1 2 3
4 5 6 7 8 9 10
11 12 13 14 15 16 17
18 19 20 21 22 23 24
25 26 27 28 29 30
5 เมษายน 2564
พรสวรรค์ นนทะภา ปั้นดินให้เป็นงานศิลป์ระดับชาติ
บ้านหม้อเป็นดินแดนแห่งภูมิปัญญาที่มีชื่อเสียงของมหาสารคาม ทั้งหมู่บ้านมีอาชีพปั้นหม้อกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ “พรสวรรค์ นนทะภา” สนใจศิลปะเครื่องปั้นดินเผาพื้นบ้านจากที่นี่ และขอซื้อดินเหนียวจากชาวบ้านมาเสกสรรค์ปั้นเป็นประติมากรรมชิ้นเอกที่มีชื่อว่า “ความทรงจำในวิถีชีวิตชนบทอีสาน” Memory of Northeastern Way of Life จุดเริ่มต้นแห่งงานศิลปะชิ้นที่สร้างชื่อให้พรสวรรค์ เกิดจากความชอบในงาน Handmade ของชาวบ้านหม้อ เขามองว่างานเครื่องปั้นดินเผาเป็นเครื่องชี้ให้เห็นถึงอารยธรรม ประวัติศาสตร์ของมวลมนุษย์ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ และเชื่อมโยงให้เห็นถึงการดำรงชีวิต ความเชื่อ ความศรัทธา ศาสนา ตลอดจนภูมิปัญญาของชาวบ้าน แสดงให้เห็นถึงคุณค่าของสุนทรียะทางด้านศิลปะของคนในสมัยก่อน จากความสนใจนี้เองจึงบังเกิดความคิดสร้างสรรค์ผสมผสานการทดลองโดยใช้กระบวนการจากภูมิปัญญาของชาวบ้านแบบดั้งเดิม ทำให้ประติมากรรมชิ้นเอกได้ปรากฏขึ้นหลังจากนั้น ก้อนดินเหนียวจากบ้านหม้อถูกขึ้นรูปเป็นความอ่อนช้อยเปรียบได้กับความเรียบง่ายแบบไทยๆ แต่งดงามด้วยลวดลายและพื้นผิวเล็กๆ ที่เกิดจากการใช้หินทิ่มไปทั่วชิ้นงาน เป็นการสร้างสมาธิให้คนทำงานศิลปะ และสะท้อนความขยันอดทนของคนในชนบทด้วย “ถ้าเรามองผ่านผลงานจะเห็นได้ว่า คล้ายๆ รูปทรงพืชผักผลไม้ที่มีอยู่ในชนบท เช่น ฟักทอง บวบ หรือเมล็ดพันธุ์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์แทนค่าวิถีที่พอเพียง ความเรียบง่ายในสังคมเกษตรกรรม มีพืชพันธุ์ธัญญาหารที่อุดมสมบูรณ์แบบอินทรีย์ ไม่มีสารเคมี สังคมมีอยู่มีกิน ร่างกายปลอดสารพิษ สุขภาพแข็งแรง จิตใจก็เป็นสุข เมื่อกายเป็นสุข จิตใจสุข สังคมก็เป็นสุข” เขาเล่าถึงความหมายที่ซ่อนอยู่ในงาน ซึ่งฟังดูเป็นความหมายที่ไม่ซับซ้อนและเป็นสิ่งที่ใครๆ ต่างก็ปรารถนา งานชั้นดี ย่อมมีรางวัลการันตี... “ความทรงจำในวิถีชีวิตชนบทอีสาน” ได้รับรางวัลมากกมาย อาทิ รางวัลดีเด่นศิลปกรรมดินเผาแห่งชาติ รางวัลที่ 3 ศิลปกรรมกรุงไทย รางวัลเหรียญทองคุรุศิลป์รุ่น 6 รางวัลดีเด่นศิลปกรรมปตท. ครั้งที่ 30 รางวัลยอดเยี่ยมศิลปกรรมปตท. ครั้งที่ 31 รางวัลเกียรตินิยมเหรียญเงินศิลปกรรมแห่งชาติครั้งที่ 61 และ 62 แต่รางวัลสูงสุดในชีวิตที่เขาได้รับคือ “การได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่เรารักเราชอบได้จนทุกวันนี้” ประติมากรรมชุดดังกล่าวพาเขาเดินทางไปไกลเพื่อให้คนสนใจศิลปะได้ชื่นชมทั้งในและต่างประเทศ เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา และเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม “การสร้างงานชิ้นนี้ของผมเป็นแรงบันดาลใจให้กับนิสิตนักศึกษาในการสร้างสรรค์ศิลปะต่อไป” เขาพูดถึงคุณค่าของงานที่นอกเหนือจากรางวัล “ได้เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างดินบ้านหม้อของมหาสารคามให้เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศ” ไม่ใช่แค่เป็นความภูมิใจของตัวศิลปินเองเท่านั้น แต่ยังสร้างความภูมิใจให้แก่คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม สถาบันที่เขาสังกัดอยู่ และสถาบันที่เขาจบการศึกษาปริญญาโทอย่างคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามด้วย “ในทัศนะของผมการทำงานศิลปะในเวทีประกวดเป็นสิ่งที่ดี เป็นทางเลือกหนึ่งให้กับผู้สร้างสรรค์ได้เข้าร่วมกิจกรรม ได้เผยแพร่ผลงานอีกทางหนึ่ง ส่วนรางวัลที่ได้มานั้นเป็นผลพลอยได้ แต่ขอให้เราทำงานอย่างสม่ำเสมอ กล้าที่จะทดลองสิ่งใหม่ๆ ทำด้วยใจรัก และจริงใจนั่นแหละสำคัญที่สุด” พรสวรรค์กล่าวภายใต้แววตาแห่งความมุ่งมั่น พร้อมทิ้งท้ายให้ข้อคิดสำหรับคนรุ่นใหม่ที่สนใจงานประติมากรรม “เราต้องขยันหาประสบการณ์ มีความเพียร อดทน รัก และศรัทธาในสิ่งที่เราทำ ทำในสิ่งเราชอบและเข้าใจอย่างจริงจัง” รางวัลเป็นเหมือนพรที่ได้จากสวรรค์ แต่ความขยันทำให้ พรสวรรค์ นนทะภา มีวันนี้ขอบคุณภาพจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม สัมภาษณ์และเรียบเรียงเมื่อปี 2560
Create Date : 05 เมษายน 2564
Last Update : 5 เมษายน 2564 16:53:17 น.
0 comments
Counter : 645 Pageviews.
Alex on the rock
Location :
มหาสารคาม Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [? ]
Blog นี้เป็นพื้นที่ส่วนตัว เป็นความเห็นส่วนตัว ผู้อ่านอาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับข้อเขียนใน Blog กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยความสุภาพและเคารพสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญของเจ้าของ Blog ด้วย หากผู้อ่านที่แสดงความคิดเห็นไม่อาจจะปฏิบัติตามนี้ได้ เจ้าของ Blog สามารถลบความคิดเห็นของท่านโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ