. . เ ส รี ภ า พ แ ห่ ง ค ว า ม คิ ด . .
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
26 มกราคม 2553
 
 
' ป้ า เ ช็ ง ' ค น ดี ห รื อ ค น ผิ ด . .



คอลัมน์: หมายเหตุบ้านเมือง:

'ป้าเช็ง' คนดีหรือคนผิด

หนังสือพิมพ์บ้านเมือง --
อาทิตย์ที่ 24 มกราคม 2010 08:53:19 น.
เหล็กน้ำพี้


และแล้ว "ป้าเช็ง" คนดังขวัญใจ "ผู้ป่วยหมดทางเลือก" ก็เสร็จไปอีกราย...ผิดถูกอย่างไรผมเชื่อว่าสังคมตัดสินได้ แต่ที่ยกมาพูดกันอีกครั้งก็เพราะผมเคยเขียนแสดงความชื่นชมต่อโครงการ "เคเบิลทีวีสีเขียว"หรือการรณรงค์ทำน้ำหมักเพื่อลดภาวะโลกร้อนของ "ป้าเช็ง" มาครั้งหนึ่ง...หลังจากเขียนสดุดีไปแล้วก็หาโอกาสไปเจอกับป้าที่บ้านพักย่านรังสิตที่ตำรวจกับสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคไปจับนั่นแหละ สนทนาภาษาคนสนใจทำน้ำหมักผมยังซื้อลิ้นจี่กองเท่าภูเขาเลากามา 1 คันรถ ถังสำหรับหมัก น้ำตาลทรายแดงอีกร่วม 100 กก.

พอถึงบ้านก็ระดมสมาชิกในครอบครัวล้างลิ้นจี่ ปลอกลิ้นจี่หมักมาได้กว่าครึ่งปีแล้ว ซึ่งตลอดเวลาผมติดตามรายการของป้าเช็งอยู่ห่างๆ ว่างก็ไปหาซื้อมะขามป้อม สมอ ลูกยอ บอระเพ็ด มาหมักหวังให้เป็นยา"มหาบำบัด" อย่างป้าเช็งบ้างต้องรับตามตรงว่า "ความเชื่อ" ของผู้คนจำนวนหนึ่ง รวมทั้งผมมีความมั่นใจว่าพืชผล 4 ตัวนี้แหละคือสมุนไพรชั้นดี ส่วนกรรมวิธีเพื่อให้มันเป็นยามารักษาโรคต่างๆ นั้นก็ยังไม่แน่ใจว่ามันควรมีขั้นตอนที่ถูกต้องอย่างไร...พูดถึงความเชื่อผมก็อยากยกพระไตรปิฎกมาอ้างว่ามะขามป้อม สมอ ลูกยอ และบอระเพ็ดนั้น ในสมัยพุทธองค์ท่านนำมาหมักกับปัสสาวะเป็นน้ำมูตรเน่ารักษาสารพัดโรค

นอกจากความเชื่อที่ว่าแล้วยังเป็นเรื่องของการพึ่งพาตนเองอีกทางเพราะ "น้ำหมัก" มีคุณสมบัติเพื่อใช้ประโยชน์ในทางอื่นๆ ด้วย เช่น ใช้บำบัดน้ำเสีย ใช้ล้างผัก ล้างจาน ซักผ้า ใช้ในการเกษตร ปรับสภาพดินรักษารากต้นไม้...ข่าวที่ออกไปว่า "หมักขยะ" จะไปรักษาโรคได้อย่างไรตรงนั้นผมว่าสังคมกำลังเข้าใจผิดกันยกใหญ่

"น้ำหมักขยะ" แท้จริงก็คือนำของที่เหลือ เช่น เปลือกผลไม้ ผักต่างๆที่ล้างให้สะอาดเสียก่อนแล้วค่อยนำมาหมัก ไม่ใช่อุจจาระหมาแมวที่ไหนไม่ใช่ไปเก็บมาจากกองขยะตามตลาดสดหรือข้างถนนมาทำยา...คุณสมบัติของน้ำหมักขยะนั้นเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ชาวบ้านจะนำไปใช้บำบัดน้ำตามคูคลอง แหล่งน้ำต่างๆ หรืออาจใช้ราดส้วมดับกลิ่น แต่มีบางคนนำไปทาแผลเน่า โดยเฉพาะพวกเท้าเปื่อย ตีนเหม็น เมื่อนำไปแช่จะมีอาการดีขึ้น และบางรายหายขาดไปเลย

เรื่องน้ำหมักรักษาโรคไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านมานานแล้วแต่ที่โด่งดังกลายเป็นเรื่องเป็นราวก็เพราะ "ป้าเช็ง" แก่มีสื่อเคเบิลทีวีในมือ...ถ้าผมจำไม่ผิดครูตัวจริงของป้าก็มีกิจการเดียวกัน เรียกว่าดอกเตอร์สุคนธ์ อยู่แถวๆ ระนอง แต่แรกออกรายการด้วยกันทุกวัน ตอนหลังไม่รู้เกิดขัดใจอะไรกนจึงแยกวงกันเดิน

ครับ...สรุปว่าส่วนตัวผมยังเชื่อเรื่องคุณสมบัติน้ำหมักที่ทำจากพืชผลไม้ไทย 4 อย่าง สามารถรักษาโรคได้ แต่ไม่แน่ใจว่าวิธีทำที่ป้าเช็งสอนให้นั้นจะถูกต้อง ถ้านักวิชาการคนไหนจะใช้จังหวะนี้ออกมาบอกเล่า ออกมาอธิบายก็จะดีไม่น้อย อย่างไรเสียการรณรงค์ให้ประชาชนหันมาทำน้ำหมักนั้นเป็นเรื่องดีจากผลไม้ที่เหลือตามสวนขายกิโลฯ ละ 3-4 บาท ก็เอามาหมักทำเป็นปุ๋ย เป็นตัวบำบัดน้ำเสีย...หอยเชอรี่ตามท้องนาเอามาทำได้หมด ทั้งลดต้นทุนไม่ต้องใช้สารเคมี...แต่ต้องย้ำว่าน่าเสียดายที่ของดีๆป้าเช็งดันทำผิดหลักการเสียเอง

ต้องว่าตรงๆ แบบนี้ด้วยเหตุผลที่ว่า "ยามหาบำบัด" กับ "ยาหยอดตาเจียรนัยเพชร"ที่ป้านำออกมาขายนั้นมันโอ้อวดสรรพคุณกันสุดเวอร์...มีที่ไหนรักษาได้ทุกโรค...มะเร็ง...เบาหวาน...ความดัน...โรคปอด...โรคตับ...โรคไต...อัมพฤกษ์-อัมพาต กิน 3 หยดลุกขึ้นเดินปร๋อ

หนักไปกว่าก็คือ ขายกันขวดเท่าหัวแม่โป้งราคา 1,000 บาทประชาชนที่เขาหมดทางเลือกถูกกรอกหูทุกวัน...พอเชื่อก็ดั้นด้นไป เสียเงินเสียทอง ลำบากอยู่แล้วต้องลำบากเข้าไปอีก เจตนาดีๆ ที่เคยบอกไว้พอกลายเป็นธุรกิจ ขายมันทุกอย่าง รวมทั้งอุดมการณ์ที่บอก...แม้จะอ้างว่าเอาเงินไปบริจาควัด บริจาคโรงเรียน หรือบอกว่าแก่แล้วรวยแล้วไม่หลอกใคร ไม่โกงชาวบ้าน

มันไม่มีอะไรดีขึ้นเลยด้วยสิ่งที่กำลังทำนั้นไม่ต่างปจากการต้มตุ๋น เอาเปรียบผู้คนที่เขาหมดหนทาง...เรียกว่าถ้าบาปก็ต้องเป็นบาปสองเด้ง

ปรากฏการณ์ "ป้าเช็ง" ที่เกิดขึ้นมันสะท้อนภาพสังคมไทยหลายประการ...ท่านผู้อ่านคิดอย่างไร...ทั้งระบบสาธารณสุขไทย...กฎหมายไทย...สันดานคนไทย (บางคน)

ก็ฝาก สคบ.กับตำรวจให้สอดส่องอย่างทั่วถึง...บรรดาอโรคยาทั้งหลายด้วย...เปิดคลินิกรักษาด้วยพลังจิตสารพัดโรคเช่นกัน ต้องเสียค่าปรึกษาคราวละหลายๆ พันบาท...ท่านไม่จัดการจะถูกสังคมครหาได้นะครับ




Create Date : 26 มกราคม 2553
Last Update : 26 มกราคม 2553 16:00:19 น. 0 comments
Counter : 768 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

jirachon
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add jirachon's blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com pantip.com pantipmarket.com pantown.com