ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย ตอนจบ
ทองหลางลายต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
เป็นต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชเนื่องจากมี ใบเป็นสีเขียว และ เส้นใบเป็นสีทอง ตรงกับ สีเขียว-ทอง ซึ่งเป็นสีประจำมหาวิทยาลัย
ชื่อสามัญ Indian Coral Tree, Variegated Tigers claw
ชื่อวิทยาศาสตร์ Erythrina variegata Linn.
วงศ์ LEGUMINOSAE
ชื่ออื่น ทองบ้าน, ทางเผือก (ภาคเหนือ), ทองหลางด่าง, ทองหลางลาย, ปาริชาต (กรุงเทพฯ)
ลักษณะทั่วไป เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ สูง 510 เมตร กิ่งอ่อนมีหนามเรือนยอดเป็นพุ่มกลมโปร่ง ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก มีใบย่อย 3 ใบ ใบกลางจะโตกว่าสองใบด้านข้าง ออกดอกเป็นช่อยาวประมาณ 3040 ซ.ม. รูปดอกถั่ว สีแดงเข้ม ออกดอกระหว่างเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ผลเป็นฝักยาว 1530 ซ.ม.
ขยายพันธุ์ โดยการเพาะเมล็ด และปักชำ
สภาพที่เหมาะสม สภาพดินทุกชนิด ชอบดินร่วนซุย กลางแจ้ง
ถิ่นกำเนิด เอเชียเขตร้อนและอบอุ่น
กันเกราต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ชื่อสามัญ Anan
ชื่อวิทยาศาสตร์ Fagraea fragrans Roxb.
วงศ์ LOGANIACEAE
ชื่ออื่น ตำเสา, มันปลา
ถิ่นกำเนิด อินเดีย, มาเลเซีย, พม่า, เวียดนาม
การขยายพันธุ์ โดยการเพาะเมล็ด
สภาพที่เหมาะสม เติบโตได้ดีในที่ชื้นแฉะ แสงแดดจัด ลักษณะทั่วไป ต้นสูงประมาณ 20 30 เมตร ไม่ผลัดใบ เรือนยอดรูปไข่หรือรูปกรวยคว่ำ หนาทึบ ใบเดี่ยว รูปรีหรือแกมใบหอก สีเขียวเข้มเป็นมัน ใต้ใบสีอ่อน ออกดอกเป็นช่อจำนวนมากที่ปลายกิ่ง ดอกสีขาว แล้วเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเมื่อใกล้โรย มีกลิ่นหอมเย็น ลักษณะดอกคล้ายแจกัน ออกดอกตลอดปี ผลเมื่ออ่อนเป็นสีส้ม แก่จะเป็นสีแดงเข้ม ลักษณะเป็นลูกกลมๆ มีติ่งแหลมสั้นๆ ที่ปลาย
ปีบทองต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
มีดอกสีแสด ซึ่งเป็นสีประจำมหาวิทยาลัย เป็นต้นไม้ที่ปลูกง่าย ทนทาน โตเร็ว มีทรงพุ่มกว้าง สื่อความหมายถึงความเรียบง่าย ความแข็งแกร่ง ความรุดหน้า และความร่มเย็น รายละเอียดเพิ่มเติม ชื่อวิทยาศาสตร์ Radermachera ignea (Kurz) Steenis
วงศ์ BIGNONIACEAE
ชื่ออื่น ปีบคำ อ้อยช้าง แคะเป๊าะ กากี สำเภาหลามต้น
ถิ่นกำเนิด พม่า ลาว ทางภาคเหนือของไทย ขึ้นกระจายในป่าเบญจพรรณและป่าดิบชื้น
ลักษณะทั่วไป เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลางสูง 6-18 เมตร ตามลำต้นและกิ่งก้านจะมีรูระบายอากาศ เปลือกต้นเรียบสีน้ำตาล ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกสองชั้น ปลายคี่ ใบรูปรี ปลายใบแหลมยาว ขอบใบเรียบ ใบบางเหมือนกระดาษ มีต่อมเล็กๆ สีดำอยู่ตรงโคนใบ ใบมีสีเขียวกว้าง 2-5 ซม. ยาว 5-12 ซม. ดอกออกเป็นช่อตามลำต้นและกิ่ง ช่อหนึ่งๆ จะมี 5-10 ดอก บานไม่พร้อมกัน กลีบเลี้ยงรูปถ้วยสีม่วงแดง ดอกสีเหลืองหรือส้มโคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด ยาว 4-7 ซม. ตรงกลางและตอนบนจะโป่งออก ปลายแยกเป็น 5 แฉก มีเกสรตัวผู้ 2 คู่ ยาวไม่เท่ากัน ผลเป็นฝักคล้ายถั่วยาว 26-40 ซม. เมื่อแก่จะแตกเป็นสองซีก เมล็ดแบน มีปีก
ขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด ปักชำกิ่ง
สภาพที่เหมาะสม เป็นไม้โตช้า เจริญเติบโตได้ดีในที่แห้งและเย็น ชอบ แดดจัด
ธรรมรักษาต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ ธนบุรี
ชื่อสามัญ Heliconia
ชื่อวิทยาศาสตร์ Heliconia spp.
วงศ์ HELICONIACEAE
ลักษณะทั่วไป ธรรมรักษาเป็นพรรณไม้ล้มลุก อวบน้ำ มีลำต้นใต้ดิน เรียกว่า เหง้า ลักษณะคล้ายกับกล้วย ลำต้นสูงประมาณ 12 เมตร เจริญเติบโตโดยการแตกหน่อออกมาเป็นกอ ลักษณะใบคล้ายใบกล้วย เรียงสลับกัน มีสีเขียว ผิวเรียบเป็นมัน ขนาดของใบขึ้นอยู่กับชนิดของพันธุ์ ออกดอกเป็นช่อตรงส่วนยอดของลำต้น ลักษณะช่อดอกตั้งและห้อยลงแล้วแต่ชนิดพันธุ์ ในแต่ละช่อดอกมี 48 ดอก ดอกมีสีส้ม แดง เหลือง และชมพู ผลคือส่วนของดอกเมื่อแก่ก็จะกลายเป็นเมล็ด
การขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด, แยกกอ, เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
สภาพที่เหมาะสม ดินร่วนซุย ดินร่วนปนทราย แสงแดดรำไร จนถึง แสงแดดจัด
ถิ่นกำเนิด เขตร้อนของทวีปอเมริกาและหมู่เกาะแคริเบียน "ดอกธรรมรักษา" เป็นไม้ดอกที่พบมากในบริเวณที่ตั้งมหาวิทยาลัยนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งวิทยาลัยและมีสีของดอกที่สอดคล้องกับสีประจำมหาวิทยาลัยฯ (แสด-เหลือง) นอกจากนี้ยังมีนามที่เป็นมงคลต่อนักศึกษาและบุคลากรในด้านจริยธรรม กล่าวคือสอดคล้องกับคติธรรมที่ว่า "ธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม"
แคแสดต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ เจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง
ชื่อสามัญ African Tulip Tree, Fire Bell, Flame of the forest, Fountain Tree
ชื่อวิทยาศาสตร์ Spathodea campanulata P. Beauv.
วงศ์ BIGNONIACEAE
ชื่ออื่น แคแดง
ถิ่นกำเนิด ยูกันดา แอฟริกาเขตร้อน และตะวันตกของเคนยา
ขยายพันธุ์ โดยการเพาะเมล็ด
สภาพที่เหมาะสม เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดดจัด ทนแล้ง ทนลม
ลักษณะทั่วไป เป็นไม้พุ่มสูง หนาทึบ ลำต้นสูงประมาณ 70 ฟุต ถ้าปลูกในที่แล้งจะผลัดใบ เรือนยอดกลม ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ใบย่อย 4-9 คู่ รูปไข่แกมขอบขนาน โคนใบเบี้ยว ใบสีเขียวสดสากระคายมือ ออกดอกเป็นช่อสั้นตั้งขนาดใหญ่ที่ปลายกิ่ง ดอกจำนวนมาก เป็นหลอดโค้ง ปลายแยกเป็น 5 กลีบรูประฆังหงาย สีแดงอมส้ม ดอกทยอยบานครั้งละ 2-6 ดอก ออกดอกช่วงเดือนตุลาคมกุมภาพันธ์ ผลเป็นฝักแบนยาว
ประดู่แดงต้นไม้ประจำสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ พระนครเหนือ
ชื่อสามัญ Monkey Flower Tree, Fire of Pakistan ชื่อวิทยาศาสตร์ Phyllocarpus septentrionalis Donn Smith วงศ์ LEGUMINOSAE ชื่ออื่น วาสุเทพ ถิ่นกำเนิด ประเทศกัวเตมาลา อเมริกาใต้ อเมริกากลาง
ลักษณะทั่วไป เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีเรือนยอดแผ่กิ่งก้านสาขาออกไปกว้าง ใบเป็นรูปมนรีออกเป็นคู่ สลับกันตามลำต้น ลักษณะของใบปลายแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบ มีสีเขียว ดอกออกเป็นช่อ ตรงส่วนยอดของลำต้น ดอกจะบานไม่พร้อมกัน จะทยอยกันบานไล่ขึ้นไปตั้งแต่โคนก้านช่อจนถึงปลายช่อ มีดอกเล็กสีแดงสด เวลาบานจะแดงสพรั่งทั้งต้น เกสรยาวยื่นออกมากลางดอก ดอกมีกลิ่นหอม ออกดอกราวๆ เดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม แต่ดอกจะอยู่ไม่ทนนัก สภาพที่เหมาะสม เป็นพรรณไม้กลางแจ้ง ชอบแดดจัด แต่ต้องการน้ำและความชื้นน้อย ปลูกในดินร่วนซุยและระบายน้ำได้ดี ขยายพันธุ์ โดยการเพาะเมล็ด
ต้นประดู่แดงเป็นพรรณไม้ประจำสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ พระนครเหนือ มีเหตุผลสนับสนุน 3 ประการคือ
1. สีของดอกประดู่แดง เป็นสีแดงเข้ม สวยงามซึ่งตรงกับสีของสถาบัน (สีแดงหมากสุก) 2. ประดู่แดงจะออกดอกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งตรงกับวันสถาปนาสถาบัน คือ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 3. ต้นประดู่แดงเป็นไม้เนื้อแข็งซึ่งแกร่งพอสมควรแสดงถึงความแข็งแกร่งของสถาบัน
Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2552 |
|
0 comments |
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2552 12:55:09 น. |
Counter : 2856 Pageviews. |
|
|
|