สุรเชษฐ ปิ่นเกล้า รองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจไก่กระทง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ซีพีเอฟ เล่าว่า โครงการส่งเสริมไก่เนื้อศรีราชา เริ่มก่อตั้งปี 2518 เข้ามาส่งเสริมเกษตรกรเลี้ยงไก่เนื้อในลักษณะคอนแทร็กฟาร์ม ซึ่งเป็นจุดกำเนิดในการสร้างงาน สร้างอาชีพที่มั่นคง

                      อำไพ ชูชื่น ทายาทของลุงแถม ชูชื่น เกษตรกรรายแรกในยุคบุกเบิกของโครงการส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรายย่อย อ.ศรีราชา เล่าว่า พ่อมีตำแหน่งเป็นประธานเกษตรกรศรีราชา ที่บ้านมีชีวิตความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก เงินที่ได้จากขายมันสำปะหลังก็นำไปใช้หนี้หมุนเวียนแบบนี้ทุกปีไม่สิ้นสุด แต่พ่อมีหัวก้าวหน้า เมื่อเจ้าหน้าที่ซีพีเอฟเข้ามาชักชวนเกษตรกรเลี้ยงไก่เนื้อในระบบคอนแทร็กฟาร์ม พ่อจึงสนใจศึกษาข้อมูล และปรึกษากับหน่วยงานราชการ จนมั่นใจ จึงตัดสินใจเข้าร่วมโครงการเป็นรายแรกของศรีราชา

                      “สมัยนั้นไม่มีใครกล้าตัดสินทำตามพ่อสักคน เพราะไม่เคยเลี้ยงไก่มาก่อน และยังต้องกู้ธนาคารสร้างโรงเรือนด้วยวงเงินกว่า 2 แสนกว่าบาท จำได้ว่า เมื่อพี่กับพี่สาวช่วยพ่อเลี้ยงไก่ได้รับเงินครั้งแรก 2.6 หมื่นบาท จากการขายไก่ 1 หมื่นตัว ใช้เงินกู้ 1.4 หมื่นบาท แล้วเหลือเงินเก็บตั้ง 8,000 บาท ตื่นเต้นมาก พอทำได้แบบเดิม 2-3 รอบ เพื่อนบ้านก็เริ่มสนใจดูงานที่บ้าน และตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ รวม 200 ครอบครัว ส่วนครอบครัวพี่จากที่เลี้ยงไม่ค่อยเป็นหลังจากนั้น 3 ปี ก็ขยายจำนวนไก่เป็น 4 หมื่นตัว และสามารถใช้หนี้ธนาคารหมดภายใน 5 ปี" อำไพเล่า

                      ด้าน สุรเชษฐ กล่าวว่า จากความสำเร็จของการส่งเสริมอาชีพเกษตรกรในพื้นที่ศรีราชาต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทนำไปต่อยอดและขยายการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงสัตว์ให้แก่เกษตรกรรายย่อยในพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ รวมทั้งส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ชนิดอื่น ได้แก่ ไก่ไข่ สุกร ปัจจุบันมีเกษตรกรในพื้นที่ศรีราชา 58 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ร่วมโครงการกว่า 10 ปีขึ้นไป

                      ส่วน ทนง และจรัญ เอี่ยมอินทร์ สองพี่น้องที่สานต่อการเลี้ยงไก่เนื้อจากแม่ยี่สุ่น เอี่ยมอินทร์ ที่เข้าร่วมโครงการกับซีพีเอฟปี 2522 ส่งไม้ต่อให้ทนงเมื่อปี 2535 เลี้ยงไก่ 2.8 หมื่นตัว และขยายไปทำธุรกิจเปิดร้านขายเฟอนิเจอร์ในตัวเมืองศรีราชาอีกทาง ส่วนน้องชาย จรัญ ได้ขยายออกมาเลี้ยงไก่เนื้อกับโครงการอีก 2 หมื่นตัว และเปิดร้านอินเทอร์เน็ตด้วย

                      “ผมกับน้องชายคลุกคลีและช่วยงานพ่อมาตั้งแต่เด็กๆ จึงผูกพันกับอาชีพนี้ ที่สำคัญช่วยให้ครอบครัวลืมตาอ้าปากได้ ลูกหลานได้เรียนหนังสือ และไม่ต้องไปหางานทำไกลบ้าน อีกทั้งปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีการเลี้ยงที่ทันสมัย โรงเรือนเป็นระบบอีแวป มีเครื่องมือช่วยให้การเลี้ยงไก่ง่ายกว่าสมัยก่อน ผมกับน้องชายจึงถ่ายทอดประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกไปพร้อมๆกัน” ทนง เล่าให้ฟัง

                      ความสำเร็จของเกษตรกรโครงการส่งเสริมเกษตรกรในพื้นที่ศรีราชาครบ 40 ปีในปี 2558 นี้ สุรเชษฐ์ ย้ำว่า บริษัทยังไม่หยุดเดินหน้าสร้างความสำเร็จให้แก่เกษตรกรทั่วประเทศ ที่ร่วมโครงการ กว่า 5,000 ราย เพื่อช่วยสร้างอาชีพที่มั่นคง ยกระดับฐานะความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนให้แก่เกษตรกรไทย

-------------------