Group Blog
 
 
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
21 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
มันช่างเป็น “คำสารภาพรัก” ที่ยอดเยี่ยมกับ CSI Miami season 6 : All In

All In เปิดฉากด้วย การรวมความเท่ ความเก่ง(ปานยอดมนุษย์)ของลุงเอช ณ บราซิล ประเทศที่ถูกป้ายสีเป็นดินแดนบ้านป่าเมืองเถื่อน ที่กฎ “กู” เหนือ กฎหมาย


เมื่อลุงเอชปฏิเศษทุกข้อกล่าวหา กับการฆาตรกรรมฆาตรกรโหดที่ฆ่าภรรยาสุดสวยของลุงเอชแบบหน้าไม่อาย เอ๊ย แบบหน้าตาย ไร้ซึ่งความรู้สึก
ทุกอย่างก็ “จบ” แบบง่ายๆ ปนงงงวย กระตุ้นความระวังตัวเกินขีดจำกัดเมื่อลุงเอชถูกผายมือเชิญกลับบ่งบอกความหมายว่าไม่มีตั๋วเที่ยวกลับมอบให้ ถ้าแน่จริงดังท่าทีผยองก็เชิญขวนขวายเอาตัวรอดเองมิฉะนั้นก็หนีไม่พ้นเป็นผีไร้ชื่อฝังร่าง ณ ต่างแดน



และแล้วปฏิบัติการณ์ มิชชั่นอิทพอสสิเบิ้ลเวอร์ชั่นลุงเอช ณ CSI : Miami ก็เริ่มต้น

ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะได้เห็นฉากแบบนี้จากซีรี่ส์อเมริกัน ดูไปดูมาภาพในความทรงจำสมัยเด็กยามที่นั่งดูหนังบู๊สมัย สมบัติ เมทินี สรพงษ์ ชาตรี ก็หมุนติ้วๆมาทับซ้อน

ประมาณไอ้หนุ่มตลุยเดี่ยวบุกรังโจร ผู้ร้ายเป็นสิบอาวุธครบมือก็ยังเอาพระเอกประเภท “ข้ามาคนเดียว” ไม่อยู่ เสียงปืนดังเปรี้ยงปร้าง แต่กระสุนจากปากกระบอกปืนโจรก็หามีกระสุนนัดไหนระคายผิวพระเอกหาได้ไม่ แถมดันล้มตายกันเป็นใบไม้ร่วงจากแค่ปืนกระบอกเดียวของพระเอกหน้าหยก





ดูไป “อ้าปากค้าง”ไปกับการจัดบอดี้ไลน์ที่เท่ห์สุดใจขาดดิ้นของลุงเอช แบบไร้ซึ่งข้อโต้แย้ง

ยิ่งภาพปิดก่อนลั่นไกกับกระสุนนัดสุดท้าย ถ่ายช้อนภาพจากมุมด้านล่าง เสยให้เห็นความเท่ที่เหนือเท่ของตัวลุงเอชตัดกับฉากหลังของลำแสงลอดจากเงาดงไม้สาดเป็นสายเงาส่องมาเพื่อขับความเด่น เสริมความเท่ลุงเอช(อีกแล้ว)แบบไม่ต้องมีคำอธิบายใดใดให้ลึกซึ้ง

และแล้วพระเอกก็กลับคืนสู่แดนมาตุภูมิ โดยไร้ซึ่งรอยขีดจากแมวข่วน


....มันช่างเป็นความเว่อร์ที่สามารถตบให้หลงเชื่อได้ ที่ไม่ว่าCSI เมืองไหนก็ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ สาเหตุหลักสาเหตุเดียว คือ มีเพียงลุงเอชเท่านั้นที่เว่อร์ เอ๊ย มีมาดพอกล่อมให้มันกล้อมแกล้มผ่าน แบบต้องร้องบอกตัวเองในใจว่า ปล่อยลุงเอชแกไปเต๊อะ




ตอนนี้ต่อเนื่องมากจากตอนที่แล้ว Ambush แคลลี่จ์แม่เสือสาวสุดสวยหนึ่งในลูกทีมของลุงเอชถูกจับตัวไป

เรื่องราวค่อยเปิดให้เห็นถึงสาเหตุที่แคลลี่จ์ถูกลักพาตัว เพราะไอ้หนุ่มดวงซวยสองคนเปิดอ่านเว็บที่เปิดเผยเรื่องราวโดยละเอียดทั้งชีวิตส่วนตัวและการงานของแคลลี่จ์ เลยจัดการวางแผนลักพาตัวเธอมาเพื่อให้มาปกปิดการฆาตรกรรมที่(คิดไปว่า)ตัวเองก่อขึ้นมา


ความจริงตอนที่นั่งดูก็ดูกะเอามาเป็นกรณีศึกษา......กร๊ากกกกกก


เอาเป็นว่า นั่งดูไปก็ยิ่งย้ำความคิดที่คิดเสมอมา คือ ถ้าคนร้ายคือหนึ่งในเจ้าหน้าที่CSI การฆาตรกรรมที่ไร้ข้อติมันคงสามารถเกิดขึ้นได้จริง ทั้งการปกปิดร่องรอยและการเก็บหลักฐานที่จะโยงใยมาถึงตัวฆาตรกร


สำหรับเราสิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าการกำจัดหลักฐานให้เจ้าฆาตรกร ก็คือการทิ้งหลักฐานเพื่อให้เพื่อนร่วมทีมตามร่อยรอยเจอ
วิธีการที่ใช้มันช่างสมกับความเป็นชาวCSI ทั้งการทิ้งรอยนิ้วมือเป็นสัญลักษณ์ การทำหมึกล่องหนด้วยเบคกิ้งโซดาและน้ำองุ่น



เหตุการณ์เคี่ยวงวดมาจนถึง
เจ้าหนุ่มดวงซวยเอาปืนจ่อหัวตัวประกันสาวสวยมาปล้นในวงพนัน
เพียงแต่ว่า...ปืนหนึ่งกระบอกหรือจะสู้ปืนสามกระบอก การจัดวางองค์ประกอบภาพเรียกเสียงฮู้วว์ได้อย่างยาวนาน มันช่างเท่ห์ได้สุดใจขาดดิ้นอะไรขะไหนหนาด

....เจอะเจอการจัดองค์ประกอบภาพแบบนี้ ถือเป็นเสน่ห์ของไมอามี่ที่เมืองไหนก็ยากจะเลียนแบบจริงๆ






และ...ถ้าไม่มีฉากทิ้งท้ายความเท่ห์ของลุงเอช มันจะเรียกว่าเป็น CSI Miami ได้อย่างไรกัน


เจ้าหนุ่มนึกว่าตัวเองได้เปรียบก็ในเมื่อปืนกระบอกที่ใกล้ที่สุดจ่ออยู่ด้านหลังของเจ้าหน้าที่นี่นา
แต่หารู้ไม่...ยมทูตกลับยืนรออยู่ที่ด้านหลังอย่างเงียบกริบ
ปืนที่จ่ออยู่หัวของสาวสวย ก็ไม่สามารถทำใจลุงเอชสะเทือนได้ ก็ในเมื่อ “มองตาก็รู้ใจ” กับลูกน้องคนสนิท ฉากประหนึ่งดูหนังจีนกำลังภายในจึงเกิดขึ้น

เพราะเพียงแค่คำพูดสั้นๆ ส่งเป็นสัญญาณ อีสาวเลือดนักสู้ก็ใช้วิชากังฟูศอกกลับจัดการชายโฉดเสียหมอบ ไม่ต้องให้ลุงเอชเสียเวลาจัดท่าทำเท่ห์ใหม่

แล้วผู้ร้ายก็สิ้นท่า เข้าไปนอนหน้าเศร้าที่ซังเต





จนมาถึง..........ฉากประทับใจ กับคำพูดเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดดังระงม ที่ทำให้ทุกฉากก่อนหน้านี้ไร้ซึ่งความสำคัญ เหลือแค่ความทรงจำเพียงเบาบาง


ฉากที่แสนสั้น กับภาพที่แสนสวยด้วยแสงและสียามพระอาทิตย์ยอแสง
(สาวสวยกับหนุ่มหล่อที่ข้าพเจ้าลุ้นมาเนิ่นนาน.....ลุ้นให้สารภาพรักช้า ช้า นะเพ่ ฮ่า ฮ่า ฮ่า)


และแล้ว....วันนี้ก็มาถึง จะหลีกอย่างไรก็หลีกไม่พ้น

เอริคเริ่มปฏิบัติการณ์อย่างใจเย็นเมื่อลองแย็บเบาๆกับคำถามว่าสาวเจ้าจะทำต่อไปเช่นไร
เมื่อแคลลี่จ์ขอเพียงกลับบ้านไปพัก หลังจากทิ้งช่วงจังหวะ สายตาสองคู่ประสานกันส่งมอบความห่วงใย
ก่อนแคลลี่จ์หันเพื่อขึ้นขับรถฮัมเมอร์คันโต หนุ่มเชื้อสายละติโน่ตัดสินใจรุกคืบทะลายน้ำแข็ง ร้องขัดขึ้นมาพร้อมด้วยรอยยิ้มอบอุ่นที่หยุดแคลลี่จ์ไว้


“คุณจะไม่ได้กลับบ้านคนเดียวหรอก”
(ฮิ้ว....ฮิ้ววววว............เสียงแซวนอกจอมอบให้ไอ้หนุ่มปากหนัก ที่พอเปิดปากทีก็เอาตาย)

ทำเอาแม่เสือสาวถึงกับชะงัก แข็งแค่ไหน ความห่วงใยนี้ก็ง้างให้อ่อนลง

แต่เมื่อไม่ใช่สาวอ่อนแอเป็นนางเอกยุคน้ำส้มคั้น เลย(จำใจ)ปฏิเศษพ่อหนุ่มตาสวยตรงหน้า


“เอริค ฉันไม่เป็นไรหรอก จริงๆนะ”


แคลลี่จ์หันกลับไปเพื่อไขกุญแจรถเป็นครั้งที่สอง
แต่คราวนี้พ่อหนุ่มเอริคตัดสินใจเด็ดขาดไม่ยอมแพ้
คำพูดที่ตามมา หยุดได้ทุกอย่าง...ทั้งการเคลื่อนไหวของแคลลี่จ์จนถึงหัวใจที่แข็งขืน
(รวมทั้งแทบหยุดลมหายใจของคนดู ที่นำพาเสียงกรี๊ดดดดดดยาวนานภายในใจ)


“แต่ผมเป็น”


แอริคพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ทำเอาแคลลี่จ์ที่หันกลับมาหยุดชะงักด้วยความจริงใจในสายตา


“ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไง ถ้าวันนี้เกิดอะไรขึ้นกับคุณ”


คำพูดต่อเนื่องมาพร้อมกับน้ำเสียงที่บ่งบอกความในใจ

ทำเอาแคลลี่จ์หลุดปากรับคำแต่โดยดีราวกับลูกแมวเชื่องๆ
เรียกรอยยิ้มขี้อายชวนใจละลายจากเจ้าของวาจาที่รับรู้ได้ว่าสาวเจ้ารับรู้ความรู้สึกลึกๆภายในใจตนแล้ว







..........มันคือการเผยความในใจที่ไม่มีคำว่า “รัก”หลุดปากออกมาแม้สักครึ่งคำ
แต่กลับทำให้คนฟังได้รับรู้ถึงความรู้สึกภายในใจของเจ้าตัวว่า...

เรามีน้ำหนักในใจเขามากแค่ไหน
เรามีความสำคัญในชีวิตเขามากแค่ไหน
และ...เขารู้สึกกับเราเช่นไร


พอรู้ตัวอีกที “ความรัก” ที่เขาส่งมา
ก็ถูกวางอยู่ในกำมือเรา
ให้ไว้ครอบครอง


มันช่างเป็นการสารภาพรักที่สวยงามจนไร้ที่ติ
ไม่ต้องหวาน ไม่ต้องสรรหาวิธีการ
ถึงเรียบ แต่ไม่ง่าย
เก็บทุกความรู้สึกที่ตัวละครต้องการสื่อออกมาผ่านคำพูดเพียงแค่ 3 ประโยคได้อย่างหมดจดและงดงาม
ทั้งยังผ่านความรู้สึกมายังคนดู เหลือคงค้างรอยหวามในใจอีกยาวนาน



hold my hand   hold my heart



Create Date : 21 ตุลาคม 2551
Last Update : 21 ตุลาคม 2551 18:38:57 น. 1 comments
Counter : 4757 Pageviews.

 
เห็นด้วยค่ะ ว่าตอนนี้ลุง H เท่มาก ตั้งแต่ดู CSI MIAMI มา ลุง H เท่สุด ตอนนี้เอง

สังเกตอยู่อย่าง...หนุ่มๆ ใน CSI นี่ ไม่ว่าเมืองไหน ปากหนักกันทุกคนเลย ให้ไล่จับคนร้ายสักฝูง ท่าจะง่ายกว่าสารภาพรักสาวแฮะ


โดย: กำจาย (กำจาย ) วันที่: 22 ตุลาคม 2551 เวลา:20:34:31 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Quaver
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




เป็นคนหัวแข็งที่มาพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ
เป็นคนหัวอ่อนที่มาพร้อมท่าทางแข็งๆ




Friends' blogs
[Add Quaver's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.