เรื่องหมู...หมู
โบกมือลาแล้วปีจอ สำหรับใครหลายคนที่ยังไม่ได้ทำอะไรอย่างที่ตั้งใจ ก็มาเริ่มต้นกันใหม่ในปีหมูนี้ก็แล้วกัน ชื่อก็บอกแล้วว่า หมู ฉะนั้นไม่ว่าจะทำอะไรในปีนี้ก็ต้องสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีแน่นอน ก็เรื่องมันหมู หมู นี่นา ก้าวเข้าสู่ปีหมูทั้งที ก็ขอรวบรวมเอาเรื่องน่ารู้แบบหมู หมูมาฝากกัน
คำว่า กุน เป็นชื่อปีที่ 12 หรือปีสุดท้ายของรอบนักษัตร(นัก-สัด ชื่อรอบเวลาหรือการนับเวลาโดย กำหนด 12 ปี เป็น 1 รอบ และใช้สัตว์เป็นเครื่องหมายในปีนั้น ๆ ) อันประกอบด้วย ชวด, ฉลู, ขาล, เถาะ, มะโรง, มะเส็ง, มะเมีย, มะแม, วอก, ระกา, จอ และกุน ซึ่งในปี พ.ศ. 2550 นี้จะเป็นปีนักษัตร กุน ที่มี หมู เป็นสัญลักษณ์
หมู เป็นสัตว์ที่ทุกคนรู้จักคุ้นเคยกันดี แม้บางคนจะไม่เคยเห็นตัวเป็น ๆ ของหมูมาก่อน แต่ส่วนใหญ่ก็จะเคยเห็นภาพของ หมู ผ่านสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ หนังสือ นิทาน หรือจากข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน นั่นอาจเป็นเพราะ หมู มีลักษณะอ้วนกลม เมื่อไปปรากฏอยู่ในสิ่งใดก็ชวนให้น่ารักน่าเอ็นดู อีกทั้ง หมู ยังเป็นอาหารที่พบเห็นกันอยู่ทั่วไป เพราะสามารถนำไปปรุงอาหารได้หลากหลายรูปแบบ และมีรสชาติอันโอชะ เป็นที่นิยมบริโภคกันมาก
ส่วนอวัยวะต่าง ๆ ยังมีสรรพคุณเป็นยาอีกด้วย เช่น หนังหมู มีสรรพคุณแก้อาการเจ็บคอ แน่นหน้าอก เลือดหมู แก้อาการวิงเวียนศีรษะ ท้องอืดแน่นเฟ้อ กระเพาะหมู ช่วยย่อยอาหาร แก้กระหาย ปัสสาวะบ่อย ไตหมู ใช้เป็นยาแก้อาการปวดหลังปวดเอว บำรุงไต ดีหมู ใช้เป็นยาเย็นดับร้อน ทำให้ชุ่มชื่น และแก้อาการท้องผูก ดีซ่าน หัวใจหมู ใช้แก้อาการนอนไม่หลับ เหงื่อออกง่าย ใจสั่น เป็นต้น ส่วนขนหมู สามารถนำไปทำเป็นขนแปรงสีฟัน และขี้หมู ก็ใช้เป็นปุ๋ยสำหรับพืช หรือผลิตแก๊สชีวภาพได้อีกด้วย
หมูในสมัยก่อนจะมีขนแข็งและมันหนามาก แต่ปัจจุบันมีการผสมพันธุ์ใหม่ๆ ทำให้ขนนุ่มและมันน้อยลง หมูทั่วไปจะ มีผิวหนังสีดำ เทา หรือดำขาว บางชนิดก็เป็นสีขาวหรือชมพู หมูเป็นสัตว์ที่มีลูกดก คอกหนึ่งประมาณ 9-10 ตัว เป็นสัตว์ที่ มีนิสัยสอดรู้สอดเห็น ชอบเรียนรู้ ไม่อยู่นิ่งเฉย และมีความไวอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ว่าตกใจง่าย ว่ากันว่าลูกหมูที่ลืมตาดูโลกไม่กี่นาที จะพยายามยืนและเดินหาเต้านมแม่เพื่อดูดกิน และจะจำเต้านมที่ดูดได้ภายใน 7 วันหลังคลอด
จากนั้นมันก็จะครองเต้านมนั้นไปจนหย่านม (ราว 6-8 สัปดาห์หลังคลอด) โดยไม่ยอมให้ตัวอื่นมาแย่งเลย การที่หมูกินเสียงดัง ก็เพราะเมื่อมันใช้ลิ้นตวัดอาหารเข้าปาก หมูจะดูดอากาศเข้าไปด้วย เมื่อเคี้ยวอาหารอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ดูดอากาศเข้าไปพร้อมกัน จึงเป็นเหตุให้เกิดเสียงดังเวลามันกินอาหาร คนโบราณจึงมักเปรียบคนที่กินอาหารมูมมาม เสียงดังว่า กินเหมือนหมู ส่วนตัวอย่างอาหารที่ทำจากหมู ได้แก่ ไส้กรอก แฮม เบคอน หมูแดง หมูสามชั้น หมูยอ หมูแผ่น และหมูหัน เป็นต้น และอาหารจานหมูที่ขึ้นชื่อที่สุด ต้องยกให้ หมูย่าง เมืองตรัง และ แคบหมู เมืองเชียงใหม่ ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมซื้อกลับบ้านเป็นของฝาก
สำหรับดาราหมูดัง ๆ ที่คนไทยรู้จักกันดี หรือเมื่อเอ่ยชื่อเมื่อไร หลายคนก็ต้องร้องอ๋อ!!! ได้แก่ ตือโป้ยก่าย จากเรื่อง ไซอิ๋ว เรื่องราวการเดินทางไปยังชมพูทวีป ของ พระถังซำจั๋ง เพื่อไปอัญเชิญคัมภีร์พุทธศาสนากลับประเทศจีน โดยมี เห้งเจียหรือหงอคง(ลิง) ตือโป้ยก่าย (หมู) และ ซัวเจ๋ง (ปลา) เป็นบริวารคอยช่วยเหลือปราบเหล่าปีศาจ ที่ออกมาขัดขวาง ซึ่ง ตือโป้ยก่ายเอง ก็ถือว่าเป็นปีศาจหมูตัวหนึ่ง ที่ถูกเห้งเจียกำราบจนอยู่หมัด และดึงตัวมาเป็นลูกน้อง ในทางสัญลักษณ์กล่าวกันว่า ตือโป้ยก่าย เปรียบเสมือน ศีล อุปมาเป็นหมูที่ตะกละตะกลาม เจ้าชู้ คอยจะทำผิดศีลอยู่บ่อย ๆ
นอกจาก ตือโป้ยก่าย แล้ว ดาราสาวอีกท่านหนึ่งจะที่ลืมพูดถึงไม่ได้ ก็คือ หมู พิมพ์พกา เสียงสมบุญ ที่ตอนนี้ได้เปลี่ยนชื่อแล้วเป็น พรผกา แล้ว เมื่อไม่นานมานี้ ยังมีข่าวกุ๊กกิ๊กกับหนุ่มรุ่นน้องอย่าง บอย พิษณุ แห่งบ้าน อะคาเดมี แฟนเทเซีย แล้วก็ยังมีนิทานที่เด็ก ๆ รู้จักกันดี เรื่อง ลูกหมู 3 ตัว เป็นเรื่องราวของหมูพี่น้องสามตัว ที่ต่างสร้างบ้านด้วยวัสดุต่าง ๆ กัน แต่บ้านของหมูตัวสุดท้อง แข็งแรงและดีที่สุดเพราะสร้างด้วยอิฐ แม้จะต้องใช้เวลานานกว่าพี่ ๆ
ส่วนดาราหน้าหมู หมู ที่ลืมไม่ได้คือ เจ้าเบบ ดาราหมูจากฮอลลีวู้ด หมูน้อยที่อยากเป็นหมาเลี้ยงแกะ ในหนังดังจากออสเตรเลีย ที่คนไทยส่วนใหญ่คงได้ชมกันไปบ้างแล้ว และ พิกเล็ท หมูน้อยหน้าหมีสีชมพู เพื่อนซี้ของหมีพู เป็นการ์ตูนดังจาก วอลต์ ดีสนีย์ ที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดีส่วนตัวสุดท้ายถ้าข้ามมาฝั่งเอเชียบ้านเราก็ต้องนึกถึง บูริน หมูอวกาศ สีชมพู ที่เคยฉายทางช่อง3ช่วง 4โมงเย็น ปี 2539-2540 เป็นเรื่องของเด็กสาวต้องแปลงเป็นหมูเพื่อพิทักษ์โลก เมื่อช่วยคนสำเร็จก็จะได้ไข่มุกแห่งความดีมาเก็บสะสม เมื่อเก็บครบร้อยเมื่อไหร่ ก็จะสามารถขออะไรตามที่ต้องการได้
มาที่เรื่องของดวงกันบ้าง ในทางโหราศาสตร์ของจีน กล่าวไว้ว่า
คนเกิดปีกุน (หมูผู้กล้า) คือ ต้นแบบแห่งความจริงใจ บริสุทธิ์ ผ่อนปรน และศักดิ์ศรี เมื่อแรกพบคุณจะรู้สึกว่าคนเกิดปีกุนนี้ช่างดีเหลือเกิน นอกจากนั้นยังเป็นคนระมัดระวัง ช่างเอาใจใส่ และกล้าหาญ ลองมอบความไว้เนื้อเชื่อใจให้คนเกิดปีกุนแล้ว คุณจะรู้ว่าพวกเขาช่างแสนดี พร้อมจะทำทุกสิ่งที่ถูกต้อง และไม่ทำให้คุณผิดหวัง คนเกิดปีกุนมักเป็นที่รักของทุกคน
คนเกิดปีนี้เกิดมาเพื่อเป็นผู้ให้ และรักการบริการ คนส่วนใหญ่จึงฉวยโอกาสเอาเปรียบตรงข้อนี้ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คนปีกุนรู้สึกแย่แต่อย่างไร แม้จะเริ่มแก่ตัวขึ้น คนปีกุนก็ยังเชื่อมั่นว่ามนุษย์ล้วนแล้วแต่เกิดมาพร้อมกับจิตใจที่ดีงามเป็นพื้นฐาน คนเกิดปีนี้พร้อมสละความสุขส่วนตัวเพื่อผู้อื่น และเป็นเพื่อนที่ดี ดังนั้นหากคุณมีเพื่อนปีกุนที่คบกันมาเนิ่นนาน อย่าลืมถนอมน้ำใจกันไว้ดี ๆ วิธีง่าย ๆ ก็คือ อย่าไปบังคับขู่เข็ญให้เขามามีความคิดเหมือนกับคุณเด็ดขาด และอย่าลืมว่าคนปีกุนไม่ชอบขอหรือรับความช่วยเหลือจากใคร
มีลักษณะเฉพาะ เป็นคนฉลาด ไว้ใจได้ ใจดี ไม่เห็นแก่ตัว ชาวจีนนิยม หมู (สัตว์สัญลักษณ์แห่งความมั่งมี) เพราะถือว่าการมีหมูจำนวนมากในฟาร์มหมายถึงความกินดีอยู่ดี จุดเด่นของคนเกิดปีกุน เป็นคนมีจิตใจดี ให้อภัย ไม่เคียดแค้น ใจดี บุคลิกง่าย ๆ สบาย ๆ ดังนั้นใคร ๆ ต่างก็เข้ามาหาเมื่อมีปัญหา และมีจุดอ่อน คือ ในบางครั้งก็แสนซื่อไร้กลยุทธ์ เชื่อแทบทุกเรื่องที่มีคนบอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำเยินยอ
ส่วนคู่รักที่เหมาะสมกับปีกุน คือ ปีเถาะหรือมะแม ในเรื่องความสัมพันธ์ ของคนเกิดปีกุนมีความรู้สึกไว อ่อนหวาน ซื่อบริสุทธิ์ ช่างเอาใจ โรแมนติก แต่บางครั้งก็ขี้หึงหวง คู่ที่เหมาะสมที่สุดคือ คนเกิดปีมะแม มะโรง เถาะ ชวด หรือกุนเหมือนกัน รองลงมาคือ ปีจอ วอก ขาล หรือมะเมีย ที่พอเข้ากันได้คือ ปีระกา หรือฉลู ส่วนปีต้องห้ามคือ ปีมะเส็ง ในเรื่องความรัก คนปีหมูดูน่ารักแต่ทำคนอกหักมานับไม่ถ้วน อารมณ์ของหนุ่มสาวชาวปีกุนก็ร้อนแรงเหมือนกันนะ เขาและเธอเป็นคนมีเสน่ห์ใครเห็นก็อยากใกล้ชิด และก็อย่างที่บอกนั่นแหละคนเกิดปีนี้เขามีไฟ ถ้าเข้าใกล้ก็จะวูบวาบได้ง่าย พวกเขาจริงจังในทุก ๆ เรื่อง ยกเว้นในเรื่องความรัก
ถ้าใครจะรักชาวปีกุนก็ต้องทำใจสักหน่อย เพราะเขาและเธอออกจะรวนเรและหวั่นไหวง่าย มีหัวใจที่เปลี่ยนแปลงเหมือนกังหันต้องลมเลยแหละ ยิ่งไปกว่านั้น เขาและเธอยังเป็นคนที่ไม่ยอมหักห้ามใจ มีไฟรักอยู่เต็มเปี่ยม โรคประจำตัวของคนเกิดปีนี้คือการแพ้คนหล่อคนสวย แบบที่ว่าหน้าตาดี อย่าได้ย่างกรายเข้ามาใกล้เชียว ทำให้คนเกิดปีกุนจะหลงรักเอาง่าย ๆ เลยล่ะ ถ้ารู้จุดอ่อนของตัวเองแล้ว ต้องควบคุมอารมณ์ของตนเองให้ได้ความวุ่นวายในชีวิตก็จะลดลงมากทีเดียว
คนเกิดปีกุนที่เป็นผู้หญิงจะดีกว่าผู้ชายเล็กน้อยในเรื่องคู่ครองและความรัก คือถ้าเจอคู่แท้ก็แล้วไป สาวเจ้าก็จะได้ไม่เปลืองตัวและปล่อยใจให้กับใคร ๆ อีก แต่สำหรับหมูหนุ่ม จะไม่หยุดอยู่แค่นั้นหรอก จึงมักจะหาคนจริงจังได้ยากสักหน่อย ตำราบอกว่าผู้หญิงปีกุนส่วนมากมักจะมีคู่ที่อ่อนวัยกว่านะ และเพื่อความมั่งคั่งร่ำรวย บ้านของคนปีกุน ต้องมีห้องครัวที่กว้างขวาง สะอาด สะดวก สบาย มีอุปกรณ์ในการทำครัวครบครัน เพราะการเข้าครัวทำอาหารของคนปีกุน ถือเป็นเรื่องมงคลนำมาซึ่งโชคลาภ ความสำเร็จ และความร่ำรวย และถ้ามีตุ๊กตาเซรามิครูปหมูสีขาวหรือสีชมพู สัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ วางไว้ในห้องรับแขกหรือห้องรับประทานอาหารด้วย จะยิ่งถูกโฉลก โชคดี เฮง เฮง เฮง เพิ่มมากขึ้น
สำหรับภาษิต คำพังเพย และ สำนวน เกี่ยวกับหมูก็มีไม่น้อย หมู เป็นสำนวน หมายถึง สิ่งที่ทำได้ง่าย ไม่ติดขัด เช่น ข้อสอบคราวนี้หมูมาก ฉันคงสอบผ่านอย่างไม่มีปัญหา หมูในอวย หมายถึง สิ่งที่อยู่ในกำมือ หมูสนาม หมายถึง ผู้ที่ถูกล่อให้แพ้ได้ง่าย หรือ ผู้ที่มีฝีมือด้อย แต่ถ้าพูดว่าเป็น หมูเขี้ยวตัน หมายถึง คนที่เก่งทัดเทียมกับเรา หมูเขาจะหามเอาคานเข้าไปสอด หมายถึง การที่เข้าไปขัดขวางผลประโยชน์ หรือกิจการของคนอื่นที่เขากำลังจะสำเร็จอยู่แล้ว หมูในเล้า หมายถึง คนหรือทรัพย์ที่อยู่ในอาณัติ ย่อมง่ายต่อการควบคุมหรือจัดการ หมูไปไก่มา คือ มีของแลกกัน ให้ของตอบแทน ดินพอกหางหมู หมายถึง คนที่ชอบเก็บงานเอาไว้คั่งค้าง ไม่ทำให้ลุล่วงไปสักที
และถ้าหากใครผ่านไปบริเวณริมคลองหลอด ด้านหลังวัดราชประดิษฐ์ หรือแถวกระทรวงมหาดไทย ท่านก็จะได้เห็น อนุสาวรีย์สหชาติหรืออนุสาวรีย์หมู ลักษณะเป็นรูปหล่อหมู ทำด้วยทองแดง ตั้งอยู่บนก้อนหินที่เรียกว่า เขามอสูง แลดูสง่างามอยู่ไม่น้อย ซึ่งความเป็นจริงแล้ว อนุสาวรีย์หมู ที่คนกรุงเทพฯ คุ้นเคยนี้ คือ อนุสรณ์สถานที่เกี่ยวเนื่องกับสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถหรือสมเด็จพระพันปีหลวง ในรัชกาลที่ 6 และ 7 นั่นเอง อนุสาวรีย์หมู แห่งนี้กำเนิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2456 เนื่องมาจากในปีนั้น
เมื่อใกล้ถึงวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระพันปีหลวงสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ พระยาพิพัฒน์และพระยาราชสงคราม ผู้ซึ่งเป็นสหชาติ (เกิดปีเดียวกัน) กับสมเด็จพระพันปีหลวง มีความประสงค์จะถวายของที่ระลึก เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาแต่ในปีนั้นสมเด็จพระพันปีหลวงทรงมีพระราชเสาวนีย์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะไม่ขอรับของถวายใด ๆ ทั้งสิ้น และด้วยเหตุนี้เอง สมเด็จเจ้าฟ้า ณ กรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ พระยาพิพัฒน์ และพระยาราชสงคราม จึงคิดสร้างอนุสรณ์สถานขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล
เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระพันปีหลวงด้วยการหล่อรูปหมูซึ่งเป็นปีเกิดของสมเด็จพระพันปีหลวงนั่นเอง อนุสรณ์สถานรูปหมูนี้ตั้งขึ้นบนเขามอที่ก่ออย่างงดงาม มีท่อประปาต่อลงมาข้างล่างเพื่อให้ชาวเมืองในสมัยนั้นได้ใช้น้ำดื่มกินฟรี โดยหลังจากสร้างแล้วเสร็จก็ได้มีหนังสือกราบถวายบังคมทูลฯ ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 50 ปีในปี พ.ศ. 2456 แด่สมเด็จพระพันปีหลวง ซึ่งตรงฐานนั้นยังมีจารึกคำถวายพระพรสมเด็จพระพันปีหลวงไว้ว่า โอ้ ขอองค์สมเด็จพระศรีพัชรินทราจงเจริญพรชนมายุตลอดศิลาลาญ
เรื่องหมู...หมู ที่กล่าวข้างต้น คงจะทำให้ท่านได้รู้จัก "หมู" มากขึ้น สุดท้ายนี้ก็ขอให้ทุกท่านมีความสุขตลอดปีหมูหรือปีกุนนี้.
Create Date : 01 มกราคม 2550 |
Last Update : 21 มิถุนายน 2550 20:04:42 น. |
|
5 comments
|
Counter : 1252 Pageviews. |
|
|
|
สวัสดีปีใหม่ค่ะ มีความสุขมากๆน่ะค่ะ