1 2 3
4 5 6 7 8 9 10
11 12 13 14 15 16 17
18 19 20 21 22 23 24
25 26 27 28 29 30
9 เมษายน 2564
ฟังเพลงประสานเสียงฉบับอีสาน กับ อีสานคอรัส
เมื่อปลายเดือนมีนาคม ปี 2559 ในระหว่างที่บัณฑิตและญาติบัณฑิตรออย่างใจจดจ่อก่อนเริ่มพิธีพระราชทานปริญญาบัตรมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เพลงประสานเสียง “ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน” ก็ดังกระหึ่มขึ้นท่ามกลางแดดร้อนระอุ ทุกคนที่ได้ยินต่างเหลียวไปมองหันไปฟังอย่างตั้งใจ เหมือนมีพลังบางอย่างที่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกเย็นใจ บางคนขนลุกเกลียว และบางคนถึงกับน้ำตาไหลอย่างไม่รู้ตัว ก่อนจะมาเป็นอีสานคอรัส ปี 2554 สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) กระทรวงศึกษาธิการ ได้จัดโครงการประกวดการขับร้องเพลงประสานเสียงอุดมศึกษาเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งนำโดย อ. ดร.ณรงรัชช์ วรมิตรไมตรี ได้ส่งทีมเข้าประกวดสองทีม หนึ่งในนั้นคือ “อีสานคอรัส” ซึ่งเน้นเพลงแบบลูกทุ่งอีสานหรือหมอลำเป็นหลัก ผลการประกวดระดับภูมิภาคทั้งสองทีมกอดคอกันเข้ารอบ โดยวงอีสานคอรัสได้รับรางวัลชนะเลิศ แม้ว่าในระดับชาติจะไม่ได้รับรางวัลชนะเลิศ แต่การประกวดครั้งนั้นก็ชนะใจผู้ชมในหอประชุมศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยอย่างล้นหลาม เพราะความแตกต่างอย่างมีสไตล์ของเพลงชุด “อีสานเมดเล่ย์” ที่นำเอา 5 บทเพลงยอดฮิตในอดีตมาเรียงร้อยเป็นชุดอย่างสุดสนุก ได้แก่เพลง “อีสานบ้านเฮา” “อีสานลำเพลิน” “ลำนำอีสาน” “ตามน้องกลับสารคาม” และบทกลอนลำ “เต้ยลา” ขุดเพลงเก่ามาเล่าใหม่ เสน่ห์ของการเรียบเรียงเสียงประสานในแบบฉบับของอีสานคอรัส คือ การนำเอาเพลงเก่าที่คนรุ่นใหม่แทบจะไม่รู้จักหรือคนรุ่นเก่าใกล้จะลืมเลือนมาย้ำเตือนความทรงจำกันใหม่ โดยเฉพาะเพลง “อีสานบ้านเฮา” หรือ “อีสานบ้านของเฮา” ที่เปรียบเสมือนเป็นเพลงชาติของคนอีสานหรือตัวแทนแห่งภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของครูพงษ์ศักดิ์ จันทรุกขา ศิลปินแห่งชาติผู้ล่วงลับ และผู้ที่ได้รับการขนานนามว่า “มหาปราชญ์แห่งท้องทุ่งอีสาน” ด้วยการใช้สำนวนภาษาประดุจวรรณกรรมชิ้นเอกที่สามารถสื่อสะท้อนถึงความเป็นอีสานได้อย่างชัดแจ้ง และเมื่อนำมาร้องบรรเลงในสไตล์อีสานคอรัสก็ทำให้กลายเป็นเพลงร่วมสมัยอีกครั้ง “การเอาเพลงเก่ามาเรียบเรียงใหม่ ทำให้เพลงมีความแปลกใหม่ ฟังง่าย และสามารถเข้าถึงจิตใจผู้ฟังคนอีสานได้หลายวัย ทั้งเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่” อ.ดร.ณรงรัชช์กล่าว ใครร้องก็ได้ เพราะมันเป็นสไตล์เพลง หากถามถึงสมาชิกในวงอีสานคอรัสว่าเป็นใครบ้าง อาจารย์ผู้ควบคุมวงตอบสั้นๆ ว่า “ใครร้องก็ได้” ขอแค่มีคุณสมบัติของนักร้องที่ร้องเสียงไม่เพี้ยน ถูกคีย์ และร้องเพลงสำเนียงอีสานได้ก็เข้าร่วมวงเป็นอีสานคอรัสได้ทุกคน เพราะอีสานคอรัสไม่ใช่แค่ชื่อวงเท่านั้น แต่เป็นสไตล์การร้องและเรียบเรียงเสียงประสานให้มีเอกลักษณ์เฉพาะ รวมทั้งการนำเอาเพลงลูกทุ่งอีสานและหมอลำต่างๆ ของอีสานมาเป็นวัตถุดิบในการสร้างสรรค์ผลงานด้วย เมื่อแต่ละรุ่นจบไป ก็มีเด็กรุ่นใหม่มาแทน ฝึกฝนกันใหม่ เมื่อมีชื่อเสียงหรือได้รางวัลก็ยิ่งเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ๆ อยากเข้ามาร่วมวงมากขึ้น ผู้ควบคุมวงยังเล่าต่ออีกว่า อีสานคอรัสเป็นวงคอรัสที่เน้นความเป็นอีสาน หรืออาจจะเรียกว่า อีสานประยุกต์ก็ได้ เพราะจะเน้นเอาเพลงอีสานที่ได้รับความนิยมทั้งในอดีตและปัจจุบันมาเรียบเรียงเสียงประสานสำหรับวงขับร้องประสานเสียง โดยใช้เทคนิคการร้องทั้งแบบคลาสิกตามแบบสากลนิยม และแบบหมอลำอีสาน หรือสไตล์การร้องลูกทุ่งมาใช้ในการขับร้อง นอกจากนี้ยังมีการขับร้องแบบใช้เสียงมนุษย์เลียนแบบเสียงเครื่องดนตรี เช่น ทำเสียงให้เหมือนเสียงแคน ฆ้อง กลอง ฉาบ หรืออาจเป็นการผสมผสานการขับร้องแบบวงคอรัส (Choir) กับ วงอะคัพเพล่า (A Cappella) มาเรียงร้อยในการเรียบเรียงเสียงประสานด้วย หนึ่งในความภูมิใจของชาว มมส จะว่าไปแล้ว วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ของมมส ก็มีความสามารถไม่แพ้ที่ใด รวมทั้งผลงานของวงอีสานคอรัสเช่นกัน นอกจากได้รับรางวัลชนะเลิศระดับภูมิภาคและเป็นตัวแทนแข่งขันในระดับชาติรอบสุดท้าย ในรายการแข่งขันโครงการประกวดการขับร้องเพลงประสานเสียงอุดมศึกษา เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 แล้ว ยังเคยบันทึกเทปโทรทัศน์เพื่อออกอากาศในรายการทีวีจออีสาน ทางไทยพีบีเอส และได้รับเกียรติให้ขึ้นแสดงในงานครบรอบ 9 ปีครอบครัวข่าว 3 ของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ด้วย ทุกๆ รายการที่มีการแชร์คลิปการแสดงในโลกโซเชียลอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่ทำให้เพลงประสานเสียงสไตล์อีสานคอรัสได้รับความสนใจจนเป็นที่กล่าวขวัญถึงเท่านั้น แต่ยังสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ชาว มมส เป็นอย่างยิ่ง รวมไปถึงนักร้องนักดนตรีในวง และคนเบื้องหลังอย่าง อ.ดร.ณรงรัชช์ วรมิตรไมตรี ด้วย ซึ่งหากไม่ได้พวกเขามาช่วยให้กำเนิดวงอีสานคอรัส ก็อาจทำให้พวกเราลืมเพลงเก่าๆ เหล่านี้ไปแล้วก็เป็นได้ อ.ดร.ณรงรัชช์ ทิ้งท้ายไว้ว่า “ในอนาคตอาจจะมีการแต่งเพลงในแบบฉบับของ “อีสานคอรัส” ขึ้นมาใหม่ หรือนำเพลงลูกทุ่งอีสานที่ได้รับความนิยมแล้วนำมาเรียบเรียงใหม่อย่าง “ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน” เพื่อนำไปแสดงในโอกาสต่างๆ และหากมีผู้สนับสนุนทั้งภาครัฐและภาคเอกชน วงอีสานคอรัส อาจมีโอกาสได้ไปทัวร์คอนเสิร์ตตามที่ต่างๆ เพื่อเป็นการอนุรักษ์และพัฒนาวัฒนธรรมอีสานให้ยั่งยืน” เช่นเดียวกับเราที่หวังว่าคงมีคนเห็นความสำคัญและให้ความสนใจไม่เพียงการแชร์คลิปการแสดงของอีสานคอรัสเพื่อความบันเทิงเท่านั้น แต่หวังจะได้เห็นการสนับสนุนที่เป็นรูปธรรมเพื่อส่งเสริมให้เกิดความรักในวัฒนธรรมถิ่นฐานบ้านเกิด โดยใช้การขับร้องประสานเสียงมาเป็นสื่อกลางระหว่างวัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมตะวันตก เชื่อมต่อวัฒนธรรมให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ และกลายเป็นวัฒนธรรมของชาติไทยในที่สุดขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก ณรงค์รัชช์ วรมิตรไมตรี สัมภาษณ์และเรียบเรียงเมื่อปี 2560
Create Date : 09 เมษายน 2564
Last Update : 9 เมษายน 2564 15:00:08 น.
0 comments
Counter : 866 Pageviews.
Alex on the rock
Location :
มหาสารคาม Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [? ]
Blog นี้เป็นพื้นที่ส่วนตัว เป็นความเห็นส่วนตัว ผู้อ่านอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับข้อเขียนใน Blog กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยความสุภาพและเคารพสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญของเจ้าของ Blog ด้วย หากผู้อ่านที่แสดงความคิดเห็นไม่อาจจะปฏิบัติตามนี้ได้ เจ้าของ Blog สามารถลบความคิดเห็นของท่านโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ