Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
ทานตะวัน
หลากเรื่องยุ่งอิลุงตุงนังมาแบกบาล
วิ่งตลอนตลุยไปกับนักล่าฝัน
เมื่อ...ผีเสื้อขยับปีก
touch de scène
Time Between Nat and Tol
Emotion
Tempus Fugit
My QS Project : เรื่องเขียนสลับกันอ่าน
ตุลาคม 2551
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
21 ตุลาคม 2551
มันช่างเป็น คำสารภาพรัก ที่ยอดเยี่ยมกับ CSI Miami season 6 : All In
All Blogs
สิ่งงดงาม...ที่คุณเข้าครอบครองได้ ในที่สุด : Mad Men
งั้นเสียงของพระเจ้าเป็นยังไง!? : The Newsroom
...ขอเป็นเศษฝุ่นเศษผงเสียยังจะดีกว่า
เลือกจะเป็นคนแบบไหน...บนโลกที่เป็นสีเทาใบนี้
SOUTHLAND เด็กใหม่ที่ไม่ใหม่อีกแล้ว
ในที่สุด ดอน ก็หยุดความโสดลง(จนได้)
สองทางกลางกระแส
แม่ของหนูแอบจูบกับซานต้าเมื่อคืน~!
หรือนี่จะเป็นอีกหนึ่งวิธีแก้ปํญหาการรังแกเกย์?!
คนที่เรายกโทษให้ยากที่สุด ก็คือ 'ตัวเราเอง'
จูบแรก...อีกหลายต่อหลายครั้ง
มิโอะ ทสุขุฉิ...ฉันจะเป็นเหมือนกับไม้หลักนำทางเรือให้กับเธอ
19 ปี 3 เดือน
หมายความว่า ฉันชนะ ไงล่ะ
เมียของผมบนโลกนี้มีเพียง คาโอรุ คนเดียว
'เกลือ' ของครอบครัว
พระเจ้าฉีกแผ่นเนื้อคู่แล้วโปรยลงมา ให้ฉันคู่เธอ
เมื่อไรจะ เข้าหอ...หวา!!?~
เธอถูกกำหนดให้เป็นคนของฉัน ตั้งแต่...ตอนที่เกิดมาแล้ว
บางที...นี่อาจไม่ใช่ครั้งแรกที่เราเจอกัน
โป๊กเกอร์เกม วินิค ปะทะ แซนโตส:The West WingVII
Requiem II :The West Wing VII
Requiem I :The West Wing VII
Hypocrite , Be Compassion not Blame; The West Wing
เส้นบางเบาที่ขีดกั้น ;CSI: NY III:what schemes may come
มันช่างเป็น คำสารภาพรัก ที่ยอดเยี่ยมกับ CSI Miami season 6 : All In
มันช่างเป็น คำสารภาพรัก ที่ยอดเยี่ยมกับ CSI Miami season 6 : All In
All In
เปิดฉากด้วย การรวมความเท่ ความเก่ง(ปานยอดมนุษย์)ของ
ลุงเอช
ณ บราซิล ประเทศที่ถูกป้ายสีเป็นดินแดนบ้านป่าเมืองเถื่อน ที่กฎ กู เหนือ กฎหมาย
เมื่อลุงเอชปฏิเศษทุกข้อกล่าวหา กับการฆาตรกรรมฆาตรกรโหดที่ฆ่าภรรยาสุดสวยของลุงเอชแบบหน้าไม่อาย เอ๊ย แบบหน้าตาย ไร้ซึ่งความรู้สึก
ทุกอย่างก็ จบ แบบง่ายๆ ปนงงงวย กระตุ้นความระวังตัวเกินขีดจำกัดเมื่อลุงเอชถูกผายมือเชิญกลับบ่งบอกความหมายว่าไม่มีตั๋วเที่ยวกลับมอบให้ ถ้าแน่จริงดังท่าทีผยองก็เชิญขวนขวายเอาตัวรอดเองมิฉะนั้นก็หนีไม่พ้นเป็นผีไร้ชื่อฝังร่าง ณ ต่างแดน
และแล้วปฏิบัติการณ์ มิชชั่นอิทพอสสิเบิ้ลเวอร์ชั่นลุงเอช ณ CSI : Miami ก็เริ่มต้น
ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะได้เห็นฉากแบบนี้จากซีรี่ส์อเมริกัน ดูไปดูมาภาพในความทรงจำสมัยเด็กยามที่นั่งดูหนังบู๊สมัย สมบัติ เมทินี สรพงษ์ ชาตรี ก็หมุนติ้วๆมาทับซ้อน
ประมาณไอ้หนุ่มตลุยเดี่ยวบุกรังโจร ผู้ร้ายเป็นสิบอาวุธครบมือก็ยังเอาพระเอกประเภท
ข้ามาคนเดียว
ไม่อยู่ เสียงปืนดังเปรี้ยงปร้าง แต่กระสุนจากปากกระบอกปืนโจรก็หามีกระสุนนัดไหนระคายผิวพระเอกหาได้ไม่ แถมดันล้มตายกันเป็นใบไม้ร่วงจากแค่ปืนกระบอกเดียวของพระเอกหน้าหยก
ดูไป อ้าปากค้างไปกับการจัดบอดี้ไลน์ที่เท่ห์สุดใจขาดดิ้นของลุงเอช แบบไร้ซึ่งข้อโต้แย้ง
ยิ่งภาพปิดก่อนลั่นไกกับกระสุนนัดสุดท้าย ถ่ายช้อนภาพจากมุมด้านล่าง เสยให้เห็นความเท่ที่เหนือเท่ของตัวลุงเอชตัดกับฉากหลังของลำแสงลอดจากเงาดงไม้สาดเป็นสายเงาส่องมาเพื่อขับความเด่น เสริมความเท่ลุงเอช(อีกแล้ว)แบบไม่ต้องมีคำอธิบายใดใดให้ลึกซึ้ง
และแล้วพระเอกก็กลับคืนสู่แดนมาตุภูมิ โดยไร้ซึ่งรอยขีดจากแมวข่วน
....มันช่างเป็นความเว่อร์ที่สามารถตบให้หลงเชื่อได้ ที่ไม่ว่าCSI เมืองไหนก็ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ สาเหตุหลักสาเหตุเดียว คือ มีเพียงลุงเอชเท่านั้นที่เว่อร์ เอ๊ย มีมาดพอกล่อมให้มันกล้อมแกล้มผ่าน แบบต้องร้องบอกตัวเองในใจว่า ปล่อยลุงเอชแกไปเต๊อะ
ตอนนี้ต่อเนื่องมากจากตอนที่แล้ว
Ambush
แคลลี่จ์แม่เสือสาวสุดสวยหนึ่งในลูกทีมของลุงเอชถูกจับตัวไป
เรื่องราวค่อยเปิดให้เห็นถึงสาเหตุที่แคลลี่จ์ถูกลักพาตัว เพราะไอ้หนุ่มดวงซวยสองคนเปิดอ่านเว็บที่เปิดเผยเรื่องราวโดยละเอียดทั้งชีวิตส่วนตัวและการงานของแคลลี่จ์ เลยจัดการวางแผนลักพาตัวเธอมาเพื่อให้มาปกปิดการฆาตรกรรมที่(คิดไปว่า)ตัวเองก่อขึ้นมา
ความจริงตอนที่นั่งดูก็ดูกะเอามาเป็นกรณีศึกษา......กร๊ากกกกกก
เอาเป็นว่า นั่งดูไปก็ยิ่งย้ำความคิดที่คิดเสมอมา คือ ถ้าคนร้ายคือหนึ่งในเจ้าหน้าที่CSI การฆาตรกรรมที่ไร้ข้อติมันคงสามารถเกิดขึ้นได้จริง ทั้งการปกปิดร่องรอยและการเก็บหลักฐานที่จะโยงใยมาถึงตัวฆาตรกร
สำหรับเราสิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าการกำจัดหลักฐานให้เจ้าฆาตรกร ก็คือการทิ้งหลักฐานเพื่อให้เพื่อนร่วมทีมตามร่อยรอยเจอ
วิธีการที่ใช้มันช่างสมกับความเป็นชาวCSI ทั้งการทิ้งรอยนิ้วมือเป็นสัญลักษณ์ การทำหมึกล่องหนด้วยเบคกิ้งโซดาและน้ำองุ่น
เหตุการณ์เคี่ยวงวดมาจนถึง
เจ้าหนุ่มดวงซวยเอาปืนจ่อหัวตัวประกันสาวสวยมาปล้นในวงพนัน
เพียงแต่ว่า...ปืนหนึ่งกระบอกหรือจะสู้ปืนสามกระบอก การจัดวางองค์ประกอบภาพเรียกเสียงฮู้วว์ได้อย่างยาวนาน มันช่างเท่ห์ได้สุดใจขาดดิ้นอะไรขะไหนหนาด
....เจอะเจอการจัดองค์ประกอบภาพแบบนี้ ถือเป็นเสน่ห์ของไมอามี่ที่เมืองไหนก็ยากจะเลียนแบบจริงๆ
และ...
ถ้าไม่มีฉากทิ้งท้ายความเท่ห์ของลุงเอช
มันจะเรียกว่าเป็น CSI Miami ได้อย่างไรกัน
เจ้าหนุ่มนึกว่าตัวเองได้เปรียบก็ในเมื่อปืนกระบอกที่ใกล้ที่สุดจ่ออยู่ด้านหลังของเจ้าหน้าที่นี่นา
แต่หารู้ไม่...ยมทูตกลับยืนรออยู่ที่ด้านหลังอย่างเงียบกริบ
ปืนที่จ่ออยู่หัวของสาวสวย ก็ไม่สามารถทำใจลุงเอชสะเทือนได้ ก็ในเมื่อ
มองตาก็รู้ใจ
กับลูกน้องคนสนิท ฉากประหนึ่งดูหนังจีนกำลังภายในจึงเกิดขึ้น
เพราะเพียงแค่คำพูดสั้นๆ ส่งเป็นสัญญาณ อีสาวเลือดนักสู้ก็ใช้วิชากังฟูศอกกลับจัดการชายโฉดเสียหมอบ ไม่ต้องให้ลุงเอชเสียเวลาจัดท่าทำเท่ห์ใหม่
แล้วผู้ร้ายก็สิ้นท่า เข้าไปนอนหน้าเศร้าที่ซังเต
จนมาถึง..........
ฉากประทับใจ
กับคำพูดเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดดังระงม ที่ทำให้ทุกฉากก่อนหน้านี้ไร้ซึ่งความสำคัญ เหลือแค่ความทรงจำเพียงเบาบาง
ฉากที่แสนสั้น กับภาพที่แสนสวยด้วยแสงและสียามพระอาทิตย์ยอแสง
(สาวสวยกับหนุ่มหล่อที่ข้าพเจ้าลุ้นมาเนิ่นนาน.....ลุ้นให้สารภาพรักช้า ช้า นะเพ่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า)
และแล้ว....วันนี้ก็มาถึง จะหลีกอย่างไรก็หลีกไม่พ้น
เอริคเริ่มปฏิบัติการณ์อย่างใจเย็นเมื่อลองแย็บเบาๆกับคำถามว่าสาวเจ้าจะทำต่อไปเช่นไร
เมื่อแคลลี่จ์ขอเพียงกลับบ้านไปพัก หลังจากทิ้งช่วงจังหวะ สายตาสองคู่ประสานกันส่งมอบความห่วงใย
ก่อนแคลลี่จ์หันเพื่อขึ้นขับรถฮัมเมอร์คันโต หนุ่มเชื้อสายละติโน่ตัดสินใจรุกคืบทะลายน้ำแข็ง ร้องขัดขึ้นมาพร้อมด้วยรอยยิ้มอบอุ่นที่หยุดแคลลี่จ์ไว้
คุณจะไม่ได้กลับบ้านคนเดียวหรอก
(ฮิ้ว....ฮิ้ววววว............เสียงแซวนอกจอมอบให้ไอ้หนุ่มปากหนัก ที่พอเปิดปากทีก็เอาตาย)
ทำเอาแม่เสือสาวถึงกับชะงัก แข็งแค่ไหน ความห่วงใยนี้ก็ง้างให้อ่อนลง
แต่เมื่อไม่ใช่สาวอ่อนแอเป็นนางเอกยุคน้ำส้มคั้น เลย(จำใจ)ปฏิเศษพ่อหนุ่มตาสวยตรงหน้า
เอริค ฉันไม่เป็นไรหรอก จริงๆนะ
แคลลี่จ์หันกลับไปเพื่อไขกุญแจรถเป็นครั้งที่สอง
แต่คราวนี้พ่อหนุ่มเอริคตัดสินใจเด็ดขาดไม่ยอมแพ้
คำพูดที่ตามมา หยุดได้ทุกอย่าง...ทั้งการเคลื่อนไหวของแคลลี่จ์จนถึงหัวใจที่แข็งขืน
(รวมทั้งแทบหยุดลมหายใจของคนดู ที่นำพาเสียงกรี๊ดดดดดดยาวนานภายในใจ)
แต่ผมเป็น
แอริคพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ทำเอาแคลลี่จ์ที่หันกลับมาหยุดชะงักด้วยความจริงใจในสายตา
ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไง ถ้าวันนี้เกิดอะไรขึ้นกับคุณ
คำพูดต่อเนื่องมาพร้อมกับน้ำเสียงที่บ่งบอกความในใจ
ทำเอาแคลลี่จ์หลุดปากรับคำแต่โดยดีราวกับลูกแมวเชื่องๆ
เรียกรอยยิ้มขี้อายชวนใจละลายจากเจ้าของวาจาที่รับรู้ได้ว่าสาวเจ้ารับรู้ความรู้สึกลึกๆภายในใจตนแล้ว
..........มันคือการเผยความในใจที่ไม่มีคำว่า
รัก
หลุดปากออกมาแม้สักครึ่งคำ
แต่กลับทำให้คนฟังได้รับรู้ถึงความรู้สึกภายในใจของเจ้าตัวว่า...
เรามีน้ำหนักในใจเขามากแค่ไหน
เรามีความสำคัญในชีวิตเขามากแค่ไหน
และ...เขารู้สึกกับเราเช่นไร
พอรู้ตัวอีกที
ความรัก
ที่เขาส่งมา
ก็ถูกวางอยู่ในกำมือเรา
ให้ไว้ครอบครอง
มันช่างเป็นการสารภาพรักที่สวยงามจนไร้ที่ติ
ไม่ต้องหวาน ไม่ต้องสรรหาวิธีการ
ถึงเรียบ แต่ไม่ง่าย
เก็บทุกความรู้สึกที่ตัวละครต้องการสื่อออกมาผ่านคำพูดเพียงแค่ 3 ประโยคได้อย่างหมดจดและงดงาม
ทั้งยังผ่านความรู้สึกมายังคนดู เหลือคงค้างรอยหวามในใจอีกยาวนาน
Create Date : 21 ตุลาคม 2551
Last Update : 21 ตุลาคม 2551 18:38:57 น.
1 comments
Counter : 4757 Pageviews.
Share
Tweet
เห็นด้วยค่ะ ว่าตอนนี้ลุง H เท่มาก ตั้งแต่ดู CSI MIAMI มา ลุง H เท่สุด ตอนนี้เอง
สังเกตอยู่อย่าง...หนุ่มๆ ใน CSI นี่ ไม่ว่าเมืองไหน ปากหนักกันทุกคนเลย ให้ไล่จับคนร้ายสักฝูง ท่าจะง่ายกว่าสารภาพรักสาวแฮะ
โดย: กำจาย (
กำจาย
) วันที่: 22 ตุลาคม 2551 เวลา:20:34:31 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
Quaver
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [
?
]
เป็นคนหัวแข็งที่มาพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ
เป็นคนหัวอ่อนที่มาพร้อมท่าทางแข็งๆ
artists
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add Quaver's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
สังเกตอยู่อย่าง...หนุ่มๆ ใน CSI นี่ ไม่ว่าเมืองไหน ปากหนักกันทุกคนเลย ให้ไล่จับคนร้ายสักฝูง ท่าจะง่ายกว่าสารภาพรักสาวแฮะ