เมษายน 2552

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
(◕‿◕✿)ชะโงกทัวร์มาเลเซีย กะ Epa
ตอนแรกอีป้าสัญญาไว้ว่าจะอัพทริปแทนซาเนียตอนที่ 4 แต่อีป้าต้องขออภัย ที่ไม่สามารถทำตามคำพูดได้ ทั้งนี้ก็ต้องโทษความโชคดีแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย (มีแต่ฉิ่งกับฉาบ อิๆๆ) ของอีป้านั่นเอง คนอาไร้มันช่างโชคดีเยี่ยงนี้ จู่ๆ งานที่อีป้ายกให้เพื่อน (ก็รุ่นลุงๆ ปู่ๆ ล่ามอะนะ) ก็มีอันได้ย้อนกลับมาถึงมือีป้า เพราะว่าอีป้าน๊าน มันโชคดี ฮี้ๆๆๆๆ กั่บๆๆๆๆ (-_-") (อีป้าเกิดปีม้าน่ะ เลยคึกไปหน่อย) ตอนแรกอีป้ายกงานนี้ให้เพื่อนรุ่นลุงล่ามไป เพราะอีป้าไม่สะดวกที่จะต้องไปเมืองนอกกะญี่ปุ่นผู้ชาย (แก่ๆ) สองต่อสอง มันจะไม่งาม (ถ้าไปกะญี่ปุ่นชายหนุ่มๆ นี่ไปฟรีอีป้าก็ไปฟระ ไม่ต้องจ้าง ) (-_-") 555

แต่งานครั้งนี้ บังเิอิ๊ญบังเอิญว่าเค้าส่งสาวคิวซีสองนางไปตรวจสอบคิวซี ดังนั้นการใช้ล่ามสุภาพสตรีจึงเป็นการดีกว่า (แม้ว่าอีป้าจะไม่ใช่ล่ามที่สุภาพก็เฮอะ..แต่ก็ยังเป็นสตรีอะนะ) ลูกค้าก็เลยเรียกใช้อีป้า โดยการทำงานก็สุดแสนง่าย สบายเป็นที่ซรู๊ด อีป้าก็เลยขอลูกค้าให้เลื่อนไฟลท์กลับให้อีป้าด้วย เพราะอีป้าจะไปเที่ยว ไหนๆ ก็ได้ตั๋วฟรีไปแร้วนินา ฉวยโอกาสเที่ยวซะเรย อิๆๆๆ ใครจะยอมให้ตั๋วเครื่องบินเสียเปล่าละเคอะ

การเดินทางก็เริ่มตั้งแต่บ่ายวันพุธ เช้าวันพุธอีป้ายังนั่งปั่นงานแปลยังไม่เสร็จ เช้ามาดริ๊งค์กาแฟยี่ห้อโออิชิไปขวดนึง และนั่งแปลงานถึงบ่ายสาม บ่ายสองพี่คิวซีโทรมา บอกว่าถึงสนามบินแร้ว แต่อีป้ายังหัวฟู น้ำท่าไม่อาบ นั่งแปลงานงกๆๆๆ (งกโคตรๆ ) ในที่สุดงานก็เสร็จตอนบ่ายสาม อีป้ารีบอาบน้ำและแต่งตัวไปสนามบิน ตอนแรกจะนั่งรถเมล์ไปนะ (งกเจงๆๆ) แต่ว่าเวลาไม่พอ อีป้าดีเลย์มากแร้ว เลยต้องนั่งแท๊กซี่ไป

ถึงสนามบินก็ต้องรีบเช็คอิน อีกแป๊บก็จะถึงเวลาขึ้นเครื่อง อีป้าเลยให้พี่สองคนเค้าเข้าไปก่อน ส่วนอีป้าไปกดเงิน พี่เค้าบอกให้ไปแลกเงินที่มาเลย์ อีป้าก็เลยแค่กดเงินไป 6000 บาทไทย แล้วรีบวิ่งไปที่เกท โอยยย เหนื่อยจริงว้อยยยย ทั้งวันไม่ได้กินข้าวเลยแม้แต่เม็ดเดียว

ถึงเกท ..ไม่มีใครอยู่เรยย เพราะเค้าขึ้นเครื่องกันหมดแร้ว พออีป้าเดินขึ้นเครื่องได้สักพัก ก็ได้เวลาออกเดินทาง อีป้าขึ้นเครื่องก็ท้องร้องจ๊อกๆๆ รออาหารไปก็เม้าท์แตกกะพี่สองคนไป พออาหารมาถึงอีป้าก็ไม่คุยกะใครอีกต่อไป ตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเดียว กินเสร็จก็นอนเลยครับพี่น้อง ใครจะรู้ไหมเนี่ยว่าคืนก่อนอีป้านอนตีหนึ่ง เพื่อแปลงานอีกชุด เช้ามาก็ตื่นตั้งแต่หกโมง แปลๆๆๆ อีกชุดนึง ข้าวปลาไม่กิน (เพื่อเงิน อีป้าทำด๊ายยย)

หลังจากหลับๆ ไปไม่นาน แค่สองชม. ก็ถึงมาเลฯ ซะแร้ว คราวนี้อีป้าก็ดันเบลอ เนื่องจากหลับนาน พาพี่เค้าขึ้นลิมูซีนแสนแพง แทนที่จะพาไปนั่งแท๊กซี่ธรรมดาซะงั้น เนื่องจากอีป้าเบลอ อารมณ์งกก็เลยหายไป แต่ไม่เป็นไร กะตังค์บริษัทจ่ายน่ะ อีป้าจะเท่ห์บ้างจะเป็นไรไปล่ะ 555 เรื่องของเรื่องก็คือ อีป้าไม่ได้เซิจข้อมูลไรมาเลย เนื่องจากตอนแรกบริษัทบอกจะมีคนมารับ อีป้าก็เลยชะล่าใจไปนิดนุง

แม้ว่าอีป้าจะนั่งลิมูซีนก็เต๊อะ แต่ไอ้คนขับก็เป็นคนอินเดีย ดำๆๆ น่ากัวๆ เหลือเกิ๊น อีป้าเสียวแว้บ ว่าถ้าฮีพาอีป้ากะพี่อีกสองคนไปขายละก็ .. จะทำไงกันดีน๊อ นั่งรถไปหัวก็คิดไปว่ากรูจะทำไงดีฟระเนี่ย อีกอย่างนึงคือ ตอนจ่ายกะตังค์เค้ายังทอนเงินให้ไม่ครบด้วย อีป้าก็ันั่งคิดไปว่าถ้าถึงรร. แล้วเนี่ย สมมุติว่าฮีไม่คืนเงิน อีป้าจะด่าฮีว่าไงดีฟระ (นั่งคิดคำด่าไปตลอดทาง)(-_-")

แต่หลังจากฮีจ่ายค่าทางด่วน ฮีก็เอาเงินทอนคืนให้อีป้า เฮ้อ โล่งอก กรูไม่ต้องด่าคนแร้ว (อีป้าคนสุำภาพง่ะ ด่าคนไม่ค่อยจะเป็น) อิๆๆ ถึงรร. อีป้าก็ได้แอ๊ปเปิ้ลลูกนึง แทน welcome drinkพนง. เป็นคนจีนนะ แต่อีป้าขอบอก คนมาเลย์พูดอังกฤษฟังย๊ากยาก ยากฝ่าคนอินเดียที่อีป้าเจอที่อินตระเดียตอนไปเที่ยวซะอีกแน่ะ กว่าอีป้าจะปรับตัวได้ก็เกือบสองชั่วโมงหลังจากฟังพวกคนมาเลย์พูดนะ

ได้ห้องแล้วอีป้าก็มีปัญหาคือ ปลั๊กไฟที่นี่แมร่งเหมือนที่อินเดีย กะแอฟริกาเลย เป็นปลั๊กสามตาเหลี่ยมๆ อีป้าก็ไม่มีอะแด๊ปเตอร์ซะด้วย ทำไงดีๆ จะต้องคุยออนไลน์กะลุงนะเนี่ย ว่าแล้วอีป้าก็เดินลงไปข้างล่าง ไปขอยืมปลั๊กจากแม่บ้าน แล้วก็มา่ต่อเน็ทคุยกะลุงสบายใจเฉิบ คุยไปถึงห้าทุ่มอีป้าก็ขอตัวไปนอน แต่อีป้ายังไม่ได้นอนหรอก ก็ส่งเมล์หาอีป้าอ้วนเพื่อนเลิฟ ให้อีป้าอ้วนโทรไปบอกแม่อีป้าทีว่าอีป้าถึงแร้วปลอดภัยดี เซิจหารร. ทางเน็ทและเอามือถือที่เปิดโรมมิ่งโทรไปจองรร. ได้รร. สวิสอิน แถวๆ ไชน่าทาวน์ ราคา 1500 บาท ที่อีป้าไม่นอนรร. เดิมเพราะมันแพงโคตร คืนละ 2000 กว่า แถมอยู่ย่านชานเมืองบ้านนอกคอกนา ชิ.. อีป้าไม่อยู่หรอกย่ะ (เปลืองค่าแท๊กซี่เวลาเข้าเมืองด้วย นอกจากค่าห้องจะแพงแระ) จองรร. เสร็จแล้วก็ค่อยยังชั่ว หายกังวลไปเปลาะนึง ก็เลยปิดไฟนอนโลด โดยไม่ลืมที่จะตั้งนาฬิกาปลุกไว้ให้ตื่นหกโมงครึ่ง

ห้องที่อีป้านอนเป็นห้องสองเีตียง และเสริมเตียงเสริม ตามทฤษฎีลดต้นทุนของบริษัทผู้ว่าจ้าง อีป้าละเข้าใจแระ ว่าทำไมล่ามถึงเป็นอีป้า เพราะว่าอีป้าเป็นผู้หญิง ถ้าเค้าเอาล่ามชายมาจะมาแชร์ห้องลดต้นทุนอย่างงี้ได้ไงเนี่ย เซ็งจิงๆ แต่พี่สองคนเค้าก็ดี และหนิดหนมกะอีป้าได้อย่างรวดเร็ว พี่แมวเหมียวมารีดเสื้อทำงานให้อีป้าด้วย น้ำใจประเสริฐเลิศล้ำจริงๆ (T-T)

เช้าอีป้าก็ืตื่นนอนคนแรก รีบไปอาบน้ำสระผม และโบ๊ะหน้า พี่ๆ เค้าก็ทยอยกันไปอาบน้ำแต่งตัว เสร็จก็ลงไปกินข้าว และรอตาเอลวินมารับ แล้วก็ขับรถไปบริษัท ปอ. ตอ. ทำรถยนต์ของมาเลย์เค้า งานของอีป้าคือ ไปนั่งเฝ้าพี่เค้าเช็คงาน ถ้ามีใครถามก็แปลไป แปลอังกฤษไทย ง่ายโคตรๆๆๆๆ สบายโคตรๆๆ ว่างโคตรๆๆ

ตกกลางวัน ตาเอลวินมันบอกจะมารับไปกินข้าว แต่กว่าจะมาก็บ่ายโมงเข้าไปแระ ไอ้5 เอ๊ย กรูหิวนะเว้ย อาหารกลางวันคือข้าวมันไก่ ข้าวมันไก่ก็งั้นๆ แต่หมูย่างชาชูอร่อยมากมาย ถูกใจที่ซรู๊ด ! อีป้ากินเรียบ และซื้อใส่กล่องกลับไปฝากพี่เค้า

อีป้าบอกตาเอลวินว่าอีป้าจะเที่ยวต่อวันนึง ฮีก็เลยบอกว่าเย็นนี้จะไปส่งอีป้าเข้ารร. ที่ย่านไชน่าทาวน์ด้วย เย้ ! ดีใจ ไม่ต้องเหมาแท๊กซี่ ตกเย็นก็ไปส่งพี่เค้าที่สนามบิน และตาเอลวินก็ทำท่าจะพาอีป้าไปส่งที่ไชน่าทาวน์แต่ฮีมีธุระต้องกลับไปบ้านไปรับลูกชายออกมาซื้อของ กว่าอีป้าจะถึงรร. ก็สามทุ่มแระ ไอ้ 5 เอ๊ย ส่งกรูก่อนไม่ได้รึไงฟระ กรูอยากพักผ่อนเฟร้ย แต่จะว่าไปฮีก็ดีมาก คือ ฮีพาอีป้าไปส่ง พาอีป้าไปกินข้าวไชน่าทาวน์ สารพัดจะดี แถมยังเลี้ยงอีป้าอีกแน่ะ อีป้าบอกว่า "เอลวิน ให้ไอจ่ายบ้างเต๊อะยูพาไอไปโน่นไปนี่หลายที่แร้วนะ ไอเกรงใจ" ฮีก็บอกว่า "ไม่เป็นไรอีป้า แค่นี้ไอจ่ายได้" เออ อีป้าเข้าใจ แค่สามร้อยสามสิบบาทไทย อีป้าก็จ่ายได้เหมือนกัน ขนาดเค้าพูดภาษากวางตุ้งกันตอนคนเก็บตังค์มาเก็บเงินนะเนี่ย อีป้าก็ดันเจือกไปฟังออกอีกแน่ะ เค้าบอกว่า "สามสิบสามริงกิต" พูดยังก๊ะภาษาไทยแน่ะ อ่อ ลืมบอก ..ภาษากวางตุ้งก็ภาษาเดียวกะที่คนจีนเตี๊ยะบ้านเราพูดกันแหละ บังเอิญว่าอีป้าสืบเชื้อสายมาจากคนจีนซ่นเตี๊ยะ ก็เลยมีความรู้บ้างนิดหน่อย 555



หลังจากตาเอลวินพาอีป้ากินข้าว และซื้อของเดินเล่นในย่านไชน่าทาวน์เสร็จ ก็ปาเข้าไปสี่ทุ่ม คิดรึว่าอีป้าจะหลับนอนได้ง่ายๆ ? ไม่มี๊ ราตรีนี้ยังอีกยาวไกล อีป้าลงไปชั้นล่างร้านเน็ท ต่อเน็ทแชทกะลุงซะงั้น ไม่ว่าจะไปไหน ใกล้ไกล เราก็ไม่ขาด connection กันนะคะลุงขา ป้าเลิฟเลิฟลุงม๊ากๆๆๆ ค่ะ เพราะลุงท่าทางจะหงุดหงิดตั้งแต่คืนก่อน ถึงกับบอกอีป้าว่า "ต่อไปนี้ถ้าเค้าจ้างอีกไม่ต้องมาแล้วนะ" ซะงั้น พออีป้าบอกว่า"yes , sir" ลุงก็เหมือนจะรู้ตัวว่าไม่ควรจะบังคับอีป้าให้ทำโง้นทำงี้ เพราะอีป้ามีชีวิตอิสระ independence girl ไม่ขึ้นกะใครเฟร้ย ใครบังคับกรูกรูโกรธ ชิ่งหนีโลดนะเฟร้ย 555 ลุงก็เลยรีบโอ๋อีป้าว่า "ป่าวนะป้า ผมไม่ได้บังคับคุณ คุณอยากทำอะไรก็ทำ แต่ผมแค่คิดว่าคุณได้ค่าตอบแทนไม่คุ้มหรือเปล่า" จะบอกไงดีน๊า ! ว่างานนี้ง่ายเหมือนได้เปล่าจริงๆ ฟร่ะ

หลังจากคุยกะลุงเสร็จอีป้าก็ขึ้นห้อง อาบน้ำ ถ่ายรูปห้องนอนจะเอามาลงบล๊อก ก่อนจะนอนก็คิดว่า กรูจะปิดไฟนอนดีป่าวว๊า เพราะห้องมันไม่มีหน้าต่าง เป็นรร.ในตึกน่ะ อีป้าก็กลัวว่าถ้าปิดไฟหมด เช้ามาก็ไม่รู้นะเนี่ย เพราะแสงสว่างไม่มีจากข้างนอกเลย ระหว่างที่กะลังคิดอยู่นั้น อีป้าก็ล้มตัวลงนอน ตาก็ไปสะดุดกะยันต์แผ่นเขียวๆ เขียนเหมือนภาษาอิสลามติดบนเพดานห้อง อีป้าเกิดอาการเสียวแว้บขึ้นมาจับใจ ห้องนี้จะมีไรป่าวว๊า? ใจก็นึกไปว่ากรูจะทำไงดีเนี่ย ตกลงจะปิดไฟหรือเปิดไฟนอนดี แล้วก็นึกด่าตัวเองว่ารู้งี้กรูปิดไฟนอนแต่แรกก็ดี ไม่ต้องเห็นยันต์อันนี้ ทำให้พาลจะนอนไม่หลับ เกิดกลัวผีขึ้นมาซะง้าน (ปล. นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อีป้าบินเดี่ยวไปตปท. แต่เป็นครั้งแรกที่ต้องนอนคนเดียว ขาดคนเคียงข้างในต่างแดน นี่คือบททดสอบครั้งยิ่งใหญ่ถ้าอีป้าผ่านไปได้ ต่อไปอีป้าก็สามารถไปไหนมาไหนคนเดียวได้สบายไม่อายใครแระ) แต่พออีป้ามาเห็นยันต์นี่ก็คิดมากอีกแระ (ก็ไม่นานมาก ประมาณ 2 นาทีนะ ที่อีป้าใช้ความคิด) อิๆๆ อีป้าก็เลยสรุปง่ายๆ ว่า ปิดไฟและกัน เผื่อผีมาอย่างน้อยมืดแบบนี้อีป้าคงมองไม่เห็นผีหรอก คิดง่ายดีใช่ม๊า? อีป้าฉลาดก็เงี้ยแระ แล้วก็ปิดไฟนอนโลด (-_-") คิดทำไมฟระเนี่ยกรู !

หลับดีอีกตังหาก..ปลุกนาฬิกาไว้ 10 โมงเช้า.. ลืมดูคูปองอาหารเช้าไปว่าอาหารเช้าเค้างดหลังสิบโมง 5 เอ๊ย! อีป้าเลยต้องชงกาแฟแล้วก็กินแอ๊ปเปิ้ลไปลูกนึง ขาดสารอาหารเลยเช้านั้น แต่ก็อย่ากระนั้นเลย ..ช่างมัน อีป้าแต่งตัวแล้วก็เอาของไปฝากรร. ไว้ บอกว่าอีป้าจะเดินไปเที่ยว central market หน่อย

อีป้าใช้เวลาเดินไปสองสามชม. ได้ผ้าโสร่งบาติค กับเสื้อเชิ๊ตบาติคมาฝากพ่อกะแม่ กินข้าวมันไก่เผ็ดแซ่บหลายเด๊ เสร็จอีป้าก็เดินกลับรร. ถ่ายรูปแบงค์กรุงเทพฯ สาขามาเลย์มาด้วย ถึงรร. อีป้าก็เดินไปหายาม ส่งคูปองให้ฮีเข้าไปเอากระเป๋า อีป้าเดินตามตรู๊ดยามไป พอเข้าไปให้ห้องเก็บกระเป๋า ยามเข้าไปหากระเป๋าให้อีป้า อีป้าเห็นแล้วเลยพูดไปว่า "this one" ไอ้ยามบอกอีป้าว่า "oh ! nice voice" (-_-") เออ ! กรูรู้แร้ว ไอ้นี่นิ ชะรอยอีป้าจะเป็นที่สเน่หาของยามซะจริงๆ ตำแหน่งขวัญใจรปภ. อีป้าขอละกันนะ 5555



ไอ้ยามยกกระเป๋ามาให้อีป้าแล้วสอบถามอีป้าว่า มาจากไหน มาทำอะไร ชื่ออะไร มีนามบัตรไหม เผื่อเราจะได้สานสัมพันธ์กัน ก็อยากจะให้อะนะ แต่ว่าอีป้าไม่อยากมีผัวเป็นยามฟร่ะ อีป้าก็เลยหลอกถามให้ฮีบอกทางไปสถานีรถไฟให้ เพราะอีป้าไม่อยากนั่งแท๊กซี่ เดินทางคนเดียวแบบหญิงๆ มันจะไม่ปลอดภัยไง แท๊กซี่ที่นี่ส่วนมากก็คนอินเดีย น่ากัวๆ ด้วยง่ะ

หลังจากได้ทางมาจากพี่ยามที่เลิฟ อีป้าก็เดินไปสถานีรถไฟ เดินไปก็หลงทางไป อีป้าถามทางไปเรื่อยเปื่อย ถึงก็ซื้อตั๋วและไปลงสถานี KLCC ตรงตึกเปรโตนาสพอดี๊ พอดี อีป้าไ่ม่พูดพร่ำทำเพลง เดินไปถ่ายรูป แชะๆๆ ขอให้คนแถวนั้นถ่ายรูปให้ เป็นอันเสร็จแระ สร้างหลักฐานว่ากรูมามาเลเซียแร้วนะเฟร้ยย !! จบภารกิจชะโงกทัวร์ของอีป้าแระ

ฝนทำท่าจะตกหลังถ่ายรูปเสร็จ อีป้าก็เลยเดินเข้าห้าง ไปนั่งซดชามะนาวไปแก้วนึง เสร็จก็เดินไปดูของที่ระลึก ไอ้หนุ่มอินเดียที่ขายของก็ทักอีป้าว่า "คอนนิจิวะ" อีป้าทำหน้าเฉยเมย ฮีถามอีป้าเป็นภาษาอังกฤษว่า "ยูมาจากไหนน่ะ"อีป้ายิ้ม แล้วบอกว่า "ไทยแลนด์" ฮีก็พูดพร่ำภาษาไทยกะอีป้าใหญ่เลยเฟร้ย คนที่นี่ถ้าไม่คิดว่าอีป้าเป็นคนญี่ปุ่น ก็จะทักอีป้าเป็นภาษาจีนเตี๊ยะว่า "หนีห่าว" อีป้าก็เกือบจะเห่า โฮ่งๆ ตอบไปแร้วเชีย 555



เนื่องจากไฟลท์กลับไทยบินตอนสามทุ่ม อีป้าเลยมีเวลาเหลือเฟือ อีป้าก็เลยเดินขึ้นไปฝั่งอิเซตัน ไปซื้อขนมมาเป็นของฝาก ได้พายมะพร้าวมาสองถุง กะลูกอมรสข่า อีป้าชอบทำแบบเนี้ยแหละ ถ้าใครจะคิดว่าอีป้าซื้อของแพงๆ ไปฝากละก็คิดผิดซะแร้ว ในดิวตี้ฟรีอีป้าก็ไม่ซื้อเฟร้ย ของฝากสไตล์อีป้าคือ ขนมจากซุปเปอร์มาร์เก็ต ถูกกว่าดิวตี้ฟรีเห็นๆ (งกโคตรๆ (-_-")) ซื้อเสร็จอีป้าก็เดินขึ้นรถไฟกลับไปสถานี KL Sentral อีป้าเดินไปสำรวจราคาตั๋วรถไฟ airport express ก่อน พบว่าราคา 35 ริงกิต เสร็จแล้วอีป้าก็คำนวณว่าอีป้ามีเงินเหลือพอซื้อไรได้อีก ก็เลยเดินไปซื้อเฮสลีนสโนว์ให้อีป้าอ้วนกะอีป้าตาล เพื่อนของอีป้าเอง แล้วก็เดินไปกินข้าวเย็น กินข้าวมันไก่เผ็ดอีก มันแซ่บจริงๆ มีพี่คนนึงเคยบอกอีป้าว่าอาหารมาเลย์มัน เีลี่ยน กินไม่ลงเลย แต่ไหงอีป้ามันช่างเอ็นจอยอีตติ้งจริงๆ เรยฟระ อีป้ากินได้กินดี กินเสร็จก็ห้าโมงกว่าๆ อีป้าเลยเดินลงไปสำรวจร้านค้า เจอ outlet มีรองเท้า hush puppies ลดราคา เหลือห้าร้อยบาท เห็นถูกดี แต่อีป้าไม่ได้ซื้อหรอกนะ ซื้ออีกยี่ห้อ made in japan มา นุ่มตรีนดีมากเรยอ้ะ ช๊อบชอบ



หลังจากได้รองเท้าแระ อีป้าก็โทรหาแม่ กะซื้อตั๋ว airport express กลับไปสนามบินโลด จะบอกไงดีละ คือ เที่ยวคนเดียวมันได้อารมณ์แบบว่าผจญภัยดี แต่ไม่มันส์เท่าที่ควร ถ้ามีเพื่อนคู่หูมาจะมันส์กว่านี้มาก คือ มันคนละแบบ ถ้าไปคนเดียวในต่างแดนเงี้ย แถมเราเป็นผู้หญิง ไม่รู้จักใครด้วย อีป้าจะรู้สึกว่า อีป้าโตขึ้น เป็นผู้ใหญ่ และมีเซ้นส์การเอาตัวรอดดี แต่ไม่ได้ถ่ายรูปเท่าไหร่ (ปกติบ้าถ่ายรูป) นี่คนอื่นถ่ายรูปไม่ถูกใจ จะด่าก็ไม่ได้ ก็คนอื่นง่ะ ไม่ใช่เพื่อนเรา อีป้าก็เซ็งจิต ที่ได้ถ่ายรูปตัวเองน้อยไปนิด ไม่มีไรทำด้วย ก็เลยรีบกลับไปสนามบิน

การเที่ยวมาเลเซียแม้จะเป็นประเทศมุสลิมก็ไม่ได้อันตรายอย่างที่หลายๆ คนคิดนะ อีป้าขอสรุปว่าผู้หญิงคนเดียวก็เที่ยวได้ โดยควรเลือกที่พักที่คนพลุกพล่านนิดนึง เช่นอีป้าไปพักแถบไชน่าทาวน์ ทำให้รู้สึกปลอดภัย ไร้กังวล แถวนั้นฝรั่งเยอะด้วย เลยไ่ม่น่ากลัวอะไรเลย แล้วก็ไม่ควรจะนั่งแท๊กซี่ ควรนั่งรถเมล์ รถไฟ จะปลอดภัยกว่าเยอะ ประหยัดกะตังค์ด้วย วิธีไปน่ะเหรอ? อีป้าก็ไม่รู้อะไรเลยง่ะไม่ได้ทำการบ้านไป ไปถึงก็ไปหยิบแผนที่จากรร. แล้วก็ดูเส้นทาง ว่าอะไรอยู่ตรงไหน ไชน่าทาวน์อยู่ไหน สายรถไฟก็ดูในแผนที่กับถามๆ เค้าเอา รร. ก็ไปหาเอาตามเน็ท ไม่ได้บุ๊คล่วงหน้า ถ้าผู้หญิงคนไหนอยากไปเที่ยวคนเดียวบ้าง อีป้าว่าก็น่าจะลองดูนะ มันทำให้เรารู้สึกว่าโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ดูแลตัวเองได้น่ะ แล้วก็เป็นตัวของตัวเองอย่างที่สุด อีป้าชอบการไปเที่ยวต่างแดนก็เพราะเหตุเนี้ย คือ จะบ้าบอ ทำไร ก็ไม่ต้องหวั่นเกรงสายตาใครด้วย (ยังกะอยู่ไทยแล้วเกรง ??? (-_-"))



อีป้าสรุปค่าใช้จ่ายให้นะ ค่า รร. 1500 ค่ารถไฟไปดูเปรโตนาส 15 บาท ค่ารถไฟกลับไปเซ็นทรัล 15 บาท ค่าไฟกลับแอร์พอร์ต 350 บาท ที่เหลือคืออีป้าเอาไปซื้อของฝากง่ะ ประหยัดโคตรๆ เลยเห็นมะ ตอนแรกลุงบ่นๆ ป้านะว่าได้ค่าล่ามมาไม่คุ้ม แต่ค่าล่ามอีป้าก็ได้มาราวๆ 11K ง่ะ แล้วได้เที่ยวฟรีอีก งานก็แสนง่าย แสนจะคุ้มง่ะ



อีป้านึกขึ้นได้ว่าไม่ได้รายงานความโชคดีประจำเดือนกพ. เนอะ อีป้าขอบอกว่าอีป้าโชคดีมากมายก่ายกอง หาเงินได้มากมาย ชนิดที่เรียกว่าทำงานประจำมา 8 ปี ไม่เคยได้เงินเดือนมากขนาดนี้ เดือนมีค. ก็นอกจากจะได้งานที่ได้เที่ยวฟรีแล้วเนี่ยนะ ยังได้เงินฟรีๆ จากการที่หางานให้แล้วเพื่อนหยิบยื่นเงินให้ โดยที่อีป้าไม่เคยคิดไรเลย เวลาที่อีป้าหางานให้ใครทำง่ะ แค่คิดว่า ชั้นไม่ว่าง เพื่อนชั้นว่าง ชั้นก็ให้เพื่อนทำ อีป้าต้องขอบคุณเพื่อนดีๆ หลายๆ คนที่หยิบยื่นงานให้มากๆ เลย

ตอนนี้อีป้ารู้สึกว่าได้มาถึงจุดสูงสุดของอาชีพล่ามแล้ว นั่นก็คือ การเป็นล่ามฟรีแลนซ์ที่อีป้าฝันใฝ่แล้ว อีป้าคงจะจบชีวิตการทำงานล่ามในไม่ช้านี้แหละ แต่อีป้าก็ดีใจนะ ที่สามารถเป็นล่ามฟรีแลนซ์ได้อย่างที่ใฝ่ฝันก่อนที่จะต้องปลดเกษียณตัวเองออกจากวงการนี้ไป


Let Me Take You There- Plain White Ts -



Create Date : 17 เมษายน 2552
Last Update : 17 เมษายน 2552 16:39:38 น.
Counter : 682 Pageviews.

9 comments
  
สวัสดีจ้า
บล็อกน่ารักจังเลย
โดย: baareeraa วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:17:25:31 น.
  
อิๆ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะเคอะ
โดย: littlebitlittlemore วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:18:35:12 น.
  
ไม่ได้มาเยี่ยมนานยังสวยเหมือนเดิมนะเจ๊
โดย: My life in Japan. วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:19:22:47 น.
  
ไปเที่ยวด้วยยยยฮับ
โดย: เลดี้มาเฟีย วันที่: 17 เมษายน 2552 เวลา:20:39:37 น.
  
สวัสดีจ้าอีป้าขวัญใจรปภ. ฮี่ๆๆๆๆ
แหม คุณมารุฯ อ่านแล้วอยากไปเป็นล่ามด้วยจัง
มีงานล่ามแปลไทยเป็นไทยให้แนนป่าวคะ 555
เห็นด้วยอย่างแรงว่าเที่ยวต่างประเทศคนเดียวไม่หนุกเลย
มันเหงาๆนะแนนว่า แถมไม่มีใครถ่ายรูปให้ อันนี้สำคัญ 555
อยากกินข้าวมันไก่เผ็ดที่คุณมารุฯกินจัง
หน้าตามันเป็นยังไงเหรอ ฮี่ๆๆ อ่านไปก็หิวซะงั้นอ่ะ
ว่าไปบ้านเค้าก็ไม่ได้แพงไปกว่าบ้านเราเลยเนอะ

จุ๊ฟๆคุณมารุฯ ขอบคุณที่ไปตามน๊า ฮี่ๆๆ
โดย: Complicatedgirl วันที่: 18 เมษายน 2552 เวลา:12:55:27 น.
  
ที่รัก

อะไรจะขยันอัพรวดขนาดนี้ฟะ
เดี๋ยวจะตามไปอ่านให้ครบเลย
เพราะพรุ่งนี้คงจะยุ่ง เข้ามาแร่ดในบล็อกไม่ได้...มันไม่งาม

ถึงเราไม่ใช่สุภาพสตรี แต่เราก็เป็นกุนสตรีน่ะ

เมื่อวานก็มีลุงอินตะระเดียคนนึงมามั่วๆ จะดูหมอให้ เราก็เผ่นเหมือนกัน

ไปรับจ๊อบโปรตอนเหรอจ๊ะ
คราวก่อนไปมาเลย์เขาก็ไม่พาไปไหนเหมือนกัน
นอกจากที่โรงงานเราแถวยะโฮร์บารู...แห้งแล้งจริงๆ
โดย: นางไม้ฯ ไม่ได้ล็อกอินค่ะ IP: 124.120.186.46 วันที่: 19 เมษายน 2552 เวลา:11:21:40 น.
  
หวัดดีค่าป้าล่าม

นู๋เป็นคนนึงที่ติดตามการตอบกระทู้

รวมไปถึงไฮไฟท์ของป้า ( อย่างเงียบ ๆ )

มาพอสมควร แต่ไม่เคยเม้นท์ตอบ

หรือทัีกทายสักที แต่วันนี้ ... พออ่าน

บทความหน้านี้ ที่ย่อหน้าสุดท้ายแล้ว

อดใจหายไม่ได้

เลยต้องขอแสดงตัวหน่อยละกัน

ว่ายังมีอีกคนตรงนี้ที่ชื่นชอบวิธีการตอบกระทู้

มุมมอง และการใช้ชีวิตของป้าล่ามอยู่ตรงนี้

อีกคนน๊า

โดย: ล่ามตัวน้อย ด้อยประสบการณ์ IP: 222.123.187.137 วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:21:11:31 น.
  
มาเว็ปเจ๊ หลังจากไม่ได้แวะมานาน
เว็ปใหม่ไฉไลมากมาย
แล้วก้อ มาอ่านเรื่องพี่บีด้วย ก็พึ่งรู้ว่าเค้าไปทำ
คนอื่นลำบากไปหมด แต่แปลกแกไม่ทำไรหนูเลยนะ ตอนนี้แกก็ไม่ได้โทรมาด้วย สงสัยจะยุ่ง555 มาอัพบ่อย ๆน้า แล้วจะแวะใหม่จ้ะ
โดย: น้องโอ๋เอ๋ สสทจ้า IP: 210.213.15.138 วันที่: 30 เมษายน 2552 เวลา:9:34:11 น.
  
เป็นการท่องเที่ยวที่มีสีสันดีจังเลยค่ะ เวลาเจอคนขับน่ากลัวๆนี่เป็นปุ๊กคงเหวอๆ นิดนึงนะคะ -_- อาจจะต้องชิงทำร้ายหรือลวนลามเขาก่อนเพื่อความปลอดภัย (ตรงไหน)

จะเลิกเป็นล่ามแล้วยังงี้วงการล่ามก็ขาดล่ามความคิดสร้างสรรค์+อารมณ์ขันล้นเหลือไปสิคะ น่าเสียดายง่ะ
โดย: Hobbit วันที่: 4 พฤษภาคม 2552 เวลา:15:17:03 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

littlebitlittlemore
Location :
Sweet Home Alabama  United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]



สวัสดีจากอลาบาม่า สหรัฐอเมริกา
Subscibe ช่อง Home of the brave

เพื่อคนไทยในอเมริกา

MY VIP Friend