เมษายน 2550

1
2
3
4
5
6
7
8
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
แอบโดดงานพาพ่อแม่ไปพม่า..กตัญญูประกาศิต (^0^)V

แอบหนีไปเที่ยวพม่าสองวัน ตั้งแต่วันอาทิตย์...


ขออัดเดทไดอารี่นิดนึงนะ วันเสาร์ที่ผ่านมา เลิกงานเราก็แจ้นไปเอาพาสปอร์ต เสร็จแล้วก็ไปกินเบอร์เกอร์คิงคนเดียว และไปเดินพันธ์ทิพย์แป๊บนึง ไม่ได้ซื้อไรมาเลย แปลกจริงๆ ไม่อยากเชื่อตัวเองเลยเนี่ย ว่าไม่ซื้อไรเลยได้ไง


กลับมาก็เจอพ่อกับแม่มาที่ห้อง เพื่อเตรียมไปพม่ากัน ชั้นกลับมาถึงก็ขอแม่นอนหลับ หลับไปจนหกโมงเย็น ออกไปกินข้าวเย็นที่ร้าน มร.เหม็ง แล้วก็ไปซื้อของเล็กน้อยที่บิ๊กซี กลับถึงห้องก็แปลงานส่งลูกค้า ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ แปลยันตี 4 แปลเสร็จก็ออกไปสนามบินเลย


ถึงสนามบินเช้าไป เคาท์เตอร์เช็คอินยังไม่เปิดด้วยซ้ำ แต่ด้วยความที่ว่าคราวที่แล้วมา ทางเคาท์เตอร์เช็คอินมีปัญหา ทำให้เราเกือบตกเครื่อง (แอร์เอเซีย) ชั้นก็เลยมาเร็วหน่อย คราวนี้ได้ผล เร็วเกินคาดมารอซะสองชม.



แอร์เอเซียไม่มีอาหารเลี้ยงบนเครื่องนะจ๊ะ..เราเลยต้องหาอะไรใส่ท้องไปก่อน อาหารโปรดของเราเลย เบอเกอร์คิง


เครื่องออกตรงเวลามาก ถึงก็ตรงเวลา คาดว่าทางสายการบินคงปรับปรุงตัวแล้วละ (คราวก่อนเลทเกือบชั่วโมง) ก่อนขึ้นเครื่องชั้นกำชับพ่อแม่ให้รีบวิ่งขึ้นเครื่องก่อนให้ได้ เพราะสายการบินนี้ต้องเลือกที่นั่งเอาเอง เหมือนแย่งเก้าอี้ดนตรีเลย พ่อชั้นเข้าใจเป็นอย่างดี รีบวิ่งขึ้นไปแย่งที่นั่งฝั่งซ้ายได้สำเร็จ


พอขึ้นเครื่องปุ๊บชั้นก็ปิดสวิตท์ตัวเองปั๊บ หลับไปทั้งๆ ชั้นนั่งอยู่ฝั่งทางเดิน คนยังเดินเข้าเดินออกตลอดเวลา ตื่นมาอีกทีอ้าว เกือบถึงพม่าแล้ว หันไปทางขวา เจอฝรั่งคนนึงหล่อหลายๆ ชั้นหันไปมองหน้าด้านข้างของเค้า คิดในใจว่่า "อยากมีลูกชายจมูกโด่งๆ สวยๆ แบบนี้จัง" แล้วก็ระงับใจ หยิบใบเข้าเมืองพม่ามากรอกให้พ่อแม่ ไอ้ฝรั่งหน้าหล่อนั่ง ก็แอบด้อมๆ มองๆ ชั้นหลายครั้ง พอชั้นเขียนเสร็จ เค้าก็เริ่มพูดกะชั้นว่า "ขอยืมปากกาหน่อยก๊าบ" กรูว่าแล้ว.. ไม่งั้นจะมองทำไมนัก


พอถึงสนามบิน ชั้นก็รีบแจ้นลงไป ตม. ระหว่างที่ชั้นช่วยสาวมาเก๊าที่มาสอบถามเรื่องการพกพาเงินดอลลาร์เข้าพม่าอยู่นั้น ก็มีหญิงไทยใจชั่ว มาแทรกแถวซะงั้น เลวจิงๆ คนไทยนี ถ้าขอกันดีๆ ชั้นก็จะให้ละนะ แต่ไม่ชอบที่ว่าจะมาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ตัวลีบตัวแบนเข้ามาแทรกแถวน่ะ



สภาพแวดล้อมใกล้ๆ โรงแรมเล็กๆ ของเรา



รร.เราอยู่ใกล้ใจกลางเมืองม๊ากมาก



ใกล้ๆ ก็มีโรงหนังด้วยละค่า



ร้านอินเตอร์เน็ท


หลังจากผ่านตม. ก็มีเจ้าหน้าที่จากรร. มารอรับเรา พอไปถึงโรงแรม เจ้าของโรงแรมก็บอกว่า "ยินดีต้อนรับอีกครั้งนะคะ" อิๆ คราวนี้ได้ห้องหญ่ายมั่กๆ มีสี่เตียงเลยทีเดียว พ่อไปนอนสองเตียง ส่วนที่เหลือชั้นก็นอนกะแม่ ห้องน้ำก็กว้างขวางใหญ่โต กว่าที่เคย ดีกว่าตอนมากับเจ๊เป็นไหนๆ เก็บของเสร็จก็รีบออกไปแลกเงินที่ตลาดสก๊อต แลกไป 100 ดอลลาร์ก่อน ได้เงินมาแสนกว่าๆ จ๊าด รวยซะ แล้วก็พาพ่อแม่ไปกินข้าวที่ร้าน Romantic sweet โห นึกว่าเป็นร้านกาแฟเล็กๆ แต่พอขึ้นไปข้างบนนะ บรรยากาศสุดแสนโรแนติคง่ะ สมชื่อแล้วจริงๆ ชั้นสั่งก๋วยเตี๋ยวพม่า พ่อสั่งข้าวผัด แม่สั่งมักกะโรนี พ่อกับแม่ชอบก๋วยเตี๋ยวของชั้นมากเลย หมดไปราวๆ หมื่นกว่าจ๊าด กินเสร็จก็ไปเดินช้อปต่อ ของที่ชั้นช้อปปิ้งทั้งหมดก็มี ม้ากระบอก 120 บาท แป้ง 3 ways 100 บาท ตอนแรกซื้อมาตลับเดียว แต่พอทาแล้วดี เลยไปเหมามาหมด สรุปซื้อมา 7 ตลับ.. ภาพเขียนสีน้ำเจดีย์ชเวดากอง 150 บาท โลชั่นทาตัวและหน้า ทานาคา 18 บาท



กินกลางวันที่ร้านนี้จ้า



อาหารของชั้นคือก๋วยเตี๋ยวพม่า VS โคล่าจากเมืองไทยจ้า



อันนี้ถ่ายตอนนั่งกินกาแฟในร้าน ข้างนอกเป็นตลาดสด มีคนเอาของมาขาย



คนพม่าเอาของทูนหัวเก่งจัง ไปอินเดียยังไม่ค่อยเห็นภาพแบบนี้เลยง่ะ


หลังจากนั้นก็กลับไปนอนเล่นที่ห้อง หลับกันไปจนห้าโมงเย็น ชั้นก็พาพ่อกะแม่ไปดินเนอร์หรูที่เรือการะเวกอีก แต่ไปเร็วเกิน เลยต้องรอ ระหว่างรอก็ถ่ายรูปกันไป



นี่ในห้องรร. ของเรามุมที่ชั้นนอน คืนละ 28 ดอลลาร์ มีสี่เตียงจ้า



นี่สุขาก๊าบ


แม่กับพ่อชอบมากๆ เจอกุ๊กคนไทยด้วย ก็เลยคุยกันยกใหญ่ เสร็จแล้วก็กลับรร. ให้พ่อขึ้นไปข้างบนก่อน ส่วนชั้นไปร้านเน็ทกับแม่ ส่งเมล์บอกเบอร์โทรที่ห้องให้ชินจังโทรมา ชินจังไม่ยอมโทรมา ชั้นเลยลงไปโทรหาชินจัง หมดไปร้อยกว่าบาท แพงจิงๆ



ดินเนอร์กันที่นี่ก๊าบ (ภาพอ้างอิงจากทริปที่แล้ว)


สักพักชินจังก็โทรมาที่ห้อง คุยกันงุ๊งงิ้ง ชินจังดูเหงาหงอยน่าสงสารจัง คนอาไรมันจะรักเราจังเลยน๊า 55


หลังจากนั้นก็ไฟดับ ชั้นเลยนอนหลับไป อีกสักพักก็มีคนมาฉีดยาฆ่ายุงข้างนอก เหม็นอีกแน่ะ พ่อบ่นๆ ไม่ได้หลับได้นอน พอไฟติดก็ไปอาบน้ำ กว่าจาได้นอนก็ตีหนึ่งอีกตามเคย


วันที่สอง


ตื่นตอนแปดโมง อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเก้าโมง ก็ลงไปโทรหานาย โทรเข้าออฟฟิศ เพื่อไม่ให้โชว์เบอร์ว่าเราอยู่หนาย แต่ว่าสายไม่ว่างซะนี่ ชั้นเลยต้องเดินไปร้านเน็ท ไปส่งเมล์ลาป่วย และพาพ่อกะแม่ไป Sole pagoda เป็นเจดีย์ที่อยู่ใกล้ที่สุด พอไหว้เจดีย์นั้นเสร็จ ชั้นก็พาพ่อแม่ไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว คุยกะเจ้าหน้าที่และขอแผนที่มา เสร็จก็เดินออกมาหาแท๊กซี่ไปเที่ยว เหมาแท๊กซี่ไป Botathong เป็นเจดีย์ที่มีเทพทันใจ พอไปถึงก็ซื้อของไหว้ แล้วก็ไปไหว้เทพทันใจกัน คราวนี้เสียค่าเข้าไป 2 ดอลลาร์ต่อคนด้วยละ ครั้งก่อนที่มา เพราะชั้นไม่รู้ ก็เลยเข้าไปโดยไม่จ่ายเงิน บ้าบอเนอะ ทำบาปโดยไม่รู้ตัวเลย ไปโกงค่าเข้าเค้าเนี่ย



เทพทันใจอยู่นี่จ้า..ไหว้ซะเร็วๆ


หลังจากนั้นก็ไปวัดพระนอนย่างกุ้ง พระนอนที่นี่สวยจัง ใหญ่มากๆ สูงมากๆ ตาก็สวยมาก ดูมีเมตตา ไหว้เสร็จก็เดินดูของที่ระลึกกันนิดหน่อย แล้วก็ไปกินข้าว


กินข้าวกลางวันที่ร้านไพลิน เป็นร้านอาหารไทย พ่อกินผัดไทย แม่กินผัดกระเพรา ทอดมันกุ้ง แต่ชั้นกินหมี่พม่าผัด ชั้นชอบกินอาหารพม่านะ เวลาเรามาถึงพม่าเราก็ต้องกินของพม่าดิ กินเสร็จก็ไปเข้าห้องน้ำห้องน้ำไม่มีไฟละ มีพนักงานถือตะเกียงมาให้บริการประทับใจจริงๆ


มีพนักงานต้อนรับคนไทยด้วยแหละ พนักงานคนเนี้ย เค้าเคยมาใช้แรงงานที่เมืองไทย หูดูสิ..คนเรา สำหรับพวกเค้าแล้วคนที่ได้มาทำงานเมืองไทย พูดไทยได้เนี่ย ตอนนี้กะลังบูมๆ ที่บ้านเค้าเลยนะเนี่ย


หลังจากกินข้าวเสร็จเราก็ไปชเวดากองโดยไม่ได้แวะไปวัดอืนๆอีกเพราะว่าพ่ออยากอยู่ชเวดากองนานๆ ซึ่งก็ดีอะนะ พ่อชั้นมีหนังสือของเกจิอาจารย์ ที่บอกละเอียดว่า จุดนี้เรียกว่าอะไร ทำให้ชั้นเพลิดเพลินในการมาเที่ยวครั้งนี้อย่างมาก ครั้งนี้ได้รดน้ำสัตว์ประจำวันเกิดของตัวเองแล้วด้วย ดีใจจัง คราวก่อนมาไม่ได้ไรเลย นอกจากถ่ายรูป คราวนี้ได้รู้แล้ว ว่าพระที่อยู่ตามจุดต่างๆ เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าสี่พระองค์


อากาศร้อนมากๆ เดินได้แป๊บนึงก็ต้องพัก พักแล้วก็มีหมอดูพม่ามาดูหมอให้พ่อชั้น คิดจะมาเอาเงินกะพ่อชั้นเหรอ? โดนพ่อชั้นจับดูลายมือซะเลย ปรากฎว่าแม่นกว่าหมอพม่าอีก พอพ่อดูเสร็จ หมอพม่าก็บอกว่า "เมียผมมันไม่ดี ตรงกะที่คุณดูจิงๆ" พ่อดูว่าหมอจะมีปัญหาครอบครัว ทะเลาะกับเมียบ่อยๆ ง่ะ ส่วนชั้นก็ไปเป็นล่ามแปลให้พ่อดูหมอ จริงๆ พ่อง่ะพูดอังกฤษเก่งนะ เพราะพ่อเรียนรร. คริสต์ เรียนลาซาล มี brother เป็นคนสอน แต่เนื่องจากพ่อไม่ได้ใช้ภาษามานมนานแล้ว เลยติดๆ ขัดๆ หัวไม่ลื่นไหล คนพม่าก็มามุงดูคนไทยดูลายมือให้หมอดูพม่าเต็มเลยง่ะ หมอดูชวนพ่อชั้นไปที่ศาลา แล้วบอกว่า ถ้าพ่อไปที่นั่น จะมีคนพม่าแห่มาดูลายมืออีกเยอะ บ้าและ... ดูไปดูมา หมอดูทำท่าจะเขียนดวงให้ชั้น แต่แล้วมัวแต่เม้าท์แตก เลยลืมดูดวงชั้นไปซะนี่ ช่างน่าเสียดาย คราวหน้านะ ชั้นจะไปดูหมอดูที่พม่าให้ได้เลย (พูดเหมือนจะไปอีก) ก็คงไปแหละ อิๆ ถ้าสิ่งที่ชั้นขอไว้สัมฤทธิ์ผลน่ะนะ ชั้นก็ต้องไปอีกอยู่แล้ว (ไปขอใหม่)



เจดีย์ชเวดากอง เจดีย์ประจำปีมะเมีย ชั้นมีบุญนัก...ได้ไปไหว้ถึงสามครั้งสามครา..แล้วจะไม่เฮงไงไหว


หลังจากนั้นชั้นก็พาพ่อแม่กลับรร. ให้พ่อขนของขึ้นห้องและไปอาบน้ำนอนพักก่อน ส่วนชั้นกะแม่เดินไปกินกาแฟร้าน cafe aroma กัน กินนิวยอร์คชีสเค้กไปชิ้นนึง อร่อยซะ เสร็จแล้วก็ซื้อกาแฟเย็นไปฝากพ่อ อยู่ที่นี่แล้วชั้นรู้สึกว่าตัวเองเหมือนดาราจิงๆ แฮะ ไปไหนใครๆ ก็มองในความแปลก อิๆ



ร้านกาแฟอโรมา


พักผ่อนกันแป๊บนึงก็ออกไปกินข้าวเย็น พาพ่อแม่เดินตลาด ซื้อมันฝรั่งสดๆ ทอดกรอบมากินถุงนึง อร่อยม๊ากมาก คนขายก็ใจดีหยิบแถมให้เราอีกเต็มถุงเลย เดินไปอีกหน่อยซื้อรองเท้าแตะมาอีกคู่ คู่ละสามสิบเอง เป็นรองเท้าแตะสีดำกำมะหยี่ปักเลื่อมลายใบไม้ งามเริ่ด



สภาพรถโดยสารเค้าละ แน่นเอี๊ยด



ตึกรอบๆ (ถ่ายจากแท๊กซี่)


แล้วก็นั่งแท๊กซี่ไปกินอาหารเย็นที่ร้าน sky อะไรซักอย่าง (จำไม่ได้ง่ะ) แต่เป็นร้านเดียวกะที่ชั้นเคยไปกินกะอาเจ๊คราวก่อน กินเสร็จก็มาเดินตลาดนัดกลางคืนอีกรอบ ไม่ได้ไรเลย แล้วก็ไฟดับด้วย เลยต้องเดินต่อ ร้านขนมปังก็ขนมปังหมดเกลี้ยง ทำไงดีๆ พรุ่งนี้จะไม่มีไรกินตอนขึ้นเครื่องบินนะ ชั้นก็เลยพาพ่อกะแม่เดินเข้ารร. เทรดเดอร์ (เครือรร. แชงกรีล่า) มันช่างหรูหราโคตรๆ แม่ก็บอกว่า เข้ามารร. นี้แล้วดูไม่เหมือนพม่าเลย ดูเป็นคนละโลก


ชั้นก้าวขาสั้นๆ เข้าไปในรร. พนักงานโค้งคำนับ ราวกับชั้นเป็นไฮโซ ชั้นก็สปีคไปว่า "เดี๊ยนแบบว่าอยากได้เบรคฟาสสำหรับมื้อเช้าพรุ่งนี้จังเลยฮ่ะ ไม่ทราบว่ามีพาทิสเซอรี่ (มั่วๆ ไปง่ะ จริงๆ มันหมายถึงร้านหนมปัง แต่มันเป็นภาษาฝรั่งเศสง่ะ เดี๊ยนเรียนศิลป์ฝรั่งเศสมาสามปี แต่ได้ภาษาฝรั่งเศส แบบเศษฝรั่งมานิดเดียว) อยู่ตรงไหนบ้างคะ บริกรก็โค้งและผายมือไปด้านขวา ชั้นก็ขอบคุณและเดินเชิ่ดหน้าไปยังเคาท์เตอร์หนมปัง กรีดนิ้วชี้ๆๆ แล้วถามคนขายว่า ที่นี่ต้องจ่ายเป็น us ดอลล่าร์ใช่มะ... และควักเงินดอลลาออกมาสามดอล์ จ่ายค่าหนมปังไป


ออกจากรร. ห้าดาว กลับมารร. ดาวเดียวของเรา พนักงานบอกว่าชินจังโทรมา ชั้นไม่รู้จะทำไง จะโทรไปก็แพ๊งแพง เลยกลับไปนอนรอ สี่ทุ่มชินจังโทรมาอีกรอบ โทรเสร็จสี่ทุ่มครึ่งก็โทรมาอีก... หลังจากนั้นชั้นกะแม่ก็เก็บสมบัติ เตรียมกลับบ้าน


เช้ามาตื่นตีห้า แต่งตัวเสร็จชั้นแบกกระเป๋าลงไปข้างล่าง หนักชิหาย แท๊กซี่มารับเรา เราบินกลับมาสุวรรณภูมิถึงตรงเวลาเป๊ะ ชั้นรีบเมสเสจบอกเจ้านายว่าชั้นจะไปทำงานตอนบ่าย หลังจากไปหาหมอ นายชั้นไม่ตอบ


พอมาทำงานถึงรู้ว่านายกรูอารมณ์บ่จอย ด่าทุกคน ด่าคนญี่ปุ่น ด่าคนไทย ไล่คนไทยออกไปโกดัง แต่พอทุกคนออกไปหมดแล้ว ก็พูดกะชั้นว่า "เติ้ลจัง..นี่ช๊อกโกลตอร่อยๆ จากญี่ปุ่นนะ" ด้วยหน้าตาสุดจะยิ้มแย้ม แหมๆ ที่แท้ไล่คนอื่นไปเพื่อจาได้อยู่กันสองคนกะลูกน้องสุดเลิฟนี่เอง เพิ่งเข้าใจนะเพิ่งเข้าใจ ว่านายกรูนี่รักรูปานจะแหกตรูดดมเลยทีเดียว





Create Date : 09 เมษายน 2550
Last Update : 9 เมษายน 2550 0:04:34 น.
Counter : 1763 Pageviews.

4 comments
  
แวะมาเยี่ยมก่อนนอนคับ เห็นแล้วอยากไปเที่ยวพม่าเหมือนกันคับ
โดย: frank3119 วันที่: 9 เมษายน 2550 เวลา:0:54:59 น.
  
เล่าได้สนุกมาก
อยากพาพ่อกับแม่ไปเที่ยวแบบนี้มั่งจังเลย แต่คงไม่มีโอกาสแล้วแหล่ะ พ่อไม่อยู่กับเราแล้ว แต่เดือนหน้าเราจะพาแม่ไปเที่ยวอินเดีย...

ว่าแต่เที่ยวพม่าไม่น่ากลัวใช่มั้ยค่ะ อยากไปแล้วสิ
โดย: Kontonnum วันที่: 9 เมษายน 2550 เวลา:17:14:39 น.
  
เราเพิ่งไปอินเดียมาเดือนกพ.จ้ะ คุณ kontonnum ไปกะทัวร์หรือไปเองจ๊ะ เราไปเองกะแควนสองคนคะ ไปแล้วมาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ
โดย: littlebitlittlemore วันที่: 11 เมษายน 2550 เวลา:11:51:18 น.
  
น่ารักดีครับ พาพ่อกับแม่ไปเที่ยว..
โดย: itchyfeet-mag (doggone ) วันที่: 19 เมษายน 2550 เวลา:19:02:29 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

littlebitlittlemore
Location :
Sweet Home Alabama  United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]



สวัสดีจากอลาบาม่า สหรัฐอเมริกา
Subscibe ช่อง Home of the brave

เพื่อคนไทยในอเมริกา

MY VIP Friend