CHANGELING ...... อย่าปล่อยให้ลูกของคุณคลาดสายตา !!
CHANGELING (( กระชากปมปริศนาคดีอำพราง )) ..... 3 ดาวครึ่ง .....
........................ตอนที่เห็นรายชื่อ Angelina Jolie เข้าชิงออสการ์สาขาดารานำปีที่แล้ว เคียงคู่กับ แบรด บิตต์ สามีสุดหล่อ แอบคิดไม่ได้ว่า สงสัย Oscar จะทำกิ๊บเก๋ ให้สามีภรรยาเข้าชิงสาขาดาราหลักเคียงคู่กัน เพียงเพื่อสร้างประวัติศาสตร์เก๋ ๆ หรือเปล่า ? แต่พอดูหนังเรื่องนี้จบแล้วก็หายสงสัยครับ เพราะ Angie สมควรได้เข้าชิงรางวัลออสการ์จริงๆ !! ไม่ใช่แค่สมควรชิง แต่น่าจะได้ Oscar อีกตัวซะด้วยซ้ำไปครับ ~ แต่เหตุผลจริงๆที่ผมอยากดูเรื่องนี้มิใช่เพราะอยากดูฝีมือของ แองจี้อย่างเดียว แต่เป็นเพราะอยากดูงานกำกับของ อิสวู๊ด มากกว่าครับ ซึ่งต้องบอกว่า เกินความคาดหวังซะอีก !! คลิ๊นท์ อิส วู๊ด แม้อายุวันนี้จะปาเข้าไปร่วมๆ 80 ปีแล้ว แต่ลุงก็ยังขยันทำหนังอยู่ไม่ขาด แถมงานในช่วงหลังนี่ยิ่งทำยิ่งดี ยิ่งดูยิ่งมันส์ หนังลุงแกดูสนุกกว่าผู้กำกับหนังหนุ่ม ๆ ในวงการตอนนี้เกือบทั้งฮอลลีวู๊ดเลยครับ ~ ความเห็นส่วนตัว ผมคิดว่าผลงานของแกในช่วงหลังนั้น เจ๋งกว่างานที่ได้ Oscar หนังยอดเยี่ยมซะด้วยซ้ำไปครับ (( ผมไม่เคยชอบ Unforgiven เลย ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะดูม้วนซูม หรือเพราะว่าดูตอนยังเด็กเกินไป ))
........................CHANGELING สร้างจากเรื่องจริง ของคุณแม่คนหนึ่งซึ่งลูกของเธอได้หายตัวไปอย่างลึกลับ ในบ่ายวันนึงซึ่งเธอต้องไปทำงานเข้ากะแทนเพื่อน ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายดูแลเกี่ยวกับงานโทรศัพท์และโทรเลข ทำให้เธอไม่อาจจะปฏิเสธคำขอร้องนั้นได้ เมื่อเธอกลับมาแล้วพบว่าลูกชายเธอหายไป จากนั้นเธอก็เริ่มตามหา และพยายามทุกวิธีทางที่จะให้ได้ลูกชายเธอกลับมา !! อาจจะดูเป็นเรื่องธรรมดาที่ประชาชนอย่างเรา จะตั้งคำถามต่อความไม่ชอบมาพากลที่เจ้าหน้าที่ของรัฐนำพามาให้ ในยุคสมัยนี้ แต่ทว่าสิ่งที่นางเอกเธอทำ นั้นมันเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อ 80 ปีที่แล้ว ในสหรัฐอเมริกา !! ใครจะรู้ว่า เพียงแค่ต้องการให้ได้ลูกชายเธอกลับมา จะทำให้ชีวิตเธอพลิกผัน แล้วก็เจอกับความเลวร้ายอีกนานัปประการตามมาอย่างประมาณไม่ได้ ในยุคสมัยที่ประเทศสารขัณฑ์ ผู้หญิงไทยยังอยู่ในยุค " แรมพิศวาส " ทว่า ผู้หญิงอเมริกันเขาลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิ และต่อสู้เพื่อความถูกต้อง ร้องหาความยุติธรรมด้วยตัวของเธอเองโดยกล้าที่จะท้าชนและสู้กับความอยุติธรรมที่ผู้ชาย และภาครัฐพยายามหยิบยื่นให้เธออย่างไม่เป็นธรรม !!
........................ด้วยความที่หนังระบุว่าสร้างจากเรื่องจริง และ อิสวู๊ด ก็เล่าเรื่องตามลำดับเวลา เหตุการณ์ต่างๆถูกใส่เข้ามาอย่างละเอียด แต่ไม่ได้ทำให้หนังดูน่าเบื่อเลย กลับดูสมจริงและน่าเชื่อถือ รวมถึงสร้างอารมณ์ร่วมให้กับคนดูอย่างมาก !! หนังดราม่าที่ความยาวเกิน 2 ชั่วโมงแบบนี้ ถ้าผู้กำกับไม่เก่งนี่ เล่นเอาคนดูหลับผลอยได้ง่ายๆเลยครับ แต่เรื่องนี้ยิ่งดูยิ่งตื่นเต้น จากที่นอน ๆ ดู ก็ลุกขึ้นมานั่งดู แล้วก็โดดแผล่วมาเกาะขอบจอลุ้นอย่างระทึกใจ ~ หนังมีช่วงเวลาของการลุ้นระทึก สลับกับการให้ความสำคัญของตัวละคร แล้วก็ค่อยๆค้นลึกเข้าไปถึงก้นบึ้งความรู้สึกของตัวแม่ !! แน่นอนว่า Angie ได้โชว์ฝีมือการแสดงกันแบบเต็ม ๆ ผมชอบจริง ๆ พับผ่าสิ หนังฟูมฟายแต่ไม่ยัดเยียดแบบนี้ ที่สำคัญเป็นหนังปลายเปิดด้วย ให้คนดูไปคิดกันต่อเองว่ามันอาจจะใช่ หรืออาจจะไม่ใช่ก็ได้ ไม่มีบทสรุปตายตัวเบ็ดเสร็จ ไม่ตอบคำถามคนดูกันทุกอย่าง หนังหักความรู้สึกคนดูได้แบบชะงักจริงๆ แล้วก็กระชากอารมณ์สุด ๆ บางช่วงหนังทำให้คนดูสมหวัง แล้วก็เฉลยไปอีกอย่าง พอคนดูเริ่มหมดหวังก็หยอดกลับเข้ามาอีก สลับไปสลับมาแบบนี้ตลอด
.........................ภาพยนตร์เป็นสื่อที่เน้นเพื่อความบันเทิงก็จริง แต่ในความเป็นสูตรสำเร็จนั้นก็ไม่มีอะไรที่ตายตัวเสมอไป ในความพยายามตีโจทย์เพื่อให้หนังออกมาได้เงิน ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องตามใจคนดูแบบสุดลิ่มทิ่มประตูเสมอไป !! แม้คนดูส่วนใหญ่ต้องการสมหวังออกมาจากโรงก็ตามที แต่ไม่จำเป็นว่าคนทำจะต้องเอาใจให้คนดูพอใจทุกครั้ง บางครั้งการทำร้ายจิตใจคนดูก็อาจจะส่งผลต่อคนดูอย่างรุนแรง หรือการที่ทั้งไม่มอบรางวัล และไม่ลงโทษคนดู ก็อาจจะเป็นสิ่งที่คนดูประหลาดใจมากกว่าก็เป็นได้ ~ น่าดีใจแทน Hollywood ที่ ลุงคลิ้นท์ ยังไม่ถอดใจเลิกทำหนัง เพราะไม่งั้นคงเป็นอะไรที่น่าเสียดายมาก ๆ งานของลุงนั้นไม่ใช่ผลงานที่เน้นขึ้นหิ้ง เอากล่องเหมือนผู้กำกับอาวุโส รุ่นเดอะๆคนอื่น แต่ลุงแกเน้นกำกับหนังเอามันส์ เหมือนคนหนุ่มไฟแรง สงสัยจริงๆว่าลุงแกมีอะไรเป็นแรงบันดาลในกันหนอ ? ทำไมลุงแกถึงได้มือขึ้นเอา ขึ้นเอา ไม่มีตกเหมือนผู้กำกับรุ่นใหญ่คนอื่น ๆ แถมบางเรื่องยังคึกขนาด ทั้งกำกับเอง เล่นเอง ก็ยังออกมาดีอีกด้วย ซึ่งเป็นอะไรที่ยากมาก ๆ ~ ยิ่งทำให้ผมอยากดู Gran Torino มากเข้าไปอีก เพราะเพื่อนในเวปก็เคยเขียนเชียร์ไว้ตั้งแต่ปีก่อนตอนที่หนังฉายที่เมืองนอกแล้วว่าหนังดีมาก ๆ
ป.ล. Changeling เป็นหนังที่ยืนยันได้ว่า พาลูกเข้าโรงหนัง ยังไงก็ดีกว่าปล่อยไว้ที่บ้านคนเดียว หรือฝากไว้กับใครไม่รู้เป็นแน่ !! เพราะถ้าเกิดเหตุการณ์อย่างในหนังขึ้นมา แค่คำว่า เสียใจด้วย มันคงไม่เพียงพอหรอกครับ หรือคุณว่าไง ?
//www.pandagroup.pantown.com/
Create Date : 10 สิงหาคม 2552 |
|
11 comments |
Last Update : 10 สิงหาคม 2552 0:10:58 น. |
Counter : 4024 Pageviews. |
|
|
|