Home ตั้งเวปนี้เป็นหน้าแรก

PIWAT
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




Online Users
     

Custom Search

วิทยุธรรมะออนไลน์ Free counter and web stats
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2550
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
12 มิถุนายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add PIWAT's blog to your web]
Links
 

 

ข่าว-อายัดทรัพย์ ทักษิณ 5.2 หมื่นล้าน

โกง - รวยผิดปกติ! อายัดทรัพย์ “แม้ว-เมีย” เรียบวุธ 5.2 หมื่นล้าน
ผู้จัดการออนไลน์ 11 มิถุนายน 2550

คตส.มีมติอายัดทรัพย์สิน “แม้ว-เมีย” ในทุกบัญชีทุกธนาคารให้มีผลทันที ระบุมีพฤติกรรมทุจริต-ใช้อำนาจมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับตัวเองและครอบครัว ระบุมีบัญชีสองประเภทที่ได้จากการขายหุ้นชินฯ ที่เหลืออยู่ 5.2 หมื่นล้าน และบัญชีเงินสดรวมทั้งหมด 21 รายการ พร้อมให้ยื่นคัดค้านภายใน 60 วัน
คลิกที่นี่ เพื่อฟังการแถลงข่าวจาก คตส.

วันนี้ (11 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น.คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้มีมติให้อายัดทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ คุณหญิงพจมาณ ชินวัตร ภรรยาในทุกบัญชีและทุกธนาคาร เนื่องจากมีพฤติกรรมทุจริต และใช้อำนาจเอื้อประโยชน์ให้ตัวเองและครอบครัว

นายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส.พร้อมด้วย นายสัก กอแสงเรือง และ นายแก้วสรร อติโพธิ กรรมการ คตส.ได้ร่วมกันแถลงข่าวสำคัญนี้

ทั้งนี้ สาระสำคัญในคำสั่งอายัดทรัพย์ ระบุว่า ผลการสอบสวนคดีต่างๆ มีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ทุจริต ประพฤติมิชอบ เอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจของครอบครัว โดยเฉพาะเอื้อผลประโยชน์ให้กับบริษัท ชินคอร์ป ก่อให้เกิดความเสียหาแก่รัฐจำนวน 5 คดี ดังนี้

1.ทุจริตการซื้อที่ดินถนนรัชดาภิเษก จำนวน 772 ล้านบาท จากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 2.คดีทุจริตการจัดซื้อกล้ายางพาราของกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรฯ สร้างความเสียหายจำนวน 1,440 ล้านบาท 3.คดีจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ ทำให้รัฐเสียหาย 1,500 ล้านบาท 4.ออกสลากพิเศษ (หวยบนดิน) ทำให้รัฐเสียหาย 37,790 ล้านบาท และการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทยกับนักการเมืองโดยมิชอบจำนวน 5,185 ล้านบาท

ส่วนพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ มีพยานหลักฐานเชื่อว่าได้ยังถือหุ้นบริษัท ชินคอร์ป ตั้งแต่เป็นนายกฯ แต่ได้ให้ญาติ-บุตรเป็นผู้ถือหุ้นเอาไว้แทน และใช้อำนาจเอื้อประโยชน์หลายประการคือ 1.แก้ไขสัญญา ลดส่วนแบ่งรายได้ค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบใช้บัตรจ่ายเงินสดล่วงหน้า เอื้อประโยชน์ให้บริษัท เอไอเอส ทำให้รัฐเสียประโยชน์ตลอดอายุสัมปทาน 71,667 ล้านบาท แก้ไขสัญญาแบ่งสัดส่วนกับทีโอที เพื่อเอื้อประโยชย์กับบริษัท เอไอเอส ทำให้รัฐเสียหายจำนวน 700 ล้านบาท

กำหนดภาษีสรรพสามิตในกิจการโทรคมนาคม และได้มีมติ ครม.แปลงภาษีสรรพสามิตให้ประโยชน์ให้ไอไอเอส ทำให้รัฐวิสาหกิจเสียหายประมาณ 30,667 ล้านบาท

ให้บริษัท ทีโอที เช่าคลื่นความถี่ดาวเทียมของบริษัทโดยไม่จำเป็น ทำให้รัฐเสียหายประมาณ 700 ล้านบาท ให้เอ็กซิมแบงก์ให้พม่ากู้เงินซื้อสินค้าของชิน แซทเทิลไลท์ ในเงินกู้ 1 พันล้านบาท

อาศัยการค้าระหว่างประเทศแลกเปลี่ยนบุกเบิกธุรกิจดาวเทียมในเครือของบริษัท ชินคอร์ป ทำให้เพิ่มมูลค่ากับบริษัท ชินฯ เป็นอันมาก ซึ่งสรุปได้มีการอายัดทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน จำนวน 21 บัญชี

ทั้งนี้ สำหรับบัญชีที่ถูกอายัด คือ บัญชีจากการขายหุ้นชินคอร์ป จำนวน 7.3 หมื่นล้านบาท แต่จากการตรวจสอบบัญชีของธนาคารแห่งประเทศไทยล่าสุดเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.พบว่า มีเงินเหลืออยู่ในบัญชีเพียงประมาณ 52,884 ล้านบาทเท่านั้น

นอกจากนั้น มีคำสั่งอายัดบัญชีเงินฝากในชื่อของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ในธนาคารต่างๆ ทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบจำนวน โดยจะแจ้งไปยังธนาคารต่างๆ ให้รายงานกลับมายัง คตส.อีกครั้ง

นายแก้วสรร อติโพธิ เลขาธิการ คตส.กล่าวว่า การอายัดครั้งนี้เป็นการอายัดชั่วคราว โดยที่เจ้าของทรัพย์สินสามารถยื่นคัดค้านการอายัดทรัพย์เพื่อพิสูจน์การได้มาภายใน 60 วัน และถ้าหากมายื่นเมื่อไหร่ก็พร้อมไต่สวนเมื่อนั้น คำสั่งอายัดทรัพย์ครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น เพราะก่อนหน้านี้ได้สั่งอายัดทรัพย์บางส่วนแล้ว และการตรวจสอบคดีต่างๆ มาลงตัวในวันนี้ และอาจจะบังเอิญมาตรงกับการประท้วงซึ่งไม่ได้อยู่ในการคาดการณ์

คำต่อคำ คตส.แถลงอายัดทรัพย์ “ทักษิณ”

นาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส.

วันนี้คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ได้ประชุมปรึกษากันแล้ว มีมติของคณะกรรมการตรวจสอบฯ เรื่อง ให้อายัดทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับพวก ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับการพิจารณา และผลของการพิจารณาเป็นอย่างไรนั้น ขอมอบให้ทางโฆษกแถลง

สัก กอแสงเรือง โฆษก คตส.

การที่คณะกรรมการ คตส.มีมติในเรื่องการอายัดทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับพวกนั้น สืบเนื่องจากการตรวจสอบและไต่สวนของคณะกรรมการ คตส.ที่ดำเนินการมาเป็นเวลาหลายเดือนนั้น ได้มอบให้ท่านเลขาฯ สรุปพฤติการณ์ทุจริตหรือประพฤติมิชอบเกี่ยวกับการตรวจสอบของ คตส.ทั้งหมด รวมทั้งข้อมูลข้อเท็จจริงสู่การพิจารณา มีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินเป็น 2 คำสั่ง คำสั่งแรก คือ ให้อายัดบัญชีในเงินฝากที่ได้จากการขายหุ้นชินคอร์ปให้กับกลุ่มเทมาเส็ก ซึ่งประกอบด้วย บัญชีต่างๆ 21 บัญชี ส่วนคำสั่งที่ 2 ให้อายัดเงินในบัญชีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ในทุกบัญชี ทุกธนาคาร และทุกสถาบันการเงิน การอายัดจะอายัดตามคำสั่งทั้ง 2 จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง และบุคคลที่อ้างว่าเป็นเจ้าของที่แท้จริงของทรัพย์ที่อายัดตามคำสั่งทั้ง 2 คำสั่ง และมิใช่ทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด หรือมิได้เป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการร่ำรวยผิดปกติ ให้บุคคลนั้นยื่นคำร้องพิสูจน์ต่อคณะกรรมการตรวจสอบฯ ภายใน 60 วัน นับจากวันนี้ ขอเรียนว่าการใช้คำสั่งอายัดทรัพย์สินตามประกาศฉบับที่ 30 นั้น ไม่ใช่เรื่องของการดำเนินการยึดทรัพย์ตามประกาศฉบับที่ 30 ที่มีผลย้อนหลัง เนื่องจากคำสั่งฉบับที่ 30 นั้นเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับวิธีสะบัญญัติ สามารถดำเนินการได้ทันที รายละเอียดต่างๆ การรวบรวมข้อเท็จจริงต่างๆ นั้น ท่านเลขาฯ แก้วสรร จะเป็นผู้แถลงในรายละเอียด

แก้วสรร อติโพธิ เลขาฯ คตส.

จากมติที่ได้แจกท่านไป มีคำอธิบายโดยลำดับง่ายๆ ดังนี้ กล่าวคือ

1.คำสั่งอายัดทรัพย์สินเหล่านี้ไม่เป็นเด็ดขาด มันเป็นเรื่องที่ว่า คตส.ตรวจคดีต่างๆ จนเกิดมูลความผิดขึ้น และมูลความผิดเหล่านี้ถ้าเห็นว่ามีมูลเราจะกล่าวหา แล้วเขาแก้ตัว ถ้าแก้ไม่พ้นก็ไปที่ศาล พอไปที่ศาลแล้วหลายคดีจะมีการยึดทรัพย์เป็นของแผ่นดิน ถ้าเป็นการทุจริตและมีเงินที่ได้มาจากการทุจริต ศาลคดีอาญาก็จะสั่งยึดเป็นของแผ่นดิน ถ้าเป็นคดีร่ำรวยผิดปกติ ได้ทรัพย์สินมาโดยมิสมควรจากการใช้อำนาจหน้าที่ ก็ต้องพิสูจน์ต่อศาล ถ้าศาลไม่เชื่อศาลก็จะสั่งยึดเป็นของแผ่นดิน เพราะฉะนั้นหนทางนี้เป็นหนทางที่ไปสู่ศาลเป็นปกติในเรื่องของความผิด แต่ขณะเดียวกัน ถ้าเราเห็นทรัพย์สินมันหนีไปซึ่งหน้า หรือมีทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด เห็นอยู่ ตรงนี้ประกาศฯ ฉบับที่ 30 ได้ให้อำนาจแก่เราไว้ในลักษณะที่เป็นวิธีการชั่วคราว ถ้าเราสามารถที่จะอายัดไว้ก่อน แล้วเมื่อคดีนั้นถ้าถึงศาล ทรัพย์เหล่านั้นก็ต้องนำไปสู่ศาลเพื่อจะพิพากษายึดไป ตรงนั้นถึงจะเป็นเด็ดขาด

การอายัดไว้ก่อนนี้ วันนี้ได้ออกคำสั่งอายัดแล้ว ถามว่าข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ในประกาศฯ ฉบับที่ 30 ได้ให้ความยุติธรรมไว้ดังนี้ว่า ในชั้น คตส.มีหลักฐานสังคมเชื่อว่าเขาทำผิดในกรณีทรัพย์ที่เกี่ยวข้องและมีเหตุอันควรยึด คุณอายัดไว้ แต่ถ้าทรัพย์นั้นไม่ใช่ของเขา หรือเขามีเหตุที่อธิบายได้ทำไมต้องรอให้เขาถึงศาลด้วย เพราะฉะนั้นในท้ายมติจะบอกไว้ว่า ให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบมายืนยันว่าเป็นทรัพย์สินของตน และเป็นทรัพย์สินที่ไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ตรงนี้ คตส.จะมีอำนาจสั่งถอนอายัดได้แล้วจะหมดเรื่องไป ในมติได้สั่งไว้ว่า ให้ผู้ที่ต้องการจะร้องขัดทรัพย์ คือ ดึงทรัพย์ออกจากการอายัด เราให้เวลาไว้ 60 วัน ก่อน 60 วัน ท่านจะได้รับคำชี้แจงจากเรา ท่านมายื่นคำร้อง ท่านยื่นเมื่อไหร่ไต่สวนทุกวันทันทีจะไม่ช้า ต้องให้ความยุติธรรมกับเขา อันนี้ขั้นตอนทางกฎหมายที่ขอย้ำท่านโฆษกว่า ตัวนี้เป็นวิธีการชั่วคราวเท่านั้นเพื่อจะรักษาทรัพย์ที่เกี่ยวข้องไว้ก่อน ส่วนนี้ยังไม่ใช่การลงโทษ ไม่ใช่ส่วนที่เป็นการตัดสินเสร็จเด็ดขาด จึงไม่ใช่เรื่องที่มีปัญหาย้อนหลัง

สำหรับฐานอำนาจ ชี้แจงโดยลำดับ ดังนี้ ตัวบทข้อ 5 ของประกาศ 30 ข้อ 6 ข้อ 7 ความเป็นดังนี้ ความข้อแรก ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะมองคุณทักษิณแล้วบอกเอาละวะอายัด ความข้อแรกในกฎหมายบอกไว้ว่า 1.จะต้องมีเรื่องที่ คตส.ตรวจสอบหรือไต่สวนเกิดขึ้นเสียก่อน ไม่ใช่นึกจะหยิบก็หยิบ ต้องมีเรื่องไต่สวนตรวจสอบเกิดขึ้นเสียก่อน 2.การตรวจสอบและไต่สวนนั้นถึงขั้นที่มีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่า กลุ่มแรก คือ เชื่อได้ว่าทุจริตประพฤติมิชอบ ปรากฏว่า จากการตรวจสอบของเราจนปัจจุบันมันถึงขั้นกล่าวหาและไต่สวนแล้วด้วยซ้ำไป และอยู่ระหว่างให้ท่านมาแก้ข้อกล่าวหา 5 คดี (1) กรณีที่ดินกองทุนฟื้นฟู ตรงนี้อยู่ที่อัยการแล้ว ที่ดินมูลค่าตามสัญญา 772 ล้านบาท (2) การจัดซื้อกล้ายาง มูลค่าตามสัญญา 1,440 ล้านบาท มีชื่อการกล่าวหาท่านนายกฯ ทักษิณอยู่ ตรงนี้อยู่ในชั้นไต่สวนแล้ว (3) ซีทีเอ็กซ์ ถึงขั้นไต่สวนแล้วและกล่าวหาท่านนายกฯ ทักษิณ ด้วย (4) โครงการออกสลากพิเศษ ถึงขั้นไต่สวนแล้ว และมีหลักฐานกล่าวหาท่านนายกฯ ทักษิณด้วย (5) การให้กู้โดยทุจริตของธนาคารกรุงไทย มีหลักฐานถึงขั้นไต่สวนแล้วว่าท่านเป็นคนสั่งการ ความเสียหาย 5,185 ล้านบาท สลากพิเศษออกโดยมิชอบ รัฐเสียหาย 37,790 ล้านบาท ซีทีเอ็กซ์ เสียหาย 1,500 ล้านบาท

ทั้งหมดนี้ขอย้ำว่าไม่ใช่เรื่องที่อยู่ดีๆ จะไปยึดหรืออายัด ต้องปรากฏหลักฐานก่อน

ประการที่ 2 เป็นความผิดประเภทที่เรียกว่าร่ำรวยผิดปกติ “ร่ำรวยผิดปกติ” ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าท่านมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติเพราะท่านมีทรัพย์สินมากอยู่แล้ว แต่เป็นการร่ำรวยผิดปกติชนิดที่เรียกว่า “ได้ทรัพย์สินมาโดยมิสมควรจากการใช้อำนาจหน้าที่” ตรงนี้ก็ปรากฏพยานหลักฐานจากการตรวจสอบขึ้นโดยลำดับ กล่าวคือ

(1) พบในอนุกรรมการตรวจสอบหุ้นชินคอร์ป พบมาโดยชัดขึ้นเรื่อยๆ ว่า หุ้นชินคอร์ปของครอบครัวชินวัตรนั้น 49.2 เปอร์เซ็นต์ เมื่อท่านนายกฯ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี หุ้นเหล่านี้ได้เปลี่ยนเป็นชื่อบุตรและพี่น้อง และไปต่างประเทศในนามแอมเพิลริช 11 เปอร์เซ็นต์ หุ้นเหล่านี้ทั้งหมด หลังจากขึ้นเป็นนายกฯ ปี 43 ปี 49 ได้รวมกันอย่างง่ายดาย และมาขายให้กับกองทุนเทมาเส็ก เป็น 73,300 ล้าน เมื่อเป็นนายกฯ นั้นมูลค่าประมาณ 20,000 กระโดดขึ้นมาประมาณ 50,000 กว่าล้าน ถามว่า 50,000 ล้านนี้เพิ่มขึ้นจากอะไร ตรงนี้การตรวจสอบเรายืนยันหลักฐานชัดขึ้นๆ ว่า นี่คือซุกหุ้นภาค 2 ปรากฏว่าชื่อหลุดและพี่น้องนั้น เรามีหลักฐานชัดทั้งโดยพฤติการณ์และโดยการตรวจทางบัญชีว่า เราเชื่อได้ว่า ควรเชื่อได้ว่เจ้าของที่แท้จริงคือท่านนายกฯ ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ในเมื่อเชื่อได้ว่าหุ้นยังเป็นของท่าน แล้วตามด้วยพฤติการณ์ที่มีการเอื้อประโยชน์ให้แก่กิจการชินคอร์ป ตามมติที่เขียนไว้ ตรงนี้ก็ปรากฏขึ้นในสำนวนการตรวจสอบและไต่สวนของ คตส.เช่นกัน ได้มีการแก้ไขส่วนแบ่งรายได้ จากโทรศัพท์ไร้สาย หรือเคลื่อนที่ จาก 25 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 20 เปอร์เซ็นต์ ถ้าจำไม่ผิด ปี 44 ขึ้นเป็นนายกฯ ปั๊บ ก็แก้เลย การที่ลดลง 5 เปอร์เซ็นต์ จากรายได้ คิดเป็นมูลค่าที่องค์การโทรศัพท์ หรือรัฐต้องเสียไปตลอดอายุสัญญา 25 ปี เสียหายทั้งสิ้น 71,667 ล้านบาท การแก้ไขสัญญานี้กฤษฎีกาได้วินิจฉัยไปแล้วเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ว่าไม่ทำตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน ผิดขั้นตอน เป็นการกระทำโดยมิชอบ

(2) แก้ไขสัญญา โดยเป็นการเปลี่ยนการคิดว่าอะไรคือรายได้ เดิมทีรายได้เท่าไรก็ 20 เปอร์เซ็นต์ 25 เปอร์เซ็นต์ หารไปเลย แต่ก็มาเปลี่ยน ว่าก่อนที่หัก ก่อนที่จะคิดเป็นรายได้นั้น ให้หักค่า Access Charge ออกไปเสียก่อน จึงทำให้องค์การโทรศัพท์ฯ เสียประโยชน์ 700 ล้าน นี่ก็ไม่ผ่าน พ.ร.บ.ร่วมทุน

ทั้งสองเรื่องนี้ คตส.มีมติให้กล่าวหาท่านนายกฯ แต่ผู้เดียว และไต่สวน คือ การตรา พ.ร.ก.ภาษีสรรพสามิตกิจการโทรคมนาคม และมีมติให้ผู้ประกอบการเอาภาษีมาหักจากค่าสัมปทานได้ ตรงนี้ทำให้ ทศท. กสทฯ ได้ค่าสัมปทานไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย จนถึงปัจจุบัน ถึงแม้จะเลิกภาษีเป็น 0 แล้ว แต่ก็เสียหายไปแล้ว 30,667 ล้านบาท

ข้อที่ 4 เรื่องดาวเทียม ดาวเทียมชินแซท ของบริษัทชินแซท ไอพีสตาร์ ลงทุนสูงมาก มีความพยายามดิ้นรนบุกเบิกตลาดเต็มที่ มีการบังคับให้บริษัท ทีโอที คือองค์การโทรศัพท์ฯ ต้องเช่าช่องสัญญาณโดยไม่มีความจำเป็น โดยกลุ่มผลประโยชน์ของบริษัท ชินคอร์ป ทำให้องค์การโทรศัพท์ฯ เสียหายจนปัจจุบันนี้ 700 ล้าน

ข้อ 5 อยู่ในขั้นตรวจสอบ อีกประมาณ 2 อาทิตย์ จะวินิจฉัยเพื่อไต่สวน คือการที่ท่านนายกฯ ได้เสนอ ครม.ว่า เราจะให้พม่ากู้ เป็นเครดิตไลน์ คือพม่าซื้อของไทยก็มาเบิกเงินไปเลย ตอนแรก 3,000 ล้าน แล้วมาเติมอีก 1,000 ล้าน พยานหลักฐานยืนยันชัดเจนว่า ท่านนายกฯ เป็นคนไปคุยกับผู้นำพม่า แล้วก็มาขอเพิ่มอีก 1,000 ล้าน เพื่อซื้อสินค้าของชินแซทโดยเฉพาะ ฟังผู้นำพม่าแล้วมาขอเงินหลวงอีก 1,000 ล้าน แล้วก็เพื่อซื้อสินค้าชินแซทโดยเฉพาะ ที่เหลือนอกนั้นเป็นการอาศัยการเจรจาการค้า ทั้งระดับอาเซียนและพหุภาคี บุกเบิกตลาดให้กับดาวเทียมไอพีสตาร์ของชินแซท สำเร็จลงตัวเป็นบริษัทลูกในกัมพูชา ในลาวและเป็นสิทธิ์ในบริษัทในประเทศคู่สัญญาตลอด ทั้งหมดนี้เป็นมูลค่าที่ประมาณไม่ได้

ด้วยเหตุดังกล่าวทั้งหมด เมื่อมีหลักฐานอันเชื่อได้ว่ามีการทุจริตประพฤติมิชอบ เชื่อได้ว่าร่ำรวยผิดปกติ ในประกาศคณะปฏิรูปการปกครองฯ ข้อ 5 ให้อำนาจ คตส.ที่จะอายัดทร้พย์ที่เกี่ยวข้องนั้นไว้ก่อนได้ ฉะนั้นในวันนี้จึงได้มีคำสั่งอายัดทรัพย์

คำสั่งอายัดทรัพย์นี้ อันที่จริงท่านสัก ทีมอนุฯ ไต่สวนหุ้นชินคอร์ป ได้ติดตามบัญชีธนาคารของครอบครัวชินวัตรมาตลอด จนกระทั่งเราได้พบเห็นว่า เงินก้อนหนึ่งที่เรามุ่งมองอยู่ ก็คือเงินจากการขายหุ้นชินคอร์ป ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นของนายกฯ กับคุณหญิง ถึงแม้จะแตกเป็นบัญชีของบุตรและพี่น้อง เราก็เชื่อว่าเป็นการถือแทนคุณหญิงและท่านนายกฯ บัญชีเหล่านี้เรามองอยู่ตลอด เข้ามา 73,000 ล้าน ตอนนี้เหลือ 52,000 ล้าน เพราะฉะนั้นการยักย้ายถ่ายโอนมันเกิดขึ้นแล้ว อยากจะทำก็ต้องดูพยานด้วย แต่เมื่อประมวลพยานหลักฐานทั้งคดีร่ำรวยผิดปกติ กับคดีทุจริตประพฤติมิชอบ โดยเฉพาะคดีหุ้นชินคอร์ป ตรวจบัญชีลงไปลึกจนชัดเจน เชื่อได้ว่าของคุณ เพราะฉะนั้นเมื่อมีความมั่นใจว่า เชื่อได้ว่าทำผิดและร่ำรวยผิดปกติ

สอง เมื่อเห็นเงินมันเริ่มขยับ เริ่มรั่วออกไป ทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของการใช้อำนาจอายัดทรัพย์ ทั้งหมดนี้ที่อุตส่าห์แถลงอย่างยืดยาว เพื่อยืนยันกับท่านว่า เราไม่ได้สั่งอายัดวันนี้ด้วยมูลเหตุจูงใจทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ได้สั่งโดยมูลเหตุจูงใจทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น

คุณจำได้ไหมคราวภาษีสรรพสามิต ข่าวก็รั่วไปทีหนึ่งแล้วว่าจะอายัด นั่นก็เกือบอายัดแล้ว เมื่อพฤษภาคม แต่หลักฐานการซุกหุ้นมันไม่ชัด บัญชีธนาคารยังจับไม่ถนัด ถ้าจับได้แล้วซัดตอนนั้นเราทำเสียก่อนมีศาลรัฐธรรมนูญ หรือเกิดก่อนการประท้วงเสียด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นยืนยันได้จากหลักฐานทั้งหมด พัฒนาเป็นคดีๆๆ มีการตรวจบัญชี พัฒนาเป็นคดีๆๆ ทั้งหมดนี้บรรจบลงวันนี้ เพราะฉะนั้นถ้าท่านใดจะมาวิพากษ์ว่าเราทำเพราะมูลเหตุการเมือง ก็อยากจะถามตรงๆ ท่านอยากจะให้ 52,000 กว่าล้านนี้มันหายไปใช่ไหม เอาคดีขึ้นฟ้องศาลแต่เงินไม่มีสักบาท ท่านต้องการอย่างนั้นหรือ เพราะฉะนั้นนี่คือเหตุจำเป็นเท่านั้นเอง ในทางหลักฐาน ส่วนจะเผอิญพอดีกับการประท้วงหรืออะไรต่างๆ นั้น ตรงนี้เป็นเรื่องที่ไม่ได้อยู่ในการคาดการณ์หรือประมาณการแม้แต่น้อย และไม่ได้นำมาคิดในใจเลยมันจะทำให้ร้อนขึ้น หรือเย็นลง หรือจะเป็นปัญหาอะไรทั้งสิ้น

ท้ายสุดอายัดอะไรบ้าง ในส่วนที่เป็นพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ คือใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ชินคอร์ป และซุกหุ้นชินคอร์ปไว้ในชื่อบริวาร คตส. ถ้าคดีขึ้นศาลจะต้องขอให้ศาลยึดทั้ง 73,000 ล้าน แต่ปรากฏว่าเงิน 73,000 ล้าน มันอยู่ในบัญชีที่กล่าวนี้ เหลืออยู่ 52,000 ล้าน ตรงนี้เราอายัดโดยเหตุร่ำรวยผิดปกติ จะเป็นชื่อบุตร ชื่อน้องสาว เป็นเรื่องของชื่อ แต่เราเชื่อว่าเป็นของคุณ เพราะฉะนั้นคำสั่งแรกเป็นคำสั่งที่ระบุบัญชีชัดเจน แล้วขณะนี้ส่งถึงธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่ออายัดก่อนวันทำการในวันพรุ่งนี้ คำสั่งที่ 2 ตรงนี้ เป็นเงินฝากทั่วไป และจำกัดเฉพาะท่านนายกฯ ทักษิณ และคุณหญิงเท่านั้น ตรงนี้จะส่งไปยังทุกธนาคาร เรายังไม่ทราบเลขบัญชี แต่เราจะสั่งว่า บัญชีที่มีชื่อ 2 ท่านนี้ให้อายัดไว้แล้วให้รายงานกับเรา เข้าใจนะครับทำไมถึงมี 2 อายัด อายัดแรก มีบัญชีที่พุ่งมองอยู่ และเป็นเงินเฉพาะที่ได้มาจากการขายหุ้นชินคอร์ป ซึ่งเราเชื่อว่าร่ำรวยผิดปกติ ตรงนี้เรามีบัญชีที่มองอยู่ พรุ่งนี้อายัดได้หมดแล้ว แต่บัญชีที่เหลือเราไม่ทราบว่าจะมี 100 ล้าน 200 ล้าน หรือไม่มีสักล้าน เราไม่ทราบ ตรงนั้นได้แต่แจ้งคำสั่งไปยังทุกธนาคารให้เขาอายัดไว้แล้วรายงานเรา
การอายัดนี้เป็นการอายัดชั่วคราว เปิดโอกาสให้ผู้ที่ได้รับความเสียหาย และมีเหตุผลมาร้องขอให้เราถอนอายัด ภายใน 60 วัน หรือถ้าเราตรวจพบเองว่าไม่ใช่ของเขา เราจะปล่อยเอง แต่เราให้สิทธิ์เขาไปแล้ว เขาใช้สิทธิ์เมื่อไหร่จะไต่สวนทันที

สัก กอแสงเรือง

ขอแก้ไขเอกสารเนื่องจากมีการพิมพ์ผิดพลาด “พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2542” แก้เป็น “พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2549” ซึ่งจะสอดคล้องกับบรรทัดต่อๆ ไป คือ พ.ร.บ.ประกาศราชกิจจาฯ มีผลบังคับใช้ 21 มกราคม 2549

ถาม-ตอบ

ถาม - ทั้ง 2 คำสั่งมีการประเมินว่าจะเป็นวงเงินประมาณเท่าไหร่

แก้วสรร - เรียนตามตรง เงินหุ้นชินคอร์ปเราตามตลอด เราเห็นถึงปัญหาร่ำรวยผิดปกติ ตรงนี้ได้ยอดมาอย่างที่กล่าว ยอดที่กล่าวนี้คือเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ไม่ทราบวันนี้เหลือเท่าไหร่ แต่พรุ่งนี้จะถูกอายัดไว้ 4 มิถุนายน จากการตรวจสอบของแบงก์ชาติ 52,884 ล้าน ส่วนการอายัดอื่น ส่งเรื่องไปยังทุกธนาคารว่าถ้ามีบัญชี 2 ท่านนี้ ให้อายัดไว้ ตรงนี้ไม่ได้ประเมิน แต่ถ้าดูจากรายการบัญชีทรัพย์สินที่ท่านแจ้งไว้ ก็ไม่น่าจะมาก

ถาม - หมายถึงธนาคารในต่างประเทศด้วยหรือเปล่า
- อันนี้ยัง ที่ส่งไปคือในประเทศทั้งหมด

ถาม - การยักย้ายเกิดขึ้นช่วงไหน หรือเป็นช่วงหลังจากที่มีรัฐประหารหรือก่อนหน้านั้น
- ไม่ได้ตรวจสอบนะ ขออภัย

ถาม - 21 บัญชีนี้ของใครบ้าง

- 21 บัญชีนี้ คือเขาอ้างว่าหุ้นเป็นของบุตรชาย บุตรสาว และคุณบรรณพจน์ คุณยิ่งลักษณ์ ทั้ง 4 ท่าน ถูกใช้ชื่อว่าเป็นผู้ถือหุ้นชินคอร์ปของครอบครัวชินวัตร แล้วเมื่อขายออกมาได้ 73,000 เขาก็แตกเงินที่ได้ให้ 4 คน ตามสัดส่วนนี้ แล้ว 4 คนนี้ก็เอาเงินเหล่านี้ไปฝากอยู่ในธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ และมีกองทุน และแตกไปบัญชีต่างๆ คนหนึ่งอาจจะ 2-3 บัญชี ก็แล้วแต่ แล้วเงินมันก็เริ่มหายไป

ถาม - เงินที่หายไปเราต้องใช้อำนาจอะไรไปตาม?
- คือในส่วนหนึ่งเราก็ได้จากการรายงานของธนาคารต่างๆ อันที่ 2 เราก็ต้องเอาสเตทเมนต์ของบัญชีเหล่านี้ บัญชีนี้เป็นบัญชีแรกรับ คือ พอขายปั๊บมันเข้าเลย แต่จากบัญชีนี้มันกระโดดไปไหนบ้าง ตรงนี้เรามาดูสเตทเมนต์แล้วก็ไล่ ว่ามันไปไหน ก็ต้องขอเวลาตรวจ

ถาม - เวลาเขามาพิสูจน์ทรัพย์เขาต้องมาด้วยตัวเองหรือสามารถให้ทนายความมาแทน

แก้วสรร - 60 วันที่ให้สิทธิ์ เขาจะตั้งตัวแทนหรือทำอย่างไร ให้พี่สักชี้แจง

สัก - ส่วนนี้ก็คงเป็นเรื่องของการพิสูจน์ความเป็นเจ้าของ พิสูจน์การได้มาโดยชอบ โดยหลักก็คือเจ้าของ แต่มาตรการดำเนินการนี้ก็คงจะต้องไปโยงใช้วิธีพิจารณาของศาลมาใช้โดยอนุโลม เช่น ร้องขัดทรัพย์ หรือการร้องพิสูจน์ว่าใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง และไม่ได้เกี่ยวข้องกับทรัพย์ที่กระทำความผิด หรือเพิ่มขึ้นผิดปกติ หรือร่ำรวยผิดปกติ ก็จะโยงใช้ 2 อย่างในการพิสูจน์ ของกระบวนการยุติธรรม โยงใช้การพิสูจน์ในกฎหมาย ป.ป.ช. ตรงนี้เราก็จะใช้โดยอนุโลม ก็คงจะต้องศึกษาดูว่าวิธีการในกฎหมาย 2 ฉบับนี้ โดยวิธีพิจารณาของกระบวนการยุติธรรมก็ดี วิธีดำเนินการของ ป.ป.ช.ก็ดี มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ก็คงจะเอามาใช้โดยอนุโลม

แก้วสรร - มีผู้ถามว่าการยื่นคัดค้านหรือขัดทรัพย์ จะใช้ตัวแทนได้ไหม ตรงนี้ก็ไม่ยาก ให้ปากคำก็ยังใช้ทนายได้ ทีนี้ถามว่า ท่านต้องมาไหม คำตอบก็คือว่า นี่เป็นสิทธิ์ของท่าน ถ้าท่านใช้สิทธิ์ท่านก็มา หรือท่านจะใช้ตัวแทนก็ได้ เมื่อกี้คำถามผิด ให้คัดค้านได้ภายใน 60 วัน พรุ่งนี้ก็ได้ แต่เรายืดเวลาให้ยาวไปถึง 60 วัน เผื่อท่านจะเตรียมเรื่อง ทีนี้พอยื่นปั๊บ ก็เป็นหน้าที่ คตส. จะต้องรีบฟังคำร้องเขาโดยเร็ว ส่วนเขาจะมาหรือเป็นตัวแทนก็แล้วแต่เขา

ถาม - หนี้ 2 หมื่นกว่าล้านที่หายไปจากบัญชี คตส.จะมีการติดตามกลับคืนมาหรือเปล่า

แก้วสรร - ก็ต้องติดตามอยู่แล้ว นี่เป็นบัญชีแรกรับ ฉะนั้น ในสเตทเมนต์มันต้องบอกว่าเงินไปไหน พอได้สเตทเมนต์มาก็ไล่ตาม ก็ไม่ทราบมันแปลงไปไหน

ถาม - เมื่อมีการอายัดทรัพย์แล้วจะมีการดำเนินคดีอาญาต่อไปหรือไม่

แก้วสรร - นี่ไงครับสิ่งที่พยายามอธิบาย เขาไม่ได้ให้พวกผมมายึดทรัพย์นะ เขาให้พวกผมหาความผิดแล้วเอาคดีไปสู่ศาลตัดสิน ลงโทษติดคุกหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่การอายัดทรัพย์ในที่นี้เป็นเพียงมาตรการข้างเคียง เมื่อเรามีหลักฐานในระดับที่เชื่อได้ และถ้าเราเห็นว่าทรัพย์มันเกี่ยวข้อง มันจะหนี ก็ให้เราตะครุบไว้ก่อน แต่ถ้าเมื่อไรคดีไปศาล ทรัพย์สินเหล่านี้ก็ต้องตามไปให้ศาลพิพากษายึดหรืออายัด แล้วแต่กรณี อย่างตัวอย่างว่าผมทุจริต ได้เงินมา 100 ล้าน คตส.ตะครุบ ถ้า คตส.บอกว่าผมหลุด เขาก็ต้องปล่อยเงินผม หรือถ้าเขาบอกให้ผมไปศาล คตส.ก็ต้องอายัดไว้ แล้วขอให้ศาลริบเป็นของแผ่นดิน มันก็ขนานกันไป ถึงบอกว่าการอายัดทรัพย์นี้ไม่ใช่ยุติเด็ดขาด มันขึ้นอยู่กับว่าคดีจะไปอย่างไร แล้วเขาก็มีสิทธิ์ที่จะมาเถียงให้เหตุผลเราได้ ผมพูดตรงๆ ตรงนี้เลยก็ได้ เงินขายหุ้นชินคอร์ป ถ้าคุณเอาหลักฐานจากยูบีเอส เอที สิงคโปร์มา ซึ่งเป็นสถาบันการเงินของโลก แล้วเราไม่มีโอกาสได้เลย เอามาเลยว่าใครเป็นผู้เปิดบัญชี ทั้งหุ้น ทั้งธนาคาร ถ้าเอามาพรุ่งนี้แล้วบอกว่า เด็กสองคนนี้เป็นคนเปิดบัญชี แล้วสั่งโยกโน่นโยกนี้ ถ้ามีหลักฐานเป็นเอกสารมาตรงนี้ปล่อยทันที แต่ไม่ใช่ ไม่ให้ ถามบอกไม่รู้ จำไม่ได้ พอเชิญมาบอกไปนอก แล้วเงินนั้นก็หายไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นยินดีเลยนะครับ เมื่อท่านมีหลักฐานที่ท่านไม่เคยให้เรา ก็เอามาให้ได้พรุ่งนี้ วินิจฉัยทันทีเลยก็ได้ ปล่อยหมดทั้ง 5 หมื่นเลยก็ได้ แต่ไม่ใช่อยู่อย่างนี้ แล้วหลักฐานของเรามันอยู่ในระดับน่าเชื่อแล้ว เถียงกันตั้งนาน บอกช่วยคิดแทนกันสิ ตามทฤษฎีการตรวจสอบของเรา เขาสามารถจะตีตรงไหนได้บ้าง สอบกันตั้งนานจนกระทั่งคิดว่า จากหลักฐานนี้มันต้องเป็นอย่างนี้ แต่ถ้าคุณสามารถหาหลักฐานใหม่มาทำลายทฤษฎีเราได้ เอาคืนไปเลย แต่ไม่ยอมให้ ปล่อยให้เราเรียกมาถามอยู่อย่างนี้ แล้วเมื่อไรจะไปไหนได้ เงินก็ไหลหายไปเรื่อย 7 หมื่น 6 หมื่น เหลือ 52,000 เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็หายไปเรื่อยๆ ฉะนั้นมันเป็นความจำเป็นของเงินตรงนั้น

ถาม -

แก้วสรร - การชี้แจงลงลึกในคดีนี้ต้องเป็นเรื่องเฉพาะคดี อันนี้เป็นเรื่องคำสั่งอายัดด้วยความเชื่อว่ามีมูลความผิด

ถาม -

สัก - ถ้าสละสิทธิ์การพิสูจน์ การอายัดยังมีอยู่ต่อไป กระบวนการตรวจสอบ กระบวนการไต่สวนยังดำเนินการต่อไป คดีไหนเรื่องไหนเสร็จเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมไปตามปกติ อยู่ต่อไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ถาม - พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพวก ขยายคำว่าพวก คือใครบ้าง

สัก - ผมคิดว่าเอกสารที่เราแจกชัดเจนพอ เพราะฉะนั้นขณะนี้คงจะไม่ลงรายละเอียดมากกว่านี้ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบและไต่สวนของ คตส.

ถาม -

สัก - ของคนอื่นเรายังไม่มีมติ อย่าเพิ่งถามล่วงหน้า และอย่าถามความเห็นหรือมติเราล่วงหน้า

ถาม - ยื่นคำร้องต้องยื่นต่ออนุกรรมการแต่ละหรือยื่นกับ คตส. และชี้แจงกับ คตส.ทั้งคณะ

แก้วสรร - ยื่น คตส. อาจตั้งอนุกรรมการรับฟัง เรื่องของเรา

ถาม - เงินฝากคุณทักษิณ คุณหญิงในบัญชี ช่วยประมาณคร่าวๆ ว่าเท่าไหร่

แก้วสรร - มี 2 ก้อนที่ถูกอายัด ก้อนหนึ่งอยู่ในชื่อคนอื่นเนื่องมาจากการขายหุ้นชินคอร์ป เราเชื่อว่าเป็นของท่านทักษิณกับคุณหญิง อันนี้บอกยอดไปแล้ว ส่วนที่ถือไว้ในนามท่าน ตรงนี้คุณลองประเมินแล้วกันท่านแจ้งบัญชีทรัพย์สินไว้เท่าไหร่ แล้วน่าจะเหลือสักเท่าไหร่ หรือจะเพิ่มขึ้นผิดปกติหรือไม่ ตรงนี้ คตส.ยังไม่ได้ประเมิน

ถาม - มีมติแล้วจะเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัย สตง.หรือไม่

สัก - ถามท่านผู้ว่าฯ สตง. เป็นเรื่องของสถานที่

ถาม - ถ้าเกิดยังมีเงินออกไปอีก ธนาคารไม่ทำอะไร

แก้วสรร - ธนาคารฝ่าฝืนก็ผิดซิครับ

ถาม – ก่อน คตส.จะมีมติได้มีการตรวจสอบหรือไม่ว่ามีการยักย้ายถ่ายโอนเงินไป

แก้วสรร - เรารู้บัญชีจริง 4 มิถุนายน เท่านี้ ส่วนเขาจะมีบัญชีที่ไหนอีกตอนนี้ไม่รู้เลขบัญชี แต่สั่งอายัดเป็นชื่อ ว่าถ้ามีชื่อนี้อยู่ในบัญชีธนาคารคุณอายัดให้หน่อยแล้วเขาจะรายงานกลับมา

นาม ยิ้มแย้ม

วันนี้ทางคณะ คตส.ได้ประชุมอย่างเคร่งเครียดพอสมควร แต่ลงเอยด้วยการมีมติให้อายัดทรัพย์คุณทักษิณ และพวก ซึ่งปัญหานี้มีสื่อมวลชน แม้แต่ประชาชน ถามอยู่เรื่อยว่าเมื่อไหร่จะใช้อำนาจเมื่อไหร่ ซึ่งต้องพิจารณากันอย่างรอบคอบ จะทำอย่างสุกเอาเผากิน หรือจะเป็นการกลั่นแกล้ง ที่ช้าเพื่อรอหลักฐานที่มั่นคงพอสมควรจึงตัดสินใจให้อายัดไว้ ซึ่งให้ฝ่ายผู้อายัดมาแก้ตัวได้ ไม่ได้เด็ดขาดอะไร

ถาม - ท่านประธานห่วงหรือไม่ม็อบจะบุกมาที่ สตง.

นาม - ไม่ห่วง ถ้าเขาจะมาคงจะห้ามเขาไม่ได้

ถาม - อยากจะบอกอะไรกับประชาชนในมตินี้เพื่อให้ประชาชนเข้าใจ

นาม - ไม่มีอะไร ให้รายละเอียดไปหมดแล้ว

ถาม - ประชาชนว่าคุณทักษิณถูกกลั่นแกล้ง

นาม - อันนี้มันห้ามเขาไม่ได้ เราไม่มีอคติอะไรเลย เพราะหากมีอคติคงทำมานานแล้ว ทั้งที่ประชาชน ผู้สื่อข่าวถามอยู่เรื่อย เมื่อไหร่จะใช้สิทธิ์เสียที ใช้อำนาจนี้เสียที เพราะฉะนั้นเมื่องวดเข้ามาเพราะคดีที่ตรวจสอบหรือไต่สวนมันมองเห็นพฤติการณ์ว่าได้มีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์จึงใช้อำนาจตามข้อ 5 ของประกาศฉบับที่ 30

สัก กอแสงเรือง

คตส. ยืนยันว่า 1.ไม่มีอคติ 2.ไม่มีใบสั่ง ทำตามอำนาจหน้าที่ ตามประกาศฉบับที่ 30 เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทุกกระบวนการ




 

Create Date : 12 มิถุนายน 2550
16 comments
Last Update : 12 มิถุนายน 2550 0:23:50 น.
Counter : 787 Pageviews.

 

โอ้...........เข้ามาอ่านค่ะพี่ ตอนนี้ไม่ค่อยดูข่าว
ส่วนเนื้อข่าวไม่มีความคิดเห็นเหมือนเดิมค่า

 

โดย: li_goro 12 มิถุนายน 2550 7:54:14 น.  

 



นั่งดูเขาถ่ายทอดสดเมื่อเย็นวานนี้ด้วย
เฮ้อ.....

 

โดย: อุ้มสี 12 มิถุนายน 2550 8:31:56 น.  

 

เวรกรรมมันตามกันทันค่ะ !!! ชีวิตที่เหลือจะมีความสุขรึนี่ ทักษิณ

 

โดย: วันวานที่ผ่านมา 12 มิถุนายน 2550 8:56:10 น.  

 

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

ขอบคุณจขบ.ที่นำเสนอครับ

 

โดย: KyBlueSky 12 มิถุนายน 2550 9:03:19 น.  

 

มาอ่านอีกรอบ หลังจากดูสดๆแล้วเมื่อวาน

 

โดย: printcess of the moon 12 มิถุนายน 2550 10:18:36 น.  

 

แวะมาอ่านข่าวคับ

 

โดย: frank3119 12 มิถุนายน 2550 11:04:47 น.  

 

ขอบคุณสำหรับข่าวสาร แล้วจะแวะมาใหม่

 

โดย: Alisara 12 มิถุนายน 2550 11:15:48 น.  

 

จะยึดได้หมดเหรอ

 

โดย: KnightWin 12 มิถุนายน 2550 11:27:40 น.  

 

อืมมมมม ตามมาอ่านคับ

 

โดย: พีทคุง (redistuO ) 12 มิถุนายน 2550 11:38:49 น.  

 

นี่ถ้าเขารู้จักพอเพียง คงไม่เป็นยังงี้ โลภมากไปก็ต้องทนทุกข์มากตาม

 

โดย: smack 12 มิถุนายน 2550 13:16:26 น.  

 

แนะนำให้ไปอ่านบทความที่ผมคิดว่าดีมากๆๆ ใน //www.fringer.org นะครับ

 

โดย: ฟ้าดิน 12 มิถุนายน 2550 16:42:37 น.  

 

ข่าวละเอียดดีค่ะ มาอ่านอีกรอบหลังจากที่ดูถ่ายทอดเมื่อวาน(แต่ฟัง อ.แก้วสรร ไม่ค่อยทันค่ะ)

ก็รับผลกรรมกันไป

 

โดย: loveofall 12 มิถุนายน 2550 17:39:30 น.  

 

ทักษิณและพวก ที่กำลังเผชิญชะตากรรม

ป่านนี้อาจกำลังซ่องสุม ทำเหตุ

หากคมช. ประเมินพลาด อาจเกไรเหตุกาณ์
ไม่คาดฝันได้

หวังใจเหลือเกินว่าทางรัฐบาลและคมช. อาจประเมิณแล้วว่า ทำอะไร จะส่งผลอย่างไร และมีหมัดเด็ดเป็นระลอกๆ

ไม่งั้น แย่แน่

พระสยามเทวาธิราชช่วยปกปักษ์รักษาบ้านเมืองให้สงบสุข

และส่งคนชั่วไปสู่ผลที่พวกเขาสมควรได้รับโดยเร็วพลันเทอญ

สาธุ


 

โดย: โสมรัศมี 12 มิถุนายน 2550 18:08:04 น.  

 

ตามมาอ่านค่ะ
สนใจเรื่องนี้อยู่

 

โดย: โสดในซอย 12 มิถุนายน 2550 20:16:01 น.  

 

มาติดตามข่าวค่ะ
น่าจะทำตั้งนานแล้ว

 

โดย: whitelady 12 มิถุนายน 2550 22:34:12 น.  

 

เค้าสบายอยู่แล้วครับยังเหลือเงินอีกเยอะที่เมืองนอกครับ แมนซิตี้ไม่ต้องกลัวไม่มีเงินครับกัวแค่ไม่ซื้อจิงแค่สร้างข่าว แล้วม๊อบก้อไม่ต้องกลัวครับเงินอยู่กะเนวิน/พมพร/ยงยุดอีกเยอะ

คุณน้าทักกี้ครับไม่ต้องโกงเยอะก้อได้นะครับ ตายไปเอาไปไม่ได้นะครับที่นรกเค้าไม่ให้โอน แล้วคาดว่าจะอยู่ไปหลายชั่วโคดด้วยนะครับ

 

โดย: ริคาโด้ ก้านกล้วย (พญาหมูแดงดำ ) 12 มิถุนายน 2550 23:52:28 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.