เราจะรู้ได้ยังไง ว่าคลื่นจบรอบนั้นๆ แล้ว และพร้อมจะเริ่มรอบใหม่แล้ว?


เปิดบล็อกวันนี้ ..
เอาเรื่องคลื่นที่คุยตอบคุณทองดีไว้เมื่อวันก่อน มาลงทำเป็นบล็อก

(เพราะอยากจะบันทึกเรื่องนี้ไว้ด้วยในหัวบล็อก-เพื่อง่ายแก่การค้นหาในโอกาสหน้า)





---------------------------------------------------------------------------





ตอบคุณทองดีนะครับ..

“
เราจะรู้อย่างไรว่าคลื่นC จบแล้ว พร้อมเริ่มขา3ลงเต็มตัวครับ”

วิธีตรวจสอบคลื่นมีหลาวิธีครับ แล้วแต่วิธีใช้แต่ละคนไม่เหมือนกัน
และไม่ว่าเก่งยังไง เชื่อว่าคนที่นิยมโต้คลื่นก็มักจะใช้การตรวจสอบย้อนไปย้อนมาในหลายทิศทาง
..ถึงกระนั้นก็ตาม การกำหนดคลื่นล็อกไว้ตายตัว แน่นอน 100% ก็ยังคงเป้นสิ่งที่ทำไม่ได้อยู่ดีครับ

“คลื่นจะกำหนดชัดเจนได้ ก็ต่อเมื่อมันผ่านพ้นไปแล้วครับ..”
แต่สำหรับคนที่ยังศึกษาเรื่องคลื่นมาไม่มากพอ เมื่อเค้าใช้ตรรกะพบข้อสรุปได้ประมาณนี้
ก็อาจจะทำให้เค้าล้มเลิก ยกเลิกการพยายามฝึกใช้เครื่องมือนี้.. (ซึ่งน่าเสียดายมาก)


สิ่งที่ทฤษฎีคลื่นบอกกับเรา คือ..
“ความน่าจะเป็นที่มีเป้าหมาย” ..ซึ่งความสามารถ กำหนดเป้าหมายคราวๆ ของเค้านี่แหละ
ที่เป็นคุณประโยชน์ที่สำคัญของตัวทฤษฎีนี้..


การใช้ทฤษฎีคลื่นให้เกิดประโยชน์..
เราต้องใช้มันในแง่ของ “ความเป็นไปได้ ที่มีข้อกำหนด”
แม้ความเป็นไปได้จะมีอยู่ทุกทิศทาง (ขึ้น-ลง-แก่วงตัว) ทว่าแต่ละทิศทาง หากมันเกิดขึ้น
มันจะเกิดขึ้นในรูปแบบ และเป้าหมายที่แตกต่างกันออกไป (รู้สึกว่าอธิบายยากจัง)


เอาเป็นว่า วิธีใช้คลื่น ไม่ให้ติดกับดักของคลื่น
คือ ในระหว่างที่คลื่นกำลังฟอร์มตัวอยู่ เราห้ามชี้ขาด หรือยึดกำหนดคลื่นตายตัว
แต่เราความมองทางเลือกไว้ ตามความน่าจะเป็นที่เราเห็น
ใช้มันเป็นแผนที่ในการติดตามตลาด และตั้งข้อสังเกตุ เพื่อวางกลยุทธ์ที่เหมาะสม (ปรับพอร์ตตาม)




เล่ามาทั้งหมดนี้ ยังไม่ได้ตอบคำถามเลย 555
เข้าสู่คำถามดีกว่า..
“
เราจะรู้อย่างไรว่าคลื่นC จบแล้ว พร้อมเริ่มขา3ลงเต็มตัวครับ”

วิธีตรวจสอบ อย่างที่ว่า มีอยู่หลายวิธี อาทิ..

1. ตรวจสอบตัวคลื่นย่อย ของ C นั้นเอง ว่า สำเร็จสมบูรณ์แล้ว
(กรณีคลื่นCนั้น ตามทฤษฎี เราจะรู้ว่าต้องประกอบด้วย 5 คลื่นย่อยเสมอ)

2. ตรวจสอบด้วยการเช็คควบคู่กับคลื่น A-B-C
ซึงโดยปกติแล้ว คลื่น C ไม่ควรสั้นกว่าคลื่น A , หรือเลวสุดก็คลื่นB
แต่ตามปกติแล้ว คลื่นC ควรจะได้ 100% , 138% หรือ 162% ของคลื่นA

3. ตรวจสอบด้วยการเช็คกับคลื่นหลักก่อนหน้านั้น..
ในกรณีคราวนี้ สมมติผมกำหนดให้ คลื่น A-B-C=2 (ซึ่งอาจจะถูกหรือผิดก็ได้)
เราก็ต้องไปเช็คว่า การทำคลื่น C จบ 2 นี้เข้าเงื่อนไขมั้ย?
ซึ่งโดยปกติแล้ว คลื่น2 นั้น ไม่ควรน้อยกว่า 38% (บางสำนัก กำหนดไว้ เพียงแค่ 23%)
และมักไม่เกินกว่า 61% ของคลื่น 1
(**สำหรับผม ไม่ค่อยยึดติดกฎข้อนี้ เพราะจากประสบการณ์
เห็นว่า คลื่น 2 กำหนดได้ยาก บางสั้น บางยาว ไม่แน่นอนสม่ำเสมอ**)

4. ยืนยันการเข้าสู่คลื่น3 , เมื่อตลาดทำ new low ต่ำกว่าคลื่น 1
อันนี้ตามตัวทฤษฎี มักจะพูดถึงกฎข้อนี้ไว้ , ซึ่งมันย่อมเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว!!
เพราะเมื่อราคาลงมาต่ำกว่า คลื่น 1 (หลังจากรีบาวน์ 2 แล้ว) มันก็ย่อมจะต้องนับ 3 นั่นเอง

ดังนั้น การรอการยืนยันจากตัวนี้ จึงมักจะ “ช้า” เกินไปหน่อย..

แต่ถ้าจะบอกว่า ช้าเกินไปมากมั้ย?? ก็คงไม่ถึงขนาดนั้น ซ่ะทีเดียว..

เพราะสำหรับ คนที่นิยมอ่านคลื่นเมื่อมีความชัดเจนสูงแล้ว
เมื่อเค้าเห็นว่า คลื่นเข้าสู่คลื่น 3 หลักแล้ว (ให้แน่ใจนะว่า ไม่ใช้คลื่น 5 ย่อยของ1)
เค้าสามารถเล่นfollow ตามได้ , เนื่องจาก ว่า “คลื่น 3 จะเป็นคลื่นที่ยาวที่สุด”
..ดังนั้น เมื่อเรามองว่านั่นเป็นคลื่น 3 และเมื่อตลาดลงหลุดคลื่น 1
เป็นการยืนยัน การเข้าสู่คลื่น 3 เต็มตัวแล้ว ยิ่งมี new low เราต้องยิ่งเล่นทางลง
...ในทางกลับกัน ในขาขึ้น เมื่อมีnew high ยิ่งต้องเล่นทางขึ้น ,
(จากกฎของคลื่น 3 นี้ เป็นที่มาของประโยคทองที่ว่า
“ตลาดยิ่งขึ้น ยิ่งต้องซื้อ - ตลาดยิ่งลง ยิ่งต้องขาย” ประโยคนี้ มาจากกฎคลื่น 3 ข้อนี้ นี่เอง)




ดังนั้น จากคำถามที่ว่า..
“
เราจะรู้อย่างไรว่าคลื่นC จบแล้ว พร้อมเริ่มขา3ลงเต็มตัวครับ”

คำตอบจะอยู่ที่ข้อ 4. นี้เป็นหลักครับ , ..เพราะมันแสดงถึงการเข้าสู่ ขา3 เต็มตัวนั้นเอง..

แต่ถ้าถามว่า จะรู้ได้ยังไงว่ากำลังจะจบคลื่น C แล้ว? ..ต้องไปดูที่ ข้อ 1-3 ครับ
บางคนอาจจะนิยมเน้นบางข้อ , แต่ถ้าเราเข้าใจแล้ว เราจะมีวิธีสอบทานตัวเอง
หรือตรวจสอบตัวคลื่นได้หลากหลายวิธี เราก็รีเช็คมันย้อนไปย้อนมาดู
(ผมเองก็มักจะตรวจสอบทั้ง 3 ข้อ เพื่อเพิ่มน้ำหนัก”ความน่าจะเป็น” ในมุมมอง )




*** ย้ำเน้นอีกที..
เรื่องคลื่นนั่น เป็นการทำนายอนาคตอย่างคราวๆ , ซึ่งไม่มีใครทำนายอนาคตได้ถูกต้องแน่นอน
..แต่ข้อดีของคลื่นคือ มันทำให้เราเห็นทางเลือกที่ตลาดน่าจะไป
และความน่าจะเป็นในแต่ละทางเลือก รวมไปถึงเป้าหมาย ในแต่ละทางเลือกคราวๆ

การใช้คลื่นเราจึงจำเป็นต้องเตือนตัวเองว่า เราอ่านอนาคตไม่ได้
เราทำได้แต่เพียงการมองโอกาส และความน่าจะเป็นที่มันน่าจะเกิด
แล้วใช้มันในการติดตามตลาด ปรับกลยุทธ ปรับพอร์ต ให้สอดคล้องกับความน่าจะเป็นนั้นๆ

พยายาม อย่าหลงไปฟันธง หรือกำหนดคลื่นตายตัว เมื่อทางเลือกที่จะไป มันยังเป็นไปได้อยู่หลายทาง
เพราะเรื่องคลื่น มันส่งเสริมให้เรายึดติดกับมุมมองที่เราเห็น มักจะทำให้เรามั่นใจเกินกว่าเหตุ

ถ้าเรามองคลื่นอย่างไม่รอบด้าน ไปยึดติดมากๆ กับทางใดทางหนึ่ง
ผิดพลาดมาจะเสียหายหนักมาก เพราะกว่าจะรู้ตัวว่าเราผิด มักจะถล่ำลึกไปแล้ว
อันนี้พูดจากประสบการณ์ตรงเลยนะ พลาดกับเรื่องคลื่นนี่คุณเอย เข็ดขยาดกันเลยเชียว***





โชคดีครับ..




--------------------------------------------------------------------------



คอมเม้นท์ล่าสุดครับ
ส่วนคอมเมน้ท์ก่อนหน้านั้น หาอ่านได้ที่บล็อกก่อนหน้า



23 กพ. 53
แคะท้ายตลาด



ภาพโดยรวม ยังถือว่า ลุ้นต่อได้นะครับ จะลุ้นยาวๆ ไปหาเส้นแดงก็ยังได้เลย
แต่ผมเอง ของมองแบบกลางๆ ดีกว่า

ขอให้ผ่านสถานการณการเมือง ไปก่อน
ตลาดเรา ตลาดชาวโลกจะเป็นยังไง ถึงตอนนั้น ค่อยตัดสินใจวางกลยุทธ์เล่นในขั้นต่อไป


พรุ่งนี้วันพุธด้วย
ดูหนังราคาถูก ถ้าตลาดดูมันชวนให้สับสน ชวนรให้เราเสียวินัย อาจจะหนีไปดูหนังสัก 2 เรื่องก็ได้ 555



วันนี้ไปก่อนนะครับผม สวัสดีครับ




-----------------------------------------------



25 กพ. 53
1035











Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2553 10:43:46 น. 10 comments
Counter : 743 Pageviews.

 
เด่วรอวิแคะสรุปผลตอนเย็นวันนี้ครับ


โดย: ทองดี IP: 122.154.25.100 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:13:12:40 น.  

 

ถ้าตลาดปิด +- เล็กน้อยจากตอนนี้
ผมคงไม่มีอะไรแคะเพิ่มอ่ะครับ


และเท่าที่ประเมินดูแล้ว พรุ่งนี้ก็อาจจะไม่มีอะไรด้วยก็ได้

เชื่อว่า พรุ่งนี้ตลาดคงจะผันผวนนะครับ

ถ้าศาลตัดสินออกมาในทางดี หรือทางเสมอตัว
จนกว่าสัปดาห์หน้า ก็ต้องไปตามดูตลาดต่างประเทศอีก

ถ้าศาลตัดสินมาทางร้าย
หรือภาพรวมต่างประเทศออกมาทางร้าย
..เงื่อนไขทุกอย่างก็คงเหมือนเดิม


ยกเว้นศาลตัดสินมาทางบวก
และภาพรวมตลาดประเทศก็เป็นบวก

กรณีนี้ถ้ากราฟวิ่งขึ้น อาจจะต้องปรับมุมมองตาม
(มองความเป็นไปได้ไว้บ้างแล้ว แต่ยังไม่ขอเอาความเห็นมาลง เนื่องจากขี้เกียจอธิบาย
เพราะน้ำหนักทางที่ดี ตอนนี้ ผมให้ไว้ค่อนข้างน้อยครับ)



น้ำหนักหลักๆ ยังคงเป็น
ลง-ซึม-ซึมลง ..เป็นหลักครับ

ทางขึ้นมองน้อย จนกว่าจะมีเงื่อนไขทางบวก สองสามแรงหนุนนั่นแหละ



โดย: หนมเม็ด IP: 203.144.144.165 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:47:40 น.  

 
ขอบคุณครับ สำหรับผม ถ้าดูจากปัจจัยการซื้อขายอย่างเดียวนั้น(ไม่ได้เอาเทคนิเคิลมาประกอบ) ตอนนี้ผมเริ่มให้น้ำหนักทางขึ้นมากเรื่อยๆครับ ดูท่าทีต่างชาติเอาจริงจังกับการซื้ออย่างต่อเนื่องรวมทั้งปริมาณ ต่างชาติคงไม่ยอมป่อยตัวเองติดบนดอยเป็นแน่ น่าจะซื้อไปเรื่อยๆจนกว่ารายย่อยจะเริ่มมาผสมโรง


โดย: ทองดี IP: 203.144.144.164 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:32:55 น.  

 
ขอบคุณมากครับ เข้าใจมากขึ้นเลยครับ


โดย: seng IP: 203.144.144.165 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:14:23 น.  

 

สำหรับผม การที่ต่างชาติ กลับมาแสดงยอดสุทธิ สัปดาห์ที่ผ่านมานั้น
ยังนับว่าน้อยเกินไปครับ ยังไม่ใช่เครื่องชี้วัดที่น่าเชื่อถือเพียงพอ

และการที่เค้าซื้อ แล้วโชว์ยอดว่าซื้อหนักๆ ด้วย ยิ่งน่าระแวง

เพราะส่วนใหย่ การที่ต่างชาติซื้อเพื่อขึ้นรอบใหม่
มักจะเป็นการซื้อสะสม ไม่ค่อยกระโตกกระตาก และซื้อยาวนานเป็นเดือนๆ

การซื้อสัปดาห์ที่ผานมานี้ ผมจึงยังมองอย่างตั้งข้อสงสัยเอาไว้ก่อน


อีกอย่าง ตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้ว ผมพูดถึงกว้างๆ ว่า
นอกจากประเด็นการเมืองแล้ว ยังต้องติดตามตลาดเพื่อนบ้าน และชาวโลกอื่นๆ ด้วย

ตรงนี้ฝากข้อสังเกตุ ไว้หน่อย ว่าตลาดเพื่อบ้าน และชาวโลกหลายๆ ตลาด
รีบาวน์ขึ้นมา แล้วก็นิ่งๆ แก่วงออกด้สนข้างพักใหญ่แล้ว
หากต่างชาติ มีการทิ้งดิ่งลงเมื่อไหร , รูปแบบก็มีโอกาสสูงมาก ที่จะเป็นคลื่น 2-3

ซึ่งประเทศไทยเราเองก็ไม่ค่อยต่างกันครับในเรื่องรูปแบบ



เพราะฉะนั้น จึงต้องค่อยๆ ประเมินอีกที
ใช้เงินซื้อ 1 สัปดาห์

ดันตลาดมาช่วงนี้ หากรับข่าวดีการเมือง
ใครจะรู้ จบข่าว ต่างชาติอาจจะทะยอยขายต่อเนื่องเป็นเดือนๆ
ขณะที่คนไทย ยังไปคิดว่าการเมืองจบแล้วๆ อยู่


อารมณ์การติดตามยอดซื้อ-ขายต่างชาติ
ต้องเตือนตัวเองด้วยว่า ในส่วนหนึ่ง เป็นยอดที่สร้างกันได้ครับ ไม่ยากอะไร

ถ้าระยะเวลาสั้นๆ ไม่ควรหลงไปกับยอดนั้นมากนัก
แต่ถ้าต่อเนื่องนานๆ แบบนี้ จึงค่อยๆ ตามแนวดน้มการซื้อ/ขายสะสมนั้นไปได้ครับ



ขอน่าสังเกตุ คือ เวลายอดมันโชว์มาว่า ต่างชาติซื้อหนักๆ (แต่ระยะเวลาสั้นๆ)
คนมักจะจำได้ติดหู ติดตา กว่าการขายเรื่อยๆ แต่กินเวลานาน



เรื่องดูยอด ผมเองก็ยังไม่สรุปนะ
ก็รอติดตามไป ..

ถ้าในจบดี นอกไปต่อดี ก็อาจจะปรับมุมมองมาหาทางดีได้ใหม่เหมือนกันครับ


ถ้าไม่ใช่ 2 แรงบวกนี้ ยังต้องระมัดระวังต่อครับ
ภาพกราฟ ยังให้น้ำหนักอยุ่ในขาลงในระดับ week
ดังนั้นอย่างประมาทกับภาพระยะสั้นครับ


:D:D


โดย: หนมเม็ด IP: 203.144.144.164 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:12:31:28 น.  

 
ขอบคุณครับ


โดย: ทองดี IP: 122.154.25.100 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:13:36:38 น.  

 
ถามเพิ่มครับ..

จำเป็นด้วยเปล่าครับว่า ตลาดต่างชาติได้รับผลกระทบต่างๆ เช่น ยุโรป เอเชียบางประเทศ แล้วประเทศเราจะต้องสอดคล้องกับประเทศเหล่านี้ ในเมื่อค่าวัดทางเศรฐกิจในบ้านเรา ตัวเลขดีขึ้นตามลำดับ มีโอกาศตลาดเราจะโดดเด่นขึ้นสวนทางกับประเทศเหล่าานี้ได้หรือไม่ครับ แบบเงินไหลเข้าสู่ประเทศที่สัญญาฟื้นตัวกว่า เป็นต้นครับ


โดย: ทองดี IP: 122.154.25.100 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:13:44:53 น.  

 

ไม่จำเป็นครับ ..

ถ้าติดตาม ตลาดเรา กับต่างประเทศ
ทั้งอเมริกา ยุโรป แอละเอเชีย มาต่อเนื่องหลายๆ ปี


จะเห็นว่า แต่ละช่วงเวลา เค้าจะมี "แพ็ค" กลุ่มไปด้วยกันครับ


ส่วนใหญ่บ้านเราจะแพ็กอยู่กับเอเชียเป็นหลักนี่แหละครับ
น้อยมาก ที่เราจะเป้นตัวของตัวเองแบบไม่อิงใครเลย

แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องอิงตามชาวโลกไปซ่ะทั้งหมด



เพียงแต่ช่วงนี้ จากการติดตาม
รวมไปถึงรูปแบบกราฟโดยรวม

ผมยังมองเห้นว่า บ้านเรายังอิงตามชาวโลกอยู่ในอัตราสูงครับ


คำตอบคือ ไม่จำเป็นที่เราต้องไปอิงคนอื่น
แต่จากการติดตามมานาน พบว่า หุ้นบ้านเราช่วงนี้ ยังคงอิงกับชาวโลกอยู่ครับ


บางทีบางช่วง เงินทุนที่ไหลเข้าจะเป็นกลุ่มประเทศนะครับ
อันนี้ต้องสังเกตุเอาแต่ละช่วงเวลาครับ





โดย: หนมเม็ด IP: 203.144.144.164 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:15:07:34 น.  

 

ฝากนิดหนึ่ง

มุมมองผม ไม่ใช่ว่จะถูกกว่า หรือเจ๋งกว่าเสมอนะครับ
มุมมองผม ก็ผิดได้ครับ


บางทีก็นั่งเทียน บางทีก็หยดเทียนเอา 555




แต่เวลาเม้นท์อะไรไป ก็เม้นท์ตามที่เห็น ที่คิดจริงๆ ครับ

ส่วนถูกผิด จะเป็นอีกเรื่อง อาจถูก หรืออาจจะผิด ก็ได้ครับ


โดย: หนมเม็ด IP: 203.144.144.164 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:15:15:02 น.  

 
มุมมองทางบวกเพิ่มมากขึ้นยังครับ..


โดย: ทองดี IP: 175.176.220.1 วันที่: 2 มีนาคม 2553 เวลา:18:25:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

บุญทับ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




กฎของเราก็คือ
เรามีความสุขสนุกสนาน
ได้มากเท่าที่เราต้องการ
แต่ต้องไม่ทำร้ายจิตใจใคร
..แม้แต่คนเดียว


จากหนังสือ ฟ้ากว้าง..ทางไกล



มวลเมฆ คือเนินเขาทำด้วยไอน้ำ เนินเขา คือมวลเมฆสร้างด้วยศิลา..(รพินทรฯ)
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
25 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add บุญทับ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.