เมื่อตะวันยอแสง..เรี่ยวแรงก็เริ่มอ่อนล้า..พักลงตรงนี่ที่เดิมแล้วหลับตา..
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
13 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 

กำเนิดเอกภพ



เอกภพ หรือจักรวาล (Universe) เป็นระบบที่ใหญ่ที่สุดและไร้ขอบเขต เป็นห้วงอวกาศที่เต็มไปด้วยดวงดาวจำนวนมหาศาล บ้างก็เกาะกันเป็นกลุ่มที่เรียกว่า กาแล็กซี บ้างอยู่กระจัดกระจาย และวัตถุท้องฟ้าทั้งที่เรารู้จักและยังไม่รู้จัก

มนุษย์เองเริ่มสนใจในเอกภพนับตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ก่อนที่จะรู้จักโลกของวิทยาศาสตร์ เริ่มด้วยการสังเกตความเปลี่ยนแปลงของท้องฟ้า ดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ ที่มีความเกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตและความเป็นอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเวลากลางวันกลางคืน ฤดูกาลโดยเฉพาะช่วงเวลาเพาะปลูกและเก็บเกี่ยว น้ำขึ้นน้ำลง



เมื่อโลกเริ่มมีอารยธรรม มนุษย์ก็ยังคงให้ความสนใจ เรียนรู้ และไม่ละความพยายามที่จะค้นหาและถอดรหัสเพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับเอกภพ ว่าโลกของเรามาจากไหนและเกิดขึ้นได้อย่างไร โดยอาศัยความรู้จากหลายสาขาวิชาไม่ว่าจะเป็นปรัชญา ศาสนา ศิลปะ และวิทยาศาสตร์

อริสโตเติล นักปรัชญาชาวกรีกโบราณ เคยเข้าใจว่าโลกเรานั้นกลมและเป็นศูนย์กลางของจักรวาล โดยมีดวงดาวต่าง ๆ รวมทั้งดวงอาทิตย์โคจรรอบ ๆ สวรรค์นั้นอยู่นอกอวกาศ โลกอยู่ด้านล่าง น้ำอยู่บนพื้นโลก ลมอยู่เหนือน้ำ และไฟอยู่เหนือลมอีกทีหนึ่ง ธาตุต่าง ๆ ของโลกจะเปลี่ยนแปลงเสมอ แต่ทว่าธาตุที่ประกอบเป็นสวรรค์นั้นจะไม่เปลี่ยนแปลงจะมีรูปร่างเช่นนั้นตลอดไป



นอกจากนี้ยังมีการค้นพบดาวเคราะห์อื่นอีก 5 ดวง ได้แก่ ดาวพุธ ดาวศุกร์ ดาวอังคาร ดาวเสาร์ และดาวพฤหัสบดี และดวงดาวทั้งหมดนี้ได้ถูกตั้งชื่อตามเทพเจ้าที่ชาวกรีกโบราณเคารพนับถือ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามนุษย์นั้นให้ความสำคัญและยกย่องเอกภพอย่างมาก



นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของการศึกษาอย่างจริงจัง เพราะต่อมา ทอเลมี ได้พัฒนาทฤษฎีทางดาราศาสตร์ต่อจากอริสโตเติล และเป็นผู้ชี้ให้เห็นว่ามีระบบสุริยะ ซึ่งประกอบด้วยดาวเคราะห์ ดวงดาวต่าง ๆ และดวงอาทิตย์ โดยโลกหยุดนิ่ง ไม่มีการเคลื่อนไหว มีแต่ดวงจันทร์ ดาวพุธ ดาวศุกร์ ดวงอาทิตย์ ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี



ดาวเสาร์ โคจรรอบโลกและมีวงโคจรตามลำดับ ทฤษฎีของทอเลมีสามารถอธิบายข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับตำแหน่งของดาวในระบบที่มีข้อมูลเก่าสะสมไว้ได้อย่างถูกต้อง




ต่อมา นิโคลัส โคเปอร์นิคัส นักดาราศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่เป็นผู้พิสูจน์ว่าแท้จริงแล้ว โลกเป็นเพียงดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นศูนย์กลางของจักรวาลที่แท้จริง และ กาลิเลโอ ก็ยืนยันเช่นเดียวกันหลังจากนั้น ทั้งนี้ต้องขอบคุณสิ่งประดิษฐ์ที่ล้ำสมัยของยุคนั้น ก็คือ กล้องโทรทรรศน์ที่มีกำลังขยายถึง 30 เท่า มันทำให้กาลิเลโอพบความจริงหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นผิวของดวงจันทร์ไม่เรียบอย่างที่เห็นด้วยตาเปล่า ดาวเคราะห์ต่างกับดาวฤกษ์ และดาวพฤหัสบดีมีดวงจันทร์เป็นบริวารถึง 4 ดวง ดาวเสาร์มีวงแหวนที่มีสีต่างกันถึง 3 แถบ และดาวศุกร์มีส่วนเว้าแหว่งคล้ายกับดวงจันทร์ และได้พบจุดดำในดวงอาทิตย์อีกด้วย





นอกจากนั้น นิวตัน ยังได้ศึกษาแนวคิดเกี่ยวกับการโคจรของดาวเคราะห์โดยใช้คณิต ศาสตร์ช่วยในการคำนวณ ทำให้เขาค้นพบกฎการเคลื่อนที่ (Law of Motion) ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่าทำไมดวงจันทร์จึงโคจรรอบโลกได้ การคิดค้นกฎแห่งการเคลื่อนที่นี้ ทำให้สามารถอธิบายปรากฏ การณ์ทางดาราศาสตร์ได้มากมาย และเป็นที่มาของกฎแห่งแรงโน้มถ่วง (Law of Gravity)

ขณะที่ ไอน์สไตน์ เป็นผู้ทำให้เกิดการศึกษาเกี่ยวกับเอกภพนั้นเป็นวิทยาศาสตร์ เขาได้คิดทฤษฎีสัมพันธภาพทั่วไป ที่ถือหลักว่ามวลและพลังงานทำให้เกิดการโค้งงอของกาล-อวกาศ และการโค้งนี้ส่งผลต่อเส้นทางการเคลื่อนที่ของอนุภาคอิสระรวมทั้งแสง ทำให้เขาเชื่อว่าเอกภพไม่มีกำเนิดและมีมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์และจะยั่งยืนต่อไปในอนาคต เพราะเอกภพจะไม่มีการขยาย จะไม่หดแต่จะคงที่





ในราวปี ค.ศ. 1927 อับเบ จอร์จ เลอเมเทรต เสนอว่าเอกภพเกิดจากการระเบิดครั้งยิ่งใหญ่ของมวลสารที่อัดรวมกันแน่น ทำให้มีชิ้นส่วนแตกออกเป็นแก๊สร้อน กระจายออกจากจุดระเบิดไปทุกทิศทุกทางแล้วไปรวมตัวเป็นกลุ่มดาวเรียกว่ากาแล็กซี จากการระเบิดในครั้งนั้นทำให้พลังงานส่วนหนึ่งเปลี่ยนเป็นเนื้อสาร มีวิวัฒนาการเป็นกาแล็กซี เนบิวลา ดาวฤกษ์ ระบบสุริยะ โลก ดวงจันทร์ มนุษย์ และสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าเกิดขึ้นมาแล้ว 15,000-20,000 ล้านปี

ต่อมาทฤษฎีกำเนิดเอกภพของเลอเมเทรต ได้ถูกค้นคว้าต่อโดย จอร์จ กามอฟ ผู้ซึ่งบอกว่าถ้าจักรวาลระเบิดขึ้นจริง ภายหลังการระเบิดเราควรเห็นรังสีความร้อนหลงเหลืออยู่และเมื่อเวลาผ่านไปนาน ๆ รังสีนี้ควรจะเย็นลง และจะมีอุณหภูมิประมาณ 7 เคลวิน (องศาสมบูรณ์)

และในปีค.ศ. 1965 เมื่อ อาร์โน เพน เซียส และ โรเบิร์ต วิลสัน 2 นักวิจัยชาวอเมริกันได้ค้นพบว่าเอกภพนี้เต็มไปด้วยรังสีดังกล่าวในรูปแบบคลื่นไมโครเวฟขนาด 3 เคลวิน ทุกหนแห่งและทุกทิศทางอย่างสม่ำเสมอ ตรงตามที่ทฤษฎีบอกไว้ทุกประการ กอปรกับการยืนยันของ ฮับเบิล ที่กล่าวว่าจักรวาลประกอบด้วยกาแล็กซีต่าง ๆ มากมาย และกาแล็กซีเหล่านี้ก็กำลังเคลื่อนที่หนีออกจากกัน

การยอมรับในความถูกต้องของทฤษฎี บิกแบงจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และทฤษฎีนี้กลายเป็นโมเดลมาตรฐานของการกำเนิดเอกภพ อย่างไรก็ตามแม้ว่าแนวคิดหลัก ๆ ของทฤษฎีบิกแบง จะเป็นที่ยอมรับ แต่ก็มีปัญหาหนึ่งที่ทฤษฎีนี้ยังให้คำตอบไม่ชัดเจน นั่นคือ เอกภพระเบิดเมื่อใด และอะไรทำให้เอกภพระเบิด

ติดตามชมและค้นหาคำตอบการกำเนิดโลกได้ที่ The History Channelา อาทิตย์ที่ 11 พ.ย.นี้ ทาง TrueVisions UBC ระบบอนาล็อกช่อง 23 และระบบดิจิทัลช่อง 44 เวลาสองทุ่มตรง.








เพลงประกอบจากอินเตอร์เน็ต

หนู_มิเตอร์_-_แค่ร...




 

Create Date : 13 พฤศจิกายน 2550
2 comments
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2550 14:39:07 น.
Counter : 6897 Pageviews.

 

ขอขอบคุณที่ให้ข้อมูลในการศึกษาค่ะ

 

โดย: นักเรียน IP: 222.123.24.133 31 ตุลาคม 2551 16:33:27 น.  

 

สวย

 

โดย: อะไรว่ะ IP: 222.123.203.36 15 ตุลาคม 2552 14:22:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สาว17
Location :
ลูกสาวเมืองสิงห์ Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Color Codes ป้ามด







เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตครอบครัว
มีบางครั้งที่เราต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ
มีบ้างบางครั้งที่เราต้องเลิกทำในสิ่งที่ชอบ
เพื่อความก้าวหน้าของชีวิตครอบครัว
มีบ่อยครั้งที่เราต้องรู้จักใช้สติ
ต้องรู้จัก อดทน และให้อภัย
ดูอย่างต้นไม้ซิ
มันไม่เคยที่จะผืนลิขิตของฤดูกาล
มันไม่คิดจะขัดธรรมชาติ
เมื่อถึงคราวต้องทิ้งใบก็ยินยอมแต่โดยดี
อดทนและอดทน
เพื่อผลิใบ และดอกผลเมื่อฝนมา
เพราะเมื่อเวลามาถึงทุกสิ่งจะดำเนินไป
ชีวิตที่เรียบง่ายคือชีวิตที่มีสุข








Free Hit Counter ทีเว็บมาสเตอร์ รวมพลคนทำเว็บ
Google
New Comments
Friends' blogs
[Add สาว17's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.