010. ไฟชีวิต ฤดูร้อนปีสุดท้ายของคลิงซอร์ แปลจาก Klingsors letzter Sommer ของ เฮอร์มานน์ เฮสเส
ไฟชีวิต ฤดูร้อนปีสุดท้ายของคลิงซอร์ แปลจาก Klingsors letzter Sommer ของ เฮอร์มานน์ เฮสเส แปลโดย สดใส
5913.ไฟชีวิต ฤดูร้อนปีสุดท้ายของคลิงซอร์
Klingsors letzter Sommer HERMANN HESSE นักเขียนรางวัลโนเบลปี ค.ศ. 1946
เฮอร์มานน์ เฮสเส : เขียน "สดใส" แปล
5913. จาก คำนำสำนักพิมพ์
งานเขียนของเฮอร์มานน์ เฮสเส นักเขียนชาวเยอรมันเจ้าของรางวัลโนเบลทางวรรณกรรมปี 1946 ผ่านกาลเวลามายาวนาน ได้รับการยอมรับและถูกถ่ายทอดออกไปเป็นภาษาต่างๆทั่วโลก รวมทั้งภาษาไทย
ผลงานประพันธ์ของเฮอร์มานน์ เฮสเสนั้นมักสะท้อนปรัชญาความคิดที่หยั่งลึกต่อธรรมชาติ ศาสนา ปรัชญาและศิลปะ เป็นผู้ที่เชื่อมความคิดของโลกตะวันตก และ ตะวันออกเข้าด้วยกัน โดยการสร้างตัวละครที่มีความแตกต่าง เป็นตัวแทนของจิตวิญญาณและด้านที่ตรงกันข้าม ซึ่งตัวละครมักเป็นศิลปินผู้ดุ่มเดินไปบนเส้นทางแห่งโลก
5913. ไฟชีวิต ฤดูร้อนปีสุดท้ายของคลิงซอร์
นวนิยายสันเรื่อง ไฟชีวิต: ฤดูร้อนปีสุดท้ายของคลิงซอร์ เป็นหนังสือเล่มเล็กที่ทรงพลังเป็นอย่างยิ่งอีกเรื่องหนึ่ง ที่ตัวเอกเป็นศิลปินผู้มีวิถีอิสระ มีอารมณ์รุนแรงเจิดจ้าไม่ต่างจากภาพเขียนของเขาที่แสดงออกมาด้วยสีสันดิบและเถื่อน ในช่วงปีสุดท้าย คือ การตกผลึกความคิดและประสบการณ์ ซึ่งเต็มไปด้วยความเข้มข้น วิธีการนำเสนอนั้นใช้มุมมองจากตัวตนของตัวละครและผู้คนที่แวดล้อมใกล้ชิด
ผลงานแปลของเฮอร์มานน์ เฮสเส โดย "สดใส" นักแปลมืออาชีพที่ได้รับการชื่นชมจากนักอ่านว่า เป็นงานแปลที่มีคุณภาพ จนให้สมญานามว่า "ลูกสาวของเฮสเส" ได้ห่างหายไปนาน และ สำหรับหนังสือเล่มนี้นั้นเป็นการแปลและจัดพิมพ์เป็นครั้งแรก ซึ่งไม่เคยตีพิมพ์ที่ใดมาก่อน จึงเป็นโอกาสดีและเป็นความภาคภูมิใจที่สำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์นได้นำออกมาสู่สายตาของนักอ่าน
หนังสือ เรื่อง ไฟชีวิต:ฤดูร้อนปีสุดท้ายของคลิงซอร์ เป็นฉบับพิมพ์ครั้งแรก เมื่อ เดือนตุลาคม พ.ศ. 2546
หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่ผมชอบ ความจริงแล้วผมชอบหนังสือเกือบทุกเล่นของ เฮสเส และ ในชั้นหนังสือก็มีเกือบทุกเล่ม ในหนังสือเรื่องนี้มีบทกวีที่ผมจะไม่กล่าวว่า " ไพเราะ หรือ เพราะ" เพราะผมไม่ค่อยเข้าใจในเรื่องบทกวีนักหรอก แต่ จะบอกว่า ผม"ชอบ"บทกวีในเรื่องนี้ ตัวอย่าง
จากหน้า 17.
ที่รักจ๋า อย่าปล่อยให้ฉันโศกเศร้า อย่าทิ้งฉันไปยามราตรี โอ้ เธอคือคู่ชีวี เธอคือดวงเทียนของฉัน เธอคือดวงตะวัน คือ แสงสว่างแห่งชีวิต
จากหน้า 38 - 39
ชีวิตผ่านไปเร็วราวสายฟ้า ที่แลบแปลบปลายแค่ให้ได้ยล ขณะฟ้าดินยืนยง นิรันดร์ กาลเวลาผ่านเร็วไว เปลี่ยนใบหน้ามนุษย์ โอ้ เจ้าผู้ที่นั่งอยู่หน้าถ้วยเต็มปริ่ม ไย เจ้าไม่ยอมดื่มลิ้ม ฤา เจ้ารอผู้ใด วานบอก
และ
เมื่อเช้านี้ เส้นผมของเจ้ายังดำเป็นประกายดุจใยไหม พอตกค่ำไยกลับแซมด้วยสีขาว ถ้าเจ้าไม่อยากทุกข์กับความเปลี่ยนแปร จงชูถ้วยขึ้นแล แล้วเรียกพระจันทร์ มาเป็นเพื่อนร่วมหรรษา
จากหน้า 91
ใบไม้ปลิดปลิวร่วงคว้าง จากต้นชีวิตของข้า ...... (อ่านต่อในหนังสือ จะเพราะมากว่านะครับ)
จากหน้า 98
อีกไม่นาน ลมแรงจะพัดผ่าน หลุมศพสีน้ำตาลของข้า
และ หน้า 107
ข้าร่ำสุรา ......... อ่านบทนี้แล้วทำให้คิดถึง ลี้ถ้ำฮวย ฉายา เซียวลี้ปวยตอ
Create Date : 26 พฤษภาคม 2553 |
Last Update : 26 พฤษภาคม 2553 16:54:36 น. |
|
2 comments
|
Counter : 2057 Pageviews. |
|
|
|
แต่เรื่อง ไฟชีวิตไม่เคยอ่านค่ะ แต่อ่านดูที่เป็นตัวอย่างเหงา ๆ นะคะ