้ดีก่อนไปช็อป

ขึ้นชื่อว่าผู้หญิง ซื้อของถูกกว่าสลึงเดียวก็รู้สึกดีเหมือนถูกหวยร้อยล้าน (ถึงปูเป้จะไม่ใช่ผู้หญิงก็เหอะ แต่ก็ติดนิสัยมามี๊มาเต็มๆ เลยขอรับ)

หากจะไปซื้อของตามเคาเตอร์ ต้องรอจังหวะครับ ช่วงไหนห้างลดกระหน่ำแบบซื้อแล้วลดเลยไม่ต้องใช้คูปอง ซื้อครบตามยอดแลกของสมนาคุณของทางห้างได้นี่ก็ดีมากครับ พวกหม้อหุงข้าว กระติกน้ำร้อน เตาอบไฟฟ้า บางทีก็ตู้เย็น นี่ปูเป้ได้มาเยอะมาก ก้็เก็บ ๆ ไว้ในห้องเก็บของใต้บันได เวลามีจับฉลาก วันเกิด ขึ้นบ้านใหม่ งานแต่งงานใครก็ไม่ต้องไปซื้อของครับ เอาของแถมพวกนี้แหล่ะ ใส่ห่อผูกโบว์ไปให้เลย ประหยัดดี

ถ้าช่วงนั้นเป็นช่วงที่แบรนด์ที่เราจะไปซื้อ ออกชุด set ประหยัดมาก็จะดีมาก ถ้าพ่วง Double หรือ Triple Point เข้าไปก็เลิศเป็นที่สุด แล้วของแถมเมื่อซื้อครบยอดหากของในนั้นเราสามารถใช้ได้เกือบหมดก็จะเหมือนถูกหวย ถ้าอันไหนใช้เองไม่ได้ใช้ก็เอามาขายต่อในเนทครับ เอาเงินคืน : )

ถ้าอะไรมันจะพอเหมาะพอเจาะเหมือนดาวเคราะห์จะโคจรเรียงเป็นเส้นตรงในรอบหมื่นปี ก็จะเจอโปรโมชั่นจากบัตรเคตรดิตพ่วงไปอีกครับ ไม่ว่าจะ" ลดแล้วลดอีก 5% " "จ่ายผ่านบัตรทุก 5,000 บาท รับบัตรของขวัญ 500" "แต้มสะสมบัตรเครดิต X4" "ใช้ผ่านบัตรนี้กับแบรนด์นั้น รับเพิ่มสินค้าขนาดทดลอง" แล้วอื่นๆ อีกมากมาย

มะก่อนปูเป้ไม่เป็นคนแบบนี้หรอกคับ ไม่ลดก็ซื้อ แพงก็เอา แต่พอโตมาทำงานหาเงินเองแล้วรู้ซึ้งคุณค่าของเงินครับ กว่าจะได้มาแต่ละบาทนี่ทำงานโดนกดขี่เลือดตาแทบกระเด็น จะใช้เงินทั้งทีต้องเอาให้คุ้มมากที่สุดครับ





ก็หมดขั้นตอนการเก็บข้อมูลแล้วนะครับ ก่อนจะไปซื้อเราต้อง ทำสมาธิครับ ให้จิตใจเข้มแข็ง แน่วแน่ ไม่ว่อกแว่กไปกับแสงสีและคำชวนเชื่อใด ๆ ที่จะทำให้เราไขว้เขวไปจากเป้าหมายที่เราจะไปซื้อ เป็นอะไรที่ทำได้ยาก เพราะแม้ตัวปูเป้เองก็แอบเขวไปบ้างเหมือนกัน

ยังไงก็หวังว่าทุกท่านจะได้พบเจอเครื่องสำอางที่เหมาะกับตัวทุกท่านนะครับ หากยังไม่เจอก็ขอให้พบในเร็ววัน เป็นไปได้ก็ให้เจอของที่ราคาไม่แพงด้วยนะขอรับ




Create Date : 12 พฤษภาคม 2551
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2551 16:23:05 น. 23 comments
Counter : 6747 Pageviews.

 
เข้ามาเอาความรู้ค่ะ

จะได้ไปช้อปถูกตังค์ ถูกใจค่ะ

จขบ หน้าใสจัง


โดย: COCOSWEET วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:31:34 น.  

 
เข้ามาอ่าน...หน้าใสจัง...


โดย: Sweet_blossom วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:17:44:22 น.  

 
น่าใส แบบใส่ใจคุณภาพ


โดย: แตงโมหน้าร้อน IP: 125.25.23.122 วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:18:56:49 น.  

 
พี่ต้องจำไปใช้บ้าง ตอนนี้แทบหมดตัวกับพวกเครื่องสำอางค์ ชื้อแบบไม่ลืมหูลืมตา บิลมาแทบเป็นลม


โดย: New Brighton วันที่: 12 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:11:09 น.  

 
แอบติดตามอยู่นะ

ตั้งแต่เข้ามาติตามก้อได้ความรู้เพิ่มขึ้น และก้อต้องขอขอบคุณด้วยจ้า


โดย: เรนโบว์ IP: 165.21.154.110 วันที่: 17 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:46:01 น.  

 
พออ่านเสร็จ

กลับไปดูเครื่องสำอางค์แบบกระปุกซะส่วนใหญ่เลยอะ



แบบพอวันแรกที่ซื้อเอาจาอมาเปลี่ยนใส่ขวดหัวปั้มเองนิ

จาดี จาได้ไหมค่ะ คุณปูเป้


โดย: ผ้าไหมไทย IP: 117.47.92.52 วันที่: 18 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:23:10 น.  

 
thank you na ja!
ขยันจังเลยจ้า คุณปูเป้


โดย: kukik (hunny ji ) วันที่: 19 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:36:55 น.  

 
อ่า อ่านรีวิวนี้แล้ว รู้สึกเสียดายเงินเยอะแยะที่เสียไปเลยค่ะ>

>.< บางอย่างมันก็ไม่จำเป็นจริงๆ แต่อย่างว่าล่ะน๊า

เฮ้ออออ ... แต่ว่าคุณปูเป้หน้าใสจังค่ะ

อายง่ะ

โดย: TaOpuii IP: 222.123.178.98 วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:7:17:52 น.  

 
รีวิวได้สาระ แล้วยังมีมุขตลกร้าย ขำมาก
อ่านสนุกมากเลย


โดย: AVA IP: 119.42.70.48 วันที่: 19 สิงหาคม 2551 เวลา:23:07:08 น.  

 
ขอบคุณนะค้าา


โดย: น้ำหวาน IP: 202.28.47.15 วันที่: 7 ตุลาคม 2551 เวลา:2:56:41 น.  

 
ขอบคุนมากค่ะ


โดย: บี IP: 58.9.231.77 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2551 เวลา:13:33:47 น.  

 
ขออนุญาตพริ้นให้เพื่อนอ่านด้วยนะคะ


โดย: บี IP: 58.9.231.77 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2551 เวลา:13:53:21 น.  

 
คุณปูเป้หน้าใสจัง อยากรู้จังทำงานอะไร


โดย: แบงแบง IP: 125.24.228.163 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2551 เวลา:13:29:28 น.  

 
ต้องขอขอบคุณสำหรับความรู้มากๆ ค่ะ คุณปูเป้


โดย: marshimaro IP: 124.121.50.198 วันที่: 20 ธันวาคม 2551 เวลา:14:52:36 น.  

 
ได้ความรู้เพิ่มขึ้นมั๊กมาก ว่าแต่

คุณปูเป้ พอจะไหมค่ะ ถ้าจะซื้อพวกเครื่องสำอางผ่าน BA.

ที่เค้าได้ส่วนลด 30% เราจะไปติดต่อยังไง อยากซื้อไปขายที่ ตจว.อะค่ะ รบกวนช่วยตอบหน่อยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ


โดย: นาริ IP: 58.10.137.221 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:40:33 น.  

 
เอ่อ

ถ้าได้รับส่วนลดขนาดนั้นเลยจากเคาเตอร์ปูเป้ก็ไม่ทราบนะขอรับว่าทำอย่างไร

แต่เท่าที่เคยได้ยินมาคือ ร้านที่เอาเครื่องสำอางเคาเตอร์มาขายลด 30 % นั้นก็ใช้วิธีซื้อลด 10 % ตามปกติ แล้วก็เอาของแถมที่ได้มาขายด้วย แล้วเอาเงินที่ได้จากการขายของแถมมาโปะส่วนต่าง

จริงๆ มันก็มีอีกหลายวิธีขอรับ บางร้านเล็ก ๆ ก็จะไปรับแบบซื้อส่งจากร้านขายใหญ่ ๆมาเลยเหมือนกัน


โดย: PuPe_so_Sweet วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:53:36 น.  

 
เป็นกำลังใจทำบล็อกต่อไปนะคะ


โดย: ปูปี้ IP: 118.172.82.179 วันที่: 15 เมษายน 2552 เวลา:12:06:24 น.  

 
แปลว่า เราก็เอาครีมทาตัวมาทาได้ทุกส่วนของร่างกายเลยเหรอคะ เพราะครีมอันไหนก็เหมือนกันหมด (ถ้าเราเลือกดีแล้ว)???หรือเปล่า???
(ไม่ได้กวนนะคะ ถามจิงๆ)

แบบว่า ถ้าเอาครีมทาหน้าไปทาตัว ก็อาจจะเปลือง (เพราะแพงกว่า)
ก็เปลี่ยนเป็น เอาครีมทาตัวมาทาหน้าแทน เหอๆๆ


โดย: เจน IP: 222.123.226.70 วันที่: 27 สิงหาคม 2552 เวลา:12:37:51 น.  

 
ปูเป้มีแฮนด์ครีมตัวหนึ่ง ที่อ่านส่วนผสมแล้วมันปลอดภัยมากขอรับ ไม่มีสี ไม่มีน้ำหอม และมี Glycerin เยอะทีเดียว ปูเป้เอา Hand Cream ตัวนั้นมาทารอบดวงตา ทาจุดแห้งกร้านเพราะยารักษาสิวบนใบหน้า ทาริมฝีปากได้เลย

เลือกส่วนผสมที่ปลอดภัย และมีเนื้อผลิตภัณฑืที่เหมาะกับสภาพผิวในจุดนั้นๆ ขอรับ



โดย: PuPe_so_Sweet วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:1:55:35 น.  

 
กำลังตัดสินใจเลิกใช้ ครีมแบบกระปุกอยู่พอดีเลยค่ะ


โดย: ฟ้ามืด (myfahsan ) วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:13:24:14 น.  

 
เห็นคุณปูเป้บอกมาแบบนี้ ก็ค่อยสบายใจและเลือกซื้อสินค้าได้มากมายขึ้นเลยทีเดียวขอบคุนมากค่ะ


โดย: Mee' IP: 203.158.140.75 วันที่: 1 กรกฎาคม 2554 เวลา:18:55:59 น.  

 
เพิ่งเข้ามาอ่านได้ความรู้เยอะเลยขอบคุณมากคะคุณปูเป้


โดย: เอ๋ เส้นหมี่(แม่ฮ่องสอน) IP: 180.180.221.210 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2554 เวลา:20:39:18 น.  

 
เพิ่งวิธีการซื้อ ตายละ!! ครีมที่ใช้อยู่มีทั้ง benzyl alcohol และ essential oil อย่าง sweet almond oil แต่เค้าบอกว่ามันธรรมชาติสุด 55+ ซะงั้นๆ ดีนะหน้าไม่แหก เอ๊ะ แหกเป็นปกติอยู่แล้วละมั้ง - -"


โดย: รีโบซัง IP: 88.75.220.251 วันที่: 21 มกราคม 2555 เวลา:5:55:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

PuPe_so_Sweet
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1829 คน [?]




Advertisement


About Pupe_so_Sweet
Pupe_so_Sweet on facebook
Pupe_so_Sweet on Youtube
vr AHA project


หากมีคำถามหรือต้องการคำปรึกษา
สามารถทิ้งคำถามไว้ได้ที่หน้า Wall ของ Facebook ครับ



Web Counter


Counter Start on 29 September 2008


Search by Google

ค้นหาข้อมูลและรีวิวผลิตภัณฑ์ที่ต้องการภายในBlog ของปูเป้ได้ไม่ยากด้วย Google Search Box ด้านล่างนี้เลยขอรับ

Custom Search

Friends' blogs
[Add PuPe_so_Sweet's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.