ขวัญเอ๋ย ขวัญมา..(กระทู้สินธร)


ขออัญเชิญ ส.ค.ส. พระราชทาน
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ประทานให้ปวงชนชาวไทย เมื่อปี 2541


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ท่านแนะให้

หายใจยาว..
..แล้วก็ใจดีสู้เสือ



ปีเสือยังไม่ได้เวียนมาครบรอบ
แต่วิกฤตแฮมเบอร์เก้อนี้ คล้ายคลึงกับวิกฤติต้มยำกุ้งในหลายมิติ

..เพียงแต่ ครั้งนี้ วิกฤติการณ์มันใหญ่
และไปเกิดกับประเทศจ้าวโลกอย่างไอ่กัน

มองด้านหนึ่ง ..มันใหญ่กว่า
มองอีกด้านหนึ่ง ..ศูนย์กลางไม่ได้อยู่ที่เรา

จากกระทู้สินธรนี้..

//www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I7146755/I7146755.html

ภาพข้างล่างกราฟเดือนดัชนีตลาดหุ้นไทย ตั้งแต่ 1975 หรือ 2518 ที่เราเปิดตลาด




กราฟปีและมุมมองเรื่องทฤษฎีคลื่น


ขยายมุมมองทฤษฎีคลื่น แบบลงรายระเอียดขึ้นอีกหน่อย กราฟรายเดือน





มุมมองระยะสั้นๆ
หลังจากที่เมื่อวาน เราหลุดเส้นแนวโน้มสำคัญ

เส้นแนวโน้มแบบนี้ ตามปกติ จะไม่หลุดในครั้งแรกที่ทดสอบ
แต่เมื่อวานขาดเลย..

มองสั้นๆ ก็ถือว่าน่าเป็นห่วงจริงๆ


ในปี 40
เราลงมากระแทกที่ 210 จุด
ก่อนจะเด้งแรงรอบหนึ่ง แล้วลงมาอีกที ไม่มี low ที่ 265 จุด


ในวันนั้นตลาดหุ้นไทย มีหุ้นอยู่ราวๆ 300-400 ตัว


วันนั้น ตลาดเรายังไม่มีหุ้นอย่าง ptt top pttch pttar gsteel
วันนั้น ตลาดหุ้นเราไม่มีหุ้น ขนาดใหญ่เหล่านี้
ในขณะที่วันนี้ ตลาดหุ้นไทย มีหุ้นอยู่ราวๆ 500-600 ตัว
รวมตลาด mai และ w เข้าไปด้วย



วันนี้ ถามว่า เป็นไปได้มั้ย? ถ้าตลาดหุ้นไทย จะลงไปอย่างปี 40
คำตอบคือ ในด้านของ ดัชนีหุ้น ราคาหุ้น
จิตวิทยา ความตื่นตระหนกตกใจ การถอนเงินออกไป

..ต้องตอบว่า เป็นไปได้ครับ




..แต่ถ้าเราหันมามองย้อนดู ว่าหุ้นเราวันนี้เป็นยังไง
พื้นฐานประเทศไทย กับวิกฤตรอบนี้ ดีกว่าปี 40 หลายเท่า

วันนั้นเราพังทั้งประเทศ เพราะเราไม่มีเงิน ไม่มีความเชื่อมั่นครับ

วันนี้ผลกระทบที่เราจะได้รับโดยตรง เป็นเรื่อง ของดุลการค้า ดุลการบริการ
ภาคธุรกิจที่เราจะกระทบโดยตรง คือ การค้าขายกับต่างประเทศ
ธุรกิจการท่องเทียว ที่ลูกค้าจากเมืองนอกโดยเฉพาะ ยุโรป จะลดลง (อเมริกามาเที่ยวเราไม่เยอะหรอก)


ยังไงก็ตาม การค้าขาย ที่พยุงเศรษฐกิจไทย มาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา
ถ้าจำไม่ผิดเป็นสัดส่วนต่อ GDP ประเทศไทย ในช่วง 10 ปีนี้ ราวๆ 60%

ข่าวเมื่อวาน ออกมาว่า ยอดสั่งซื้อสินค้า จากต่างประเทศลดลงแล้ว 20-30%
และจกระทบไปถึง ภาคการจ้างงาน..




เมื่อสมัย ปี 40 คนไทยรู้จักเศรษฐศาสตร์ดีมากขึ้น
เพราะมีผู้รู้ ออกมาพูดผ่านทีวี กันแทบทุกวัน

วันนั้น เราจะรู้จัก เครื่องบินที่ชื่อ ประเทศไทย
ที่มีเครื่องยนต์ อยู่ทั้งสิ้น 4 ตัว

ได้แก่..
1. การบริโภคภายในประเทศ ( C)
2. การลงทุน ทั้งของเอกชนไทย และต่างประเทศ ทั้งทางตรง และทางอ้อม (I)
3. การใช้จ่าย และการลงทุนภาครัฐ (G)
4. คือ การส่งออก หัก ด้วยการนำเข้า (X-M)

จริงๆ นี่เป็นโครงสร้าง ความมั่งคั้งของทุกประเทศในโลกนี้

แต่ละประเทศ จะเน้นเครื่องเมือไม่เท่ากัน
และในแต่ละคาบเวลา ก็จะเน้นเครื่องมือแตกต่างกันด้วย





ต้องขออภัย เพราะผมกำลังรู้สึกว่า ความเห็นผมกำลังจะไหลไปทางด้านการเมือง


ขอดึงๆ ตัวเองกลับมาหน่อย..


ตั้งแต่ยุค ปี 40 เป็นต้นมา
ตัวที่ผลักดันประเทศไทย ไปข้างหน้าได้
คือ ภาคส่งออกของเอกชน

ต้องยอมรับว่า ภาครัฐไม่ได้เข้ามาช่วยอะไรกับภาคธุรกิจนี้เท่าไหร่
เอกชนโตของเค้าเอ่ง เอกชนคือผู้ผลักดันประเทศที่แท้จริง ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

โดยได้ประโยชน์ จากเศรษฐกิจที่เติบโตของจีน
และแผ่ขยายไปทั่วโลก (ไม่นับการปั่นราคากระดาษของทุนนิยมฟุ้งเฟื้อของอเมริกา)



วันนี้เครื่องยนต์ การส่งออกคงจะสะดุดลงบ้างครับ

ถ้าหักเอา 30% ที่ลดลงของภาคส่งออก
มาหักกับ gdp อีกที , ผลกระทบจากภาคนี้ ต่อ GDP น่าจะราวๆ 20%


ในขณะที่เครื่องยนต์อื่นๆ
การบริโภค การใช้จ่ายภาครัฐ และการลงทุนเอกชน
คงจะต้องโดนแช่แข็ง ไปอีกสักพัก จนกว่า การเมืองเราจะกลับมาแข็งแรง


ซึ่งเมื่อ การเมือง มีจุดสิ้นสุด และเริ่มต้นใหม่ได้
เครื่องมทือ ที่จะถูกใช้ในรอบธุรกิจหน้า คือ G การใช้จ่ายภาครัฐ
ซึ่งมันจะช่วยกระตุ้น การบริโภค (C) และจะเชื่อมโยงไปสู่ การลงทุนเพิ่ม คือ (I) อีกที





จริงๆ ผมอยากจะคุยเรื่องหุ้นอ่ะนะ แต่เขียนๆ ไป แล้วมันกลับเลี้ยวมาเอง..


วันนี้หุ้นไทยอยู่ที่ 390 จุด
ใช้เวลา 4 เดือน ลงจาก 800 จุด มา 50%

หุ้นหลายตัว ที่มีพื้นฐานดีพอประมาณ
ลดลงมา ติด ลบถึง 70-80% จากเมื่อ 4 เดือนก่อน


หุ้นจำนวนมาก เมื่อมอง กำไรในไตรมาสก่อนๆ
วันนี้ คิด p/e เหลือแค่ 4-5 เท่า

หุ้นอีกหลายตัว ทั้งๆ ที่เป็นหุ้นชั้นนำ
ราคาหุ้น ต่อมูลค่าสินทรัพย์ หรือ BV เหลือแค่ 1 เท่า (เช่น ptt)


เมื่อวานผมไปกดดูหุ้นบางตัวเล่นๆ
เฮ้ย!! BV มันเหลือแค่ 0.1-0.2 ของมูลค่าทรัพย์สินนะโว๊ย

คือต่อให้บริษัทมันเจ๊งวันนี้ ล้มละลาย
ขายสินทรพัย์หมด เอามาคือผู้ถือหุ้น วันนี้ ยังได้กำไร ตั้ง 300-400% แน่ะ


แล้วประเทศไทย มันจะเจ๊งวันนี้ หล่ะหรือ?




ราคาหุ้นลงวันนี้ เป็นผลจากการถอนเงินออกจากตลาดหุ้นของฝรั่ง

ผสมกับการแพนนิคของคนไทย ตามตลาดหุ้นเมืองนอก

รวมกับพวกรายใหญ่ และรายย่อย จำนวนหนึ่ง ที่เล่น dsm



ไม่ได้โทษว่าใครผิด เพราะตลาดหุ้น ทุกคนต้องช่วยเหลือตัวเอง
ทุกคนต้องดูแลเงินตัวเอง ..เราไม่ทำ เค้าก็ทำ



แต่ถึงวันนี้ ถึงจุดนนี้
เราตระหนกตกใจพอหรือยัง??


ต้องให้ตลาดหุ้นกลับลงไปที่ 265 -210 ใหม่มั้ย??

ต้องให้ ptt ลงไปที่ 45 บาทเลยหรือเปล่า??


ตลาดยิ่งถูกทุบอ่อนไปเท่าไหร่
เมื่อฝรั่งซื้อคืน ก็ซื้อถูกเท่านั้น

จริงๆ แถวๆ ตลาด 600-700 กว่าจุด ก็ไม่เห็นเหตุผลที่จะต้องไปตั้งรับ
แต่ทำไมพอตลาดลงมาเหลือ 400 จุด ถึงคิดจะขายคืนที่ซื้อมาเมื่อ 600-700 จุด


คือผมกำลังมองว่า กองทุน สุดท้ายก็แพ้ฝรั่งจนได้
(อุตสาห์ช่วยลุ้นมาตั้งหลายปีว่าเก่งขึ้น)


แล้วรายใหญ่ที่ dsm
ก็ไม่ใช่ว่า จะรับหุ้นคืนได้ เท่าที่ขายไป
เพราะลงมาต่ำๆ บางครั้ง ขายแล้วก็ซื้อคืนน้อยกว่าเดิม
..ไม่ใช่ว่า จะได้กำไรถูกต้องตามทฤษฎี


ยิ่งทุบก็ยิ่งเสียหาย ทั้ง รายใหญ่รายเล็ก



หุ้นที่เน่าๆ ก็ปล่อยไปเหอะ..

แต่หุ้นที่พื้นฐานการทำกำไร ยังดีอยู่
หุ้นที่ราคาต่ำกว่า สินทรัพย์

หุ้นพวกนี้ต้องช่วยๆ กันพยุงไว้ครับ

เพื่อให้ตลาดหุ้นมันมีเหตุมีผล..



เพราะถ้าเราช่วยกันรักษาหุ้นพื้นฐานดีๆ ไว้
ให้เป็นที่ประจักษ์ว่า หุ้นชั้นดี ยังไง ของดีก็เป็นของดีวันยันค่ำ

สร้างให้ตลาดมันมีเหตุมีผล


แล้วต่อไป ตลาดหุ้นประเทศไทยจะไม่ผันผวัน และอ่อนแอมากขนาดนี้


วันนี้เราลงมามากแล้วครับ มันชักเพี้ยนไปจากข้อเท็จจริงมากเกินไปแล้ว

ฝรั่งทุบหุ้นไทยได้ง่ายๆ เพราะตลาดเรามันไม่มีเหตุผล



แต่ถ้าเราค่อยๆ สร้าง ให้ตลาดหุ้นไทย เป็นตลาดที่มีเหตุมีผลได้

ความผันผวน จากคนกินเนื้อคนก็จะน้อยลง
แล้วตลาดหุ้นไทย ก็จะเป็น "ตลาดทุน" ขึ้นมาได้จริงๆ


กระแสเงินโลกมันไหลไปทั่วครับ
แต่ถ้าผู้เล่นในตลาดไม่มีจิตอ่อนแอ ไหลไปกับเค้าง่ายๆ
..เราก็จะเข้มแข็ง ขึ้นมายืนได้ในที่สุด




วิกฤติปี 40 เรานำมาก่อนคนอื่นเค้าตั้ง 10 ปี
เราเรียนรู้อะไรมาพอสมควรแล้วครับ

ตลาดหุ้นมันจำเป็นต้องเสรีครับ
แต่อย่าให้กระแสทุบราคาอย่างไม่มีเหตุผลชนะไปทุกเวที

เว้นเวทีให้กับหุ้นดีๆ มีที่ยืนนะครับ
ให้ที่สำหรับหุ้นดีๆ คนดีๆ ยืนได้ แล้วขยายวงไป




หายใจยาว
ใจดีสู้เสือ


ตามพระดำรัส ของพระเจ้าอยู่หัวนะครับ






ขอบคุณที่ฟังผมบ่น
แบ่ร แบ่ร..



*****************




Create Date : 28 ตุลาคม 2551
Last Update : 28 ตุลาคม 2551 21:56:22 น. 2 comments
Counter : 655 Pageviews.

 
ขอบคุณทุกๆ ท่านที่เข้ามาทักทายกันนะครับ


เอาลิงค์มาฝาก
ต้องยอมรับว่าของที่นี่เค้าทำลิงค์ไว้ได้ดีมากๆ เลยครับ
//www.doohoon.com/doohoon/
ผมใช้เป็นที่ดูข้อมูลเจาะรายตัวหุ้นบ่อยๆ


ยังไงก็ตาม เรื่องอัตราส่วนต่างๆ
อย่าง pe bv ผมว่ามันเป็นเครื่องมือที่ดีในระดับหนึ่งก็จริง
..ทว่า มันเป็นเครื่องมือ ที่มองย้อนไปในอดีต

ที่สำคัญไปกว่า ตัวเลขอัตราส่วนต่างๆ
คือก็คือ ภาพรวมธุรกิจนั้นๆ เอง ซึ่งถือว่าเป็นการคาดเดาอนาคต ของกิจการนั้นๆ

ptt วันนี้ p/e 3.7 เท่า
bv 1 เท่า

..ตัวเลขนี้ ตามปกติถือว่าต่ำมากๆ แล้ว โดยเฉพาะยิ่ง หุ้นชั้นดีออย่างนี้
(ลองประเมืนกำไรลดลงสัก 50% pe ก็คือ 6-7 เท่าก็ยังถือว่าไม่สูงสำหรับหุ้นชั้นดี
แล้ว bv เนี่ย มันก็ไม่ใช่ว่าจะลดหายไป)


ไปดูหุ้นที่ลงมาตัวอื่นๆ
ผมไม่อยากจะชี้นำเพราะว่า มันไม่ดี(กลัวชี้นำผิด เราก็ลำบากใจ)

เราสามารถคัดหุ้น โดยดูตัวเลขทางบัญชีง่ายๆ พวกนี้
เลือกขึ้นมาแล้วประเมินอนาคต ..ถ้าดีก็ค่อยหาจังหวะลงทุน

หรือเราจะเลือกหุ้น โดยประเมินกระแสธุรกิจก่อน
แล้วค่อยมาตรวจสอบตัวเลขทางบัญชีเหล่านี้ก็ได้(ผมมักทำอย่างนี้)


คณๆ ลองนึกในใจถึงหุ้นที่คุณชอบสัก 2-3 ตัว
(หุ้นที่ไม่ใช่หุ้นปั่นชั้นเลวนะครับ)
..2-3 ตัว ที่คุณคิดว่าน่าจะดี แล้วตรวจสอบตัวเลขต่างๆ นี้ดูอีกที

วันนี้ ผมบอกได้เลยว่าเหวี่ยงแห ลงไปดูตัวเลข pe bv แล้ว
นึกเล่นๆ หุ้น 10 ตัว , ผมว่า ผมเจอ ถึง 7 ตัว ที่ตัวเลขย้อนหลัง
เทียบราคาปัจจุบันนี้ ถือว่าต่ำมาก

..เพียงแต่เราต้องประเมินต่อ ถึงอนาคตตัวนั้นๆ ประกอบด้วย


จากเจ็ดตัวนั้น ผมว่า ผมน่าจะคัดหุ้นได้สัก 2-3 ตัว
ที่มองอดีตก็ดี มองอนาคตก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก


วันนี้หุ้นในตลาด 20-30%
ต่อให้ราคาขึ้นมาสัก 1-2 ซิลลิ่ง ผมว่า ยังไม่ถือว่าแพงเลยครับ



เพียงแต่สภาพตลาด สภาพตัวหุ้น ต้องประเมินกันเอง
(เราไม่ใช่เจ้ามือ เราคุมอะไรไม่ได้)


ถ้าหุ้นในตลาดสัก 1 ใน 3 เป็นหุ้นเน่า เราก็ไม่ควรแตะ
(จะลงก็ปล่อยลงไป)

อีกไม่ถึง หรือสมมติว่า อีก 1 ใน 3 เป็นหุ้นที่เกี่ยวพันกับกระแสเงินฝรั่งโดยตรง
(แบบนี้ ยังจำเป็นที่จะต้องเล่น ตามกระแสไปบ้าง - แต่ไม่ควรช่วยฝรั่งทุบหุ้น)

อีก 1 ใน 3 ผมว่า ในตลาดหุ้นไทย วันนี้ มีหุ้นที่ดีอยู่
และถือว่าราคาต่ำมากแลว เมื่อเทียบความสามารถทางธุรกิจในปัจจุบัน และอนาคต

เอามาเทียบกับราคาหุ้นปัจจุบัน..


ไปกดดูกันเล่นๆ ว่าหุ้นตัวเอง
วันนี้ pe เท่าไหร่ , bvเท่าไหร่..
ถ้าเราเห้นว่า หุ้นเราดีจริง ราคาต่ำมากๆ แล้ว
..ราคาหุ้นวันนี้ ถูกเกินไป ก็ช่วยกันเม้มหุ้นไว้หน่อย
น่าจจะใจเย็นๆ กันได้บ้างแล้ว กับราคาปัจจุบันครับ

ขอที่ให้หุ้นดีๆ มีที่ยืนบ้าง แล้วตลาดไทยจะแข็งแกร่งขึ้นครับ



ลองไปดูข้อมูลหุ้นตัวเองดูนะครับ
//www.doohoon.com/doohoon/

ขอบคุณดูหุ้น.คอมด้วย
ที่ช่วยรวบรวมข้อมูลต่างๆ ทำลิงค์มา ช่วยให้ดูง่ายขึ้น



โดย: บุญทับ วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:21:56:47 น.  

 

ช่วงนี้กระทู้ที่พันทิพไหลลงเร็วมาก

โพสเช้าบ่ายก็ตกขอบไปแล้ว
กระทู้ล่าสุดที่ตั้งวันนี้

//www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I7153935/I7153935.html


คอมเหม็นล่าสุด..

m_ms IP ADDRESS : 124.121.160.64 , ,

« Reply #11 เมื่อ 30/10/2008 , 12:10:05 » Edit




ตอนนี้ประเทศใหญ่
อย่างฮั่งเส็ง นิเคอิ ขึ้นไปยืนระดับ +20% จากจุดต่ำสุดแล้ว


ของเอเชียอ่อนสุดก็แถวๆ บ้านเรา นับวันนี้เป็นเกณฑ์ได้เลย
(เพราะเมื่อวานลงไป ที่low ก่อนหน้า)

ประเทศที่อ่อนๆ ก็ บวกอย่างน้อยก็ 5% จากจุดต่ำ
แต่เท่าที่ดูคร่าวๆ น่าจะระดับ 10+-2% แล้ว ที่เค้าขึ้นกัน

บ้านเรายังไม่แรงเพราะ การเมืองกดดันอยู่


ถ้าผมเป็นคนทำตลาด
แล้วถ้าพรุ่งนี้ ต่างประเทศไม่ได้ลงฮวบฮาบ คือตลาดใหญ่ๆ ยังรักษาฐาน +15-20% จากจุดต่ำได้

ถ้าผมเป็นคนทำตลาด จะทำปิดตลาดพรุ่งนี้แถวๆ +8-10% จากจุดต่ำ
แล้วค่อยดูวันหยุด เรื่องการเมืองอีกที

ถ้าการเมืองออกมาไม่ดี ก็ต้องยอมให้อ่อนอีกรอบ
แต่ถ้าการเมืองออกมา ไม่มีอะไรร้ายแรง สัปดาห์หน้า ค่อยดันต่อไปเทียบเคียงประเทศอื่นๆ
(คือถ้าเป็นประเทศเล็กก็น่าจะระดับ 10-15% แล้ว , ส่วนประเทศใหญ่ก็คงจะเป็น 15-25%)



อันนี้เดาๆ มั่วๆ นะครับ

ของบ้านเราเดี๋ยวเอากราฟมาลงอีกที



คอมเหม็นอยู่ในภาพครับ

ระยะสั้นๆ ไม่จำเป็นต้องขึ้นแรง เพราะการเมืองยังกดดันอยู่
ขอแค่ไม่มีแรงทุบลงมาแรงๆ ยืนๆ แก่วงๆ ตัวไปก่อนก็ได้

เน้นที่เส้น 50 ชั่วโมง
ถ้ายืนได้ มุมมองระยะกลางจะเริ่มมา
..ถ้ายืนไม่ได้ ที่เส้น 50 ชั่วโมงจะเป็นจุดขายระยะสั้น แบตีหัวเข้าบ้าน


**************

เส้น 10 วัน
เส้น 25 วัน
สอดคล้อง ใกล้เครียงกับเส้น 50 และ 200 ชั่วโมง


ในภาวะแบบนี้ ดูคลื่นยาก และผิดพลาดง่าย
เอาปลอดภัยไว้ก่อน เน้นดูเส้นค่าเฉลี่ย







โดย: บุญทับ วันที่: 30 ตุลาคม 2551 เวลา:16:10:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

บุญทับ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




กฎของเราก็คือ
เรามีความสุขสนุกสนาน
ได้มากเท่าที่เราต้องการ
แต่ต้องไม่ทำร้ายจิตใจใคร
..แม้แต่คนเดียว


จากหนังสือ ฟ้ากว้าง..ทางไกล



มวลเมฆ คือเนินเขาทำด้วยไอน้ำ เนินเขา คือมวลเมฆสร้างด้วยศิลา..(รพินทรฯ)
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
28 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add บุญทับ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.