Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
28 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 
เมื่อไรจะ ‘เข้าหอ’...หวา!!?~





วาบหวาม วาบหวาม...ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ด้วยความเป็นคน ‘คิดลึก’ แม้จะไม่ได้ชื่อว่า อาจารย์คึกฤทธิ์ ก็ตาม...ด้วยความเคารพ


ก็มันช่วยไม่ได้จริงๆนี่นา บรรยากาศในเรื่องมันชักจูงชวนให้สงสัยตะงิดๆ ทิ้งให้สงสัยอยู่ได้~
คน ‘คิดลึก’ อย่างเรามันก็เลยฉงนไป ลุ้นไป
ออกจะเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่ชอบมุดมุ้งชาวบ้านน่ะสิ...เสียงกระซิบจากเจ้าปีศาจที่ไหล่ซ้ายเยาะหยันแกมเย้ย
ชริ!!! ยอมรับก็ได้ ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย
เรื่องพรรณอย่างงี้ ไม่ว่าจะวางมาดแค่ไหนก็อดอยากรู้นิดอยากเห็นอีกหน่อยไม่ได้หร๊อก...



ไม่นึกเลยว่าจะกลับเอาละคร “คลื่นรักคลื่นชีวิต” กลับมาเขียนไวปานกามนิตหนุ่มฉะนี้


มันช่วยไม่ได้จริงๆเนอะ
ก็ “ลูกผู้ชายที่สง่าผ่าเผย” อย่างนายน้อยแห่งโทงาวะ ช่างมีเรื่องราวชวนให้หลงใหลได้ปลื้มดั่งเกล็ดฟู่ฝอยสีขาวที่ตกกระจายทั่วท้องฟ้าน้ำเงินใส








ละครพีเรียด NHK เรื่อง "คลื่นรักคลื่นชีวิต"




ภาพนายน้อยแห่งโทงาวะ ยืนกางร่มกระดาษท่ามกลางหิมะสีขาวลอยลอออ่อนอย่างไม่หยั่นระย่อต่อความหนาวเหน็บ ย้ำคำสัญญาที่ให้ไว้กับคาโอรุ สาวคนรัก ที่ว่าจะกลับมายังอิริโจไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตามจนกว่าคุณพ่อของคาโอรุจะใจอ่อนยอมยกคาโอรุให้มาเป็นเจ้าสาว

...ก็ยิ่งทำให้ภาพลูกผู้ชายที่แสนสง่าผ่าเผยคนนี้ ดูดั่งหลักปราการมั่นคงทั้งเป็นที่ไว้วางใจได้ไม่ว่าจะผ่านกาลเวลาไปนานนับแค่ไหนก็ตาม


เหตุการณ์มากมายตามมา เรื่องราวพลิกผันจึงเกิดขึ้น

ริซึโกะไหว้วานให้คาโอรุไปหามิสึฮาชิ ชายคนรักของตนที่เป็นพวกเอียงซ้าย ก็น่าจะประมาณพวกสังคมนิยม จนตกเป็นผู้ต้องสงสัยที่ทางการต้องการตัว

เมื่อคาโอรุเดินทางไปถึง จึงถูกจับกุมตัวไปเข้าซังเต...เอิ้ก ก ก
แม้ตอนหลังจะถูกปล่อยตัวออกมาเนื่องด้วยหลักฐานไม่เพียงพอก็ตาม แต่ชื่อเสียงที่เสียไป ก็กู้กลับคืนมาไม่ได้
ริซึโกะพยายามจะไปสารภาพความจริง ก็โดนพ่อขัดขวางไว้โดยให้เหตุผลเรื่องชื่อเสียงและความปลอดภัย

เมื่อเป็นดังนี้
เส้นทางความรักของหนุ่มสาวคู่นี้จึงเริ่มมาบรรจบกัน







แม้บันโด คิวเบ พ่อของคาโอรุจะปากแข็งว่า ลูกสาวของร้านโชยุเก่าแก่จะไปเป็นเมียชาวประมงไม่ได้
แต่ว่าในใจลึกๆนั้น เขาเองก็รู้สึกพอใจกับไอ้หนุ่มใจกล้า เด็ดเดี่ยวอย่างโซคิจิไม่น้อย
การแก้ปัญหาเรื่องราวต่างๆจึงเกิดขึ้นผ่านเหตุการณ์เลวร้ายครั้งนี้
การที่ลูกสาวได้ขึ้นชื่อว่าไปมั่วสุมกับพวกหัวเอียงซ้าย ทำให้อาจไม่สามารถออกเรือนได้อีกก็เป็นได้
ร้านอิริโจก็จะเสียชื่อถ้าริซึโกะออกไปสารภาพว่า ตนเองเป็นคนไหว้วานคาโอรุให้ไปหาชายคนรัก

ดังนั้นการแก้ปัญหาทั้งหมดจึงเกิดขึ้น

นายท่านแห่งร้านอิริโจจึงได้ประกาศตัดขาดลูกสาวคนเล็ก คือ คาโอรุ
คุณพ่อถามคาโอรุว่าเข้าใจใช่ไหมว่าที่ตัดขาดนี้หมายความว่าอะไร
ดวงตาใสแจ๋วราวกับเด็กน้อยจ้องมองกลับมา สาวน้อยพยักหน้าช้าๆบอกถึงความเข้าใจ แล้วบอกว่า คุณพ่อปล่อยให้หนูเป็นอิสระ สามารถแต่งงานกับคุณโซคิจิได้



การหมั้นหมายจึงได้เกิดขึ้น
การเตรียมการแต่งงานได้จัดเตรียมไปเรื่อยๆ


ระหว่างนั้นมีงานบงโอโดหริ ทำให้คู่หมั้นทั้งสองได้มาพบหน้าพูดคุยกัน
เมื่องานเต้นรำสิ้นสุดลง

คู่รักมานั่งชมจันทร์สีเหลืองนวลกระจ่างฟ้า
คาโอรุหลุดปากถึงความกังวลที่อยู่ในหัวใจมาโดยตลอด ว่าทั้งสองอาจไม่ได้แต่งงานกันก็เป็นได้
โซคิจิถึงกับประหลาดใจกับความกังวลครั้งนี้ เอ่ยปากปลอบใจในรูปแบบชาวประมงขึ้นมา ชนิดที่คนฟังต้องอมยิ้ม
“พูดเป็นเล่นไปได้” นายน้อยทำเสียงดุๆ “ปลาที่มาติดอวนแล้ว” สายตาหนุ่มเจ้าเล่ห์แวบขึ้นมา มือแข็งแรงโอบสาวน้อยข้างกายมาซุกกอดไว้หว่างหัวใจ “จะให้หลุดไปได้ยังไง”


เมื่อถ้อยคำเย้าแหย่ระหว่างคนรักเกิดขึ้น ทำให้เห็นภาพชายหนุ่มที่เอาแต่นิ่งเฉยได้ชัดขึ้นว่าที่แท้ก็เป็นหนุ่มน้อยเจ้าเล่ห์แสนกลไม่เบา
ชายหนุ่มผู้ช่างเก็บงำความรู้สึก ถูกดวงจันทร์นำย้อนเรื่องราวในวันที่คาโอรุเข้าใจผิดว่าเขาติดพายุอยู่กลางทะเล


“ตอนนั้นพระจันทร์ก็ประมาณนี้เหมือนกัน” โซคิจิทอดสายตามองไกลออกไป “น้ำตาของเธอมีแสงระยิบระยับ...สวยมากเลย”
สายตาชายหนุ่มเลื่อนมาจับยังไปหน้าสาวน้อยในอ้อมกอดไม่วางตา
“ไม่รู้ว่าพระจันทร์นั่นจะจำได้ไหม” คาโอรุส่งรอยยิ้มให้กับดวงจันทร์ทอแสง
“เรื่องอะไร”
“เราสองคนไง” สาวน้อยหันมาบอกชายคนรัก
“ลองทดสอบดูสิ” โซคิจิวางกับดักแห่งความหวานล่อลูกกวางน้อยมาติดกับ
“ทดสอบเหรอ?” สายตาคาโอรุบ่งบอกชัดถึงความงุนงงไม่เข้าใจ
โซคิจิไม่ต่อคำ มือแข็งแรงค่อยรั้งตัวสาวน้อยมาชิดใกล้ แสงจันทร์ทอแสงนวลจับคู่รักทั้งสองราวกับร่ายเวทมนตร์ผ่านจุมพิตอันแสนหวาน







ฮู้วววว์ เป็นฉากรักเจ้าเล่ห์ของฝ่ายชายที่สุดแสนน่าหมั่นเขี้ยว
ต้องแอบหัวเราะในการหลอกล่อแบบน่ารักน่าหยิกของชายหนุ่มที่จู่ๆก็เล่นบทพ่อหนุ่มคาสโนว่าขึ้นมาเอาดื้อๆ
จนกลายเป็นฉากรักที่ชวนจดจำอีกครั้ง





วันที่ 4 เดือนธันวาคม ปีโชวะที่สาม
คาโอรุถูกส่งตัวจากบ้านของแม่ที่โมโตะโนชิ
เดินทางด้วยรถลากในชุดชิโรมุคุพร้อมขบวนเจ้าบ่าวสายยาวเหยียด
นายน้อยแห่งโทงาวะเดินเคียงข้างเจ้าสาวของตนไม่ยอมห่าง
....เส้นทางสายความรักของทั้งสองเดินทางบรรจบเป็นสายเดียว







มีคำพูดอยู่ว่า
คนทำโชยุจะใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ในหมู่ชาวประมงจะฟุ่มเฟือยกันมาก ไม่ว่าจะมีเงินหรือไม่ก็ตาม เพราะว่าไม่ว่าจะมีงานเลี้ยงใดก็ตามก็จะจัดอย่างยิ่งใหญ่เสมอ


คำกล่าวอ้างนับร้อยนับพันถ้อยคำก็สู้ภาพจริงภาพเดียวไม่ได้
อย่างน้อยๆก็สู้กับงานเลี้ยงแต่งงานครั้งนี้ไม่ไหวแน่ๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

งานแต่งงานของชาวเลจะจัดเลี้ยงถึง 4 วัน แต่ละวันเลี้ยงกันเต็มคราบทั้งเหล้ายาปลาปิ้งไม่ขาดมือ
คืนแรก เลี้ยงญาติสนิท
คืนที่สอง เลี้ยงญาติมิตรที่ไกลห่าง
คืนที่สาม เลี้ยงเพื่อนบ้าน
คืนสุดท้าย เลี้ยงเพื่อนสนิทของโซคิจิ



“ชาวโจชิมีคำกล่าวว่า ต้องรับเจ้าสาวตอนไก่ขัน”

เจ้าสาวถูกนำกลับเข้าห้องหอในคืนแรก ขณะที่เจ้าบ่าวถูกรินเสิร์ฟสาเกอย่างไม่ขาดมือ
พองานเลี้ยงเลิกลง
คาโอรุในชุดยูคาตะสีแดงสด ได้แต่อมยิ้มจ้องมองเจ้าบ่าวที่เมามายจนไม่ได้สติข้างกาย






......แล้วอย่างงี้จะไม่ได้คนดูอย่างเราคิดลึกได้ไง้~
เรื่องราวมันชี้ชวนแถมชักนำให้คิดจะตายไป
ไอ้ความฉงนชักชวนคุณฉงายมันก็เลยเกิดขึ้นมาอย่างง่ายดาย
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปนเขินเล็กน้อยของเราก็เลยเกิดขึ้นมาตั้งแต่ตอนนี้....



เช้าวันต่อมา
คาโอรุเข้ามาช่วยงานในครัว
เมื่อโซคิจิเดินเข้ามาหา
จึงโดนลูกน้องแซวขึ้นมาว่า “นายน้อยเอาแต่นอนไม่ได้ทำอะไรเลย อย่างนี้เสียชื่อชาวประมงโทงาวะหมดเลย”



กร๊ากกกก โอ้โฮ! บทชี้นำโจ่งแจ้งแบบไม่ให้คิดไปทางอื่นได้เลย
ฉะนั้นแล้วคนอย่างเราจึงเริ่มปรากฏการณ์ ‘ลุ้น’ ปน ‘รอ’ อย่างตั้งอกตั้งใจอย่างช่วยไม่ได้
บวกเกรงใจคนเขียนบทกลัวเขาจะน้อยใจน่ะ....ฮะ ฮะ ฮ่า





งานเลี้ยงคืนที่สองสิ้นสุดลงจนเกือบรุ่งสาง
คาโอรุที่เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันก็หลับสนิทไปอย่างไม่รู้ตัว
ได้แต่ปล่อยเจ้าบ่าวตะแคงตัวเท้าแขนจ้องมองด้วยรอยยิ้ม เมื่อลองตัดใจเอื้อมตัวเอานิ้วชี้จิ้มลงที่ปลายจมูกคาโอรุอย่างแผ่วเบา สายตาอ่อนโยนนุ่มนวลจับจ้องสาวน้อยที่ยังคงหลับตาพริ้มไม่รู้สึกตัว รอยยิ้มแห่งความขบขันก็ขยายทั่วใบหน้าคมสันของนายน้อยแห่งโทงาวะ ก่อนตัดใจเอี้ยวตัวไปปิดโคมไฟที่หัวนอน








คืนเข้าหอคืนที่สองก็ผ่านไป

รอยยิ้มของคนดูก็ยิ่งกว้างตามมา
ปล่อยให้ ‘ลุ้น’ และ ‘รอ’ กันต่อไป

คืนที่สามผ่านไป
จนมาถึงคืนสุดท้าย







คู่บ่าวสาวนั่งเผชิญหน้ากันที่ห้องหอ
โซคิจิพูดถึงความในใจของตัวเองให้สาวในดวงใจรับรู้
“พูดตามตรงนะ ฉันไม่เคยคิดว่าจะได้อยู่กับเธอ จนถึงตอนนี้ก็ไม่อยากจะเชื่อ”
สายตาคมกริบจ้องตรงมาแสดงความแน่วแน่
“ขอบใจนะที่มาอยู่กับฉัน”
ชายหนุ่มที่หยิ่งทะนงในตนเองมาตลอดชีวิต ค้อมไหล่กว้างลงพร้อมย้ำอีกครั้ง
“ขอบใจจริงๆ”

สาวน้อยที่ซื่อสัตย์กับหัวใจตัวเองมาโดยตลอด กล่าวคำตอบที่ทำให้นายน้อยจ้องมองกลับมาด้วยสายตาที่เต็มล้นไปด้วยความรู้สึกจากหัวใจ
“ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณ เพราะว่าถ้าไม่ได้อยู่กับคุณโซคิจิ ฉันก็ตั้งใจจะอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิต”

เมื่อโซคิจิรับรู้ความรู้สึกนั้น มือใหญ่กว้างเอื้อมมากุมมือเล็กบางไว้แน่น

“เป็นเมียชาวประมงมันลำบากนะ” นายน้อยแห่งโทงาวะพูดด้วยเสียงหนักแน่น “และเธอก็ไม่ใช่ลูกชาวเลจึงอาจต้องเหนื่อยกว่าคนอื่น” ชายหนุ่มจับจ้องหญิงสาวคนรักไม่วางตา “แต่ว่านะ...ถ้าจับมือฉันไว้แบบนี้ก็ไม่ต้องห่วง ฉันจะอยู่กับเธอไปจนชั่วชีวิต”







โอย~ ~ ~ มัวแต่ลุ้นเรื่องเข้าหอ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ไม่นึกว่าจะมาเจอบทรักแสนหวาน ทำเอาหัวใจลอยล่องไกล


คาโอรุรับความรู้สึกนั้นเอาไว้ในอุ้งมือ
“ฉันน่ะชอบมือคู่นี้ของคุณโซคิจิ ตอนเจอกันครั้งแรกคุณก็ช่วยเอาเสี้ยนออกจากมือฉัน ใช่ไหมคะ” รอยยิ้มของสาวน้อยบอกเล่าเส้นทางสายความรักของทั้งคู่ “หลังจากนั้นตอนที่แยกกันที่สถานีโมโตโจชิด้วย”
โซคิจิอมยิ้มด้วยความเอ็นดูสาวน้อยตรงหน้า เย้าขึ้นว่า
“นี่มือชาวประมงนะ จะเหม็นคาวตลอดเลยนะ”
คาโอรุกลับตอบอย่างจริงจังไม่มีเกี่ยงงอนกลับมา จนทำให้นายน้อยอดยิ้มกว้างรับอีกครั้งจนได้
“ฉันน่ะ...เป็นเมียชาวประมง”
“ตั้งแต่นี้ไป เธอเป็นเมียชาวประมงแล้ว” ชายหนุ่มดึงสาวน้อยเข้ามาไว้ในอ้อมกอด



คนดูหน้าจอก็คงมีสภาพ...เท้าคางบนโต๊ะ ตาล่องลอย ตกในห้วงอารมณ์ฝันตามไป
แล้วบอกกับตัวเองว่า...ไม่ต้อง ‘รอ’ ไม่ต้อง ‘ลุ้น’ แร้น~

ฮ่า ฮ่า ฮ่า แล้วดั่งเหมือนปลาโดนทุบหัวไม่ทันรู้ตัว



เสียงนายหญิงแห่งโทงาวะดังแทรกมา เรียกให้โซคิจิออกไปจัดการปรามเพื่อนๆที่หวนกลับมาเอะอะโวยวายขอดูหน้าเจ้าสาวอีกครั้ง


เวลาโบยบินผ่านไป
คาโอรุเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นยูคาตะสีอ่อนลายดอกไม้เล็กๆ นั่งรออยู่อย่างเงียบๆที่ห้องหอ
เมื่อเจ้าบ่าวเดินกลับมา
คาโอรุโค้งกายคำนับ ขอฝากตัวอย่างเป็นทางการต่อหน้าชายคนรัก

“คุณโซคิจิ ฉันน่ะยังไม่ประสีประสาเรื่องอะไรเลย ไม่รู้ว่าชาวประมงและเจ้าของเรือประมงต้องทำอะไรบ้าง” สาวน้อยเงยหน้าขึ้นสบตาอย่างแน่วแน่ “แต่ว่า...ในเมื่อฉันได้อยู่กับคุณโซคิจิแล้ว ฉันมีความสุขที่สุดในโลกนี้แล้ว ฉันพร้อมอดทนต่อความลำบากทุกอย่าง เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงฉันนะ ตั้งใจทำงานให้ดีเถอะค่ะ”

โซคิจิรับรู้ถึงความแน่วแน่เด็ดเดี่ยวของคาโอรุ ความรู้สึกบางอย่างค่อยๆซึมผ่านหัวใจอย่างช้าๆ สายตาของเขาจ้องมองเธอราวกับจะโอบกอดความรู้สึกที่ถูกส่งมา

“เข้าใจแล้วล่ะ”นายน้อยพยักหน้ารับ บอกกล่าวความรู้สึกตนเองย้อนกลับไป “คนที่มีความสุขที่สุดในโลกนี้คือ ฉันต่างหาก”
ชายหนุ่มเคลื่อนตัวจนระยะห่างระหว่างทั้งสองคนไม่หลงเหลือแม้เศษเสี้ยว จับกุมมือหญิงสาวไว้แน่น
“เธอเป็นสิ่งมีค่าของฉัน” ชายหนุ่มย้ำหนักแน่น “ฉันจะดูแลอย่างดี”

ดวงตากลมโตใสบริสุทธิ์ของสาวน้อยคาโอรุคลอไปด้วยหยดน้ำตาจนพร่างพราว
นายน้อยแห่งโทงาวะดึงตัวสาวคนรักมาไว้ในอ้อมกอด
คาโอรุพูดขึ้นราวกับละเมอ “ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหมคะ ฉันได้เป็นเจ้าสาวของคุณโซคิจิแล้วใช่ไหม”
เสียงทุ้มหนักตอบกลับมาเพิ่มน้ำหนักที่หัวใจของทั้งสอง
“ใช่แล้ว เราเป็นผัวเมียกันแล้ว”

ชายหนุ่มโน้มกายก้มประทับตราความเป็นเจ้าของบนริมฝีปากอวบอิ่ม ตะคองกอดหญิงสาว เอนกายลงด้วยความนุ่มนวลอ่อนหวาน









นายน้อยแห่งโทงาวะกับคาโอรุเจ้าสาวแสนสวย
โมงยามของความรักในค่ำคืนแห่งความทรงจำ









รอยยิ้มกว้างของคนดูก็ฉีกยาวถึงใบหู
พร้อมกับเสียงในใจก็ดังกังวาน

“จนได้~ เข้าหอคืนที่สี่นี่เอ๊ง เงง เงง เงง~”











Create Date : 28 พฤษภาคม 2552
Last Update : 5 มิถุนายน 2552 9:56:14 น. 4 comments
Counter : 1359 Pageviews.

 


โดย: แมงหวี่@93 วันที่: 28 พฤษภาคม 2552 เวลา:14:56:38 น.  

 
น่ารักดี


โดย: ก้าวไปตามใจฝัน วันที่: 28 พฤษภาคม 2552 เวลา:16:53:56 น.  

 


อยากดูละครเรื่องนี้จังค่ะ

เราชอบแนวพีเรียด โรเมนติกแบบละเมียดละไมดีค่ะ ชอบมาตั้งแต่ทวิภพ อ่านหนังสือและดูภาพยนตร์

เรื่องแปล ต่าง ๆ

ขอบคุณนะคะไปชมห่อหมก

คุณจขบ สบายดีนะค๊า


โดย: fleuri วันที่: 1 มิถุนายน 2552 เวลา:7:33:59 น.  

 
อ่า.... ฉากเข้าหอเนี่ย
แค่เอนตัวลงเองเหรอคะ

แอบผิดหวัง 5555555555


โดย: โสดในซอย วันที่: 4 กรกฎาคม 2552 เวลา:11:51:16 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Quaver
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [?]




เป็นคนหัวแข็งที่มาพร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ
เป็นคนหัวอ่อนที่มาพร้อมท่าทางแข็งๆ




Friends' blogs
[Add Quaver's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.