หากอุปสรรคคือแบบทดสอบหนึ่งของมนุษย์ ไพบูลย์ ผิวพิมพ์ดี ก็คือคนที่ผ่านแบบทดสอบมาอย่างมากมาย ตั้งแต่ต้องออกจากโรงเรียนเพียงชั้น ป.4 แม่ต้องล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งเมื่อเขาอายุ 20 ปี จนต้องขายวัวที่เลี้ยงไว้เพื่อมารักษาแม่ นั่นคืออุปสรรคที่เขาและครอบครัวฝ่าฟัน

                      กระทั่งมีครอบครัวก็เริ่มทำไร่ยาสูบ ก่อนต่อยอดทำโรงสีข้าวเคลื่อนที่ เมื่อมีปลายรำข้าวเป็นเศษเหลือก็แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งขายอีกส่วนนำมาเลี้ยงหมู 100 ตัว เมื่อเลี้ยงได้ 3-4 ปี ก็พบกับอุปสรรคเมื่อ ต.บ้านโข้ง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี มีโรคระบาดในหมู หมูที่เลี้ยงไว้ทยอยตายหมด เขาจึงเปลี่ยนอาชีพมาเปิดร้านรับซื้อของเก่า พร้อมอุทิศตัวรับใช้ชุมชนในฐานะรองนายก อบต.บ้านโข้ง

                      “ปี 2553 ซีพีเอฟขยายโครงการเลี้ยงหมูขุนมาในพื้นที่ อ.อู่ทอง เห็นว่าโครงการไม่มีความเสี่ยง เพราะบริษัทเอาหมูมาฝากเลี้ยง มีอาหาร ยา มาให้ เมื่อหมูโตถึงเวลาขาย ที่สำคัญยังรับผิดชอบกรณีที่เกิดความเสียหายระหว่างการเลี้ยง ส่วนเรามีหน้าที่ดูแลให้ผลผลิตดีที่สุด จึงเริ่มต้นอาชีพเกษตรกรอีกครั้ง” ไพบูลย์ บอก

                      ไพบูลย์เริ่มลงหลักปักฐาน “ไพบูลย์ฟาร์ม” ในโครงการส่งเสริมการเลี้ยงสุกรขุน กับบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ สาขาสุพรรณบุรี โดยกู้ยืนเงินจากธนาคาร 5.3 ล้านบาท บวกกับเงินส่วนตัวอีก 1 ล้านบาท เพื่อสร้างโรงเรือนปิด 4 หลัง เลี้ยงหมูขุนรวม 2,400 ตัว บนที่ดิน 16 ไร่

                      “บริษัทเป็นเพื่อนร่วมคิด ให้ความรู้ พัฒนาการเลี้ยง ใช้เทคโนโลยีทันสมัย ใช้เครื่องให้อาหารอัตโนมัติ ทำให้การเลี้ยงมีประสิทธิภาพสร้างรายได้ให้รุ่นละ 1.2 ล้านบาท” ไพบูลย์บอกอย่างภูมิใจ

                      ด้วยงานเพื่อสังคมที่มากขึ้นหลังได้รับเลือกตั้งให้เป็นนายกเทศมนตรีตำบลบ้านโข้ง เมื่อปี 2555 ไพบูลย์จึงตัดสินใจส่งไม้ต่อให้ลูกชายกับลูกสะใภ้รับช่วงการเลี้ยงต่อไป ซึ่งผลการเลี้ยงก็ดีขึ้นเป็นลำดับ จึงมีโครงการขยายโรงเรือนเลี้ยงหมูเพิ่มจาก 4 หลัง เป็น 6 หลัง ในเร็วๆ นี้

----------------------