Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
242526272829 
 
28 กุมภาพันธ์ 2551
 
All Blogs
 
ลาบปู..คนไกลบ้านไม่มีปูนา เลยใช้ปูทะเลแทน

บันทึกเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2551





"......: ลาบปู..คนไกลบ้านไม่มีปูนา เลยใช้ปูทะเลแทน :......"



เมนูนี้ต้องบอกว่าเป็นเมนูอาหารอีสานขนานแท้ และคงต้องเป็นอีสานแบบบ้านนาจริง ๆ นะคะจึงจะคุ้นเมนูนี้ ถ้าเป็นอีสานแบบในตัวเมืองก็อาจจะไม่ค่อยคุ้นว่าไอ้เจ้าปูเนี่ย เค้าทำลาบได้ด้วยเหรอ ด้วยความที่ตอนเด็ก ๆ นั้นได้กินเมนูนี้จากฝีมือแม่บ่อย ๆ และไม่เคยเบื่อเลยกับเมนูนี้

ตอนนั้นถ้าเป็นหน้านาที่มีปูเยอะ ๆ แม่ก็จะพาไปจับปูที่ทุ่งนาข้าวของเรา ก็ทั้งมาทำปูดอง น้ำปูก็ว่ากันไป แต่เมนูที่สุดแสนจะเป็นเมนูโปรดของเราก็คือลาบปูนา ตอนทำงานที่กรุงเทพฯ นั้นก็อยากกินเหลือหลาย ถ้ากลับบ้านในช่วงจังหวะดี ๆ มีเวลาไปจับปูกับแม่ก็จะไปจับปูมาทำลาบปูกินกัน

แต่ตอนนี้มาอยู่ซะไกลเหลือ จะไปหาปูนามาทำก็คงไม่มีปัญญา ไหน ๆ ก็เคยไปซื้อปูที่ร้านเกาหลีมาหลายครั้งแล้ว ก็ทำให้นึกถึงเมนูลาบปูนานี้เข้าให้ซะ เลยจัดการเอาไอ้เจ้าปูทะเลนี่แหละมาลาบในสูตรของปูนา ผลออกมาก็ไม่ต่างกันนักนะ อร่อยใช้ได้เลยทีเดียว เสียแต่ว่าเราไม่มีมะกอก ปกติจะมีมะกอกแช่แข็งที่ไปซื้อมาจากร้าน Thai Market ที่ Silver Spring มาตุนไว้ตลอด แต่คราวนี้มะกอกหมด เลยอดได้ชิมรสมะกอกในลาบปูเลย เลยต้องใส่มะนาวแทน เพราะเท่าที่เคยทำกับแม่นั้น ไอ้เจ้าลาบปูนี่จะเข้ากันได้ดีกับมะกอกสุกเปรี้ยว ๆ ฝาด ๆ หวาน ๆ นิด ๆ อร่อยได้ใจทีเดียว

ทีนี้มาดูสูตรและก็วิธีทำลาบปูกันดีกว่านะคะ และต้องขอบอกก่อนว่าเมนูนี้ถ้าไม่ใช่เพราะอยากจะกินจริง ๆ จะไม่ทำเลย เพราะขั้นตอนมันเยอะมาก เสียเวลาทำนานเลยทีเดียว

ส่วนผสมและเครื่องปรุง

- ปูนา (เราไม่มีปูนาก็เลยต้องใช้ปูทะเลแทนค่ะ)
- มะนาว (ถ้ามีมะกอกยิ่งดีใหญ่เลยค่ะ เพราะสูตรดั้งเดิมของแม่นั้นใส่มะกอก ไม่ใส่มะนาว)
- ต้นหอม
- ใบมะกรูด
- ใบสะระแหน่ (ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่ค่ะ)
- พริกขี้หนูสด (ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่เช่นกันค่ะ)
- พริกคั่วป่น
- ข้าวคั่ว (เราชอบทำข้าวคั่วเอง จะหอมกว่าที่ซื้อแบบเป็นกระปุกน่ะ)
- น้ำปลา
- ผงชูรส (ถ้าใครไม่ทานผงชูรสก็ไม่ต้องใส่นะคะ แต่เราว่าลาบทุกชนิดถ้าใส่ผงชูรสจะได้รสนัวดีน่ะ)

วิธีทำ (ตามรูปเลยค่ะ)




1. นำปูมาล้างให้สะอาด ใช้วิธีขัดให้สะอาดเลยนะคะ จากนั้นก็แยกก้ามปูไว้สำหรับต้มกินค่ะ และจัดการแกะกระดองปูออก แยกไว้กับด้านอกปู เสร็จแล้วก็ทำการแยกมันปูออกไว้ต่างหาก วิธีแยกมันปูก็ใช้ไม้จิ้มฟัน(ที่ยังไม่ใช้นะคะ..อิอิ) จิ้มมันปูออกจากกระดองปูและอกปู แยกเก็บไว้ในภาชนะต่างหากค่ะ

2. จากนั้นก็ทำการแยกขาปูเล็ก ๆ ออกไว้และสับหั่นส่วนอกปูออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อให้ง่ายกับการปั่นด้วยเครื่องปั่นหรือโขลกด้วยครก ส่วนกระดองปูเปล่า ๆ นั้นก็ทิ้งไปได้เลยค่ะ




3. นำส่วนที่เป็นอกปูที่สับไว้แล้ว และขาปูไปปั่นด้วยเครื่องปั่นให้ละเอียด ถ้าไม่มีเครื่องปั่นก็ใช้วิธีโขลกด้วยครกก็ได้ค่ะ แต่จะใช้เวลานานและใช้พลังงานเยอะหน่อย ใช้เครื่องปั่นจะสะดวกและเร็วกว่า

4. จากนั้นก็นำเนื้อปูที่ปั่นแล้วไปผสมน้ำและทำการกรองให้ได้น้ำปู และถ้าดูว่ากากปูนั้นยังพอที่จะปั่นเอาน้ำปูได้อีก ก็นำไปปั่นใหม่อีกรอบและใส่น้ำลงไปนิดหน่อยให้ปั่นง่ายขึ้น แล้วก็นำมากรองเอาน้ำปูอีก จนกว่าจะพอใจ ในส่วนก้ามปูก็เก็บไว้ต้มกิน ส่วนกากปูนั้นก็ทิ้งไปได้เลยค่ะ



5. เมื่อได้น้ำปูแล้ว ก็นำน้ำปูนั้นไปต้ม ต้มเคี่ยวจนกว่าจะได้น้ำปูสุกที่ข้นจริง ๆ และพยายามคนด้านล่างบ่อย ๆ ด้วยนะคะ น้ำปูจะได้ไม่ไหม้ จากนั้นก็ใส่มันปูที่แยกเก็บไว้ก่อนหน้านั้นไปต้มรวมกันค่ะ



7. จากนั้นก็มาเตรียมล้างพวกต้นหอม ใบมะกรูด ใบสะระแหน่ มะนาวให้สะอาด และทำการหั่นไว้เพื่อเตรียมไว้ปรุงรสค่ะ

8. เมื่อต้มเคี่ยวจนน้ำปูข้นได้ที่แล้ว ก็นำมาปรุงรสให้เป็นลาบปูด้วย พริกคั่วป่น ข้าวคั่ว น้ำปลา ผงชูรส น้ำมะนาว (หรือถ้ามีมะกอกสุกก็ยิ่งดีค่ะ) หอมซอย ใบมะกรูดหั่นฝอย พริกขี้หนูหั่นฝอย ใบสะระแหน่ คนให้เข้ากันและเมื่อชิมรสได้ที่แล้ว ก็นำไปเสริฟกับข้าวเหนียวร้อน ๆ และผักเคียงอร่อย ๆ ได้เลยค่ะ



หน้าตาเจ้าลาบปูแบบใกล้ ๆ ค่ะ




นำมาเสริฟกับผักเคียง ก็จะมีแตงกวา ผักชีลาว ผักหอมเป (ภาษากลางเรียกผักชีฝรั่งมั๊งคะ) ทานกับข้าวเหนียวร้อน ๆ อร่อยดีค่ะ




ปล. 1 ที่มาของสูตรก็มาจากที่เห็นแม่ทำให้กินตั้งแต่เด็ก ๆ ค่ะ

ปล. 2 ตอนต้มน้ำปู ถ้าเป็นครัวเปิดก็อย่าต้มในบ้านนะคะ เพราะกลิ่นปูจะคลุ้งไปทั่วบ้านเลย วันนั้นเราต้องนำไปต้มที่ระเบียงค่ะ ให้ลมเปิดเลย กลิ่นจะได้ไม่เต็มห้องค่ะ

ปล. 3 ส่วนระยะเวลาในการต้มนั้นก็ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำที่คุณใส่ตอนกรองปูค่ะ ถ้าน้ำเยอะก็คงต้องต้มเคี่ยวนานหน่อย จนกว่าจะได้ครีมน้ำปูสุกที่ข้นพอจะนำมาทำลาบปูแล้วไม่เป็นแบบน้ำโหลงเหลงเกินไป ถ้าน้ำมากไปก็จะไม่อร่อยค่ะ

ปล. 4 ถ้ามีโอกาสได้นั่งปั้นข้าวเหนียวคุ้ยลาบปู พร้อมกับฟังเพลงอีสานบ้านเฮาไปนำแล้ว คือสิทั้งแซบ ทั้งม่วนหลายน้อ..อิอิ..









Create Date : 28 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 14 ธันวาคม 2555 4:23:13 น. 0 comments
Counter : 11949 Pageviews.

JC2002
Location :
MTH :: Maha Sarakham, Thailand
MUS :: Maryland, United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]






"......: ใครมองเรา :: เรามองเรา :......"

ใครมองเรา อย่างไร ใช่เรื่องใหญ่
เรามองเรา อย่างไร เรื่องใหญ่แน่
ใครมองเรา อย่างไร ร้อยตัวแปร
มันไม่แน่ นอนเท่า เรามองเรา

มีคนตัด สินเรา เท่าตาเห็น
แต่มันเป็น เพียงส่วนหนึ่ง ความคิดเขา
มันไม่ได้ ชัดเจน เหมือนตัวเรา
ที่มองเข้า ไปข้างใน ใจเราเอง

"......: JC2002 :: ดอกตะไคร้ป่าสีฟ้า :: 10 ก.พ. 51 :......"

Friends' blogs
[Add JC2002's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.