Bloggang.com : jjbd : บอร์นทูบีช็อคโกแลเค้กเลิฟเวอร์ Born to be Chocolate Cake lover

บอร์นทูบีช็อคโกแลเค้กเลิฟเวอร์ Born to be Chocolate Cake lover

สูตรเค้ก เอาส่วนผสมทุกอย่างทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง สักชั่วโมงนึง

แป้งเค้ก 320 กรัม
ผงฟู 1 ชช
เบกกิ้งโซดา 1/2 ชช
เนยสด 250 กรัม
น้ำตาลทรายแดงป่น 130 กรัม
ชอคโกแลตละลาย 150 กรัม
ไข่ 4 ฟอง แยกไข่แดงไข่ขาว
นมสด 1 ถ้วย
น้ำมะนาว 1 ชต
น้ำตาลทราย 50 กรัม

วิธีทำ
1.อุ่นเตาอบ ไฟ 160 องศา ซี แล้วก็เติมน้ำมะนาวในนมสด คนๆ พักไว้
2. ปั่นเนยกับน้ำตาลทรายแดงให้ขึ้นฟูขาวนวลด้วยเครื่องตีหัวใบพัด ระหว่างการปั่นเนยทำขั้นตอน 3
3. ร่อนแป้ง ผงฟู เบกกิ้งโซดาเข้าด้วยกัน
4. ละลายชอคโกแลต จะโดยวิธีตุ๋นกับน้ำร้อนก็ได้ หรือ ไมโครเวฟ ดาวใช้เวฟ 3 นาที 250 วัตต์
5. พอ เนยกับน้ำตาลฟูได้ ใส่ชอคโกแลตที่ละลาย ปั่นต่อด้วยหัวใบพัดสักพักให้ฟู ให้เป็นครีมชอคโกแลต ใส่ไข่แดง ปั่นๆ ให้เข้ากันดี
6. ใส่แป้งสลับกับนม โดยแบ่งแป้งเป็น สามส่วน นมสองส่วน เริ่มด้วยแป้ง จบด้วยแป้ง
7. ใช้หัวตะกร้อตีไข่ขาว กับน้ำตาลทราย 50 กรัม โดยบีบมะนาวลงในไข่นิดนึง หรือใช้ครีมออฟทาท่าก็ได้ถ้ามี
(วิธีสังเกตุไข่ขึ้นยอดสวยงาม ต้องเป็นมันเงา ไม่เหลว เป็นรอยตะกร้อ ตั้งยอดแข็ง)
8. เปลี่ยนเครื่องเป็นหัวตีใบพัด แบ่งไข่ขาวส่วนหนึงผสมส่วนผสมก่อนหน้านี้ ตีด้วยหัวใบพัดสปีดเบาๆ ตีให้เข้ากันเป็นเนื้อเนียน แล้ว ก็ใส่ไข่ขาวที่เหลือลงไป ตีให้เข้ากันพอเนียน อย่าตีนาน แล้วปิดเครื่อง ตะล่อมเนื้อเค้กด้วยไม้พายอีกทีให้เข้ากัน
9. นำใส่พิม โลพขนาดเล็ก หรือ จะพิม มัฟฟิ่นก็ได้ อบนาน ประมาณ 35 นาที แนะนำใส่พิมเล็กหรือมัฟฟิ่นดีกว่า สุกง่ายดี แต่งหน้านิดหน่อยหรือไม่แต่งก็ได้

กานาซ
ชอคโกแลตละลายกับวิปปิ้งครีม ชอค 100 กรัม วิปปิ้งครีม 50 กรัม (ใครชอบหวานเติมน้ำตาลได้ตามชอบ)
โรยถั่วพิตาชิโอ

เทคนิคที่ไม่ลับ
อบเค้กให้ใช้แต่ไฟล่างเท่านั้น จากการทำหลายครั้ง ถ้าใช้ไฟบนด้วย เค้กหน้าจะปูดมาก ไม่สวย พิมโลฟให้ทาไขมันแล้วปูกะดาษไขก้นพิม เวลาเค้กสุกจะร่อนออกจากขอบเองไม่ติดขอบ เนื้อขอบที่ร่อนออกจากพิม ไม่แข็งด้าน ขอบนอกเนียนกิ๊กๆ เหมือนในตัวเนื้อเค้กเนื้อเค้กฉ่ำ แต่ไม่แฉะ ไม่ต้องชิมตอนอบเสร็จใหม่ๆน่ะ ทิ้งเค้กข้ามคืนเนื้อเค้กจะเซทตัวสวยงามและอร่อยกว่า ถ้าใครชอบหวานมากให้เพิ่มน้ำตาลได้ เราชอบความหวานขนาดนี้แหละ

Born to be Chocolate Cake lover สมชื่อจริงๆ jjbd ทำตั่งแต่วันแรกที่เห็น ทำเป็นคัฟเค้กได้สิบชิ้นพอดี ไม่กล้าอบใส่พิมพ์แบบคุณดาว กลัวอบแล้วออกมาสวยกว่าเจ้าของสูตรน่ะ หุหุ อบเสร็จใหม่ๆ jjbd ชิมไปหนึ่งชิ้น ไอ้ป่วนกับพอออกมาเห็นพอดีเลยขอชิมด้วย (สงสัยได้กลิ่นตอนอบแน่ๆ) ก็เลยต้องให้ไปคนละชิ้น ช่วงพักให้เย็นก็ตีครีมไว้แต่งหน้า ยังไม่ทันเสร็จพ่อไอ้ป่วนเดินมาบอก can i have one more? ก็เลยให้ไปอีกชิ้น พอแต่งหน้าเค้กเสร็จ กำลังจะถ่ายรูป เด็กวัดเอาปิ่นโตมาส่งคืนพอดี "ทำอะไรอยู่พี่แก้ว น่ากินจังเลย" เราก็บ้ายอ รีบจัดใส่กล่องให้ไปวัดสี่ชิ้น เหลือสองชิ้นก็ไม่เป็นไรถ่ายรูปได้ กว่าเด็กวัดจะกลับก็มืดพอดี เลยต้องเก็บไว้ก่อน ไว้ถ่ายตอนเช้าดีกว่า อุสาไปขโมยสูตรเขามาก็อยากจะถ่ายรูปให้ออกมาหน้าตาดูดีมีสกุลหน่อย พอเช้ามาปรากฎว่าไม่เหลือซักชิ้น พ่อไอ้ป่วนหอบไปกินที่ทำงานหมด การบ้านชิ้นนี้ก็เลยไม่มีเนื้อเค้กมาโชว์ ไว้ทำอีกรอบแล้วจะมาส่งใหม่แล้วกัน แต่สูตรนี้อร่อยค่ะ พ่อบ้านบอก หุ หุ

ส่งการบ้านคุณ Kofschip
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=kofschip&month=23-09-2008&group=10&gblog=24

Create Date : 12 ตุลาคม 2551

Last Update : 29 ธันวาคม 2551 4:04:21 น.

10 comments

Counter : 2381 Pageviews.

โอโฮ้..ฝีมือๆเนี้ย เยี่ยมไปเลย ขอชิมอย่างล่ะอัน

โดย: Irish girl

วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:17:29:55 น.

ตามกลิ่นมาค่ะ .....>

บ้านนี้คิวซีเยอะจัง ขนมหมดไว แสดงว่าสูตรนี้ใช้ได้

โดย: Kofschip

วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:18:23:00 น.

น่าหม่ำมากๆค่ะ
ขอชิมสักสองสามชิ้นนะค่ะ

โดย: whitelady

วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:18:31:37 น.

เข้ามาอ่านอีกรอบ คุณแก้วชิมตอนอบเสร็จใหม่ๆ ....ตอนนี้ยังไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ค่ะ

คราวหน้า ต้องทิ้งเค้กไว้ข้ามคืนก่อนน่ะค่ะ แล้วจะรู้ถึงสัมผัสที่แตกต่าง มันต่างกันมากจริงๆค่ะ เค้กที่ข้ามคืนแล้วสัมผัสความอร่อยนี่คนละแบบกับกินอบเสร็จใหม่ๆ น่ะค่ะ ลองพิสูจน์ดู

โดย: Kofschip

วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:18:32:26 น.