DR.MOO CAN DO
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
29 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 

ฆาตกรที่วิปริตที่สุด The Black Dahlia

blackdahliamugshot.jpg


           นี้คือหนึ่งในสุดยอดคดีปริศนาที่ไขยังไม่ออก การฆาตกรรมหญิงบ้ามากรัก ฉายา เดอะ แบล็ค ดาห์เลีย แสนสยดสยองทำไมฆาตกรถึงลงมืออย่างโหดเหี้ยมกับเธอถึงปานนี้ มันใช่การกระทำของ " คนหรือปีศาจกันแน่ "


blackdahlia4.jpg


blackdahlia2.jpg



                ตอนสาย ๆ วันที่ 15 มกราคม 1947 ถนนนอร์ตัน สวนสาธารณะไลเมิร์ต ชานเมืองลอสแอนเจลีส สหรัฐอเมริกาเบ็ตตี้ เบอร์ซิงเกอร์ แม่บ้านกำลังพาลูกสาวตัวน้อยแอนนี่เดินไปซ่อมรองเท้าของแก ที่สุดถนนนอร์ตัน ใกล้ๆ นี้เอง เมื่อเดินผ่านสวนสาธารณะแอนนี่ลูกสาวตัวน้อยเหลือบไปเห็นของบางอย่างข้างทางเข้า "มันเป็นร่างขาวโพลน นอนอยู่บริเวณบริเวณหญ้าที่ขึ้นรก มันเหมือนตุ๊กตาตัวโต ๆ ที่ชำรุด"


            สองแม่ลูกเข้าไปใกล้ตัวความอยากรู้อยากเห็นว่ามันคืออะไรกันแน่ แต่เมื่อเธอเข้าไปดูใกล้ๆ เผยความจริงเธอถึงกับช็อก เพราะร่างนั้นไม่ใช้หุ่นแต่เป็นศพของผู้หญิงเปลือยโล่งโจ้ง ถูกหั่นบั่นเอวจนร่างขาดจากกันเป็นสองท่อนอย่างประณีต ราวกับอาวุธที่ใช้เป็นมีดหั่นเนื้อที่คมกริบ เอวเธอจึงขาดออก รอยแผลเรียบไม่มีเนื้อเยื่อหรือเอ็นขาดกะรุ่งกะริ่ง แม้ร่างแยกออกเป็นสองท่อน ใบหน้าของเธอยังดูยิ้ม นัยน์ตาเปิดอยู่ครึ่ง ปากเผยยิ้มน้อย ๆ และมุมปากเหยียดออกทั้งสองข้าง อย่างสยดสยอง ส่วนท่องล่างก็สยองไม่แพ้ท่อนบน ด้วยมันเปลือยเปล่าและวิตถารที่สุดคือกระจุกเศษไม้ใบหญ้าที่ช่องเพศจนเปิดอ้าช่างน่าสะอิดสะเอียนอย่างยิ่ง


                จากการชันสูตรศพว่า ในกระเพาะมีอุจจาระอยู่เต็มกระเพาะของเธอซึ่งคนร้ายน่าจะให้เธอกินมันเข้าไป อีกทั้งที่ทวารหนักมีเศษเนื้อจากต้นขาอ่อนของเธอเองยัดอยู่ในทวารหนัก และเศษหญ้าและดินที่ยัดใว้ในอวัยวะเพศของเธอ ฆาตกรหั่นตอนเธอยังมีชีวิตและยัดตรงช่องทวารเลยเชียวล่ะ


                ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 1947 หนังสือพิมพ์ทุกฉบับวิจารณ์วิเคราะห์ (ได้อย่างแม่นยำ) ว่าตำรวจนี้ไม่สามารถปิดคดีได้ตลอดกาล ถึงแม้ในเวลาต่อมาฆาตกรจะส่งห่อของขวัญที่มีของใช้ผู้ตายไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ มีข้อความกำกับบอกด้วยน่ะว่าตนเป็นคนฆ่า แต่ตำรวจก็ไม่สามารถสืบได้อยู่ดีว่าใครคือฆาตกร ทำไมถึงลงมือกับเหยื่อได้โหดเ***้ยมอำมหิตถึงเพียงนี้ และปัจจุบันแฟ้มคดีนี้ก็ยังอยู่ในแผนกฆาตกรรมของตำรวจนครลอสแอนเจลีส อเมริกา จนถึงปัจจุบัน


                ลองคิดกันเล่น ๆ  ซิว่าคนประเภทไหนน้อ? ที่สามารถฆ่าคนได้สุดวิตถารขนาดนี้! อะไรเป็นเหตุจูงใจที่มันทำ และฆาตกรน่าจะเป็นคนอย่างไร


            เอฟบีไอได้ทำการวิเคราะห์ฆาตกรรายนี้ว่า น่าจะเป็นชายผิวขาว สันโดษ อาศัยอยู่ตามลำพังคนเดียว รักความสะอาดแบบผิดมนุษย์ประมาณว่าโรคจิต เขาอาจมีประวัติอยู่ในแฟ้มคดีตำรวจนี้แล้วก็ได้และคงมีประสบการณ์ในการตัด หั่น และชำแหละสัตว์ขนาดใหญ่ๆ เช่นหมู วัว จึงอาจทำอาชีพเป็นคนขายเนื้อ หรือไม่ก็พรานล่าสัตว์ "แบล็ค ดาห์เลีย" ไปเจอะเจอฆาตกรแบนนี้ที่ไหนหรือ? คงจะเป็นในบาร์ที่ไหนสักแห่งน่ะ เธอคงให้ท่าเขาแล้วก็กลับปฏิเสธ เมื่อเขามีอารมณ์กลัดมันสุดขีด เธอดัดสะดิ้งไม่ยอมให้เขาร่วมเพศด้วย มันเลยหน้ามืด หมั่นไส้สุดๆ โกรธแค้นจนอยากขยี้ตายคามือ และต้องอย่างทารุณแบบนี้แหละ ดูจากสภาพศพแล้วคิดดูก็แล้วกัน ว่ามันมีนิสัยแบบไหน หนึ่งคือการทรมานแบบเอาปลายมีดกรีดเนื้อตรงขาอ่อนใกล้กับอวัยวะเพศ แล้วเอาปลายมีดเซาะควักเนื้อแดงๆ ออกมาเป็นก้อนๆ แล้วยัดเข้าไปในทวาร เป็นใครก็แหกปากร้องสุดชีวิตแน่ๆ นี่ไม่นับการถูกบังคับกินอึก้อนเบ้อเริ่มนะ


tortureroom.jpg


                การทรมานไม่ให้ชาวบ้านได้ยินเสียงกรีดร้องสยองโหยหวนได้ต้องทำในชั้นใต้ดินหรือไม่ก็กลางทะเลทรายไกลผู้ไกลคนเท่านั้น! หลังจากฆ่าฆาตกรยังนำศพของเธอไปอาบน้ำสระผม ขัดสีฉวีวรรณจนสะอาดขึ้นเงา...เลือดในศพไม่มีเหลือสักหยด แล้วยังไม่หนำใจ ยังตัดกลางลำตัวเธอจนขาดเป็นสองท่อน...เพราะอะไรเหรอ......คงเนื่องจากความซาดิสต์ และด้วยความจำเป็นทีต้องยัดในกระเป๋าเดินทางก็ได้ แต่ยากที่สุดในการเดาเหตุผลคือ ทำไมฆาตกรถึงเอาศพเธอไปทิ้งในที่เสี่ยงต่อการถูกพบด้วย ในริมถนนนอร์ตันนั้นบางที่จิตสำนึกบางส่วนของฆาตกรอาจอยากถูกให้ตัวเองถูกจับได้!


            ศพถูกวางไว้ที่กลางแจ้ง มองเห็นได้ง่าย และท่าศพก็สยดสยอง เพราะท่อนล่างเปลือยเปล่านั้นนอนถ่างขาอ้าซ่า ท่อนบนยกแขนขึ้นเหนือหัว ปากถูกฉีกให้มีลักษณะกำลังยิ้มๆ...เป็นศพที่อยู่ในท่าเชิญชวนให้ร่วมเพศ ส่วนการที่ฆาตกรส่งหลักฐาน ซึ่งเป็นข้าวของผู้ตายของเบธมาให้สื่อมวลชน แสดงว่าตัวเองอยากดัง อยากให้หนังสือพิมพ์ประโคมข่าวที่เป็นผลงานของมันให้รู้กันทั่วโลก แต่การที่มันล้างทุกอย่างด้วยเบนซิน ก็แปลว่าแม้จะหลงใหลใฝ่ฝันว่าเป็นฆาตกรละดับชาติ อยากมีชื่อในประวัติศาสตร์อาชญากรรมแค่ไหนแต่ก็ไม่อยากถูกจับเข้าคุกหรือไม่ต้องการให้ตำรวจสืบหาเบาะแสมาถึงตัวมันได้....!




 

Create Date : 29 มีนาคม 2553
8 comments
Last Update : 29 มีนาคม 2553 1:26:42 น.
Counter : 8260 Pageviews.

 

โอ้.......เข้ามาสยองตอนดึกๆ

 

โดย: Don't try this at home. 29 มีนาคม 2553 2:37:10 น.  

 

ปกติคิดว่าตัวเองเป็นคนชอบเรื่องโหด ๆ แล้นนะคะ

แต่เจอรูปเข้าไปนี่ อึ้งงงงงงง !!! ย้งกันเลยทีเดียว



ขอบคุณค่ะ

 

โดย: i love my boss 29 มีนาคม 2553 3:45:22 น.  

 

โห โหด สุดๆๆเลยครับ

 

โดย: pooktoon 29 มีนาคม 2553 5:19:04 น.  

 

ฆาตกรคนเดียวกันไหมค่ะ
เห็นมี 2 ศพ
ศพแรกถูกหั่นบริเวณบั้นเอว
ศพสองถูกหั่นบริเวณสะโพกล่าง

หวังว่าคงไม่มีศพสามนะค่ะ
อื้ยยยยย

 

โดย: The Anis (The Anis ) 29 มีนาคม 2553 5:48:32 น.  

 

คนที่ถูกฆ่าอย่างทารุณอย่างนี้
ควรจะได้รับความเห็นใจจากทุกๆ คนที่เอ่ยถึงเรื่องของเธอนะครับ...

 

โดย: หัวใจไข้ขึ้น 29 มีนาคม 2553 7:48:24 น.  

 

ล้างด้วยเบนซินเหรอ

อืม.... คิดไม่ถึงแฮะ

 

โดย: สาระวารี IP: 10.180.1.187, 10.176.253.226, 58.137.129.220 29 มีนาคม 2553 9:01:19 น.  

 

น่าสยองมากค่ะอาจารย์ กำลังง่วงๆ หายเลยค่ะ

 

โดย: ฝน (นสพ ปี 5) IP: 202.28.62.245 10 มิถุนายน 2553 21:51:48 น.  

 

ภาพที่ศพถูกตัดหน้าอก น่าจะเป็นภาพคดํของ
ชารอน เทต(Sharon Tate) ถ้าจำไม่ผิด ซึกมันเป็นคนละคดีกับ คดีของ อลิซาเบธ ชอร์ต(Elizabeth Short) เจ้าของฉายา ดอกรักเร่สีดำ The Black Dahlia

 

โดย: NATACHA IP: 180.183.143.52 13 พฤษภาคม 2558 4:59:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


DR.MOO CAN DO
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]




ผมเป็น นิติพยาธิแพทย์ หรือ จะเรียกว่า หมอนิติเวช ก็ได้ครับ นิติพยาธิแพทย์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปีแล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง นิติพยาธิอีก 3 ปี และเมื่อสอบผ่าน ก็จะได้รับวุฒิบัตรเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ และได้เป็นนิติพยาธิแพทย์ โดยสมบูรณ์
หน้าที่ของหมอนิติเวช แบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ
ส่วนแรก จะเกี่ยวข้องกับผู้ป่วยคดี โดยในผู้ป่วยคดีนั้นแพทย์นิติเวชจะมีหน้าที่ในการตรวจ และให้ความเห็นกับพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับบาดแผลที่ตรวจพบ ซึ่งตำรวจจะนำไปใช้ในการตั้งข้อกล่าวหากับคู่กรณี และหน้าที่ต่อมาของแพทย์นิติเวชคือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีดังกล่าว
ส่วนที่สอง จะเกี่ยวข้องกับผู้เสียชีวิต โดยในกรณีผู้เสียชีวิตนั้นแพทย์นิติเวชมีหน้าที่ในการตรวจสถานที่เกิดเหตุในกรณีตายผิดธรรมชาติตามที่กฎหมายกำหนด และหากมีความจำเป็นต้องผ่าชันสูตร ก็จะต้องมีการทำรายงาน และให้ความเห็นเกี่ยวกับสาเหตุของการเสียชีวิต ส่งให้พนักงานสอบสวน สุดท้ายหน้าที่หลักที่สำคัญโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการเป็นพยานในชั้นศาลในคดีนั้นๆครับ
ประวัติการศึกษา
1.แพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
2.วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญสาขานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3.ประกาศนียบัตร “Crime Scene Investigation” โครงการร่วมระหว่าง International Law Enforcement Academy กับ Federal Bureau of Investigation Academy
4.ประกาศนียบัตร “การบริหารงานโรงพยาบาล” คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ผลงาน
1.อาจารย์ประจำภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มศว.
2.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาชั้นปีที่ 3 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
3.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
4.อาจารย์พิเศษ สอนนักศึกษาปริญญาโท สาขานิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
5.วิทยากร หัวข้อ "ICD-10" ของกระทรวงสาธารณสุข
6.วิทยากร หัวข้อ "การตรวจสถานที่เกิดเหตุ" ของมูลนิธิร่วมกตัญญู และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
7.วิทยากรอบรมหลักสูตรนายร้อยตำรวจอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
8.วิทยากร หัวข้อ "KPI รายบุคคล" ให้กับโรงพยาบาลและมหาลัยวิทยาลัย ในภาครัฐ
9.วิทยากร หัวข้อ "Living will" ให้กับโรงพยาบาลในภาครัฐและเอกชน10.วิทยากร หัวข้อ "นิติเวชศาสตร์กับงานด้านโบราณคดี" ให้กับคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
11.ร่วมเขียนหนังสือ "KPI รายบุคคล"
12.ร่วมเขียนหนังสือ "มาตรฐาน ICD-10, ICD-9"
13.ที่ปรึกษารายการ "เรื่องจริงผ่านจอ" และ "Redline"
14.บทความทางวิชาการและผลงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ 15 เรื่อง
15.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ตั้งแต่ ปี พศ.2553
16.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพ ฯ คณะแพทยศาสตร์ มศว. ตั้งแต่ปี พศ.2551
ผศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี (DR.MOO CAN DO)
New Comments
Friends' blogs
[Add DR.MOO CAN DO's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.