... ดาวกระจาย : Cosmos ... ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cosmos sulphureus Cav.ชื่อวงศ์ : Compositaeชื่อสามัญ : Mexican Diasy, Cosmosชื่ออื่นๆ : ดาวเรืองพม่า คำแพ คำเมืองไหว คำอังวะถิ่นกำเนิด : เขตร้อนของทวีปอเมริกาชนิดพืช :ไม้ดอกล้มลุกสีดอก : ชมพู ม่วง ขาว เหลือง ส้ม แดงขยายพันธุ์ : เพาะเมล็ด
Cosmos หรือ ดอกดาวกระจาย ที่พบเห็นปลูกกันทั่วไป ส่วนมากจะมีดอกสีเหลืองและเหลืองเข้มจนเกือบเป็นสีส้ม นั่นคือ Cosmos sulphureus ส่วนดาวกระจายสีขาว ชมพู ม่วง หรือแดง เป็นลูกผสมของ Cosmos bipinnatus พืชสกุลดาวกระจายหรือสกุล Cosmos นี้ มีถิ่นกำเนิดเดิมอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ ตั้งแต่ภาคใต้ของสหรัฐอเมริกาไปจนถึงเม็กซิโก ... ลักษณะทั่วไปของดาวกระจาย : Cosmos
" ดาวกระจาย : Cosmos " ... จัดเป็นพืชชนิดไม้ดอกล้มลุก มีขนาดความสูงประมาณ 0.30-1.50 เมตร เรียกว่ามีทั้งพันธุ์เตี้ยและพันธุ์สูง ลำต้นเป็นเหลี่ยม ตั้งตรง มีขนปกคลุม ชนิดดอกสีเหลือง ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงตรงกันข้ามรูปหอก กว้าง 3-6 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ขอบใบหยักเว้าลึกแบบขนนัก 5-7 แฉก ผิวใบด้านบนสีเขียวเข้ม ดอกดาวกระจายนั้นมีหลายสีขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ เช่น สีเหลือง ชมพู ชมพูอมม่วง แดง ขาว ส้ม ออกดอกเป็นดอกเดี่ยวตามซอกใบปลายกิ่ง ลักษณะดอกมีทั้งแบบดอกซ้อนและชั้นเดียว กลีบปลายดอกหยัก 2-3 หยัก กลีบดอกชั้นในสีเหลืองเป็นหลอดกระจุกกลางดอก ดอกบานเต็มที่ กว้าง 4-6 เซนติเมตร กลีบดอกบาง มีจำนวน 8 กลีบ ดอกดาวกระจายมีหลายสายพันธุ์มากๆ เพราะได้มีการผสมและพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมาใหม่เรื่อยๆ เช่น พันธุ์ดอกซ้อน ดอกชั้นเดียว ต้นสูง ต้นเตี้ย ส่วนดอกวงในเป็นดอกสมบูรณ์เพศ ดอกเป็นทรงหลอดเล็กๆสีเหลือง เมื่อดอกบานเต็มที่ ส่วนมากจะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางดอก ประมาณ 3 นิ้ว ดาวกระจายสามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี ปลูกได้ทุกฤดูกาล ดอกดาวกระจายเป็นดอกไม้สีสวย กลีบดอกบาง มีเส้นร่องที่กลีบประมาณ3-4เส้นอยู่ตรงกลางรอยหยักของปลายกลีบ และปลายกลีบหยักเป็นฟันเลื่อย 2-3 หยัก มีก้านดอกยาว ดาวกระจายที่นิยมปลูกมี 2 ชนิดคือ 1. Cosmos bipinnatus (C. bipinnatus Cav.)มีลักษณะเด่น คือ กลีบดอกเป็นแบบชั้นเดียว ให้ดอกสีชมพู ม่วง แดง และขาว ที่เรียกกันว่ากลุ่ม Sensation type มีใบโปร่งเป็นเส้นเรียวยาว ลำต้นสูงประมาณ 1- 3 ฟุต ถ้าเป็นพันธุ์สูง อาจสูงได้ถึงเมตรครึ่ง กลีบดอกแบนเป็นแผ่นเรียงกันชั้นเดียว เจริญเติบโตได้ดี เลี้ยงง่าย ใช้เป็นไม้ตัดดอกได้ด้วย ดาวกระจายจะเริ่มออกดอกประมาณ 50-55 วัน หลังเมล็ดงอก โดยดอกจะบานเร็วในฤดูฝน และแล้ง ส่วนฤดูหนาวดอกจะบานช้ากว่า และให้ดอกได้ประมาณ 3-4 รุ่น แล้วจะค่อยๆโทรมไป เมล็ดดาวกระจายมีลักษณะรียาว หัวและท้ายเรียวแหลม เปลือกหุ้มเมล็ดแข็งสีน้ำตาลอมดำ เมื่อแก่จัดจะร่วงหล่นลงพื้น และเจริญเติบโตได้ใหม่อย่างง่ายดายเมื่ออยู่ในภาวะอากาศที่เหมาะสม 2. Cosmos sulphureus (C. sulphureus Cav.) มีดอกสีเหลือง ส้ม และแดง เรียกกันว่ากลุ่ม Klondyke type ขนาดดอกเล็กกว่าชนิดแรก ใบเป็นแฉกใหญ่กว่า มีลักษณะเด่น คือ กลีบดอกเป็นแบบชั้นเดียว และกึ่งซ้อนหรือซ้อนหลายชั้น ดาวกระจายที่ปลูกกันทั่วไป ส่วนใหญ่จะเป็นดอกสีเหลืองและเหลืองเข้มค่อนไปทางสีส้ม ปลูกได้ทุกฤดูกาล แต่นิยมปลูกในต้นฤดูฝน-ปลายฤดูหนาว ซึ่งจะอาศัยน้ำฝนตามธรรมชาติ แต่หากปลูกในหน้าแล้งควรให้น้ำอย่างน้อย 2 วันครั้ง โดยเฉพาะระยะ 7 วันแรกหลังเพาะกล้า นิยมปลูกโดยหว่านเมล็ดลงในแปลงปลูก หรือหยอดเมล็ดลงในหลุมปลูกไปเลยมากกว่า การเพาะกล้าก่อนแล้วค่อยมาแยกปลูกทีหลัง ควรปลูกในดินร่วนซุย ความชื้นปานกลาง และมีแสงแดดจัด การใส่ปุ๋ยในระยะ 14-20 วัน หลังปลูก ให้ใส่ปุ๋ยสูตร 16-8-8 ร่วมกับปุ๋ยคอก ระยะ 35-40 วัน หลังปลูก ให้ใส่ปุ๋ยสูตร 8-16-24 หลังปลูกได้ประมาณ 50-55 วัน ดอกดาวกระจายจะเริ่มบาน และบานได้นานหลายวัน จากนั้น ก็จะร่วงโรย และติดเมล็ด แต่จะทยอยออกดอกชุดใหม่เรื่อย 3-4 ชุด แล้วต้นจะโทรมและตายในที่สุด ควรถอนทิ้งแล้วปลูกใหม่ การปลูกและการเจริญเติบโตของดาวกระจายทั้งสองชนิดไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ชนิดสีเหลือง กับสีส้ม จะบานทนกว่าและร่วงโรยช้ากว่าเล็กน้อย ดอกดาวกระจายหลักๆก็ปลูกไว้เพื่อความสวยงาม และมีหลากหลายสายพันธุ์ นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในทางสมุนไพรด้วย นั่นคือนำดอกมาบดหรือขยี้ก่อน แล้วใช้ทารักษาพิษจากการถูกแมลงกัดต่อยหรือใช้ทารักษาบาดแผล และยังใช้ดอกดาวกระจายมาต้มแล้วดื่มแก้ท้องร่วงได้ ... ขอบคุณข้อมูลและบทความ https://puechkaset.com/ดาวกระจาย/https://www.thaikasetsart.com/ดาวกระจาย/https://www.gotoknow.org/posts/219961https://www.doctor.or.th/article/detail/5690https://book.baanlaesuan.com/standard/cosmos/https://panmainaiban.blogspot.com/2011/08/blog-post_23.htmhttps://oknation.nationtv.tv/blog/thanks15ana/2008/01/18/entry-1
... ขอบคุณข้อมูลและบทความ https://puechkaset.com/ดาวกระจาย/https://www.thaikasetsart.com/ดาวกระจาย/https://www.gotoknow.org/posts/219961https://www.doctor.or.th/article/detail/5690https://book.baanlaesuan.com/standard/cosmos/https://panmainaiban.blogspot.com/2011/08/blog-post_23.htmhttps://oknation.nationtv.tv/blog/thanks15ana/2008/01/18/entry-1
ภาพสวยงามตามเคย เดี๋ยวว่าง ๆ มาโม้ต่อนะตะเอง