Group Blog
 
<<
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
23 กันยายน 2552
 
All Blogs
 

เฉพาะแฟน ชิงชัง ((คืนนี้ผู้ใหญ่แก้วจะหลับแล้วนะ)))

ตอนที่ 30 อังคารที่ 22 กันยายน 2552


ขอพูดถึงความรักของพ่อที่มีต่อลูกอย่างไม่เคยเสื่อมคลายก่อนแม้จะเคยทำผิดพลาดพลั้งไปบ้าง แต่คนเป็นพ่อแม่ก็ยังให้อภัยได้เสมอ

ภาพของผู้ใหญ่แก้วเดินขึ้นบ้านด้วยท่าทางทดท้อหมดหวัง หลังออกตามหานังอุ่นไปทั่วสารทิศ

แต่ใครจะคิดว่าลูกสาวของตนจะตกต่ำไปอยู่ถึงในซ่อง แม้เมื่อก้าวขึ้นบ้านจะได้รับข่าวดีจากแม่อิ่มว่า อารีย์คลอดลูกเป็นผู้ชายแล้ว ผู้ใหญ่แก้วก็ดูจะมีความหวังขึ้นมา ถึงกลับชวนเมียให้ไปรับลูกกับหลานกลับบ้านด้วยตนเอง

แต่โชคชะตามักเล่นตลกกับชีวิตของคนเราเสมอ เหมือนคำที่ว่าความสุขไม่เคยอยู่กับเรานาน ความทุกข์มักจะตามหลังมาเสมอ

อารีย์กลับมาบ้านพร้อมลูกชายในอ้อมกอด ผู้ใหญ่แก้วดีใจได้ไม่นานก็ต้องเกิดโมโหที่ลูกสาวคนเล็กยื่นความจำนงที่จะไปจากบ้านเพราะมีอนาคตที่ดีรออยู่ข้างหน้า ไม่สนใจแม้ลูกที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้ยังไม่ถึงเดือน

ความทุกข์โหมซัดผู้ใหญ่แก้วระลอกที่สองด้วยบังอรกับข่าวคบชู้จนตั้งท้อง คดีความยังไม่เสร็จสิ้น ระลอกที่สามก็ตามมาด้วยข่าวนังอุ่นขายตัวอยู่ในซ่องที่ปากน้ำโพ หัวใจที่บอบช้ำมาหนัก แม้จะพยายามรักษาเยียวยาอย่างไรแต่เมื่อบาดแผลนั้นถูกราดรดด้วยความผิดหวังซ้ำซาก มะเร็งร้ายที่เกาะกินใจของผู้ใหญ่แก้วจึงลุกลามยากเกินควบคุม


ผู้ชายอย่างผู้ใหญ่แก้วที่เป็นผู้นำของครอบครัวมาตลอด นับตั้งแต่การตัดสินใจอย่างเด็ดขาดในทุกเรื่อง ไม่เว้นแม้แต่ความรักและคู่ครองของลูกสาวทั้งสี่ สุดท้ายกลายเป็นโศกนาฏกรรมความรักที่กินเวลายาวถึงยี่สิบกว่าปี

นี่คือจุดเริ่มต้นของเหตุทั้งหมด โดยมีผลลัพธ์ย้อนหลังให้ผู้ใหญ่แก้วล้มทั้งยืน หมดโอกาสที่จะลุกขึ้นมารับรู้ผลของการตัดสินใจโดยไม่ฟังเสียงลูกเมียอีกต่อไป คุณสรพงษ์ ชาตรี ยังคงทำหน้าที่สวมบทบาทผู้ใหญ่แก้วได้อย่างไม่มีที่ติ พ่อผู้เฉียบขาด พ่อผู้เอาแต่ความคิดของตนเองเป็นที่ตั้ง พ่อผู้เจ็บช้ำ พ่อผู้ผิดหวังซ้ำซาก พ่อผู้ปรารถนาดีต่อลูก และพ่อผู้รักลูกทุกลมหายใจ ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในตัวของผู้ใหญ่แก้ว

อยากบอกว่าคนเราเกิดมาไม่มีใครดีหรือเลวร้อยเปอร์เซ็นต์ มนุษย์ทุกผู้ทุกนาม ย่อมเคยทำผิดพลาดมากบ้างน้อยบ้าง แต่เมื่อผิดแล้วต้องไม่ผิดซ้ำสอง หรือผิดแล้วต้องแก้ไข นั่นถึงจะเรียกว่ารู้ผิดรู้ชอบ

เรากำลังจะบอกว่าตัวละครตัวนี้ก็คือมนุษย์ปุถุชนธรรมดาที่เราพบเห็นได้ทั่วไป และผู้ที่สร้างขึ้นมา ก็ช่างสร้างได้อย่างสมบูรณ์ใกล้เคียงชีวิตจริงซะเหลือเกิน จนแยกแทบไม่ออกว่า นี่คือนวนิยาย หรือชีวิตของคนเดินดินอย่างพวกเรา ๆ

วันนี้นอกจากเราจะเห็นความพ่ายแพ้ของผู้ใหญ่แก้วแล้ว วันนี้เรายังเห็นสีหน้าตกใจของทิดอิน แววตาสำนึกผิดเริ่มมีให้เห็นหลังรับรู้ข่าวนังอุ่นอยู่ในซ่อง จะด้วยข่าวอะไรก็ตาม แต่เราเห็นแววตานั้นของทิดอินจริง ๆ ถ้าบทโทรทัศน์ทำมาให้ทิดอินเริ่มรู้สึกผิดกับสิ่งที่ตนกระทำมาก่อนหน้านี้ละก็
เราถือว่าคุณเปบเปอร์ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม ถึงแม้ผู้ที่ร่วมอยู่ในฉากเดียวกันจะทำหน้าที่ของตนได้อย่างไร้เทียมทานแล้วก็ตาม แต่พลังการแสดงของคุณเปบเปอร์ ก็สามารถดึงสายตาเราให้เฝ้ามองเขาอย่างถี่ถ้วนอยู่ตลอดเวลา


ขอย้อนกลับไปพูดถึงไอ้ปิงผู้ต้อยต่ำบ้าง ไอ้ปิงผู้ไม่เคยเอาชนะคุณอารีย์ของมันได้สักครั้ง อาจเป็นเพราะความรักที่ปิงมีให้ดอกฟ้าของมันอย่างล้นเหลือกระมัง ปิงถึงไม่อาจหักหาญน้ำใจทำอะไรที่เด็ดขาดก่อนหน้านี้อย่างที่ควรจะเป็น สุดท้าย...ความรักระหว่างแม่กับลูกที่ปิงตั้งความหวังไว้ว่าจะสามารถดึงให้อารีย์อยู่ร่วมชีวิตต่อด้วยนั้น ไม่อาจทานอำนาจแห่งความทะเยอทะยานของดอกฟ้าอย่างอารีย์ได้ ความรัก ความหวังของปิงจึ้นสิ้นสุด ไปพร้อมกับกระแสความร้อนของเพลิงที่โหมไหม้ ทิ้งไว้เพียงเถ้าถ่านของความหลังที่อารีย์ไม่ปรารถนาจะให้ใครขุดคุ้ย


คนสุดท้ายที่ต้องพูดถึงก็คือไอ้ยอด หรือชลาชล การปรากฏตัวของชายผู้ไร้อดีตครั้งนี้ บอกให้รู้ว่าทางรักระหว่างไอ้ยอดกับแม่อิ่มสิ้นสุดลงแล้ว ไม่มีไอ้ยอดนักเลงหัวไม้แห่งท่าน้ำอ้อย มีเพียงชลาชลชายผู้ไร้อดีตและมากับสายน้ำ ทิ้งแม่อิ่มกับเรื่องราวของโศกนาฎกรรมความรักไว้เบื้องหลัง แล้วเริ่มต้นนับหนึ่งด้วยเรื่องราวใหม่ ๆ ที่เดินเข้ามาในชีวิต เพื่อรอเวลากลับมาแก้ไขอดีตให้ถูกต้องอย่างที่มันควรจะเป็นก่อนหน้านี้



คำเตือน : นี่คือความคิดเห็นส่วนตัวหลังดูละครจบ
โปรดใช้วิจารณญาณ

โดย: โมริสา IP: 125.24.52.202 22 กันยายน 2552 23:15:25 น.



สำหรับวันนี้ก่อนอื่น ผมต้องขออวยพรวันคล้ายวันเกิดให้กับมิตรที่แสนดีของผมอีกคนหนึ่ง เธอคือคุณ โมริสา หรือคุณลี ที่ได้ช่วยผมเอ่ยถึงชิงชังมาหลายบทหลายตอน ตามที่หลาย ๆ ท่านได้อ่านความคิดเห็นของเธอ..
ครับ

เมื่อคืนเล่นเอ็มกัน คุณลีบอกว่าจะตื่นทำบุญใส่บาตรพระ จำนวน 9 รูป ผมก็บอกว่า // ขอให้อายุมั่นขวัญยืน ขอให้ได้เป็นปูชนียบุคคลของประเทศไทยนะ /// แค่นี้นะ ความหมายมากมายทีเดียวถ้าคิดได้..
สำหรับตรงนี้..

ผมก็ต้องอ้างเอากุศลคุณงามความดีที่ได้ทำไว้ ให้มาช่วยดลบันดาล บันดาลให้คุณลี อายุมั่นขวัญยืนโรคภัยไข้เจ็บอย่าได้มาแผ้วพาล ศัตรูหมู่มารอย่าได้มี ขอให้เป็นที่รักของมนุษย์และเทวดา เดินทางปลอดภัยในทุกเมื่อ อุปสรรคต่าง ๆในชีวิตให้มลายหาญสูญ มากด้วยทรัพย์สมบัติ ชื่อเสียงเกียรติยศมีปัญญาสร้างสรรค์ผลงานดีๆ จนเป็นที่ยอมรับของมหาชนด้วยเทอญ...เอวัง โหตุ..


(((ผลงานรวมเล่มของคุณโมริสา เพื่อนยากของผมครับ)))

ครับสำหรับชิงชังเมื่อคืน เป็นอะไรที่ช็อคก็คงไม่ผิด..

เริ่มต้นมาเปิดฉากยอด อรุณี และคุณพ่อของหญิงสาว และหลวงตา เฮ้ยยยยยยยยย (หลวงตาของผมค่อนข้างจะแก่มาก แต่ว่า เป็นน้ากล้วย ทำใจ ๆ ) เมื่อคืนนี้ แม้จะออกมาแค่ฉากเดียว แต่ใจของผมก็ยังอยู่กับยอด บอกตามตรงว่า เมื่อคืนนี้กัปตันเล่นได้เหมือนคนที่ความจำเสื่อมได้มาก ดูแล้วนึกถึงพ่อเลย เพราะช่วงหนึ่ง พ่อเคยจำอะไรไม่ได้(เป็นผลจากตับแข็ง) ดูเอ๋อ ๆ แบบนี้เลย เยี่ยมมากครับ..

ตัดมาที่สองคนผัวเมีย ปิงกับอารีย์ แม้จะไม่สมจริงไปบ้าง ดูแบบ พยายาม ไม่คิดอะไรมาก (แต่ก็คิด แต่ขอไม่บอกนะว่าคิดอะไร 5555+ คงคิดเหมือนกันใช่ไหมล่ะ) ..อย่างไรเสียคนเขียนบทก็ค่อนข้างจะเขียนช่วยอารีย์อยู่นั่นเอง ผมชอบบทของชิงชังหลาย ๆ ครั้งมาก ที่ตัวละครร้าย แต่บางทีเรา(ผม) ไม่รู้สึกว่าเขาผิด เขาเลว คนทุก ๆ คนมีเหตุผล ตัวละครมีเหตุผลพอที่จะตัดสินใจทำอย่างนั้น บางครั้ง ก็จะนึกถึงตัวเอง ว่าถ้าเป็นเรา ถ้าเป็นเรา เราจะทำอย่างนั้นไหม.. จนถึงปัจจุบัน อารีย์ก็ยังไม่ผิดในสายตาของผม หรือแม้แต่บังอรผมเองก็ยังเห็นใจเธออยู่นั่นเอง...

ป้านิดเมล์มาถามว่า ในนิยาย อารีย์เป็นอย่างไร ต้องบอกว่า ในนิยาย อารีย์จะร้ายกว่านี้ครับ เพราะมีลูกคู่คือเอื้องอรุณ(น้องสาวคนที่ห้าที่ถูกตัดออกไป) สองคนจะทะเยอทะยาน อยากเป็นอย่างที่ฝันเหมือนกันเพราะทั้งคู่ได้เรียนต่อแล้วโตมาด้วยกัน หลังจากผู้ใหญ่แก้วตาย ร่วมมือกัน ทะเลาะกับบังอร และอุ่น ตอนแบ่งสมบัติอย่างหนัก แต่ในนิยายจะไม่ได้กล่าวถึงอารีย์กับปิงแบบนี้ เพราะผมจะเล่าเรื่องผ่านแม่อิ่ม //// แล้วเสมอพงษ์ในละคร ในนิยายไม่มีจ้า ในนิยายอารีย์เอาลูกมาทิ้งไว้กับแม่(อย่างไรเสียอิ่มก็ต้องเลี้ยง) แล้วเข้ากทม. นาน ๆ จะมาที ตอนหลังพาสามีลูกเจ้าของโรงเรียนร้านเสริมสวยมากราบแม่ ก็ไม่ถามถึงลูกสักนิด อารีย์ใจดำมากกกกกกกกก แต่ตอนนั้นอารีย์ให้เหตุผลว่าเกลียดปิงมาก เพราะว่า ในนิยายปิงไม่ได้น่ารักขนาดนี้หรอก เหมือนผู้ชายที่เป็นกรรมกรทั่ว ๆ ไป ที่มีกินเหล้าและเต็มไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ..

ครับ แล้วช็อคแล้วที่ทำให้ลุกขึ้น(ตอนแรกนอนตะแคงอยู่บนโซฟา) ช็อคแรกก็คือ ผู้ใหญ่แก้วบอกว่า ไม่เป็นไร ลูกคนเดียว หลานคนเดียวพ่อเลี้ยงได้ แต่พออารีย์บอกจุดหมายในใจของตัวเอง ไฟในใจของผู้ใหญ่แก้วก็โหม

โหมที่สองคือบังอร อันนี้หนักหนาสาหัสไม่น้อยเลย สมัยก่อนนั้นหญิงคนชั่วแบบนี้ จะเป็นที่เลื่องลือ

และช็อคที่สาม ของอุ่น และฟางเส้นสุดท้ายก็ขาดลง ตอนนั้น ผมนั่งดูก็น้ำตาคลอ ๆ แต่ว่าก็นั่งจับผิดอารมณ์ตัวละครไปด้วย ต้องบอกว่าฉากนี้ คุณลีมองหน้าทิดอิน ผมก็เห็นว่า มีความเห็นใจของทิดอินอยู่ในนั้นด้วย แต่ผมดันไปมองหน้าเจ้ละเอียดด้วย ก็เลยได้เห็นสีหน้าเห็นอกเห็นใจกับ ‘หน้า’ ของผู้ใหญ่แก้วเช่นกัน และดีใจที่เห็นว่า ทิดอินก็ตกใจไม่น้อยกับคำพูดของเหนาะ ส่วนบังอรนั้น สีหน้าท่าทางบ่งบอกว่า “กูว่าเรื่องกูร้ายแล้วนะ พี่อุ่นเจอร้ายกว่าอีกเหรอเนี่ย” ประมาณนั้นครับ ทุกคนใช้สีหน้าได้ดีมาก โดยเฉพาะ นางทองคำที่แข้งขาไม่มีเรี่ยวแรง


สรุปแล้วฉากนี้ต้องปรบมือให้คนเขียนบทด้วยนะครับ (ในนิยายจะไม่มีฉากนี้หรอก)

อีกฉากที่ผมคิดตาม แบบว่า เราเคยอยู่ในอารมณ์ที่นั่งเฝ้าพ่ออยู่หน้าห้องหมอแบบนี้ ...บางทีวิธีการร้องไห้ อาจจะไม่ได้กอดกันร้องไห้แบบนี้หรอก อาจจะมีแอบ ๆ ร้องบ้าง คนละมุม หรืออาจจะมีแค่บางคนกอดแม่ ...แล้วมันจะโอกว่านี้นะ..

สรุปว่า ผมไปร้องไห้ตอนที่เขาตัดให้เห็นของวันพรุ่งนี้ (คือวันนี้แหละครับ) ง้าก อีกแล้วซิ พอละครจบพี่สาวผมซึ่งไม่ค่อยชอบผู้ใหญ่แก้ว โทรมาเลย บอกวันนี้กู ‘ไปแล้ว’ เจอประโยคเดียว ‘พ่อรักลูกทุกคน’...ใช่เลย พ่อแม่ทุกคนรักลูก อยากให้ลูกเป็นอย่างใจตัว แต่บางทีก็ไม่ได้ถามลูกว่า ลูกอยากเป็นเช่นนั้นหรือเปล่า เมื่อความเห็นขัดแย้งกัน ความรักที่หยิบยื่นมาให้นั้นมันเลยกลายเป็นของไม่มีค่าสำหรับลูก บางครั้งก็ตีเจตนาเหล่านั้นเพี้ยนไป อาทิ เช่น พ่อลำเอียง พ่อเอาแต่ใจตัวเอง พ่อไม่มาเป็นฉันพ่อไม่รู้หรอก.. แต่แท้จริงแล้ว เมื่อกาลเวลาผ่านไป ..เราจะเข้าใจเลยว่า

“พ่อรักลูกทุกคน” จริง ๆ..

คืนนี้ขออุทิศความดีของผู้ใหญ่แก้วให้กับลูกทุกคนที่เคยทำผิดต่อพ่อ ถ้ายังมีโอกาสได้กราบขอขมาต่อความผิดพลาดที่ได้ล่วงเกินทั้งทาง กาย วาจา และใจ ก็กราบเถอะ เพราะพอไม่มีพ่อแล้ว สายตาของใครที่ให้อภัยเราก็ไม่จริงใจเท่าสายตาของพ่อ..






...........หากไม่เป็นเหมือนเช่นใจปอง แต่ต้องการครอบครอง หัวใจจึงมืดดำ เสมือนความชังบังตา.....



บ้านข้าไม่ต้อนรับคนอย่างเอ็ง



จะยิงให้กลิ้งเหมือนยิงหมา..



เอ็งจะลองดีกับข้าใช่ไหม...



.........รักเจ้าเอย หัวใจลุ่มหลง จะช้ำตรม เท่าไหร่ก็รักเธอ...
ต่อให้รู้ว่ารักคือไฟ แต่จะเดินเข้าไป ขอให้ได้มา จะกล้ายอมทำทุกอย่าง.......




 

Create Date : 23 กันยายน 2552
10 comments
Last Update : 23 กันยายน 2552 9:01:24 น.
Counter : 1979 Pageviews.

 

สนใจนวนิยาย ชิงชัง สองเล่มจบ ราคา 420 เหลือจากผม เหลือเพียง 330.- รวมค่าจัดส่ง

โอนเงินมาที่ ธ. กรุงไทย สาขา ถ.มาตุลี ชื่อบัญชี นายนิพนธ์ เที่ยงธรรม ออมทรัพย์ เลขที่ 642-0-02733-0

หรือ

ธ.กรุงศรีฯ สาขาถนนสวรรค์วิถี ชื่อบัญชี นายนิพนธ์ เที่ยงธรรม ออมทรัพย์ เลขที่ 237-1-24729-1

แล้วอีเมล์มาแจ้งที่อยู่ f_nakhon@hotmail.com

และถ้าจะหาซื้อในกทม. มีจำหน่ายที่แพร่พิทยา ร้านบีทูเอส(บางร้าน)น่าจะสั่งเคาน์เตอร์ได้ หรือสาขาของ ณ บ้านวรรณกรรม มีที่เดอะมอลบางแค บางกะปิ ซีคอน ท่าน้ำศิริราช
หรือสั่งซื้อได้ที่เว็บของ ณ บ้านวรรณกรรม (ครับ)

ขอบคุณล่วงหน้าครับ..

--------------------------------------

เพลงรอสาย ริงโทน
รักเจ้าเอย (เพลงเปิดเรื่อง) กด *1237005 โทรออก
เพลงผิดเพราะรัก กด *1230146 โทรออก

(ได้ทั้ง ดีแทค เอไอเอส และทรู)
ผลงาน+ราคา ของผมและคุณโมริสาครับ (ประกอบการพิจารณา)
ราคาเต็ม
ชิงชัง 420.-
องค์การบริหารฯ 210.-
แจกันดอกหญ้า 220.-
สะบายดีหัวใจ 180.-
ไม่ต้องรักเท่าฟ้า 220.-
แสงดาว ไอดินฯ 295.-
หัวใจไม่ใช้เส้นขนาน 269.-

แรงรักเงาริษยา 269.-
พยัคฆ์ร้ายในสายหมอก 220.-
รอยแค้นแรงพิศวาส 299.- (แถมที่คั่นหนังสือรุ่นพิเศษ)

ทุกเล่มลด 20 % สนใจ โอนเงินเข้าเลขที่ธ.กระทู้บน แล้วก็แจ้งที่อยู่มาครับ เพียงเท่านี้ก็จะได้มีผลงานเกือบมีคุณค่าสูงไว้ในครอบครอง (ขอบคุณล่วงหน้าครับ
)

 

โดย: F_nakhon 23 กันยายน 2552 8:55:47 น.  

 

ชอบเหมือนกันจ้า

 

โดย: หน่อยอิง 23 กันยายน 2552 9:56:31 น.  

 

เมื่อไหร่จะลงเรื่องย่อรุ่นลูกค่ะ

 

โดย: แอน_แฟนชิงชัง IP: 118.172.172.225 23 กันยายน 2552 13:57:08 น.  

 

อ่านที่คุณเฟื่องเขียนถึงพ่อ ทำเราน้ำตาไหลคิดถึงพ่อเช่นกัน
สำหรับเรามีโอกาสอยู่กับพ่อได้ไม่นาน เพราะวัณโรคถามหา
โรคนี้ในสมัยก่อนถือว่าร้ายแรงพอ ๆ กับมะเร็งสมัยนี้
และมันเป็นโรคติต่อ พอเป็น เขาก็แยกไม่ให้เด็กเข้าใกล้หรือมีโอกาสได้ไปเยี่ยม
เราก็รออยู่บ้านทุกวันว่าเมื่อไรพ่อจะหาย แล้วกลับมาอยู่กับเราเหมือนเดิม
สุดท้ายพ่อไม่ได้กลับ และเราก็เหลือภาพสุดท้ายของพ่อไว้ในความทรงจำ
คือภาพพ่อนั่งอยู่นอกชานบ้าน ยิ้มแล้วโบกมือส่งเราไปโรงเรียน

ก็ต้องขอขอบคุณคุณเฟื่อง ผู้เป็นกัลยาณมิตรของเรา
คุณเฟื่องเปิดประเด็นเรื่องพ่อขึ้นมา
ทำให้เรามีโอกาสได้ทบทวนหลาย ๆ เรื่องที่ผ่านมาในชีวิต
ก็ต้องขอบอกอย่างนี้ ในฐานะที่พ่อกับแม่ไม่มีกับเขาแล้ว
อยากให้ลูกทุกคนในขณะนี้ ทำความดีให้พ่อกับแม่เยอะ ๆ ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่
เพราะถ้าวันใดวันหนึ่งท่านจากเราไป โอกาสที่จะทำดีต่อท่านทั้งสองก็จะหมดตามไปด้วย
ถึงวันนั้นเราจะเสียใจว่า ทำไม เราไม่ทำดีต่อท่านก่อนหน้านี้

การทำบุญใส่บาตรกรวดน้ำให้กับดวงวิญญาณของบุพการี มันก็ดีในแง่ของจิตใจ
แต่จะดีกว่านี้ ถ้าข้าวอาหารที่เราตั้งใจทำนั้น เราให้ท่านทั้งสองทานในขณะที่ยังมีชีวิต
เชื่อเถอะ ต่อให้ข้าวจานนั้นเป็นแค่ข้าวคลุกปลาทู
ความสุขและรอยยิ้มที่พ่อกับแม่มองมานั้น
จะทำให้เราปิติกับการทำดีนั้นอย่างน่าอัศจรรย์เลยทีเดียว


............


คุณเฟื่อง....

ขอบคุณสำหรับเวลาที่ผ่านมานับแต่เริ่มรู้จักกันในบอร์ด
โกรธบ้าง ไม่เข้าใจบ้างก็เพราะการสื่อสารที่ไม่ตรงกัน
แต่เวลาก็เป็นเครื่องพิสูจน์อะไร ๆ ได้หลายอย่าง
และหนึ่งในนั้นคือมิตรภาพที่สั่งสมมาตลอดสามสี่ปี

ถึงวันนี้คงไม่ต้องพูดหรือสาธยายกันยืดยาวอีกแล้วว่า คุณเฟื่องทำอะไรให้เราบ้าง
เพราะผลงานนิยายสามเล่มที่วางแผงเป็นการันตีได้อย่างดี
รวมถึงอีกสองเรื่องที่เซ็นสัญญาแล้วก็ตาม
ผลงานเหล่านี้มันเกิดจากการสั่งสมของความตั้งใจถ่ายทอดวิชาความรู้ให้อย่างเต็มที่

เราไม่รู้ คุณเฟื่องอธิบาย เราทำไม่ได้ คุณเฟื่องเคี่ยวเข็ญ
เราทดท้อ คุณเฟื่องให้กำลังใจ
และดัน(ทุรัง)สอนคนจบประถมสี่อย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย
จนเราได้เดินบนถนนวรรณกรรมที่เคยฝันไว้มานาน
ได้ทำความฝันให้จับต้องได้เป็นผลสำเร็จ

ทั้งหมดที่กล่าวมา คงไม่ต้องบอกซ้ำกับคำขอบคุณ
เพราะเวลาที่ผ่านมาย่อมพิสูจน์ถึงมิตรภาพในวันนี้ได้อย่างดี



 

โดย: โมริสา IP: 125.24.11.1 23 กันยายน 2552 14:16:39 น.  

 

ตอนที่ 30

ยอดของเรากำลังจะได้ดิบได้ดี ลูกสาวเศรษฐีมาชอบ ชอบทั้งไม่รู้หัวนอนปลายตีน ทั้งความจำเสื่อม ทั้งต่ำต้อย แต่หน้าตาเป็นต่อขนาดนั้น อรุณีจึงว่าเป็นไงเป็นกัน บุญเก่าคงส่งให้ยอดวาสนาสูงจนได้เป็นเศรษฐีในบั้นปลาย

สงสารปิงมาก เคยร้องตะโกนไฟไม้เพื่อช่วยอารีย์ มาครั้งนี้ตะโกนร้องเพื่อขอชีวิตตนเอง คงไม่มีใครจะเจ็บจะช้ำเท่านี้อีกแล้ว ถูกอารีย์ชิงชังรังเกียจ ก็แสนรัดทนแล้ว ยังมาโดนพรากจากลูกสุดที่รักอีกต่างหาก ไฟที่โหมไหม้บ้านจึงเผลาผลาญจิตวิญญานของปิง ตอกย้ำว่าต่อแต่นี้ทุกอย่างคงวอดวายสิ้นสุด เหลือไว้แต่ความทรงจำอันแสนเจ็บปวดทรมาน

อย่างน้อยวันนี้ได้เห็นว่าอารีย์ยังมีน้ำใจของความเป็นมนุษย์เหลืออยู่บ้าง อารีย์ทั้งตกใจ ทั้งเสียใจที่เป็นต้นเหตุให้ปิงตาย ถึงอย่างไรอารีย์ก็ยังเสียน้ำตาและขอโทษปิง

สะเทือนใจกับผู้ใหญ่แก้วเหลือแสน ทุกข์ใจอะไรของพ่อแม่จะทุกข์ไปกว่าเห็นลูกในอกตกต่ำหม่นหมอง ทุกข์ของผู้ใหญ่แก้วนั้นนอกเหนือจากชตาฟ้ากำหนดแล้ว ผู้ใหญ่แก้วยังตระหนักดีว่า ตัวเองเป็นผู้เสือกไสให้ลูกทั้ง 4 ก้าวเดินลงสู่หุบเหวลึก ด้วยทิฐิและอคติ ผู้ใหญ่แก้วได้แต่ตรอมตรมในอก รักและห่วงลูก แต่ไม่เคยคิดจะเปิดใจอ้าแขนรับลูกกลับคืน จนเมื่อเรื่องราวบานปลายสู่ทุกข์มหันต์ของทุกคน ผู้ใหญ่แก้วจึงหมดสิ้นกำลังใจ

คุณสรพงศ์แสดงได้สุดยอด สกดให้คนดูร้าวรานต่อความรักของพ่อที่รักลูกผิดทาง เมื่อผู้ใหญ่แก้วคิดได้ก็สายเกินไป จึงได้ร้องเรียกหาลูกทุกคนเพื่อกล่าวคำขอโทษก่อนที่จะลาจากโลกนี้ไป

สีหน้าของอินเมื่อรู้ว่าอุ่นไปอยู่ในซ่องบ่งถึงความตกใจและสะเทือนใจ อินอาจจะได้คิดว่า ความแค้นของตนได้นำพาผู้คนที่ตนรู้จักไปสู่ความตายและหายนะ ความรักได้นำพาความทุกข์มหันต์มาให้ทุกคน

แม่ทองคำ แม่ผู้แสนดีที่ไม่เคยกล้าจะปกป้องลูก ก็มาถึงวันที่ต้องยอมรับว่า การมัวแต่เป็นช้างเท้าหลังของผัว ไม่เคยแม้แต่จะกล้าออกความคิด คือแรงเสริมที่ช่วยผลักดันให้ลูกของตนก้าวเดินผิดทางอย่างไม่สมควร ตลอดเวลาที่อารีย์อุ้มท้อง นานนับเดือนที่อิ่มและอุ่นไปตกระกำลำบากต่างถิ่น แม่ทองคำไม่เคยคิดจะขอให้ผัวอภัยลูก ดังนั้นเมื่อความวิปโยคแสนสาหัสมาเยือน แม่ทองคำก็หมดเรี่ยวแรง ได้แต่น้ำตาตกตามลูกและผัว

บังอรเจ็บซ้ำแล้วซ้ำอีก ไหนจะผัวที่ไม่เคยใยดีตน ไหนจะชู้ที่ปฎิเสธไม่ยอมรับว่ามีสัมพันธ์กัน และไม่ยอมรับลูกในท้อง เจ็บไหนของลูกผู้หญิงจะท่ากับรู้ว่าตัวเองไม่มีค่าแก่ความใยดีของใคร จึงนับว่าบังอรเป็นตัวละครที่น่าสงสารคนหนึ่ง

นักแสดงทุกคนแสดงกันได้ยอดเยี่ยม จนรู้สึกเหมือนว่าคนดูได้ก้าวล่วงมิติเข้าไปสู่วังวนแห่งความชิงชังของลูกบ้านท่าน้ำอ้อยด้วตัวเองทีเดียว

 

โดย: ป้านิด IP: 91.48.96.113 23 กันยายน 2552 14:28:30 น.  

 

ภาพของสี่พี่น้องตอนเดินเข้ามาหาผู้เป็นพ่อในห้อง
บอกให้รู้ว่า ต่างคนต่างมีแผล รอการเยียวยารักษา
แต่จะรักษาด้วยวิธีใดขึ้นอยู่กับสภาวะจิตใจของคนผู้นั้น

แม่อิ่มกับแผลที่เจ็บปวด เมื่อผัวที่ตนรักตายจากโดยไม่ได้แม้จะเห็นศพ
อดีตระหว่างไอ้ยอดกับแม่อิ่มก่อให้เกิดเรื่องราวมากมายตามมา
เหมือนเป็นห่วงโซ่ที่คล้องเกี่ยวกันไว้ หากมันขยับเพียงนิด
มันสะเทือนตั้งแต่หัว ไล่ลงไปตรงกลาง แล้วก็วนกลับมาที่ห่วงโซ่อันแรก
แต่สุดท้าย แม่อิ่มดูจะเป็นคนเดียวที่รู้วิธีรักษาใจของตนได้อย่างเข้มแข็ง

นังอุ่นกับคำถามในสายตาของทุกคนในยามมองมา
แม้แต่คนเป็นพ่อ ยังเอ่ยปากถามว่า ทำไม ?
ทำไมไม่กลับบ้านของเรา ?
คำพูดที่ว่า "พ่อไปตามหาเอ็งทั่วสารทิศ แต่พ่อไม่เจอเอ็งเพราะไม่คิดว่าเอ็งจะไปอยู่ที่นั่น"
มันบาดใจคนเป็นลูกและคนดูอย่างเรายิ่งนัก
หากเราเป็นผู้ใหญ่แก้ว หรือนางทองคำ
คงช็อคไปเช่นกันเพราะไม่คิดว่าลูกของเราจะโชคร้ายถึงเพียงนี้
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าลูกจะมีชีวิตที่เลวร้ายปานใด คนเป็นพ่อแม่ก็ยังรักลูกเสมอ

คนที่สามบังอร ผู้สุขุมลุ่มลึกกับการวางแผนทำเรื่องร้าย ๆ
ต้องบอกว่าบังอรเองก็มีส่วนอย่างมากกับเหตุเลวร้ายของพี่สาวอย่างนังอุ่น
เพราะความรักในตัวทิดอินมันบังตาบังอรจนมืดบอด
บังอรจึงไม่ลังเลที่จะทำร้าย แม้คนผู้นั้นจะเป็นพี่สาวของตน

แต่ความลับไม่มีในโลก และคนคิดร้ายต่อคนอื่น ย่อมแพ้ภัยตนเองวันยังค่ำ
ปัญหาของบังอรยังไม่จบ
เมื่อเธอยังไม่สามารถพาปลัดสมชายมายืนยันกับทุกคนได้ว่า เขาเป็นพ่อของเด็กในท้อง
อยากจะสะใจสมน้ำหน้า แต่ก็ทำไม่ลง เพราะมันมีที่มาที่ไปทั้งนั้น
ก็แค่สาเหตุเดียวคือความรักที่มีต่อทิดอิน
เมื่อไม่สมปรารถนา บังอรจึงตกอยู่ในวังวนของการประชดประชัน
โดยมีแรงยุจากปลัดจอมเจ้าเล่ห์ที่เลวได้อย่างไม่มีที่ติอีกคน

สุดท้าย อารีย์ผู้ทะเยอทะยาน
เธอเป็นคนเดียวที่ไม่เกี่ยวกับวังวนห่วงโซ่ของพวกพี่ ๆ
แต่แผลของอารีย์ไม่ได้น้อยไปกว่าพี่สาว
การจะทิ้งเลือดในอกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับผู้ชายคนใหม่
เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่แม่อย่างนางทองคำแก้ปัญหาไม่ตก
เพราะดูแล้วว่าลูกของอารีย์จะกำพร้าทั้งพ่อและแม่แน่นอน

อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่เมื่อวาน คนเราเกิดมาไม่เคยมีใครไม่ทำผิด
แต่เมื่อทำผิดแล้วต้องแก้ไข ไม่ปล่อยให้พลาดซ้ำสอง
ผู้ใหญ่แก้วในยามจะสิ้นลม จึงสำนึกผิดว่าเวลาที่ผ่านมานั้นเอาแต่ใจของตนเป็นใหญ่
ไม่เคยฟังคำใคร แม้แต่ลูกเมีย
สุดท้ายความดื้อรั้น ทิฐิ ถืออำนาจบาตรใหญ่ ตามประสาหัวหน้าครอบครัว
ก็พาผู้ใหญ่แก้วมาถึงทางสุดท้ายของชีวิตที่ไม่เคยมีใครหนีพ้น
คำขอโทษจึงออกจากปากของคนเป็นพ่อได้อย่างไม่ลังเล แต่มันก็สายเกินแก้
เมื่อชีวิตของลูกสาวแต่ละคนล้วนมีแผลกลัดหนองราวมะเร็งร้ายลุกลาม

สงสารแม่ทองคำ ใจไม่เป็นสุขแม้เมื่อนั่งฟังพระสวดศพ
เพราะแผลของลูกมันเป็นแผลใหญ่ แผลสด
จึงทำให้ชาวบ้านผู้ใช้ปากเป็นอาวุธ คุ้ยแคะแกะเกาจนเลือดไหลซิบ

และเมื่องานศพเสร็จสิ้น ความสามัคคีในหมู่พี่น้องก็เริ่มหดหาย
บังอรยังคงเป็นคนที่ใช้อารมณ์เป็นใหญ่
และไม่เคยหยุดระรานหากใครคนนั้นทำให้เธอต้องเจ็บปวด
สีหน้าของนังอุ่นวันนี้ บอกเราว่ามันเจ็บปวดแสนสาหัส
นังอุ่นไม่ทันคิดว่าน้องสาวที่คลานตามกันมา จะกล้าทำเรื่องร้ายแรง
จนทำให้ตัวเธอเองต้องพบกับความวิบัติของชีวิตที่ไม่อาจกู้กลับคืนได้


วันนี้ขอปรบมือให้กับคุณสรพงษ์ในบทผู้ใหญ่แก้ว
แม้จะเป็นวันสุดท้ายที่จะจบบทบาทการแสดงในวันนี้
แต่คุณสรพงษ์ก็ไม่เคยทำให้คนดูผิดหวัง
พลังการแสดงยังคงทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมจนหาข้อตำหนิไม่เจอ

ปรบมือให้กับคุณเดือนเต็ม ผู้สวมบทบาทนางทองคำ แม่ผู้มีแต่ความทุกข์
เกิดเป็นผู้หญิงสมัยก่อน ช่างอึดอัดเหลือเกิน
คือเป็นช้างเท้าหลังยังไม่พอ ต้องเป็นใบ้ด้วยถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นเมียที่ดี

ไม่ลืมปรบมือให้สี่สาววันเดอร์เกิร์ลของเราด้วย ทุกคนทำหน้าที่ได้อย่างดีค่ะ
สรุปแล้วตัวละครทุกตัว ต่างมีชีวิตที่โลดแล่นไปตามโชคชะตากำหนด
ขึ้นอยู่ที่ว่าใครจะประคองตัว ประคองใจ
ให้ฝ่าฟันอุปสรรคไปได้อย่างปลอดภัยและใสสะอาดค่ะ


คำเตือน : นี่คือความคิดเห็นส่วนตัวหลังดูละครจบ
โปรดใช้วิจารณญาณ



 

โดย: โมริสา IP: 125.24.11.1 23 กันยายน 2552 23:14:25 น.  

 

อ้อมกอดพ่อเนอะ ลูกที่คนๆ ก็กอดเอาไว้หมดจนสิ้นลม
น้ำตากระจายเป็นสายน้ำ ไม่กล้าโทรหาใครเลย แง้

ยังอารมณ์ค้างอยู่เลยเนี่ย สงสารผู้ใหญ่แก้วววว

 

โดย: JUm IP: 199.40.204.245 24 กันยายน 2552 7:46:32 น.  

 


วันนี้กว่าจะอัพบล็อกเสร็คงหลังเที่ยงนะครับ รูปเยอะมากก..
กำลังตัดต่ออยู่ครับ เมื่อคืนนอนดึกมาก แล้วอีกอย่าง.. แบบว่า มันเสียน้ำตาไปเยอะ...

 

โดย: จุฬามณี (เฟื่องนคร-ชอนตะวัน) IP: 117.47.164.19 24 กันยายน 2552 9:04:25 น.  

 

อยากรู้ว่าปิงตายจริงไหมคะ เห็นเค้าบอกว่าไม่เจอศพนิคะ

 

โดย: ตืดตามสุดๆๆๆ IP: 202.12.73.3 24 กันยายน 2552 9:45:41 น.  

 

 

โดย: F_nakhon 25 กันยายน 2552 7:56:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


F_nakhon
Location :
นครสวรรค์ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




email ถึงผู้เขียน

เฟื่องนคร : f_nakhon@hotmail.com
ลิขสิทธิ์งานเขียนทุกชิ้นในบล็อก เป็นของผู้เขียนตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือนำไปเผยแพร่ต่อ ไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน

-------------------


Friends' blogs
[Add F_nakhon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.