. . เ ส รี ภ า พ แ ห่ ง ค ว า ม คิ ด . .
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
19 มกราคม 2553
 
 
เ ป ล ว สี เ งิ น . . ว่ า ด้ ว ย เ รื่ อ ง 2 ม า ต ร ฐ า น . .




ปุจฉา-วิสัชนา "เรื่อง ๒ มาตรฐาน" กับท่านเสื้อแดง
เปลว สีเงิน 19 มกราคม 2553 - 00:00

ขอถอนคำปรามาส "ท่านวีระ มุสิกพงศ์" ที่ผมเคยพูดว่า "ชาตินี้คงไม่กล้าไปเผชิญหน้าป๋าอีก" เพราะบ่ายวานนี้ (๑๘ ม.ค.๕๓) เห็นแบกหน้าอับเศร้าหมองศรีดูน่าเป็นห่วง นำคณะเสื้อแดงบุกไปที่ "ทำเนียบองคมนตรี" แถวๆ สนามไชย เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง "ป๋าเปรม" และพลเอกสุรยุทธ์ ด้วยการยกเรื่องที่ดินเขาสอยดาว-จันทบุรี และที่ดินเขายายเที่ยง-โคราช ขึ้นปรารภเหตุการณ์ที่ท่านวีระ "กล้าทำ" กับป๋าที่ครั้งหนึ่งมือท่านเคย "ลูบหัว-ให้ชีวิต" ด้วยเมตตาเช่นนี้ได้

บรรดาอสัตย์ชนคนเนรคุณคนทั้งหลาย เขายอมซูฮก-ยกให้ เพราะในโลกนี้ไม่มีใครทำได้ "ดิบสุด" อย่างท่านวีระทำอีกแล้ว ตำแหน่งปุโรหิตข้างที่ "เจ้ามูลแม้ว" จะไปเสียทางไหน ถ้าไม่มีการฉิบหายตายโหงเกิดขึ้น ตีตราจองไว้ให้ล่วงหน้า เพราะในสายตา ไม่มีใครเหมาะเท่าท่าน!

ความจริงก็พอเข้าใจได้ว่าท่านวีระจงใจยกคณะไปยื่นจดหมายถึงป๋าทำไม อย่างที่อ้างว่าไปทวงถามความรับผิดชอบให้ลาออกจากตำแหน่งองคมนตรีนั่นน่ะ ประเด็นนี้ ท่านวีระเรียนจบกฎหมายจากธรรมศาสตร์ ย่อมรู้ดีอยู่กับใจว่า อันตำแหน่งองคมนตรีนั้น ตามรัฐธรรมนูญระบุไว้ชัดว่า

"การเลือกและแต่งตั้งองคมนตรีหรือการให้องคมนตรีพ้นจากตำแหน่ง ให้เป็นไปตามพระราชอัธยาศัย" ฉะนั้น ท่านวีระกับคณะเสื้อแดงไม่จำเป็นต้องไปก้าวล่วงถึงตำแหน่งนี้!

ส่วนประเด็นป่าเขาสอยดาว สงสัยอะไรก็น่าไปถามกับบิ๊กๆ แถวแบงก์กรุงเทพเขา ส่วนเขายายเที่ยงนั้น ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าทางรัฐบาลกำลังดำเนินการตามขั้นตอนอยู่ โดยมีกรอบให้เสร็จภายใน ๖๐ วัน และยิ่งกว่านั้น

วานซืน คนเสื้อแดงก็ไปร้องทุกข์กล่าวโทษกับตำรวจกองปราบอีกทาง ฉะนั้น ก็ไม่เห็นเหตุผลจำเป็นที่ท่านวีระจะต้อง "เน้น" ด้วยการมายื่นหนังสือซ้ำซากที่ทำเนียบองคมนตรีอีก?

นอกจาก...นอกจาก "เหตุผลเดียว" คือ จงใจกระทำในลักษณะจ้วงจาบหยาบช้าด้วยหวัง "ประจาน-ท้าทาย-สั่นคลอน" ในสถาบันที่สังคมไทยผูกพันเหนียวแน่นมายาวนานด้วยความเชื่อ-ความศรัทธาสืบสายเลือดไทยมาแต่ครั้ง พ่อ-แม่-ปู่-ย่า-ตา-ยาย เป็นการนำร่องให้ประจักษ์ต่อสมุนที่ล้างสมองกันมาคลายความละล้าละลัง

และพร้อมเหิมตามคำสั่งในทุกเมื่อ!?

เหมือนคนกลัวศาลพระภูมิ ไม่กล้าพูดจาลบหลู่ แต่ถ้ามีใครซักคนยกศาลพระภูมิโยนไปข้างทางให้เห็น แถมถกเขมรท้าทายเจ้าที่-เจ้าทางให้ออกมาหักคอ แล้วเขาก็ไม่คอหักซักที อย่างนี้ ไม่ช้า-ไม่นาน "ศาลพระภูมิเจ้าที่" ก็จะมีแต่คนกล้ายกทิ้ง

ขบวนเสื้อแดงทักษิณ ไม่ใช่ขี้ไก่ และทั้งไม่ใช่ขี้เป็ด เขารู้ดีว่า การจะล้มสถาบัน การยึดอำนาจประเทศไทยนั้น มันแค่โม้เรียกแขก เพราะในข้อเท็จจริง "ทำไม่ได้-เป็นไปไม่ได้" ที่คนทั้งประเทศจะเห็นสถุลชนคนหนึ่งดีกว่าสถาบันบ้านเมืองแล้วออกมาร่วมขบวนการ ดังนั้นจึงเดินตามยุทธศาสตร์การศึกแต่โบร่ำ-โบราณ

คนเป็นแสนรบกัน เรื่องจะให้ฝ่ายหนึ่งฆ่าอีกฝ่ายหนึ่ง ใครฆ่าอีกฝ่ายได้หมดแสนก่อนจึงจะเป็นผู้ชนะนั้น มันเป็นไปไม่ได้ ที่เป็นไปได้ และที่ปฏิบัติกันอยู่ในการทัพก็คือ

ไปตัดหัว ไปจับตัวแม่ทัพ หรือไปลิดรอนศรัทธาในคนสำคัญฝ่ายนั้นมาให้ปรากฏ อีกฝ่ายจะเสียกำลังใจ แตกพ่ายไปเอง ดูอย่างทัพไทยกับทัพพม่ารบกัน พม่าไพร่พลมากกว่า "สมเด็จพระนเรศวรมหาราช" ทรงใช้จิตวิทยาผสมยุทธวิธีท้า "พระมหาอุปราชา" ให้ไสช้างออกมาทำยุทธหัตถีกัน ซักพัก พอทหารพม่าทราบว่าแม่ทัพฝ่ายตน "พระมหาอุปราชา" ถูกสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้าทรงใช้พระแสงของ้าวฟันขาดสะพายแล่งเท่านั้นแหละ

ฝ่ายไทยฮึกเหิม หมดความเกรงในพม่าทันที ส่วนฝ่ายพม่า "ถอดใจ" ที่เป็นฝ่ายรุกไล่ กลับเป็นฝ่ายแตกพ่ายวิ่งกันโสร่งหลุด หนีกลับพม่าแทบไม่ทัน!

พวกทักษิณเสื้อแดงขณะนี้ เขากำลังประยุกต์สูตรนี้มาใช้ ขั้นแรก ออกข่าวการศึกปูพรมให้สะท้าน-สะเทือนไปทั่วประเทศ โดยมี "สื่อสาก" เป็นพาหะแพร่สรรพคุณ ขั้นที่สอง ใช้ยุทธศาสตร์เจาะแนว สร้างทัพแดงให้เหิม สะกดทัพเขียวให้เหี่ยวด้วยยุทธวิธี "ดูดพลัง" จากเป้าหมายมาเป็น "กำลังทัพ-กำลังใจ" ฝ่ายตัวเอง

เพราะเป้าหมายนั้น มีน้ำหนักดึงดูดให้สื่อสนใจกลายเป็น "แนวร่วม" ในการบดขยี้ทางลีลาข่าวโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น จะเห็นว่าเสื้อแดงเน้น "พื้นที่เป็นข่าว" ในการเคลื่อนไหวเป็นพิเศษ!

ไป กกต.บ้าง ป.ป.ช.บ้าง เขายายเที่ยงบ้าง เขาสอยดาวบ้าง กองทัพบกบ้าง ทำเนียบองคมนตรีบ้าง ซึ่งล้วนเป็นสถานที่ "ไข่ลูกยอด" เชิงสัญลักษณ์ของสถาบัน-องค์กรสังคมไทย

ขั้นที่สาม ก็อย่างว่า จะล้มสถาบันหรือรัฐบาลโดยตรง มันเป็นไปได้ยาก จึงหันมาเน้นยุทธวิธี "ล้มสัญลักษณ์" ผ่านตัวบุคคลหลัก เฉพาะพลเอกสุรยุทธ์นั้น เรียกว่า "ลูกไหลเข้าเท้า" มากกว่า แต่เป้าหมายเชิงสัญลักษณ์ใหญ่ที่เสื้อแดงมุ่งฟันให้ขาดสะพายแล่ง คือ "พลเอกเปรม" ถ้าทักษิณเสื้อแดงล้มป๋าเปรมได้ก็เรียกว่า "ปราการด่านสุดท้าย...พังแล้ว"

และจะ "พังทุกด่าน" โดยไม่ต้องออกแรงลุย!?

แต่นั่น พวกทักษิณไม่สามารถลุยได้ทุกด่าน จึงใช้ยุทธการ "ลุยด่านเดียว" ผ่านตัวป๋า ถ้าชนะก็เท่ากับ "ชนะร้อยด่าน" จะมีคน ๒ หน้า ๒ หัวใจ พร้อมสวามิภักดิ์กราบกราน ชักธงทักษิณปลิวไสวในทุกด้านขึ้นเอง!

วีระ-คนที่ป๋าเคยลูบศีรษะให้ชีวิตจึงต้องสวมวิญญาณ "ขุนศึกจอมเนรคุณ" คุมทัพแดงมาในลีลา "ตัดไม้ข่มนาม" เป็นการสะกดรังสีป๋าด้วยการมาบริภาษถึงหน้าค่ายเอง หวังประจบเอาใจให้เป็นผลงานเข้าตานายใหญ่ ๑ หวังปลุกสมุนแดงให้ฮึกเหิม เสริมสร้างทัศนคติใหม่

ว่า "เป็นขี้ข้าเนรคุณแล้วรวย" อีก ๑ หวังโยกคลอน-ถอนศรัทธาจากตัวป๋าให้แก่กล้าถึงขีดสุด อีก ๑

อืมมมม...จะว่าไปแล้ว ป๋าท่านก็มีทั้งบุญ-ทั้งบาปอยู่ในตัว ในส่วนบุญนั้น คงไม่ต้องจาระไน แต่ในส่วนบาป อาจมีบางท่านสงสัยว่า "ป๋ามีบาปอะไร?"

ก็มีซี...เห็นมั้ยล่ะว่า ตอนป๋ามีอำนาจหน้าที่เป็นบารมีให้อิงแอบเอาไปหาผลประโยชน์กันได้ คนนั้นก็...ผมก็ลูกป๋า คนนี้ก็..ผมก็ลูกป๋า มีแต่คนเสนอหน้าแย่งกันเป็นลูกป๋า ทั้งในทำเนียบ ทั้งในสภา ทั้งในกองทัพ ทั้งในวงสนทนา ทั้งตามหน้าหนังสือพิมพ์ ใครๆ ก็ลูกป๋า

แต่เวลานี้ คนที่เคยเป็นลูกป๋า มากหน้า-หลายตา กำลังแย่งกันไปเป็น "บรูตุส" ให้ทักษิณ!

ป๋านั้น The old soldiers never die ก็จริง แต่ชีวิตจริงขณะนี้

ป๋า Home alone!

มีอะไรอีกล่ะที่พวกเสื้อแดงเขายกเป็นเหตุไปกัดกร่อนศรัทธาบารมีตัวป๋า อ้อ...เขายกเรื่อง ๒ มาตรฐานมาแต้มเป็นสีสาด ทำนองว่าจัดการกับเขายายเที่ยง ก็ต้องจัดการกับเขาสอยดาวในมาตรฐานเดียวกันด้วย โดยลากประเด็น "ป๋าเคยเป็นประธานคณะที่ปรึกษาธนาคารกรุงเทพอยู่ระยะหนึ่ง" เป็นมูลเหตุแห่งความเกี่ยวเนื่อง

ก็ดีแล้ว ผมอนุโมทนาด้วยท่านวีระเอ๊ยที่กวดขันเรื่องการใช้อำนาจให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ก็ฝากท่านวีระกับคณะเสื้อแดงไว้ซักเรื่อง ไม่ต้องไปฉุดกระชากลากไส้คนอื่น-คนไกลหรอก เอาเฉพาะที่คาหน้า-คาปากกันอยู่นี่แหละ

ที่กระทรวงมหาดไทย มีการใช้ ๒ มาตรฐานอยู่ ช่วยยกขบวนไปยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง "นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล" รัฐมนตรีมหาดไทยหน่อยเถอะ ไปถามท่านดูซิว่า......

ทำไมป่านนี้จึงยังไม่ยึด "สนามกอล์ฟอัลไพน์" อันเป็นที่ธรณีสงฆ์กลับคืนวัด-คืนวา?

แล้วช่วยไปแจ้งกองปราบเรียกตัวการมาสอบสวน-ดำเนินคดีอย่างที่ไปแจ้งเรื่องเขายายเที่ยงไว้ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันด้วย อย่าลืมนะท่านวีระ เพราะเรื่องสนามกอล์ฟอัลไพน์นี้ นายกฯ อภิสิทธิ์ได้ทำหนังสือไปถึงมหาดไทย ๒ ครั้งแล้ว ตั้งแต่ มิ.ย-ก.ย.๕๒ ให้เพิกถอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน หมู่บ้าน สนามกอล์ฟอัลไพน์ ให้กลับมาเป็นที่ธรณีสงฆ์ ตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาวินิจฉัย

เจ้าของสนามกอล์ฟอัลไพน์ชื่อ "ทักษิณ ชินวัตร" ไงล่ะ จำได้มั้ยท่านวีระ ถ้าจำได้ ช่วยเรียกร้องความเป็นธรรมให้สังคมด้วยมาตรฐานเดียวอย่างที่ทำอยู่ขณะนี้ด้วยนะ

ยกคณะเสื้อแดงบุกสนามกอล์ฟอัลไพน์มันเลย แล้วชูป้ายด่า "ทักษิณ...มึงเอาแผ่นดินวัดคืนมา"

อย่า ๒ มาตรฐานล่ะ..วีระ!

แหม...ตั้งใจจะคุยเรื่อง มติ ก.ตร. ให้ ๓ ตร.กลับเข้ารับราชการซักหน่อย แต่เผลอเข้ารก-เข้าพงจนหมดกระดาษ ผมอยากจะเรียนนายกฯ อภิสิทธิ์ว่า ขณะนี้ชาวบ้านบ่น "ถ้าไม่มีเครื่องแบบแทบจะแยกโจรกับตำรวจไม่ออก" ฉะนั้น อยากให้ท่านมาเป็น ก.ตร.จัดแถวตำรวจเสียที เพราะการเมืองทั้งอดีตและปัจจุบัน เข้าไป "ผสมพันธุ์อำนาจ" จนสถาบันตำรวจกลายพันธุ์ ตำรวจปฏิบัติการไม่ได้บริหาร ปล่อยให้ตำรวจธุรการซึ่งไม่รู้งานปราบโจรเป็นใหญ่ แล้วจะรู้อะไร นอกจาก "ใบสั่ง" ที่อำนาจนอกหน่วยและนักการเมืองส่งมา.




Create Date : 19 มกราคม 2553
Last Update : 19 มกราคม 2553 8:42:20 น. 3 comments
Counter : 920 Pageviews.

 



โดย: นนนี่มาแล้ว วันที่: 19 มกราคม 2553 เวลา:10:59:46 น.  

 
คุณเปลวครับ ข้อเขียนของคุณเปลวยังเป็นแสงเทียน สำหรับความมืดบอดทางปัญญาของประชาชนบางส่วนของประเทศอยู่นะครับ


โดย: ปกก IP: 180.180.39.82 วันที่: 19 มกราคม 2553 เวลา:16:45:38 น.  

 
อิอิ นายวีระ


โดย: หนุ่มเมืองใต้ วันที่: 22 มกราคม 2553 เวลา:18:31:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

jirachon
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add jirachon's blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com pantip.com pantipmarket.com pantown.com