ใส่จริตอย่างไร...ไม่ดูแบ๊ว
คำพังเพยโบราณที่ท่องจำกันมาว่า สำนวนส่อภาษา กิริยาส่อสกุลนั้น ยังสามารถใช้ได้กับกุลสตรีทุกยุคทุกสมัย การพูดที่ชัดถ้อยชัดคำตามอักขรวิธี เป็นสิ่งที่แสดงถึงพื้นฐานของการศึกษาและความเข้าใจในการใช้ภาษาของตัวผู้พูดเอง อย่าไปเข้าใจว่าการออกเสียงเลียนแบบของเด็กหญิงวัยรุ่นที่ต้องใส่เหล็กดัดฟัน ออกเสียงไม่ชัดเป็นเสียงก้ำกึ่งแล้วจะน่าเอ็นดูและน่าฟัง มีไม่น้อยที่ออกเสียง ส แล้วใช้ปลายลิ้นดุนระหว่างฟันหน้าแทนที่จะออกเสียงจากไรฟันอย่างที่ควรจะเป็น ที่ฟังแล้วเป็นอักษรประหลาด หรือการพูดลงท้ายคำถามด้วยคำว่า ช่าย...ป่ะ แทนที่จะเป็น ใช่ไหมคะ เป็นสิ่งที่ควรแก้ไข เพราะการพูดให้แลดูเป็นเด็กสาวใสๆ ไม่ใช่สิ่งที่พึงกระทำของผู้ที่มีอายุเกินวัยรุ่นไปแล้ว วัยรุ่นเป็นวัยที่ได้รับการอภัยจากผู้ใหญ่ได้ง่ายกว่าผู้ที่พยายามทำตัวให้ดูว่ายังอยู่ในวัยรุ่น ทั้งๆที่เลยวัยนั้นมานานนักหนาแล้ว
การใช้ ร หรือ "ล และคำควบกล้ำต้องออกเสียงให้ชัดเจน ถึงแม้บางคนจะมีปัญหาในเรื่องของการออกเสียงเหล่านี้ก็สมควรต้องได้รับการแก้ไข ฝึกพูดให้ถูกต้องตามที่ควร หากมีปัญหาเรื่องฟันไม่สบ ควรปรึกษาทันตแพทย์ดีกว่าปล่อยทิ้งไว้ การรักษาและจัดฟันให้เป็นระเบียบมีความสำคัญมากต่อการออกเสียง ทั้งภาษาไทยภาษาอื่นๆ สำหรับผู้ที่นิยมออกเสียงภาษาไทยให้ละม้ายคล้ายกับออกเสียงภาษาอังกฤษก็ควรระวัง เพราะการออกเสียงลักษณะนี้ ไม่ได้หมายความว่าจะดูว่าเป็น นักเรียนนอก แต่กลับจะถูกดูแคลนไปว่าพูดภาษาไทยไม่แตกฉาน ภาษาไทยที่สะกดด้วยตัวอักษร ช ไม่ต้องออกเสียงเป็นตัว ch ในภาษาอังกฤษ เคยได้ยินผู้เรียกนักร้องชายชื่อ ทัช ว่า Touch แทนที่จะเป็น ทัด อย่างที่ควรจะเป็น หรือบางคนห่อปากออกเสียง sh แทนอักษร ฉ ที่มีลักษณะของการออกเสียงที่ต่างกันมาก การเคี้ยวหมากฝรั่งเป็นอีกกิริยาหนึ่งที่ควรงด นอกเสียจากจะมีปัญหาในเรื่องของหูที่แพทย์บางคนให้เคี้ยวหมากฝรั่งเพื่อปรับความดันในช่องหู เพราะการเคี้ยวหมากฝรั่งหยับๆ นอกจากจะเป็นกิริยาที่ไม่น่าดูแล้ว ยังก่อให้เกิดความไม่มั่นใจในตนเองอีกด้วย มีไม่น้อยที่คิดว่าการเคี้ยวหมากฝรั่งคือการสร้างความมั่นใจให้กับตนเอง บางคนเคี้ยวหมากฝรั่งหลังอาหารเพื่อเป็นการทำความสะอาดช่องปากก็ต้องระวังที่จะไม่เคี้ยวหมากฝรั่งตลอดเวลา ซึ่งเป็นกิริยาที่ไม่สุภาพหากเคี้ยวไปพูดไป บางคนปลิ้นเอาหมากฝรั่งออกมานอกปากด้วยลิ้นแล้วเป่าเป็นลูกโป่งเล่น กิริยาเหล่านี้น่าดูหากผู้ทำเป็นเด็กที่อายุเพียงไม่กี่ขวบ การพูดระหว่างรับประทานอาหารไปด้วยเป็นสิ่งที่พึงเตือนตนเองเสมอๆ ไม่ว่าจะเป็นการสนทนากับบุคคลที่ไม่สนิทสนม หรือแม้กระทั่งในหมู่เพื่อนๆที่สนิทก็ตาม การเคี้ยวอาหารไปและพูดไปด้วยไม่ใช่สิ่งที่น่าดู เพราะเวลาพูดต้องอ้าปากจนอาจทำให้เห็นอาหารที่ถูกเคี้ยวอยู่ในช่องปาก มองดูเป็นเศษอาหารกองย่อมๆ การกินอาหารแต่ละคราวในปริมาณที่มากเกินไปจนเต็มกระพุ้งแก้ม จะทำให้แก้มป่องและอาหารล้นปากจนเคี้ยวไม่สะดวกแลดูเป็นคนมูมมาม
สำหรับสุภาพสตรีแล้ว การเติมแป้งและลิปสติกหลังจากรับประทานอาหารเรียบร้อยเป็นสิ่งที่พึงกระทำ แต่ควรเลี่ยงไปทำที่รโหฐานเช่นห้องน้ำหรือในห้องทำงานของตนเองที่มิดชิดไม่ประเจิดประเจ้อ ไม่ควรแต่งหน้าในโต๊ะอาหารแม้จะอยู่ในหมู่เพื่อนฝูง เพราะผู้ที่เห็นไม่ได้มีเพียงแต่เพื่อนร่วมโต๊ะเท่านั้น หากแต่ผู้ที่นั่งใกล้ๆก็ย่อมเห็นเช่นกัน พึงระลึกเสมอว่า การแต่งหน้าเป็นการเสริมเพื่อให้ตนเองดูดีขึ้น สวยงามน่าดูขึ้น แต่ไม่ใช่เป็นการเรียกร้องความสนใจให้ใครต่อใครต้องหันมามอง เพราะความแปลกตามากกว่าน่าชม บางคนเข้าใจเอาว่าการแต่งรอบดวงตาให้เป็นสีอ่อนๆ จะแลดูกระจ่างตาเหมือนเด็กสาวสุขภาพดี ใช้สีไฮไลต์ประกายมุกแต่งจนรอบดวงตาเป็นวงสีขาวโพลน แลดูเหมือน ค่างแว่น มากกว่าดูเป็นเด็กสาววัยใสๆ การใช้สีให้กลมกลืนกันสำหรับการแต่งหน้าเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งนี้พึงหมั่นสังเกตและปรึกษาผู้ให้คำปรึกษาทางด้านความงามผู้มีประสบการณ์ มากกว่าเชื่อตนเองหรือคนรอบข้างที่ขาดความชำนาญ เพราะคนที่รอบๆตัวเราเป็นผู้ที่มองเห็นใบหน้าของเรามากที่สุด บ่อยครั้งยิ่งกว่าเจ้าตัวที่จะมองเห็นใบหน้าตนเองเพียงวันละไม่กี่ครั้งในกระจกเงาเท่านั้น การแต่งหน้าให้มีสีสันที่กลมกลืนน่าดูเป็นการเสริมสร้างบุคลิกของตนให้น่าเข้าใกล้มากกว่าน่าอยู่ห่างๆ สำหรับเพื่อนร่วมงานและผู้ที่ต้องติดต่อด้วย การใช้เครื่องสำอางต่างๆจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นให้ผู้ใช้สวยสมวัยและน่ามองที่สุด เหล่านี้อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่รู้ ๆ กันอยู่ แต่ก็เป็นกิริยาที่หลายคนยังทำทั้ง ๆ ที่รู้
Create Date : 27 ตุลาคม 2550 |
|
2 comments |
Last Update : 27 ตุลาคม 2550 19:26:34 น. |
Counter : 1077 Pageviews. |
|
|
|