เธอถูกกำหนดให้เป็นคนของฉัน ตั้งแต่...ตอนที่เกิดมาแล้ว เพียงคำพูดประโยคนี้... เวลาก็หยุดหมุน โลกทั้งใบก็หยุดนิ่ง มีเพียง..เธอและฉัน ณ ความรักของเราสอง คำสารภาพรักจากปากหนุ่มเผด็จการก็ต้องเป็นไปในรูปแบบนี้ละมั๊ง ไร้ซึ่งคำหวานหู บอกกล่าวความรู้สึกของตัวเองแด่สาวคนรักด้วยการแสดงความเป็นเจ้าของ ชัดเจนถึงการครอบครองแบบสังคมตะวันออก(โบราณ)ที่ถือว่าผู้ชายคือหลักของครอบครัว ละครพีเรียด NHK เรื่อง คลื่นรักคลื่นชีวิต เปิดฉากมาด้วยสาวน้อยคาโอรุยืนเป็นแบบให้จิตรกรวาดรูปอยู่ข้างเรือประมงลำหนึ่ง เมื่อสายตาเธอจับจ้องตรงไปยังชายหนุ่มท่าทางเต็มเปี่ยมไปด้วยความเป็นผู้นำอย่างชัดเจน หนุ่มตาคมกริบ มาดนิ่งแต่ฉายความแกร่งในตัวเองออกมาจนเด่นชัด เพียงเท่านี้คาโอรุก็เกิดหัวใจกระตุก มือน้อยๆถูกเสี้ยนปักตามมาทันที ชายหนุ่มก็จ้องมองไม่วางตาเช่นกัน เมื่อเห็นดังนั้นจึงก้าวเดินตรงมาไม่รอช้า เมื่อมายืนต่อหน้าหญิงสาว ชายหนุ่มจับมือเธอขึ้นมาดูโดยไม่สนใจเสียงร้องห้ามด้วยความตกใจปนขัดเขิน เมื่อเห็นว่าเสี้ยนอยู่ลึกเกินจะดึงทิ้งด้วยมือได้ ชายหนุ่มจึงก้มลง ใช้ฟันขบลงกัดดึงเสี้ยนนั้นออกมา ...และนี่คือ ช่วงเวลาที่หัวใจของคาโอรุตกเป็นของโยชิทาเกะ โซคิจิ นายน้อยแห่งหมู่บ้านชาวประมงโทงาวะ จากนั้นทั้งสองก็ไม่ได้พบเจอกันอีกเลย จนคาโอรุได้มาเจอเซคิจิน้องชายของโซคิจิบนรถรางแล้วก็ได้รับรู้ว่า โซคิจิซื้อภาพวาดนั้นกลับไปไว้ที่บ้าน หัวใจกระสับกระส่ายของสาวน้อยทำให้เธอแทบอยู่เฉยไม่ได้ เพื่อนสนิทของคาโอรุเมื่อรับรู้เรื่องนี้ จึงชักชวนกันไปหมู่บ้านชาวประมง โดยอ้างกับนายหญิงของโทงาวะซึ่งเป็นแม่ของโซคิจิว่ามาเพื่อจะดูภาพวาดที่มีคาโอรุเป็นแบบให้นั้น แต่ก็ต้องพบความผิดหวังเมื่อไม่ได้เจอกับเจ้าของภาพวาดที่กำลังออกเรือไปจับปลา จากนั้นเวลาผ่านไป คาโอรุดินกลับบ้านท่ามกลางหิมะโปรยปราย เกิดสะดุดล้มจนข้อเท้าเคล็ด โชคชะตาดำเนินตามครรลองของมัน โซคิจิผ่านมาเจอ ก้าวเดินมาหาเพื่อถามไถ่ เมื่อสายตาสองคู่จับจ้องกัน ต่างก็รับรู้ว่าได้พบเจอคนทำเฝ้าฝันถึงทุกโมงยาม สาวน้อยก้าวเดินไม่ไหว ชายหนุ่มไม่รีรอจัดแจงนำหญิงสาวแบกขึ้นหลัง ปล่อบร่มกระดาษสีแดงให้อยู่ในกำมือหญิงสาว นี่คือครั้งที่สองแล้ว หัวใจคาโอรุเต้นระรัวด้วยความรักที่อัดแน่นเต็มหัวใจ เรื่องราวความรักของทั้งคู่ไม่อาจง่ายดาย แม้คาโอรุจะเป็นเพียงลูกเมียน้อย แต่ก็เป็นลูกของบันโด คิวเบ เจ้าของโรงทำโชยุแห่งอิริโจ รุ่นที่11 ซึ่งเส้นทางระหว่างคนทำโชยุกับชาวประมง ก็เปรียบได้กับเส้นทางขนานที่สวนทางกันนั่นเอง แม้จะไม่อาจเข้าใจ...แต่นี่อาจคือขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวญี่ปุ่นในยุคสมัยโชวะที่ 3 นั้นกระมัง โซคิจิเคยพูดขึ้นมาครั้งหนึ่งกับฟุนามูระหัวหน้าคนงานว่า ลูกสาวคนทำโชยุก็เปรียบได้กับเจ้าหญิงที่เขาไม่อาจครอบครองได้ เวลาผ่านไป คาโอรุจบชั้นมัธยม ได้เข้าสู่บ้านของพ่อเพื่อเตรียมตัวเป็นเจ้าสาว เพื่อออกเรือนในฐานะลูกสาวของบ้านอิริโจ คาโอรุมีพี่สาวหัวสมัยใหม่หนึ่งคน ชื่อ ริซึโกะ และ เอจิโร่ น้องชายซึ่งเป็นเพื่อนร่วมเรียนเซคิจิน้องชายของโซคิจิ ทำให้คาโอรุได้รับข่าวสารของโซคิจิผ่านทางน้องชายเป็นระยะ จากนั้นมาจนถึงวันที่คาโอรุไปดูตัวกับลูกชายเจ้าของโรงทำโชยุอีกแห่ง ทุกอย่างดูจะราบรื่นและเป็นไปตามความต้องการของพ่อ ซึ่งคาดหวังการแต่งงานของคาโอรุครั้งนี้จะทำให้บ้านอิริโจมีอำนาจต่อรองมากขึ้นในสมาคมโชยุที่กำลังก้าวไปสู่ยุคอุตสาหกรรมเครื่องจักรเต็มตัว และท่ามกลางความสับสนวุ่นวายของการต่อรองของเหล่าคนงานที่กำลังมีการรวมกลุ่มจัดตั้งสหภาพแรงงาน ก่อนวันออกเรือน คาโอรุได้รับข่าวจากริซึโกะว่าเรือประมงโทงาวะมารุของโซคิจิติดพายุอยู่กลางทะเล เธอไม่คิดอะไร วิ่งออกจากบ้าน ขึ้นรถไฟไปโทงาวะทันที เพื่อที่จะรับรู้ว่า นั่นคือการลองใจถึงความรู้สึกที่เธอมีต่อโซคิจิของพี่สาวนั่นเอง เมื่อชายหนุ่มและหญิงสาวได้พบกัน การสารภาพรัก และ จูบแรกก็เกิดขึ้น ณ ริมหาดโทงาวะ จากวันนั้น คาโอรุยินยอมรับชะตากรรมของตนเอง ด้วยรู้ตัวว่าเส้นทางความรักของเธอไม่อาจสมหวัง ความแตกต่างระหว่างกันมีมากมายเกินไป เธอจึงยอมรับการแต่งงานโดยไม่อิดออด วันออกเรือนนั่นเอง ฝ่ายเจ้าสาวรอฝ่ายเจ้าบ้านอยู่มี่บ้านจนเย็นฝ่ายเจ้าบ่าวก็ไม่ปรากฏตัว เมื่อตัวแทนฝ่ายเจ้าบ่าวมาถึง คำต่อว่าต่อขานเกิดขึ้นพร้อมๆกับข้อเท็จจริงที่ฝ่ายเจ้าบ่าวรับรู้ก็เปิดเผย ครอบครัวเจ้าบ่าวได้รับข่าวมาว่า คาโอรุมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับโคยาม่าคนงานทำโชยุ ทำให้การแต่งงานยกเลิกไป พ่อของคาโอรุช็อคจนจับไข้ คาโอรุยืนกรานปฏิเศษ แต่เธอก็รับรู้ได้ว่าข่าวสารแบบนั้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไร มันเกิดจากการวางแผนของริซึโกะ วางแผนให้คนงานโชยุที่หลงรักเธอไปบอกให้บ้านฝ่ายเจ้าบ่าวนั่นเอง เรื่องราวนี้ตอนหลังได้รับการเปิดเผยว่าเป็นฝีมือริซึโกะ พร้อมๆกับการสารภาพความรู้สึกที่แท้จริงของคาโอรุว่าเธอตกหลุมรักชาวประมงในโทงาวะ พ่อของคาโอรุประกาศก้องว่า ความรักของทั้งสองไม่มีทางเป็นไปได้ พร้อมหาหนทางกำจัดปัญหานั้น อุเมกิซัง หัวหน้าคนงานคนสนิทของพ่อคาโอรุพร้อมลุงของคาโอรุเดินทางไปเจรจายังโทงาวะ สั่งห้ามไม่ให้โซคิจิติดต่อกับคาโอรุอีกเด็ดขาด แต่หารู้ไม่ว่า....นั่นคือ การเติมฟืนลงบนเชื้อไฟ โซคิจิที่ตลอดมาได้แต่ปิดปากเงียบและไม่เคยก้าวออกมาเพื่อหมายครอบครองคาโอรุแม้สักครั้ง ได้เพียงแค่ยอมรับว่าระหว่างเขาสองคนไม่มีทางลงเอย ประกาศก้องออกมาว่า ชาวประมงอย่างเขาจะต้องได้ลูกสาวโรงงานโชยุมาเป็นเจ้าสาว เมื่อราชสีห์ถูกปลุกให้ลืมตาตื่น ทุกอย่างก็ดั่งลมกระพือโหม โซคิจิเดินหน้าเต็มตัว เดินทางไปยังบ้านพ่อคาโอรุพร้อมเจรจาสู่ขอลูกสาว แต่ก็ดังคาด...พ่อคาโอรุไม่ยอมแม้แต่ให้พบ โกรธเกรี้ยว พร้อมสาดเกลือไล่ให้จากไป และนี่...คือฉากที่โซคิจิได้เดินเข้าไปหาคาโอรุ พูดความในใจออกมาอย่างชัดเจนเป็นครั้งแรก จากที่ปล่อยให้หญิงสาวแสดงความรู้สึกชัดเจนเสมอมาเพียงฝ่ายเดียว คาโอรุพูดออกมาอย่างคนที่ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเองเสมอมาว่า เธอนั้นรักคุณโซคิจิ และเธอคาดหวังอยากเกิดเป็นลูกชาวประมง โซคิจิกลับตอบออกมาว่า เขาจะกลับมาไม่ว่าจะอีกกี่ครั้งก็ตาม จนกว่าจะได้คาโอรุเป็นเจ้าสาว เพราะว่า.... “เธอถูกกำหนดให้เป็นคนของฉันตั้งแต่ตอนที่เธอเกิดมาแล้ว” ชายหนุ่มหยิ่งจองหองในศักดิ์ศรีของตัวเองปานโดมผู้จองหองคนนี้ ประกาศความรู้สึกพร้อมประกาศความเป็นเจ้าของไปในตัว เป็นคำสารภาพรักที่แทบทำให้คนดูอย่างเราแทบด่าวดิ้นอยู่หน้าจอ ยังกับว่าตัวเองชื่อคาโอรุยังงั้นล่ะ ความรู้สึกมันรุนแรงยิ่งกว่าการสารภาพรักโต้งๆว่า “ผมรักคุณ” เสียอีก คิดไปคิดมาหรืออิฉันจะเป็นพวกโซเครติสต์วะ...ชอบถูกครอบครองแทนที่เป็นเฟมินิสต์น่ะ คงประมาณเป็นพวก ~อยากโดนเป็นเจ้าของ อยากมีคนจับจอง ~ ประมาณ ประมาณนั้นล่ะมั้ง กร๊ากกกก ถึงได้ไม่รู้สึกว่า อิฉันไม่ใช่สิ่งของหรือลูกหมานะเจ้าคะ นายน้อยถึงจะมาเป็นเจ้านายอิฉันน่ะ....ฮ่า ฮ่า ฮ่า แต่แหม~ มันก็ต้องดูคนพูด ต้องขึ้นกับอารมณ์ในสถานการณ์ตอนนั้นด้วยล่ะนะ ขืนคนพูดเป็นไอ้พวกโรคจิต ประเภทกูเป็นใหญ่ เห็นผู้หญิงเป็นแค่สิ่งของแล้วสำรอกคำทำนองนี้ออกมา ...ก็มามีเรื่องกันดีกว่าเพ่ ต่อยกันสักหมัดดีกว่า ดูจิ๊ใครมันจะแมนก่ากัน แต่เมื่อออกมาจากปากนายน้อย หนุ่มร่างสูงโปร่ง ใบหน้าคมสันสมชายฉกรรต์ ดูแกร่ง เข้มและขรึม ช่างเก็บความรู้สึก สายตานิ่ง เฉียบ จับจ้องแสดงออกถึงความจริงใจ มองแล้วก็ใจระทวย ท่าทางกอดอกแสดงถึงความมั่นคง พร้อมยืนหยัดไม่ยอมพ่ายต่อพายุโหมกระหน่ำ หญิงสาวแกร่งเท่าแกร่ง เจอทั้งท่าทางประกอบคำพูดจริงจังนี้เข้าไป ไม่เอ่ยปากอย่างที่คาโอรุประกาศก็ดูจะใจร้ายต่อนายน้อยแห่งโทงาวะเกินไปล่ะนะ “ถ้าไม่ได้อยู่กับคุณโซคิจิ ฉันก็จะอยู่คนเดียวตลอดชีวิต” ความรักระหว่างทั้งคู่จะสมหวัง ผิดหวัง ได้ครองคู่กันหรือไม่ ยังมีเส้นทางอีกยาวไกลเพื่อรอพิสูจน์   Create Date : 21 พฤษภาคม 2552 2 comments Last Update : 21 พฤษภาคม 2552 12:09:05 น. Counter : 987 Pageviews. Share Tweet

แอบรู้สึกเหมือนเจ้าของบล็อคเลยค่ะ แทบกรี๊ดสลบ อยากมีคนมาจับจองเป็นเจ้าของบ้าง คริคริ   โดย: beautiespoo 21 พฤษภาคม 2552 15:23:52 น.

กรี๊ดดดดดดดดดดดด ด้วยคนค่ะ เพราะเดี๋ยวนี้มีแต่ผู้ชายสำอางค์ทั้งน้้นเลย   โดย: puggad_d_o_n_g 27 พฤษภาคม 2552 16:54:27 น.