สิงหาคม 2550

 
 
 
1
2
3
4
8
11
12
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
Japan 2007 July 29 - Aug 5 (วันแรก โตเกียว,คามาคุระ,โยโกฮามะ)
ในที่สุดหลังจากที่เตรียมตัวขอวีซ่ามานาน จองตั๋วออกตั๋วโปรการบินไทย ราคา 19,xxx บาท รอมาน๊านนาน ในที่สุดชั้นก็ออกเดินทาง พร้อมกะชินจัง (ว่าที่ซะมี) เพื่อไปเที่ยวส่วนนึง แล้วก็ปฏิบัติภาระกิจ เอาตัวไปให้พ่อแม่ิชินจังดู ออกเดินทางคืนวันเสาร์ที่ 28 จากบางนาด้วยรถบัส 522A (ไปแบบประหยัดเซฟคอสสุดฤทธิ์) ไปถึงตั้งแต่สองทุ่ม หวังว่าจะได้ที่นั่งริมหน้าต่างสุดเลิฟ แต่ก็ไม่ได้ เพราะไฟลท์เต็มมาก จะแปลกอะไร ก็มันวันหยุดยาวเนอะ คนไทยไปเที่ยวกันเยอะพอขึ้นเครื่องชั้นก็หลับครอก ตื่นเช้ามาถึงพอดี

สนามบินนาริตะ ใช้เวลาเช็คอินนานมั่กๆ แถว re-entry คนน้อย แต่แถวคนเข้าเมืองหน้าใหม่ซิงๆ อย่างพวกชั้นเนี่ย มันยาวเฟื้อย รอประมาณเกือบชั่วโมง ก่อนหน้าที่ชั้นจะได้เข้าไปเผชิญหน้าตม. ก็มีสาวไทยแต่งตัวเปรี้ยวปริ๊ด ชีกรอกใบขาเข้าไม่เป็น เลยถามสาวไ้ต้หวันเป็นภาษาอังกฤษ ชั้นมองเห็นหนุ่มไทยสองคน มองสาวคนนั้นด้วยสายตาเหยียดหยามสุดฤทธิ์ เพราะคิดว่าแม่สาวไทยนั้นโง่ภาษาอังกฤษมากๆ แบบนี้คงไม่ผ่านตม. แต่พอชีเข้าไปเผชิญหน้าตม. ชีสปี๊คญี่ปุ่นเฉยเลย ผ่านตม.ไปอย่างฉลุย ไอ้สองหนุ่มนั่นงงเต๊กไปเลย ส่วนตัวเดี๊ยน... ก็ผ่านฉลุย ตม. ไม่ถามไรเลย ตอนแรกเสียวเหมือนกัน เพราะเห็นพวกหน้าฝรั่งยังโดนเข้าห้องเย็นไปหลายคน ปกติ พวกยุ่นเครซี่ฝรั่งจะตาย ชินจังที่ยืนรอชั้นหลังตม. ยังงง ถามชั้นว่า "ไมเร็วจัง เค้าไม่ถามไรเลยเหรอ?" ฮุๆ ไม่รู้จักชั้นซะแร้ว ชั้นคนเล่นของย่ะ

ต่อมาช่องตรวจของศุลกากร ชั้นแอบเห็นตาสองหนุ่มไทยที่ัหัวเราะเยาะเย้ย สาวไทยเปรี้ยวปริ๊ดคนนั้น โดนศุลกากรขอเปิดกระเป๋าตรวจค้น ซวยไป ในขณะนี่แม่สาวเปรี้ยวปริ๊ด ผ่านฉลุยอีกตามเคย ป่านนี้ชีคงนั่งรถไฟไปเกือบถึงที่พักแล้วมั้งเนี่ย คนเรานี่ ไม่ควรจะดูถูกกันจะดีกว่าอะนะ เอ๊..แต่ชั้นนี่ จะไปเล่าเรื่องเค้าทำไมอ่ะ

ชั้นก็ผ่านช่องตรวจศุลกากรอย่างฉลุย ไม่ได้โดนเปิดเป๋าเลย เพราะชินจังชี้แจงเสร็จสรรพ หลังจากนั้น ก็ออกมาซื้อตั๋วรถไฟ เราซื้อตั๋ว holiday pass แบบว่าเป็นตั๋ววันเีดียว เที่ยวได้หลายที่ ระหว่างรอชินจังเดินเช็คสายรถไฟ ชั้นก็ถ่ายภาพแรกอันสวยงาม และทรงคุณค่ามากมาย นั่นก็คือ



เส้นทางการเดินรถไฟ ซึ่งภายหลังได้ช่วยเราไว้ เวลางง ไม่รู้จะต่อรถไฟสายไหนได้ดีมากๆ

หลังจากนั้นเราก็ขึ้นรถไฟ ไปโรงแรม โรงแรมของเราอยู่ที่โอไดบะ ต้องเปลี่ยนสายรถไฟหลายสายมั่ก ไปถึงโรงแรมก็เกือบเที่ยง ชินจังพาไปกินข้าวที่ร้านในโรงแรม แล้วบอกว่ารอเช็คอินบ่าย 2 ไม่ไหว จะไปเที่ยวคามาคุระไม่ทันนะ พอกินข้าวเสร็จก็รีบไปฝากกระเป๋า แล้วเดินทางไปคามาคุระทันที

จุดหมายปลายทางแรก ไดบุทสึ... ว้าว..ถูกใจสุดๆ



เพราะชั้นเป็นพุทธศาสนิกชนคนนึงเหมือนกัน ก็เลยอยากมาที่นี่ แล้วก็จำได้ว่าสมัยเรียนภาษาญี่ปุ่น ในหนังสือเรียนก็มีเรื่องที่คนญี่ปุ่นพาเพื่อนต่างชาติมาเที่ยวที่นี่ด้วย ก็เลยอยากมาดูมากๆ ยิ่งได้ไปอ่านหนังสือท่องเที่ยว แล้วพบว่าพระองค์นี้แต่เดิมชำรุดเสียหาย แต่ภายหลังผู้มีศรัทธาชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก ได้ช่วยกันบริจาคเพื่อสร้างองค์พระขึ้นมาใหม่ บวกกับมีเรื่องเล่าว่า มีครั้งหนึ่งเกิดสึนามิ บ้านเรือนประชาชนเสียหายมากมาย แต่พระใหญ่กลับไม่เป็นไรเลย ช่างน่าอัศจรรย์นัก ตอนแรกชั้นก็คิดว่าพระใหญ่องค์นี้เป็นพระพุทธรูป ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นแล้ว แต่จริงๆ แล้ว ไม่ใช่เลย พระุพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น อยู่ที่เมืองนารา วัดโทไดจิ ซึ่งชั้นก็มีบุญ ได้ไปกราบมาแล้วเหมือนกัน



ไหว้เสร็จแล้วก็ชักภาพกันหน่อย ภาพคู่ชู้ชื่น ชั้นอธิษฐานขอพรไปเรียบร้อยแล้ว อิๆ ชินจังเอ๋ย หนีไม่รอดร้อก

จริงๆ รอบๆ ไดบุทสึมีสถานที่ท่องเที่ยวเป็นโบราณสถานอีกหลายแห่ง แต่ชั้นเลือกไปแหล่งช้อปปิ้ง ของคามาคุระเป็นอันดับต่อไป แต่ไปแล้วก็ผิดหวังง่ะ อ่านในเว็บ yokoso Japan เค้าบอกว่าเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่บีซี่สุดๆ ในคามาคุระ แต่ไปจริงๆ ย่านโอสุแคนนอนที่นาโงย่า ยังบีซี่กว่าแยะ ผิดหวังเจงๆ ไม่ได้ซื้อไรเลย ได้แต่เดินสำรวจตลาดเฉยๆ



ภาพนี้ถ่ายตอนเดินลงมาจากชมองค์ไดบุทสึ แวะกินไอติม ไอติมนี้เป็นสีม่วงๆ คาดว่าทำมาจากหัวมันสีแดงๆ (แถวบ้านเรียก "มันแม่ไก่") อร่อยดี

หลังจากชมย่านสุดบีซี่ของคามาคุระแล้ว ชั้นก็หิว ชินจังบอกว่าจะพาไปกินข้าวที่โยโกฮาม่า จะไปดินเนอร์แบบโรแมนติค ว่าแล้วก็นั่งรถไฟต่อไป.. คนแยะมาก ยืนจนเมื่อย ตอนแรกไปไชน่าทาวน์ก่อน ชั้นก็ยังอารมณ์ดีๆ หนุกหนานสุดๆ ทั้งๆ ที่เริ่มเหนื่อยและง่วงมากๆ เพราะว่านอนหลับบนเครื่องไม่พอ ตาโดนลมจนแดงไปหมด



"ไชน่าทาวน์ โยโกฮาม่า" "ตุ๊กตาหมีแพนด้า กะแพนด้าตัวจริง อิๆ"

เดินไปแถวชายฝั่งอีก เมื่อยขาสุดๆ หาร้านถูกใจไม่มีเลย ให้ตายเหอะ ชินจังก็ชี้ชวนให้ชมความโรแมนซ์ ชั้นก็ยอมรับอะนะ ว่าชอบ แต่มาตอนเหนื่อย เมื่อย หิวเนี่ย ชั้นโรแมนซ์ไม่ออกจริงๆ สุดท้าย เราก็เดินหาร้านอาหารโรแมนซ์จนค่ำมืด หาไม่เจอ เลยมากินข้าวในช้อปปิ้งมอลล์แทน จำได้ว่ากินข้าวหน้าหมูทอด (ทงคัทสึ) นะ กินกันตายง่ะ ไว้ค่อยโรแมนซ์กันวันหลังละกัน

กลับถึงโรงแรมเกือบๆ สองทุ่ม ชั้นรีบอาบน้ำ แล้วก็เข้านอน ได้ยินเสียงชินจังชวนให้ดูวิว คือ จากโรงแรมจะมองเห็น rainbow bridge ตอนกลางคืน ไฟสวยมากๆ แต่ชั้นไม่สน ง่วงอ้ะ เที่ยงคืน ชั้นหลับไปแล้ว งัวเงียตื่นมาได้ยินเสียงชินจังบ่นงึมงำว่า "คนอะไร ไม่โรแมนติคเลย ... ผู้หญิงอะไร ไม่โรแมนติคเลย" ชั้นไม่สน หลับต่อ เช้าตื่นมาเอามาล้อชินจังว่าบ่นอะไร ไม่หลับไม่นอน แล้วชินจังก็บอกชั้นว่า "ผมรู้แล้วละ ว่าผมน่ะ โรแมนติคกว่าคุณแยะ" เออ สงสัยจะใช่แฮะ



Create Date : 05 สิงหาคม 2550
Last Update : 6 สิงหาคม 2550 9:12:19 น.
Counter : 776 Pageviews.

8 comments
  
มาเยี่ยมจ้า
โดย: meaw_1985 วันที่: 6 สิงหาคม 2550 เวลา:16:59:50 น.
  
สวยเริด ท่ากินไอติม แบ๊ว สุดเลยเจ๊
โดย: paradisebkk วันที่: 6 สิงหาคม 2550 เวลา:20:51:11 น.
  
แทบไม่อยากกลับไทยเลยง่ะนู๋บัว... แฮปปี้ซะ
โดย: littlebitlittlemore วันที่: 6 สิงหาคม 2550 เวลา:22:11:43 น.
  
หน้าเด้งเหลือเกิน
หวานแหววจนน่าอิจฉา

อย่าให้เป็นทีของช้าน(ว่าที่คุณแม่ลูกสอง)บ้างนะ

เหอ เหอ
โดย: Stamp 's mama IP: 203.146.144.78 วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:16:34:12 น.
  
ได้ตั๋วถูกดีจังคะ ขอให้เที่ยวให้สนุกนะคะ
โดย: mintny_n วันที่: 9 สิงหาคม 2550 เวลา:13:36:35 น.
  
ท่าจะเป็นคนอารมณ์ดีนะค่ะ

เขียนหนุกหนานดี

น่ารักค่ะ
โดย: ภูเก็ต-ป่าตอง วันที่: 9 สิงหาคม 2550 เวลา:14:29:14 น.
  
อยากไปเที่ยวบ้างจัง ... สวยมากเปล่าเนี้ย
โดย: saku.. (sakuradee ) วันที่: 13 สิงหาคม 2550 เวลา:15:42:52 น.
  
มาเยี่ยมด้วย blog สวยจ้า น่ารักจัง.... อยากไปญี่ปุ่นเหมือนกันเลย
โดย: Yammycherry วันที่: 17 สิงหาคม 2550 เวลา:22:59:59 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

littlebitlittlemore
Location :
Sweet Home Alabama  United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]



สวัสดีจากอลาบาม่า สหรัฐอเมริกา
Subscibe ช่อง Home of the brave

เพื่อคนไทยในอเมริกา

MY VIP Friend