...ทำสวนชีวิตหล่อเลี้ยงชีวิต...
ทำสวนหนังสือหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณ.
|
|||
แอ่วลำปาง สัมผัสตรอกโบราณ "กาดกองต้า" เธอเห็นฉันเป็นทางผ่านใช่ไหม... จริงสิ, ถ้าเมืองลำปางพูดได้ แกคงจะพร่ำบ่นนึกน้อยใจอยู่อย่างนั้น ในยามที่ผู้โดยสารมากหน้าหลายตา ที่นั่งอยู่เต็มขบวนรถไฟสายเหนือ เคลื่อนขบวนมาหยุดนิ่งตรงสถานีรถไฟนครลำปางเพียงไม่กี่นาที ก่อนจะเคลื่อนตัวช้าๆ ออกไปให้ไกลห่างทุกครั้งๆ ไป เพราะว่านักเดินทางส่วนใหญ่ ร้อยทั้งร้อยที่เดินทางขึ้นเหนือล่องใต้ มักจะมุ่งหน้าไปเมืองกรุงเมืองใหญ่ หรือไม่ก็ไปเยือนเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย โดยไม่ค่อยให้ความสำคัญสนใจลำปางเท่าใดนัก ใช่หรือไม่ว่า, บางครั้งเรามักมองเห็นความงามก็เมื่อผ่านเลย... เหมือนกับการเดินทางครั้งนี้ของผม...ที่ทำให้ได้พบสิ่งที่งดงามล้ำค่าในความรู้สึกโดยบังเอิญ ทั้งที่ก่อนหน้านั้น- -เคยเดินทางมาลำปางก็บ่อยครั้ง แต่มักมองข้ามหรือผ่านไป ทว่าครั้งนี้ผมมีโอกาสได้สัมผัสต้องจริงๆ เป็นการสัมผัสความงามของตรอกโบราณ บ้านเก่า กาดก้องต้า หรือตลาดท่าจีน ซึ่งก่อนหน้านั้น เมื่อพูดถึงลำปาง เราจะนึกถึง รถม้าลำปาง อุโมงค์ลอดถ้ำขุนตาน และพระธาตุลำปางหลวง ก่อนเป็นอันดับต้นๆ แต่น้อยคนนักที่จะรู้จัก กาดกองต้า ริมฝั่งแม่น้ำวัง ทั้งๆ ที่มีตรงนั้น เราจะมองเห็นประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ลอยวนไปมาอยู่อย่างนั้น แท้จริงแล้ว- -ลำปางยังมีอะไรดีๆ อยู่อีกเยอะ โดยเฉพาะวิถีชีวิตที่ง่ายงามของชาวบ้านร้านถิ่น อีกทั้งความเป็นอยู่อันเก่าแก่ที่ควรแก่การจดจำ หากเราเสาะหาเรียนรู้ให้ละเอียดลึกซึ้ง เราจะมองเห็นตำนานประวัติศาสตร์ซุกซ่อนไปทั่วทุกแห่งหน ไม่เว้นแต่ในตรอกซอกซอยเล็กๆ หรือบางมุมใดมุมหนึ่งที่สงบนิ่งมาช้าเนิ่นนาน ............................................. บ่ายวันนั้น, เรานัดพบกันที่ร้านกาแฟเล็กๆ กลางเมืองลำปาง เป็นการเดินทางที่พบกันโดยมีการนัดหมาย- -เพราะไม่เช่นนั้น เราคงต้องพลัดหลงกันแน่นอน เนื่องจากผมเดินทางออกจากเชียงใหม่ลงไป ส่วนผองเพื่อนนั้นเดินทางจากกรุงเทพฯ ขึ้นมา ซึ่งจริงๆ แล้ว เรา-ห้าชีวิตมุ่งหน้าท้าฝนกันมาเพื่อทำงานเฉพาะกิจ แต่ก็อย่างว่า เพราะทุกคนต่างมีหัวใจของนักเดินทางอยู่เต็มเปี่ยม สังเกตดูจากกลุ่มเพื่อนๆ ที่เดินทางจากกรุงเทพฯ มาถึงลำปางก่อน ยังไม่ทันหายเหนื่อย ต่างรีบโบกไม้โบกมือเรียกรถม้าให้จอด ก่อนกระโจนขึ้นควบอาชา ไม่ใช่... กระโจนขึ้นนั่งรถม้าเพื่อชมความแปลกเปลี่ยนแปลกใหม่ไปรอบๆ เมืองลำปางก่อนเป็นอันดับแรก ไม่งั้น เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงลำปาง เธอเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข ................................ ลำปาง มีพื้นที่อาณาเขตติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียงกี่จังหวัด!? เพื่อนคนหนึ่งเอ่ยถามเหมือนลองภูมิ ทว่าทุกคนส่ายหน้าไปมา ไม่มีใครตอบได้ งั้นเฉลยนะ...ลำปางติดต่อพื้นที่ถึง 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย พะเยา ตาก สุโขทัย และแพร่ เพื่อนคนเดิม วางท่าทางเหมือนเป็นครูประถม ลำปาง คือต้นกำเนิดของแม่น้ำวัง หนึ่งในแม่น้ำสายสำคัญที่ไหลไปหลอมรวมกันเป็น แม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีเทือกเขาขุนตาลเป็นฉากกั้นเขตระหว่างลำปางกับลำพูนทางทิศเหนือ แน่นอน...ลำพูนกับลำปาง นั้นมีความสัมพันธ์กันมาก่อนอย่างมิต้องสงสัย ว่ากันว่า ประวัติศาสตร์ของลำปางนั้น ได้กล่าวเอาไว้ว่า เริ่มตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี ทรงขึ้นครองนครหริภุญไชย หรือเมืองลำพูน ครั้นต่อมา เมื่อทรงมอบราชสมบัติให้เจ้ามหันตยศ พระโอรสองค์โต ให้ครองนครหริภุญไชยแทน ส่วนเจ้านันตยศ โอรสองค์รองนั้น ได้ไปสร้างเมืองใหม่ และขนานนามเมืองนี้ว่า เขลางค์นคร พร้อมทั้งได้ราชาภิเษกเป็นกษัตริย์ครองเขลางค์นครเป็นพระองค์แรก ทรงพระนามว่า พระเจ้าอินทรเกิงการ หลังจากนั้น พระองค์ทรงครองเมืองอยู่ไม่นาน ก็ทรงรำลึกถึงพระราชมารดา จึงทูลเชิญพระนางจามเทวี เสด็จยังเมืองเขลางค์นคร และได้ทรงสร้างเมือง อาสัมภางค์นคร ให้เป็นที่ประทับ โดยเหตุที่ทั้งนครเขลาค์นคร และ อาลัมภางค์นคร มีอาณาเขตใกล้เคียงติดต่อกันประดุจเป็นเมืองเดียวกัน ต่อจากนั้น คนทั้งหลายจึงมักเรียกรวมกันว่า นครเขลางค์อาลัมภางค์ จนสุดท้ายได้กลายเปลี่ยนเป็น นครลำปาง ในที่สุด นั่น,คือบางชิ้นส่วนของเมืองประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ซึ่งทำให้เรารู้จักรากเหง้าและใบหน้าของเมืองลำปางมากยิ่งขึ้น .................................. ค่ำคืนนั้น, เราพักกันที่บุญมาเกสเฮาส์ อยู่ในย่าน กาดกองต้า ริมแม่น้ำวังฝั่งซ้าย ผมนึกขอบคุณในใจ ที่เพื่อนที่มาจากเมืองกรุงได้เดินเที่ยวเสาะค้นหาที่พักไปจนทั่วทุกมุมเมือง และมาสะดุดตาสะกิดใจเลือกทำเลที่พักเอาในย่านนี้ ขรึมขลัง และเงียบสงบ... ผมเอ่ยกับเพื่อน ใช่...และที่สำคัญ ราคาถูกด้วย... เสียงของยุ้ย ลากเสียงหวานพร้อมกับเสียงหัวเราะ แน่ละ,เธอเป็นคนเลือกเอง และเธอเป็นคนควบคุมดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางครั้งนี้ด้วย เป็นเรือนไม้สักทองหลังใหญ่ อายุเก่าแก่กว่าร้อยปี ผมเดินดูรอบ ๆ บริเวณบ้าน เฉพาะบ้านเรือนไทยหลังนั้น มีเสากลมอยู่ทั้งหมดถึง 24 ต้น มีห้องหับชั้นบน 2 ห้องใหญ่ พร้อมชุดรับแขก โต๊ะเตียงเครื่องนอนเครื่องใช้ที่พร้อมสรรพ ที่ดูแลตกแต่งด้วยลวดลายล้านนาโบราณ ส่วนด้านล่างมีอีก 2 ห้องนอนเล็ก สำหรับคนที่ต้องการอยู่อย่างชีวิตพอเพียง และสมถะ นอนห้องเล็กนี่นะ...ราคาถูกดี ร้อยห้าสิบเอง... เธอยิ้ม ด้วยความรู้สึกที่คงรู้และเข้าใจดีว่าชีวิตผมนั้นสมถะจนเคยชิน ใครกันหนอ...ที่บอกว่า บางครั้งชีวิต เมื่อเราถอยห่างออกมาและหันไปมอง เราจะเห็นอะไรได้แจ่มชัดยิ่งขึ้น เป็นจริงเช่นนั้น- -เมื่อผมเดินออกมาข้างนอก ออกมายืนอยู่กลางตรอกซอยหน้าบ้านพักหลังนั้น ผมต้องตะลึงในความงามที่มิอาจบรรยายได้หมดสิ้น ผมกับบัณฑิต หนุ่มผมยาวเชื้อสายจีนที่ร่วมทางด้วยกัน ต่างรีบกดรูปเก็บบรรยากาศที่อยู่รายรอบนั้นกันอย่างมิรอช้า แข่งกับแสงแดดและเวลาที่กำลังเคลื่อนผ่าน มองออกไปเบื้องหน้า จะเห็นภาพในวงกว้าง...เป็นการผสมผสานของสถาปัตยกรรมที่ลงตัวอย่างยิ่ง- -บ้านไม้ทรงไทยทำด้วยไม้สักทองตั้งอยู่ระหว่างกลาง ท่ามกลางบ้านเก่าตึกโบราณรูปทรงยุโรปผสมลวดลายล้านนา พม่าและจีน ตั้งตระหง่านนิ่งอยู่ตรงนั้น จนต้องแหงนมองคอตั้งบ่า ยลโฉมความงามในรูปทรงที่ลงตัว ชุมชนแห่งนี้ ชาวบ้านที่นี่เรียกขานกันว่า กาดกองต้า กาดกองต้า หมายถึงอะไรหรือ!?... เชื่อว่าหลายคนเอ่ยถาม ด้วยความสนใจใคร่รู้ กาดกองต้า เป็นภาษาคำเมืองเหนือ หมายถึง ตลาดจีน แม่อุ้ยวัยเกือบ 70 ปี เจ้าของเกสเฮ้าส์บอกกับเรา และตรงหัวมุมของตึกโบราณหลังใหญ่นั้น มีป้ายอธิบายถึงความหมายของกาดกองต้าเอาไว้อย่างน่าสนใจ กาด หมายถึง ตลาด กอง หมายถึง ต้า ส่วนคำว่า ต้า นั้นหมายถึง ท่าน้ำ กาดกองต้า จึงหมายถึง ตลาดตรอกท่าน้ำ ซึ่งเคยเป็นตลาดขายสินค้าที่มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมากในอดีต ซึ่งมีความคึกคักกันมากที่สุดตามแนวริมแม่น้ำวังฝั่งซ้าย ในยุคของเจ้านรนันชัยชวลิต เจ้าผู้ครองนครลำปาง ในระหว่างปี พ.ศ.2430-2440 ซึ่งตรงกับรัชกาลที่ 5 จากร่องรอยอดีตของกาดกองต้าและบ้านโบราณในย่านนี้ จะรู้และเข้าใจในทันทีเลยว่า นครลำปาง แต่ก่อนนั้น เป็นเมืองศูนย์กลางการค้าและการทำไม้สักที่สำคัญของภาคเหนือ ซึ่งแต่เดิมนั้น การขนส่งสินค้าทางภาคเหนือจะนิยมใช้ทางเรือ เนื่องจากเมืองต่างๆ จะอยู่ติดกับลำน้ำ และการขนส่งทางเรือนั้นประหยัดและสะดวกด้วย ย่านการค้าจึงมักเกิดขึ้นตามริมฝั่งแม่น้ำใหญ่ๆ นอกจากนั้น จากร่องรอยอารยธรรมอันเก่าแก่แห่งนี้ ได้เกิดชุมชนที่เข้ามาทำธุรกิจการทำไม้และการค้าขายกันไปมาระหว่างชาวอังกฤษ พม่า และชาวจีน ซึ่งได้อพยพมาทำมาค้าขายอาศัยอยู่กันเป็นจำนวนมาก จนในที่สุด,กลายเป็นชุมชนชาวจีนขนาดใหญ่ขึ้น ชาวบ้านที่นี่ จึงเรียกขานย่านนี้กันว่า ตลาดจีน นับแต่นั้นมา ว่ากันว่า ความโดดเด่นและงดงามผสมผสานกันอย่างลงตัวของบ้านเรือนและตึกโบราณที่ตั้งอยู่กันตามตรอกซอกซอยริมฝั่งน้ำแม่วังนั้น ทำให้หลายคนที่มีโอกาสเดินทางเข้ามาพบเห็นโดยตั้งใจ หรือว่าพลัดหลงเข้ามาโดยไม่ได้ตั้งใจก็ตาม ก็จะต้องรู้สึกคล้ายกำลังหลงใหลต้องมนต์กับเสน่ห์บางอย่างโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากย่านนี้ มีหลากหลายผู้คน หลากหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ อย่างที่ว่านั่นแหละ เราจะมองเห็นอาคารบ้านเรือนที่เป็นสถาปัตยกรรมระหว่างยุโรป พม่า และจีน ผสมผสานกันอย่างลงตัว จนทำให้กาดกองต้า หรือตลาดจีนในตัวเมืองลำปาง กลายเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นขรึมขลังและงดงามของชาวลำปางมายาวนานกว่า 100 ปี อีกทั้งยังคงสภาพสมบูรณ์และตั้งเด่นอยู่สองรายทาง เช่น อาคารสีแดง ร้านบุญส่ง บ้านแม่แตง อาคารหม่องง่วยลิ่น อาคารกวงฮั่วหลีเก่า จริงสิ, จึงไม่แปลกนัก ที่ในห้วงเวลาสองสามวันที่เราพักอยู่ในย่านกาดกองต้า ตลาดจีนนั้น เราพบเห็นคณะผู้ถ่ายทำหนังสารคดี พวกเขากำลังสาละวนตกแต่งฉากกันบริเวณตรอกโบราณย่านตลาดจีนกันยกใหญ่ เพราะที่อื่น ตอนนี้มันไม่หลงเหลือ ไม่มีบ้านเรือนโบราณแบบนี้อีกแล้ว และเข้าใจว่าเรือนไม้โบราณแบบจีนดั้งเดิม คงเหลือที่นี่ที่เดียวเท่านั้น พ่อบุญมา เจ้าของเกสเฮ้าส์ บอกผม เคยไหม...ที่คนเรามักโหยหาอดีตกันอีกครั้ง...เมื่อบางสิ่งบางอย่างเริ่มสูญหาย ทำให้ผมนึกย้อนไปนึกถึงเมืองเก่าเมืองแก่อีกหลายหนแห่ง ไม่ว่าเมืองไหนๆ เราจะมองเห็นและรู้สึกได้เลยว่า วัฒนธรรมอันงดงามที่มีคุณค่าควรแก่การรักษานั้น นับวันยิ่งทรุดหายสลายไปอย่างน่าใจหาย ไม่ใช่เพียงเพราะกาลเวลาเท่านั้น ที่ทำให้สิ่งเหล่านี้สูญหายไป บางที...ความคิด การกระทำของคนเราที่ไร้จิตสำนึก ไม่ลึกซึ้งเข้าใจ ไม่มองเห็นคุณค่าของอดีต อาจเป็นตัวเร่งให้สิ่งดีงามอันเก่าแก่ที่บรรพบุรุษได้สร้างเอาไว้นั้น ต้องแตกทรุดและเสื่อมสลายหายไปเร็วขึ้นยิ่งกว่า... ผมเชื่อเช่นนั้น....ว่าแท้จริงแล้ว กาลเวลาเป็นเพียงตัวประกอบ แต่คนเรานั่นสิเป็นตัวกระทำ ขึ้นอยู่กับว่าจะรักษา หรือทำลาย. มีภาพเยอะครับ แต่ยังย่อไม่เป็น ต้องหาคนช่วยทำให้... โดย: pu_chiangdao วันที่: 31 พฤษภาคม 2549 เวลา:14:00:43 น.
แปะ แปะ แปะ
นะ นะ นะ ปรารถนาจะได้เห็น โดย: สาวรุ่ง ( ศ ) IP: 202.57.189.4 วันที่: 31 พฤษภาคม 2549 เวลา:15:15:19 น.
โตที่กาดกองต้าแต่ไม่สามารถจะอาศัยอยู่ได้ในบั้นปลายของชีวิต คิดถึงแถวนั้นมากที่นั่นมีทั้งความอบอุ่น ความรัก ความสามัคคีแม้ว่าจะคนละเชื้อชาติคนละศาสนาเราก็ไม่เคยมีปัญหากันต่างคนต่างก็ทำมาหากินกัน ไม่มีอดอยาก เป็นแหล่งความรู้ด้านการทำธุรกิจมาตั้งแต่แรกเกิดฐานธุรกิจอยู่ที่นี่โดยแท้ คิดถึงมากบางครั้งต้องร้องไห้ออกมาแต่ก็ไม่สามารถจะกลับไปอยู่ได้อีกแล้ว
โดย: คิดถึงเหมือนกัน IP: 117.121.208.2 วันที่: 27 มกราคม 2552 เวลา:12:15:58 น.
ฉันเบื่อ อ้ายเทพ อะ พูดมากอยู่ได้ เปิดเพลงอะไรก็ไม่รู้ไม่เข้ากับบรรยากาศเลยยยยยยยยยยยยยยยยยย เซ็ง
โดย: P IP: 117.47.150.108 วันที่: 18 เมษายน 2552 เวลา:21:35:40 น.
อยากไปแอ่วกาดกองต้า
โดย: คนอ่าน IP: 222.123.25.156 วันที่: 12 มีนาคม 2553 เวลา:21:26:17 น.
บ้านไม้สักหลังนั้น สร้างมาไม่นานนี้ครับ ไม่ใช่ของเก่าเป็นร้อยปี ที่ทราบเพราะเจ้าของเดิมเป็นเพื่อนกันครับ
โดย: Kasidit Espresso IP: 223.207.117.225 วันที่: 23 มีนาคม 2555 เวลา:15:55:43 น.
|
pu_chiangdao
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?] ภาพและงานเขียนทุกชิ้นที่ปรากฏในเวบไซต์นี้ เป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบทประพันธ์นั้นๆ แต่เพียงผู้เดียว ห้ามกระทำการดัดแปลง แก้ไข หรือแอบอ้างไปเป็นผลงานของตน โดยไม่มีการอ้างถึงเจ้าของลิขสิทธิ์ หากผู้ใดมีความประสงค์ จะนำข้อมูลดังกล่าวออกเผยแพร่ ตีพิมพ์ หรือนำไปใช้เพื่อประโยชน์อื่นใด โปรดติดต่อเจ้าของบทประพันธ์โดยตรง *************************** งานที่มีการเขียนลงบน WEB SITE แล้วส่งผ่านอินเตอร์เนตนั้นถือว่าเป็น สิ่งเขียนซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของงานวรรณกรรม ดังนั้นย่อมได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 (มาตรา 15) หากผู้ใดต้องการทำซ้ำหรือดัดแปลงงานดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน มิฉะนั้นจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ (มาตรา 27) การดัดแปลงงานจากอินเตอร์เนตเป็นภาษาไทย จึงต้องขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม การคุ้มครองลิขสิทธิ์เป็นการคุ้มครองอัตโนมัติ เจ้าของลิขสิทธิ์หรือผู้สร้างสรรค์ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนเพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ที่มา : เว็บไซต์กรมทรัพย์สินทางปัญญา Group Blog All Blog
Friends Blog
Link
|
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
บ้านเก่า ตึกเก่าที่มีคุณค่า ถูกทุบทำลาย เปลี่ยนเป็นอาคารพาณิชย์หน้าตาน่าเกลียด
ทุนนิยม...นิยมทุน...
เพื่อเงิน...อะไรก็ขายได้